The Dark King – Chapter 85 เริ่มดำเนินการ [อ่านฟรี 04-04-2019]
The Dark King – Chapter 85 เริ่มดำเนินการ
ฟู่เทียนเห็นความยินดีในสายตาของพวกเขา ผมของพวกเขาเริ่มมีสีขาว เขารู้สึกว่าตนเองนั้นเริ่มผูกพันธ์กับคนเหล่านี้แม่ว่าจะเป็นเพียงลูกบุญธรรมก็ตาม แม้ว่าจะผ่านมากว่า 3 ปีแล้วที่พวกเขาพยายามจะ ‘ขาย’ เขาให้กับตระกูลเอวริลแต่สิ่งที่เกิดในสถานการณ์ตอนนั้นก็ได้จางหายไปจากหัวใจของฟู่เทียนเป็นที่เรียบร้อย ‘คนเรานั้นสามารถผิดพลาดกันได้!’ นี่คือสิ่งที่พ่อของเขาได้บอกเขาไว้เมื่อ 300 ปีก่อน
“ผ่านมาแค่ 10 วันเองแต่… ลูกดูผอมลงไปมาก” จูร่ากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียดเมื่อมองไปยังฟู่เทียน
“เข้ามานั่งก่อน แล้วเราค่อยพูดคุยกัน” เกรย์ยิ้ม
ฟู่เทียนพยักหน้า เขาวางกระเป๋าเสื้อผ้าลงและเดินไปที่โต๊ะอาหารเพื่อพูดคุย เนื่องจากงานของเขาเป็นความลับดังนั้นเขาจึงต้องแต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อบอกกล่าวแก่ทั้งสองคน
“ลูกได้เลื่อนตำแหน่งเพราะความสามารถในการทำงานของลูกงั้นหรอ?” เกรย์รู้สึกประหลาดใจมากเขาได้ยินฟู่เทียนบอก ‘ทำงานแค่แป๊บเดียวก็ได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว? มันเร็วเกินไปหรือเปล่า?’
“ทางสมาคมยังได้มอบที่อยู่ใหม่ให้กับผมอีกด้วย ไว้เราย้ายไปอยู่ตรงนั้นกัน” ฟู่เทียนกล่าว
จูร่าตกตะลึง “พวกเขายังมอบบ้านให้ลูกด้วยหรอ? มากเกินไปหรือเปล่า!”
“นี่แหละ สมาคมเมลลอน!” เกรย์เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับสมาคมเมลลอนมาบ้างแล้ว เขาถอนหายใจออกมาแล้วส่ายศีรษะ “แต่ฉันกับแม่เธออยู่ที่นี่มาก็นานแล้ว เพื่อนบ้านนี้ก็รู้จักกันดีทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นที่ทำงานของพวกเรายังอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ การย้ายไปอยู่ที่อื่นคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก”
“น่าเสียดายจัง อย่างนี้ผมก็ต้องอยู่คนเดียวในย่านการค้า” ฟู่เทียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เสียใจ
“ลูกใกล้จะถึงวัยแต่งงานแล้วและ… หา? เดี๋ยวก่อนเมื่อกี้ลูกว่าอะไรนะ? ย่านการค้าหรอ? ลูกบอกว่าทางสมาคมมอบบ้านในย่านการค้าให้กับลูกหรอ?!”
“ใช่ครับ”
“ลูก ลูก … แล้วจะย้ายไปอยู่ได้เมื่อไหร่?”
“… ทุกเมื่อเลย”
“ฮ่าฮ่า … …” เกรย์หัวเราะออกมาทันที เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเขาคือการย้ายไปอยู่ย่านการค้า เขาไม่คิดมาก่อนว่าเป้าหมายของเขาจะสำเร็จได้รวดเร็วแบบนี้
ทุกๆคนหัวเราะออกมา จูร่าและเกรย์มองไปยังฟู่เทียนด้วยสายตาสงสัยเพราะไม่คิดว่าฟู่เทียนจะทำให้พวกเขาต้องประหลาดใจครั้งใหญ่แบบนี้
ฟู่เทียนยิ้มให้กับพวกเขา เขาคิดถึงเรื่องหนึ่งและหยิบเหรียญทองออกมา “ก่อนหน้านี้ผมยืมเงินของคุณไป”
ดวงตาของเกรย์และจูร่าเบิกกว้างขึ้นเมื่อพวกเขาได้เห็นเหรียญทอง งานอะไรที่ทำให้เขาได้รับเหรียญทองแบบนี้ภายในเวลาแค่ 10 วัน? ค่าจ้างทั้งปีของพวกเขายังเทียบไม่ได้กับเหรียญทองที่ฟู่เทียนได้รับเลย
“นี่คือค่าจ้างของลูกหรอ?” จูร่ายากที่จะเชื่อในเรื่องนี้ เธออดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ลูกทำงานอะไรให้สมาคมกันแน่? มันยากลำบากหรือเปล่า? ลูกบอกว่าได้รับการฝึกฝนให้เป็นยามเฝ้าประตูแต่นี่มัน…” ประสบการณ์ชีวิตหลายปีสอนให้เธอรู้ว่าย่อมไม่มีสิ่งใดได้มาฟรีๆในโลกใบนี้ ยิ่งได้รับค่าจ้างมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น
ฟู่เทียนยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เลยครับ พวกเราไม่ได้ต่อสู้กับใครและก็ไม่ได้มีอันตรายใดๆ นี่คือค่าตอบแทนของการฝึกฝนอย่างยาวนาน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนจำนวนมากถึงไม่ผ่านในการฝึกฝน” เขายิ้มขึ้นมา
จูร่ามองไปที่เขาด้วยสีหน้าที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “จริงหรอ?”
ฟู่เทียนพยักหน้ายืนยัน
จูร่าเริ่มวางใจในตอนนี้ “นี่เป็นเพราะความสามารถของลูกสินะ ลูกพิเศษจริงๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกเราได้เห็นลูกก็รู้ดีว่าลูกนั้นแตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ…” เมื่อเธอพูดแบบนี้ออกมาก็รู้สึกได้ว่าเกรย์กำลังจับมือของเธอไว้ เธอมองไปที่เขาและเขาก็กระพริบตากลับมา เธอไม่ควรพูดถึงเรื่องในบ้านเด็กกำพร้าอีกต่อไปเพราะอาจทำให้ฟู่เทียนนึกถึงความทรงจำที่เจ็บปวดได้
ฟู่เทียนสังเกตเห็นเกรย์ที่ส่งสัญญาณแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะเขารู้ว่าต่อให้สามีภรรยาคู่นี้ทำดีกับเขามากเท่าไหร่เขาก็ไม่มีทางลืมพ่อแม่และพี่สาวที่แท้จริงเขาได้ เรื่องนี้ไม่มีใครมาแทนที่กันได้
“หลังจากที่ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ ผมจะช่วยหางานให้พวกคุณในสมาคม” ฟู่เทียนกล่าวกับทั้งสองคน “หรือว่าคุณจะไม่ทำอะไรเลยแต่รอรับเงินเดือนก็ได้นะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกเพราะผมจะสามารถหาเงินได้มากมายในอนาคต” นี่คือหนึ่งในสิทธิพิเศษที่มอบให้กับนักล่า ตราบใดที่ทางสมาคมต้องการตัวพวกเขาการเก็บเรื่องต่างๆเป็นความลับนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ
เกรย์หัวเราะออกมา “ไม่ฉันไม่ต้องการเงินของเธอหรอก เธอต้องเก็บเงินเอาไว้ให้ลูกกับภรรยาของตนเองในอนาคต เธอรู้ใช่ไหม?”
จูร่ายิ้มออกมาทันทีและกล่าวว่า “เทียน มีผู้หญิงอยู่คนหนึ่งที่ฉันรู้จักมาเป็นเวลานาน และอีกไม่กี่วันนี้แม่จะไปพูดคุยกันเรื่องลูกสาวของเธอ เธอทั้งดีงามในอ่อนหวาน ลูกสาวของเธอก็ถึงวัยแต่งงานแล้วลูกน่าจะไปพบหน่อย?”
ใบหน้าของฟู่เทียนเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเขินอายทันที “นี่มัน… …”
“เธอเองก็ใกล้ถึงวัยแต่งงานแล้วเหมือนกัน” เกรย์กล่าวเสริม
ฟู่เทียนรู้สึกเสียดายในตอนนี้ เขาอายุเพียง 13 ปีแต่ก็ถึงเวลาที่ต้องแต่งงานแล้ว จากมุมมองของเขาคนที่มีอายุ 13 ปีนั้นยังเป็นเด็กอยู่ ให้แต่งงานหรอ!? นั่นมันเหมือนเป็นการกดดันมากเกินไป
แต่ผู้คนในยุคสมัยนี้ใช้ชีวิตอย่างรวดเร็ว มันมีทั้งโรคระบาด สิ่งสกปรกและอันตรายอื่นๆที่พร้อมจะพรากชีวิตของพวกเขาไปได้ทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อร่างกายสะสมค่ารังสีไปมากก็จะเจ็บป่วยรุนแรงอีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงเลือกจะแต่งงานกันตั้งแต่อายุยังน้อย
“ไว้ถึงตอนนั้นผมค่อยคิดเรื่องนี้เอง” ฟู่เทียนตอบคำถามนี้ด้วยน้ำเสียงปกติ
จูร่าเห็นความไม่เต็มใจในสายตาของฟู่เทียนดังนั้นเธอจึงกล่าวมาว่า “พวกเราจะไม่บังคับลูกหรอกในเรื่องนี้ แต่ลูกน่าจะไปพบเด็กผู้หญิงคนนั้นจริงๆนะ เธอสวยมาก แม่ยืนยันเรื่องนี้ได้เลย!”
“ฉันเองก็ยืนยันให้ได้” เกรย์ยิ้ม
ฟู่เทียนส่ายศีรษะของเขาอีกครั้งและปฏิเสธในเรื่องนี้ ในตอนนี้เขากำลังนึกถึงค่ำคืนนั้นที่เขาได้นั่งคุยกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ศาลาในสวน พวกเขาได้นั่งชมจันทร์ด้วยกันและคุยกันในยามค่ำคืน หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย เขาคิดกับตัวเองว่า “สงสัยจังว่าเธอจะทำอะไรอยู่ตอนนี้? ถ้าเราจะหาตัวเธอในตอนนี้มันจะเร็วเกินไปรึปล่านะ?”
เขาคิดจนเลิกคิดเรื่องนี้ไป
…
…
เขาพูดคุยกับจูร่าและเกรย์ไปจนดึก ในเช้าวันต่อมาเขาตื่นขึ้นมาตามปกติ กินอาหารเช้าและไปอาบน้ำ เขาเรียกรถม้าและเดินทางออกไปที่ชุมชนแออัด
เมื่อคืนนี้ตอนที่จูร่าพูดถึงบ้านเด็กกำพร้าความคิดมากมายก็ปรากฏขึ้นในสมองของเขา แม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่ที่นั่นเพียงแค่ไม่กี่เดือนและมันก็ผ่านมากว่า 3 ปีแล้วแต่ความทรงจำในเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในจิตใจของเขา เขายังคงจำบาร์ตันแล้วเด็กคนอื่นๆรวมถึงวันแรกตั้งแต่เขาได้เข้าไปยังบ้านเด็กกำพร้าเหมยซานได้
เขารู้ดีว่าคนพวกนี้จะได้รับการดูแลแบบไหนถ้าหากพวกเขายังไม่ได้ถูกรับไปเลี้ยงจนถึงอายุ 13 ปี
ในตอนนี้เขามีคุณสมบัติและเงินมากพอที่จะรับเลี้ยงพวกเขาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังวางแผนที่จะตั้งแลปเล่นแร่แปรธาตุขึ้นมาและยังขาดลูกมืออยู่ นอกเหนือจากเมสันและอีก 2 คนแล้ว เด็กพิการสองสามคนจากบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้านี้อาจเป็นผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของเขา