ตอนที่แล้วบทที่ 21 ระเบิดที่พร้อมปะทุ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 23 กลายพันธุ์

บทที่ 22 เปิดฉากไล่ล่า


บทที่ 22 เปิดฉากไล่ล่า

 

เมื่อจำนวนคนน้อยลง พวกเขาก็เคลื่อนขบวนไปข้างหน้าได้รวดเร็วขึ้น

 

ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทดูแลคนพวกนี้ เพราะพวกเขาคอยเดินอยู่ใกล้ๆ ซย่าน่าและหลิวอวี่หาวตามอย่างหวังเฉิงโดยอัตโนมัติ เมื่อเป็นแบบนี้ นอกจากระดับความเร็วจะเพิ่มขึ้นแล้ว ความปลอดภัยก็เพิ่มขึ้นมากด้วย หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏการบาดเจ็บล้มตายอีก จนกระทั่งเห็นอาคารของโรงเรียนซานจง

 

“ซานจงอยู่ข้างหน้านี้แล้ว” ซย่าน่าฆ่าซอมบี้ตรงหน้าในฉับเดียว แล้วหันมาบอกกับทุกคน แม้ว่าวันนี้จะประสบพบเจอเรื่องราวมากมาย แต่ในที่สุดตอนนี้ก็เดินทางมาถึงที่นี่ สีหน้าของเธอดูตื่นเต้นเล็กน้อย

 

ทว่าหลิงม่อกลับขมวดคิ้วนิดๆ จากความปรารถนาในการต่อสู้อันแรงกล้าที่เย่เลี่ยนส่งต่อมาให้ ทำให้พอเดาได้ไม่ยากว่าภายในโรงเรียนแห่งนี้มีซอมบี้กลายพันธุ์ที่ตนคาดเอาไว้จริงๆ อาจจะมีจำนวนซอมบี้อยู่ไม่น้อย แต่ไม่ใช่แค่หนึ่งตัวแน่นอน

 

การที่จะมีชีวิตอยู่รอดในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก คราวนี้พวกซย่าน่าคงจะมาเสียเที่ยวเสียแล้วละ

 

แต่ที่ทำให้หลิงม่อค่อนข้างประหลาดใจก็คือ บริเวณประตูทางเข้าไม่ได้เต็มไปด้วยซอมบี้เหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้ มันกลับว่างเปล่าไม่มีซอมบี้สักตัว นอกจากซอมบี้สามสี่ตัวที่เห็นได้ชัดว่าเดินเตร่มาจากที่อื่นแล้ว ก็ไม่มีอะไรอื่นที่น่ากลัว

 

เมื่อเห็นหลิงม่อมีสีหน้าสับสนงงงวย หลิวอวี่หาวก็กระซิบบอกว่า “ตอนที่เพิ่งเกิดหายนะใหม่ๆ มีหลายคนวิ่งหนีออกมาข้างนอก...แต่พวกเราอยู่ข้างในโรงเรียน จนกระทั่งความอลหม่านวุ่นวายสงบลง ถึงค่อยส่งคนจำนวนหนึ่งออกไปหาที่พัก ในโรงเรียนมีซอมบี้อยู่ไม่น้อย แต่ถ้าระมัดระวังหน่อย ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร”

 

พอได้ยินเขาพูดแบบนี หลิงม่อก็แสดงสีหน้าเข้าใจทันที เมื่อมีคนมากมายวิ่งหนีออกมาข้างนอก ถึงจะมีซอมบี้อยู่ที่ประตูทางเข้า แต่ก็คงถูกดึงดูดออกไป แต่โรงเรียนประจำแบบนี้ ด้านในจะต้องเป็นรังซอมบี้ขนาดใหญ่แน่นอน เรื่องนี้หลิวอวี่หาวไม่ต้องบอกก็พอจะคิดได้

 

ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมซอมบี้พวกนั้นไม่ออกไปจากโรงเรียน...ความจริงแล้วภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีเหยื่อปรากฏตัวขึ้น พวกซอมบี้จะอยู่ในสภาพเดินเตร่ไปมา นอกจากนี้โรงเรียนก็อยู่ในสภาพปิด มีเพียงประตูใหญ่เป็นทางออกทางเดียว อีกทั้งในโรงเรียนก็มีอาคารอยู่มากมาย นอกเสียจากว่าจะมีผู้รอดชีวิตปรากฏตัวขึ้นและดึงดูดซอมบี้พวกนี้ ไม่เช่นนั้นพวกมันก็คงจะเดินเตร่อยู่ที่นี่ต่อไปเรื่อยๆ

แต่ถ้าเกิดหิวขึ้นมาจะทำอย่างไร ฆ่ากันเอง! ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมหลิงม่อถึงได้สรุปว่าภายในโรงเรียนจะต้องมีซอมบี้กลายพันธุ์อยู่อย่างแน่นอน

 

ตอนที่พวกหลิวอวี่หาวออกมา อาจจะยังไม่มี แต่ตอนนี้ผ่านมาหลายวันแล้ว บวกกับปฏิกิริยาของเย่เลี่ยน เลยทำให้หลิงม่อมั่นใจในการคาดเดาของตัวเองอย่างเต็มร้อย

 

“เดี๋ยวก่อน” เพิ่งมาถึงประตูทางเข้า หลิงม่อก็เรียกพวกซย่าน่าไว้ “ข้อตกลงของเราคือมาถึงประตูทางเข้า เพราะฉะนั้นแยกกันตรงนี้แล้วกัน”

 

สีหน้าของซย่าน่าเปลี่ยนเป็นสับสนทันที ส่วนดวงตาของหลิวอวี่หาวก็ฉายแววอาลัยอาวรณ์ แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นาน แต่นอกจากจะเคยช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้แล้ว หลิงม่อยังเคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยกันกับพวกเขา ตอนนี้จึงเกิดความรู้สึกไม่อยากแยกจากกัน

 

“ขอบใจพวกนายมากนะ!” ซย่าน่าพูดพลางกัดริมฝีปากเบาๆ

 

หลิงม่อมองเธอทีนึงและพยักหน้า “อืม แต่ไม่แน่ว่าอาจได้เจอกันอีก เพราะฉันเองก็มีธุระที่โรงเรียนนี้นิดหน่อย”

 

ซย่าน่าและหลิวอวี่หาวต่างก็ค่อนข้างประหลาดใจ แต่เมื่อเห็นว่าหลิงม่อไม่คิดที่จะอธิบายเพิ่มเติม พวกเขาก็เลยไม่อยากซักไซ้ ก่อนที่จะแยกจากกัน หลิวอวี่หาวได้แบ่งอาหารที่เดิมทีมีอยู่ไม่มากให้กับหลิงม่อเล็กน้อย “พวกพี่รับไปเถอะ ตลอดทางมาที่นี่ พวกพี่ต้องเหน็ดเหนื่อยลำบากมากเลย”

 

หากไม่ได้หลิงม่อและเย่เลี่ยนคอยช่วยเหลือ พวกเขาอาจจะตายกันหมดแล้วก็ได้ อย่างน้อยก็ตอนที่ต้องเดินผ่านถนนบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลซึ่งเป็นอะไรที่ยากลำบากสุดๆ

 

แต่หลิงม่อไม่ได้รับอาหารมา เขาแค่ยิ้มพลางส่ายหน้า บ่งบอกว่าตนไม่ต้องการ

 

หลิวอวี่หาวยังคงพยายามยัดเยียดให้ แต่แล้วหวังเฉิงกลับมาขวางเขาไว้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย หวังเฉิงยิ้มพลางพูดว่า “พี่หลิงออกจะเก่งขนาดนี้ พี่เขาต้องการอาหารของเราเสียที่ไหนกันละ ใช่ไหม ในเมื่อเขาไม่ต้องการ งั้นก็ช่างมันเถอะ”

 

เมื่อเห็นว่าหลิงม่อยืนยันหนักแน่น หลิวอวี่หาวจึงจำต้องล้มเลิกไป

 

เมื่อทั้งสองฝ่ายแยกจากกัน หลิงม่อก็พาเย่เลี่ยนวิ่งไปที่ตึกวิทยาศาสตร์ที่อยู่ไม่ไกลจากประตูทางเข้าทันที

 

ด้วยฝีมือความสามารถของซย่าน่าแล้ว การปกป้องตัวเองในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีนี้คงจะไม่มีปัญหาอะไร หลิงม่อจึงไม่ได้เป็นห่วงหรือกังวล ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อดูจากบุคลิกลักษณะของพวกเขาแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชีวิตรอดไปด้วยกันกับเขา การปิดบังตัวตนของเย่เลี่ยนในระยะเวลาสั้นๆ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่นานวันเข้า ความลับจะต้องรั่วไหลอย่างแน่นอน

 

ทันทีที่เดินเข้ามาในตึกวิทยาศาสตร์ เขาก็เห็นประตูลิฟต์ที่ปิดสนิท ทำให้หลิงม่อรู้สึกดีอกดีใจขึ้นมาทันที ถ้าอยู่ในสภาพปิดสนิทแบบนี้ แสดงว่าข้างบนจะต้องมีซอมบี้กลายพันธุ์อยู่อย่างแน่นอน!

 

ทางเดินฉุกเฉินหรือก็คือบันไดนั้นหาเจอได้ไม่ยาก แค่ผลักเปิดประตูห้องบานที่อยู่ไม่ไกลออกก็เรียบร้อยแล้ว แต่เพิ่งจะเดินไปถึงประตู หลิงม่อก็รู้สึกถึงสัญชาตญาณที่คลุ้มคลั่งของเย่เลี่ยน ขณะเดียวกันก็มีเสียงอู้อี้ดังลอยมาจากด้านหลังประตู

 

ดวงตาของหลิงม่อเป็นประกายทันที ท่าทางจะมีซอมบี้กลายพันธุ์อยู่ที่ด้านหลังประตูบานนี้หนึ่งตัว!

 

ถึงแม้ซอมบี้กลายพันธุ์จะโจมตีรวดเร็วและรุนแรง แต่มันไร้ซึ่งสติปัญญา ไม่รู้จักบิดหรือหมุนลูกบิดประตู แม้ว่าจุดเชื่อมระหว่างประตูห้องบานนี้และผนังจะมีร่องอยู่มากมาย แต่การจะพังทันทีนั้นยากอยู่พอสมควร

 

หลิงม่อมองลอดร่องเข้าไปด้านใน แล้วเห็นซอมบี้กลายพันธุ์ที่ด้านหลังบานประตูตะคุ่มๆ ว่าเป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ แต่นอกจากมันแล้ว ก็ไม่มีซอมบี้กลายพันธุ์ตัวอื่นอีก

 

มีแค่ตัวเดียวก็ดี...หลิงม่อแสยะยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก แล้วจับลูกบิดประตูแน่น พร้อมกับเงื้อมีดสั้นในมือขึ้น ส่วนเย่เลี่ยนเบี่ยงตัวมายืนที่ข้างประตู

 

“แกรก” ประตูเพิ่งจะถูกเปิดออก พละกำลังมหาศาลก็พุ่งชนเข้ามาทันที โชคดีที่หลิงม่อเตรียมตัวไว้แต่แรกแล้ว เขารีบหลบไปทางด้านข้างทันที

 

เจ้าซอมบี้กลายพันธุ์ตัวนั้นพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ทันทีที่โผล่หัวออกมา มีดสั้นในมือหลิงม่อก็ฟันฉับลงมาอย่างแรง

 

แต่ปฏิกิริยาของซอมบี้กลายพันธุ์ตัวนี้รวดเร็วว่องไวเหลือเชื่อ มันคว้ามีดสั้นของหลิงม่อแล้วออกแรงดึงเข้าหาตัวเอง ทำให้หลิงม่อสูญเสียการทรงตัว แล้วในชั่วพริบตาที่เขายืนไม่มั่นคง มืออีกข้างหนึ่งของซอมบี้กลายพันธุ์ก็คว้าจับที่อกของเขา

 

อย่างไรก็ตามในช่วงแห่งความเป็นความตายนี้ หลิงม่อไม่มีทางยอมให้จับแต่โดยดี เขาเข้าควบคุมเจ้าซอมบี้กลายพันธุ์ตัวนี้แทบจะในทันที ถึงแม้ว่าใกล้จะบรรลุขีดจำกัดแล้ว แต่ก็ยังคงฉวยช่วงระยะเวลาสั้นๆ นี้แย่งมีดสั้นของตัวเองกลับคืนมาได้ อีกทั้งยังแทงใส่ซอมบี้กลายพันธุ์อย่างแรง ขณะเดียวกันเย่เลี่ยนก็ยื่นมือมาคว้าจับแขนของซอมบี้กลายพันธุ์ทันที แล้วออกแรงบิดจนขาด

 

แต่ซอมบี้กลายพันธุ์ตัวนี้ไม่เหมือนกับตัวอื่นๆ ไม่เพียงมีปฏิกิริยารวดเร็วกว่า มันยังมีแรงต่อต้านการควบคุมมากกว่าด้วย

 

ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดุเดือด หลิงม่อไม่อาจลองทำเป็นหนที่สองได้ ทว่า เมื่อเห็นว่าแขนข้างหนึ่งของซอมบี้กลายพันธุ์ถูกบิดจนขาด อีกทั้งมีดสั้นของตนก็แทงใส่อีกฝ่ายไปแล้ว การต่อสู้ก็คงจะสิ้นสุดลงตรงนี้แล้วละ...

 

แต่สิ่งที่หลิงม่อคาดคิดไม่ถึงสุดๆ คือ ตอนที่ถูกดึงแขนขาด ซอมบี้กลายพันธุ์วัยฉกรรจ์ตัวนี้กลับยังคงสามารถต่อต้านอยู่ได้ มันไม่มีทีท่าที่จะหลบหลีกเลย แต่กลับพุ่งเข้าใส่หลิงม่อทันที

 

ระยะใกล้ขนาดนี้ ได้ยินแค่เสียงปลายมีดเสียดแทงเข้าเนื้อหนังลอยมา ขณะที่ซอมบี้กลายพันธุ์โดนแทงจุดสำคัญ มันก็ประชิดเข้ามาใกล้ตัวหลิงม่อด้วย แล้วมือที่แหลมคมดุจมีด และแข็งแกร่งดั่งเหล็กก็คว้าจับคอของหลิงม่อ...

 

ในช่วงแห่งความเป็นความตายนี้ สีหน้าของหลิงม่อหาได้ลนลานไม่ แล้วเย่เลี่ยนก็ยื่นมือออกมาคว้ามือข้างนี้ทันที ตามมาด้วยเสียงดัง “กร๊อบ” อีกครั้ง

 

ดีที่ตอนที่เลือดสดๆ พุ่งกระฉูดออกมา หลิงม่อได้ชักมีดออกและเบี่ยงตัวหลบไปทางด้านข้างแล้ว ไม่อย่างนั้นเลือดต้องสาดกระเซ็นเต็มหน้าแน่นอน

 

“เกือบไปแล้ว...” ตอนนี้หลิงม่อถึงเพิ่งจะรู้สึกหมดเรี่ยวแรง ซอมบี้กลายพันธุ์ตัวนี้เหมือนกับตัวที่อยู่ในซุปเปอร์มาร์เกตเลย ความสามารถในการต่อสู้ของพวกมันเก่งกาจกว่าซอมบี้กลายพันธุ์ที่เคยเจอก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องนี้เข้าใจได้ไม่ยาก ในเขตตัวเมืองมีผู้คนมากมาย พวกซอมบี้ที่ถูกขังด้วยกันกับพวกเขาในตอนนั้นก็จะต้องมีมากเช่นกันอย่างแน่นอน

 

ยิ่งกินก้อนเหนียวหนืดในสมองมาก ระดับการวิวัฒนาการของซอมบี้กลายพันธุ์ก็ยิ่งสูง ความสามารถในการต่อสู้ก็ยิ่งเก่งกาจตามไปด้วย

 

......................................................................................................................................................

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด