ตอนที่แล้วตอนที่ 67 การอัปเกรด 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 69 ก่อนออกเดินทาง

ตอนที่ 68 การอัปเกรด 3


วัตถุทรงกลมสีดำมันวาว60ชิ้นวางเรียงกันภายในกระเป๋าสองใบตรงหน้าหานเซี่ยว มี’ระเบิดลูกปรายแรงสูงแบบล่าช้า’ หรือระเบิดเวลานั่นเอง เขาซื้อมาจากแผนก13และด้วยชื่อยาวของพวกมัน เขาจึงเรียกมันสั้นๆ

 

“ระเบิดแต่ละลูกมีราคา800เหรียญ ดังนั้น60ลูกก็มีราคา48000เหรียญ หืม ใช่..การคำนวณนี้ควรถูกต้อง”

 

แม้ระเบิดจะพร้อมใช้งาน แต่หานเซี่ยวก็ตัดสินใจดัดแปลงพวกมันบ้าง ด้วย[วิศวกรรมเครื่องกลขั้นพื้นฐาน] เขาจึงทำให้พวกมันบินได้โดยการติดตั้งใบพัดขนาดเล็ก พร้อมด้วยแหล่งจ่ายไฟ สิ่งนี้จะช่วยปรับปรุงระยะโจมตีพวกมันได้บ้าง

ข้อเสียอย่างเดียวคือการดัดแปลงนี้ทำให้พวกมันดู...ค่อนข้างตลก ตอนนี้พวกมันเกือบดูเหมือนหุ่นยนต์แมวสีฟ้า(โดเรม่อน)

ด้วยการจำลองใบหน้า อินทรีคลั่ง แขนกลน้ำหนักเบา เครื่องร่อนกลืนนภา เกราะควบคุมแม่เหล็ก และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ระเบิดบิน ในที่สุดการอัปเกรดทั้งหมดของหานเซี่ยวก็เสร็จสิ้น แม้แผนก13จะยังคงจัดหาอุปกรณ์ให้พวกเขาเพิ่ม ระดับปัจจุบันของหานเซี่ยวก็สร้างผลิตอุปกรณ์ระดับกึ่งสุดยอดได้แล้ว เขาในตอนนี้ต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งสุดในช่วงระดับเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“อุปกรณ์นี้ย่อมเพียงพอ”

หานเซี่ยวขีดฆ่า’การอัปเกรดส่วนตัว’บนรายการที่เขาต้องทำ บรรทัดถัดไปก็คือ’ยานพาหนะขนส่ง’

การสร้างยานพาหนะทั้งันจากเศษเหล็กใช้เวลามากเกินไป ดังนั้นมันจึงดีกว่าสำหรับหานเซี่ยวที่จะหาซื้อจากแผนก13และจากนั้นก็ทำการปรับเปลี่ยน

เรื่องคุณภาพ แผนก13ย่อมไม่ทำให้ผิดหวัง หลังใช้เวลาดูตัวเลือก หานเซี่ยวก็ตัดสินใจเอารถบรรทุกสินค้าที่ถอดออกได้ มันจะทำหน้าที่เป็นคลังเคลื่อนที่และโรงงาน-เป็นยานพาหนะโลจิสติกส์สำหรับทีม

หานเซี่ยวสามารถซื้อรถบรรทุกได้ด้วยเงินหรือแลกแต้มชื่อเสียง ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญที่ขอให้แผนก13มอบรถบรรทุกให้เขา

ปัจจุบัน หานเซี่ยวมีเงินถึง2.8ล้านเหรียญ ตอนนี้ ความสามารถในการใช้เงินของช่างกลเริ่มส่องประกาย แน่นอน สิ่งนี้จะเป็นไปไม่ได้หากปราศจากประสบการณ์ของเขาที่ช่วยให้เขาสะสมเงิน

หากปราศจากการใช้จ่ายเงินทั้งหมดและใช้แค่เงินเดือน นั่นย่อมไม่มีทางกลายเป็นช่างกลที่แท้จริงได้

อย่างไรก็ตาม เขาตัดสินใจจ่ายด้วยแต้มชื่อเสียง นั่นคือสิ่งที่เขาตั้งใจไว้ ในการเปรียบเทียบ การจ่ายด้วยเงินจะทำให้เขาเสียถึง8แสนเหรียญ และหานเซี่ยวก็โทรหาเฟิงจุนทันที

...

“ส่งยานพาหนะให้ฉันที มันต้องใช้เวลานานแค่ไหน?”

“ฉันต้องไปรับมันจากโรงงานทหาร ประมาณสองชั่วโมง”

 

ความตรงต่อเวลาของเฟิงจุนได้รับการพิสูจน์อยู่หลายครั้ง สองชั่วโมงต่อมา เฟิงจุนก็มาถึงประตูโรงงานของหานเซี่ยวด้วยรถบรรทุก

ปัญหาแสดงให้เห็นทันที : รถบรรทุกใหญ่เกินกว่าจะเข้าโรงรถได้

หานเซี่ยวและเฟิงจุนสบตากันอย่างตกตะลึง พวกเขาคิดอย่างละเอียดยกเว้นปัญหานี้

 

“เอาไงต่อ?”

“พวกนายคิดขยายโรงรถให้ฉันไหม?”

“ไม่เอาหน่า นายคิดว่าเจ้าหน้าที่แผนกวิศวกรรมมีเวลาว่างขนาดนั้น?”

หานเซี่ยวลูบคาง และทันใดนั้นดวงตาเขาก็สว่างขึ้น

“ไม่ใช่ว่านายพาทีมสายลับมาคุ้มกันเขตนี้?พวกเขาอยู่ไหน?”

“จะบ้าหรอ!นั่นจะทำให้เราเป็นจุดสนใจมากเกินไป!”

 

หานเซี่ยวเมินจากเฟิงจุนและเริ่มสำรวจรถบรรทุกทหาร มันสูง4เมตร กว้าง3.5เทคี และติดกับตู้คอนเทนเนอร์ยาว11เมตร

 

“จุดสนใจ?ฉันไม่คิดงั้น”หานเซี่ยวไม่โกรธ

“มีแค่คนตาบอดเท่านั้นแหละที่จะไม่เห็นรถบรรทุกใหญ่ขนาดนี้!”เฟิงจุนพ่นน้ำลายไปทั่วใบหน้าหานเซี่ยว

“น้ำลายเลอะเต็มหน้าฉันไปหมดแล้วเนี่ย”หานเซี่ยวคว้าแขนเสื้อเฟิงจุน เช็ดหน้าเขาและพูดด้วยสีหน้าเหยียด“ไม่ใช่ว่าฉันกำลังวิจารณ์นาย แต่ปริมาณน้ำลายที่พุ่งออกจากปากนายเยอะมาก”

เฒ่าหมานลู่เดินออกมาและอุทาน“รถบรรทุกบ้าอะไรวะ”

“ทำไมเราถึงไม่ทุบทั้งโรงจอดรถทิ้ง?”ดวงตาหานเซี่ยวเปล่งประกาย

“ไปตายซะ”เฒ่าหมานลู่ตะคอกอย่างดุร้าย จากนั้นก็ลูบหัวล้านและไตร่ตรองสักพักก่อนจะขุดกุญแจจากกระเป๋าเขาและโยนให้หานเซี่ยว

“ฉันมีโรงรถห่างออกไปสามช่วงตึกได้ ฉันจะให้แกยืม”

หานเซี่ยวตกใจ“ใจป๋ามาก!เฒ่าหมาน วันนี้คุณกินยาผิดขนาดหรอ?”

“ไสหัวไปได้แล้ว!”เฒ่าหมานลู่สบถอีกครั้ง จากนั้นก็ผลักพวกเขาออก และเดินเล่นตามประสาคนแก่

...

หานเซี่ยวขับรถบรรทุกและมาถึงโรงรถในสิบนาทีต่อมา

“อ้วกก-”

“นายคิดทำมันจริงๆ?”

 

สีหน้าเฟิงจุนซีดเซียวราวกับกระดาษขณะเอนตัวออกจากหน้าต่างรถยนต์ เขาโบกมืออย่างบ้าคลั่งขณะอาเจียน

หานเซี่ยวไม่อาจเข้าใจได้ว่าเฟินจุนพยายามสื่ออะไร เขาหมายความว่าไม่อยากนั่งลงฉันอีก หรือเขากำลังจะบอกว่าไม่ต้องสนใจความรู้สึกเขา?

หานเซี่ยวส่ายหัวและโยนคำถามไม่สำคัญทิ้งไป หลังจากเขาส่งความซวยให้เฟิงจุน เขาก็เริ่มปรับเปลี่ยนรถบรรทุกทหารา

เขาตรวจสอบทุกนิ้วของรถบรรทุกและไม่พบกล้องหรือจุดบกพร่องอะไร

ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยโรงงานทหารมีคุณภาพเยี่ยม รถบรรทุกติดตั้งชิ้นส่วนมากมาย รวมถึงกระบอกสูบและเทอร์โบชาร์จเจอร์ซึ่งช่วยเพิ่มแรงม้า มันสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูงสุด135กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถบรรทุมียางรับน้ำหนักและกันลื่นในแต่ละด้าน ตัวตู้เก็บของก็มีขนาดใหญ่และอาจมีอุปกรณ์บ้าง หานเซี่ยวอยากดัดแปลงมันให้เป็นโรงงานขนาดเล็ด ดังนั้นเขาจึงต้องย้ายอุปกรณ์โรงงานขึ้นไป

แผ่นฐานของรถบรรทุกถูกดัดแปลงให้สำหรับการใช้งานอันหลากหลาย ด้วยชิ้นส่วนเช่นสปริงช่วงล่าง และตัวกันสะเทือนอากาศ ซึ่งช่วยให้รถบรรทุกวิ่งได้อย่างราบรื่นบนทุกสภาพ รถบรรทุกยังติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันมุดด้านใต้ ภาพฉากของพระเอกที่ขับรถสปอร์ตมุดใต้รถผู้ร้ายจะไม่เกิดกับรถบรรทุกคนนี้ หยุดก่อน..ทำไมฉันถึงนึกให้ตัวเองเป็นคนร้าย?

ห้องคนขับไม่ได้เล็กเลย –มันสามารถนั่งได้ถึง6คน มันยังถูกติดตั้งพร้อมกับเกียร์10เกียร์ ดังนั้นมันจึงเหมาะกับการเคลื่อนไหวทุกประเภท

หานเซี่ยวตรวจสอบถุงลม มีอยู่8อัน ตราบเท่าที่ผู้โดยสารไม่บินออกนอกรถเมื่อเกิดการปะทะ พวกเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แถมยังเพลิดเพลินไปกับแรงกดทับมหาศาลระหว่างหน้าอก

เมื่อพูดถึงการชน ด้านหน้ารถบรรทุกไม่ได้เสริมด้วยกันชนหน้า หานเซี่ยวต้องเพิ่มมันด้วยตัวเอง จากนั้นเขาก็มองหน้าต่างรถบรรทุก ซึ่งเป็นแบบกันกระสุน แผนก13ไม่ได้ตัดมุมมันออก

โดยรวม รถบรรทุกเป็นแบบมาตรฐาน มันไม่จำเป็นต้องดัดแปลงอะไรมาก หานเซี่ยวตัดสินใจเพิ่มกระบอกสูบไนโตรเพิ่มเข้าไปเพื่อฉุกเฉิน ความคิดเพิ่มไนโตรสำหรับรถบรรทุกทำให้หานเซี่ยวรู้สึกตื่นเต้นมาก รถบรรทุกเขาอาจเป็นราชาแห่งท้องถนน

หานเซี่ยวเริ่มดัดแปลงรถบรรทุก

ด้านในตู้เก็บของถูกสร้างเป็นโรงงานขนาดเล็ก หานเซี่ยวยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานและกันชนหน้า-เป็นเกราะแข็งและหนา กระบอกสูบไนโตรทั้ง4จะช่วยเพิ่มแรงขับในช่วงเวลาสำคัญ นอกจากนี้หานเซี่ยวยังติดตั้งยางอะไหล่และเรดาร์พร้อมเสาอกาศสำหรับรับสัญญาณวิทยุและส่งสัญญาณไวไฟ

ด้วยการอัปเกรดมากมาย หานเซี่ยวจึงใช้เงินไปกว่าหมื่นเหรียญ เขาอดส่ายหัวไม่ได้ การอัปเกรดย่อมมีค่าใช้จ่ายสูง

หลังมองรถบรรทุกสีดำตรงหน้าเขา เขาก็ลูบคางขณะเกิดความคิดตั้งชื่อให้มัน

หานเซี่ยวตัดสินใจเลือกชื่อที่ง่ายและชัดเจนสุด

 

“ยักษ์ดำ!”

 

อืม เป็นชื่อที่ไม่เลวเลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด