ภาค 2 ตอนที่ 2 ขอโทษนะ พี่สาว
ตอนที่ 2 ขอโทษนะ พี่สาว
โจวต้าเจิ้งกำลังสูบบุหรี่อยู่ ศพหญิงไร้หัวถูกพบเป็นศพที่ 2 แล้ว บนโต๊ะทำงานมีรูปถ่ายเรียงเป็นแถว รายงานชันสูตรเปรียบเทียบยังไม่มา การตรวจสอบหลักฐานวัตถุก็กำลังดำเนินการอยู่ ไม่มีผู้ต้องสงสัย ไม่มีสถานที่ทิ้งศพหรือลงมือที่ประจำ ที่แย่ที่สุดคือ ไม่มีหัว!
หัวของทั้งสองศพยังหาไม่เจอ จนถึงตอนนี้ วินิจฉัยได้เพียงว่าทั้งสองคนเป็นเพศหญิงอายุยี่สิบกว่า อาจจะเป็นผู้หญิงบริการทางเพศ ก่อนตายมีเพศสัมพันธ์ ในรายงานชันสูตรศพระบุว่าทั้งสองคนถูกทำความสะอาดมาอย่างดี แล้วห่อด้วยพลาสติกที่สะอาดก่อนถูกทิ้ง สิ่งที่สามารถเก็บเป็นหลักฐานเพื่อการเปรียบเทียบแทบจะไม่มี โจวต้าเจิ้งหันหลังให้กับข้อมูลรายงานเต็มโต๊ะแล้วสูบบุหรี่ต่อ ควันลอยคลุ้งอยู่ในห้องทำงานที่ปิดสนิท เคลื่อนไหวในอากาศอย่างไร้ทิศทาง เหมือนกับคดีตรงหน้านี้ กำลังหาทางออกในเขาวงกต
มีคนเคาะประตู ต้าเจิ้งยังไม่ทันหันหน้าไป ไป๋หลิงก็พุ่งตัวเข้ามา
"หัวหน้า หน่วยจราจรทางทิศใต้ของเมืองแจ้งว่า พบบุคคลน่าสงสัยที่พกหัวคนติดตัวไปด้วย"
ก้นบุหรี่หล่นลงพื้นที่วาววับของห้องทำงาน โจวต้าเจิ้งคว้าเสื้อคลุมแล้ววิ่งออกไป
"หัว…หน้า ผมยังพูดไม่จบ" ไป๋หลิงตะโกนพร้อมกับวิ่งตามหลัง
ต้าเจิ้งขมวดคิ้วแล้วหันไปมอง
สีหน้าไป๋หลิงเหยเก เหมือนกับไม่รู้จะพูดยังไงต่อดี จนกระทั่งโจวต้าเจิ้งหมดความอดทน ในดวงตาเหมือนมีไฟลุกออกมา ถึงได้หายใจลึกๆ แล้วพูดต่อว่า "พวกเขาบอกว่า คนคนนั้นชื่อสวินเข่อหรัน"
โจวต้าเจิ้งตะลึงงัน
——————————————
สวินเข่อหรันนั่งกินช็อคโกจุ๊บบนเก้าอี้ในหน่วยจราจร อ้อนอย่างไร้เดียงสา
"เข้าใจผิดจริ๊งๆ จริงๆ คุณพี่จราจร" ในมือกอดกล่องไม้ประดู่
"ของที่อยู่ในกล่องของเธอมาจากไหน" ตำรวจสามคนที่สวมชุดจราจรพูดอย่างเป็นทางการกับเธอ
โกโก้กะพริบตาอย่างซุกซน "พี่สาวที่หอประกอบพิธีฌาปนกิจเป็นคนให้"
"ส่งกล่องมาให้พวกเรา"
สวินเข่อหรันกอดกล่องไม้แน่น สายตาเริ่มเย็นชา "ฉันบอกไปแล้วว่า ฉันเป็นหมอนิติเวชของหน่วยอาชญากรรม บัตรประจำตัวก็ให้พวกคุณดูแล้ว ในกล่องนี้เป็นหลักฐานของคดีอาชญากรรม นอกจากหัวหน้าหน่วยอาชญากรรม ฉันไม่ให้ใครเด็ดขาด พวกคุณจะมาแย่งก็ฆ่าฉันให้ตายก่อนเลย! นักสู้ปฏิวัติจะไม่มีทางกลัวพวกแก่งแย่งด้วยกำลังหรอก!"
น้ำเสียงองอาจผาดเผย แต่คำตอบหลุดโลก
สหายตำรวจจราจรเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังสอบสวนสายของพรรคคอมมิวนิสต์ด้วยเครื่องมือทรมานไปซะแล้ว พวกเขาก็ไม่กล้าลงมือ บัตรก็ไม่เหมือนของปลอม อาจจะเป็นคนของหน่วยอาชญากรรมจริงก็ได้ แต่ดูเถอะ หญิงสาวอายุยังน้อย แก้มแดง ตาโต ขับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบนถนนคนเดียว บนรถยังมีกล่องสไตล์คลาสสิคใบหนึ่งหนีบอยู่ นั่นไม่เท่าไหร่ แต่ในกล่องมีหัวคนใส่อยู่ นี่...มันเรื่องอะไรกัน
สวินเข่อหรันยกกล่องขึ้นระดับคิ้ว หน้าตาจริงจัง "คุณหัวคน ฉันจะไม่ยอมให้พวกเขาแย่งเธอไปได้หรอก!"
หัวหน้าหน่วยจราจรที่ยืนอยู่ตรงกลางเริ่มเวียนหัว รู้สึกว่าตัวเองโทรผิดเบอร์ ควรจะโทรหาโรงพยาบาลบ้าไม่ใช่หน่วยอาชญากรรม...ขณะที่กำลังตรึกตรองอยู่ ประตูก็ถูกผลักออก ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งพุ่งเข้ามา ด้านหลังมีชายสองคนที่สวมชุดตำรวจตามติดมาอยู่
สวินเข่อหรันอมช็อคโกจุ๊บแล้วยิ้มอยู่ที่เก้าอี้ แต่ก็รีบปรับสีหน้าให้เคร่งขรึมและปั้นสีหน้าเศร้าสร้อยขึ้นมา
ต้าเจิ้งเห็นโกโก้ตั้งแต่แว็บแรกที่มอง เธอน้ำตาคลอเบ้า กำลังกอดกล่องใบหนึ่งอยู่ เขารีบสาวเท้าเข้าไปหา โกโก้เงยหน้าขึ้น หน้าตาช่างน่าสงสาร
"พวกเขา...พวกเขาซ้อมฉัน..." โกโก้สูดน้ำมูก
"พวกเขาซ้อมเธองั้นเหรอ!" ต้าเจิ้งตะโกน มองดูตำรวจจราจรหลายคนที่ยืนอยู่ข้างๆ กำลังอ้าปากค้าง
"พวกเราซ้อมเธองั้นเหรอ!" คุณตำรวจจราจรก็ตกตะลึงเช่นกัน
"...ความคิดของช็อคโกจุ๊บ" สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ทุกคนอึ้ง หัวหน้าหน่วยจราจรตบบ่าต้าเจิ้งอย่างเห็นใจ สองคนเดินไปข้างๆ เริ่มสูบบุหรี่และกระซิบคุยกันถึงที่มาที่ไป
ไป๋หลิงเบียดเข้ามานั่งข้างๆ โกโก้ "พี่สวิน นี่มันเรื่องอะไรกัน"
โกโก้ทำหน้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสาต่อ "อุบัติเหตุรถยนต์นะสิ ฉันขับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไปเฉี่ยวรถเก๋งอัลโต้ที่จอดอยู่ข้างทางเข้า แล้วเจ้าของรถก็ออกมาทะเลาะกับฉัน ทะเลาะไปทะเลาะมาคุณตำรวจจราจรก็มาออกใบสั่ง อัลโต้ไม่ให้ฉันไป ฝูนชนก็เริ่มมามุงอย่างคึกคักชุลมุน แล้วก็มีคนสังเกตเห็นกล่องไม้ประดู่ที่ฉันพกมา ฉันไม่ยอมให้พวกเขาแตะ แต่ตำรวจจราจรจะดูให้ได้ แล้วฉันก็เปิดให้พวกเขาดูนะสิ"
"ใน...กล่อง คงไม่ใช่...หัว...หัว..."
"หัวคน ฉันช่วยนายพูดดีกว่า นายจะได้สั่นงกๆ ต่อ"
เสี่ยวไป๋ก็ยังสั่นต่ออีก "...แล้ว หลังจากนั้นล่ะ"
โกโก้ทิ้งไม้ช็อคโกจุ๊บที่กินหมดแล้วลงในถังขยะข้างตัว "แล้วคุณตำรวจจราจรก็สลบไปนะสิ ทุกคนมีน้ำใจมาก กรี๊ดบ้าง แจ้งความ เรียกรถพยาบาล อัลโต้วิ่งหนีแบบกู่ไม่กลับ..."
ไป๋หลิงอึ้งไปนาน จับหน้าผากแล้วพูดว่า "ซูเสี่ยวเจ๋อบอกว่า เวลาอยู่กับพี่สวินจะมีบางจังหวะที่อยากแหงนหน้าขึ้นฟ้าแล้วตะโกนออกไปประโยคหนึ่ง"
ประโยคอะไร โกโก้อยากรู้
ไป๋หลิงแหงนหน้า "...โอ้สวรรค์..."
——————————————
ต้าเจิ้งกับหัวหน้าหน่วยจราจรสูบบุหรี่แบบพี่น้องเสร็จ ส่งเซวียหยางและไป๋หลิงที่มาด้วยออกไปสืบเหตุการณ์ตอนรับหัวคน แล้วก็จับโกโก้ยัดใส่เข้าไปในรถตำรวจขับกลับไปที่หน่วย โกโก้ที่นั่งอยู่ข้างคนขับยังคงกอดกล่องไม้ประดู่ไม่ปล่อย ต้าเจิ้งไม่พูดแม้ประโยคเดียว บรรยากาศแปลกประหลาด
ผ่านไฟแดงไปแล้วหลายจุด ต้าเจิ้งจอดรถเข้าข้างทางช้าๆ
ลดกระจก ต้าเจิ้งจุดบุหรี่ พ่นควันออกจากปากล่องลอยไปอย่างเงียบๆ
"มีอะไรจะพูดไหม" ต้าเจิ้งพูดเป็นน้ำเสียงที่ใช้ในห้องสอบสวน
"ขออนุญาตค่ะท่าน ฉันเกลียดควันบุหรี่มือสอง"
ต้าเจิ้งมองตาขวาง โกโก้หดหัวลง
"ก็ฉันบอกแล้วนี่ ท่านผู้เฒ่าให้ฉันไปหาคนที่ชื่อเวยเวย แล้วฉันก็ได้หัวคนนี้มา"
ต้าเจิ้งพ่นควันออกคำหนึ่งอย่างเชื่องช้า "แล้วอะไรอีก"
โกโก้เอียงคอคิดดูนิดหนึ่ง "มีแมวตัวหนึ่ง...อืม...แปลกมาก ดำทั้งตัว ที่หางมีขนขาวสองวง ตอนที่ฉันออกจากบ้านไม้ของเวยเวยก็เห็นมันในพงหญ้า จากนั้นตอนที่ฉันขับสกู๊ตเตอร์ผ่านสี่แยกจู่ๆ ก็เห็นมันอยู่ทีหัวกำแพง ฉันไม่เข้าใจ แมวตัวหนึ่งทำไมถึงตามฉันจากหอประกอบพิธีฌาปนกิจได้ อีกทั้งยังวิ่งเร็วกว่าสกู๊ตเตอร์ของฉันซะอีก..."
ต้าเจิ้งตัดบทของเธอ "สวินเข่อหรัน เธอรู้อยู่ว่าฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องเหล่านี้"
โกโก้หยุดท่าทางมือไม้ แล้วสงบลง ลมจากนอกหน้าต่างพัดหน้าม้าของเธอปลิว นิ่งเงียบ
เมื่อครึ่งเดือนก่อน โกโก้ออกรายการทีวีโดยพลการ เปิดโปงความไม่เป็นธรรมและเบื้องหลังอันมืดมิดของคดีสวีลี่ออกมา ทำให้กลายเป็นประเด็นร้อนไปทันที หลังจากนั้นเธอก็หลบหน้าผู้คนไปอยู่ในสุสานตามลำพังเพียงคนเดียว จนถูกโจวต้าเจิ้งจับได้ ด้วยความโมโหและใจร้อน ไม่รู้อารมณ์ไหนที่กระทบกับการตัดสินใจของเขา สรุปก็คือ โจวต้าเจิ้งจูบเธอเข้าอย่างหนักหน่วง
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ โกโก้ก็คอยหลบหน้าต้าเจิ้ง
กินสุกี้เหรอ ฉันจะต้องทำงานล่วงเวลา
ดูหนังเหรอ ฉันต้องไปเรียน
ไปเยี่ยมท่านผู้เฒ่าฉางเหรอ ฉันเพิ่งไปมาเมื่อวาน
ทุกเหตุผลของต้าเจิ้งที่ส่งมาจากสายโทรศัพท์ถูกโกโก้ปฏิเสธหมด นอกจากการติดต่อในเรื่องงานแล้ว ต้าเจิ้งหาเธอไม่เจอสักที จนถึงวันนี้ สองคนถึงได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเป็นครั้งแรกในรอบสองเดือน
โอ้ ไม่ใช่ ยังมีคุณหัวอีก ไม่ถือว่าอยู่กันตามลำพัง
ต้าเจิ้งพ่นควันบุหรี่คำสุดท้ายออกไป "สวินเข่อหรัน เธอเกลียดผมเหรอ"
เงียบไปพักใหญ่ โกโก้ถึงได้พูดพึมพำว่า "นายโกหก"
"โกหกเหรอ ผมโกหกใคร"
"...นายโกหก นายกำลังดูตัวอยู่ชัดๆ"
ต้าเจิ้งถลึงตา "นั่นมันก่อนจูบ...สรุปคือเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว!"
"แล้ววันที่สิบสองเดือนที่แล้วนายอยู่ไหน"
ต้าเจิ้งคิดไปพักหนึ่ง หน้าแดงไปทันที แล้วก็กลายเป็นหน้าเขียว "เธอสะกดรอยผมเหรอ"
"ควายเท่านั้นที่จะสะกดรอยนาย ร้านสุกี้กู่โถวหวังนั่นเป็นสถานที่นัดพบประจำของฉันกับศิษย์พี่ต่างหาก"
ทั้งสองจ้องตาใส่กัน แล้วจู่ๆ คิ้วของต้าเจิ้งก็โค้งลงมา "โกโก้ เธอกำลังหึง..."
โกโก้อายจนโกรธ มือตะบบใส่หัวของหัวหน้าหน่วยอาชญากรรม "ออกรถ! ถ้านายไม่ออกรถ ฉันจะลงไปเรียกรถเดี๋ยวนี้!"
ต้าเจิ้งหัวเราะหึๆ หันไปทิ้งก้นบุหรี่ออกนอกหน้าต่าง ปิดหน้าต่างรถ ล็อคประตูทุกบานจากด้านคนขับ แล้วก็รีบดับเครื่องอย่างรวดเร็ว ดึงกุญแจรถแล้วยัดใส่กระเป๋ากางเกง
โกโก้อึ้งไปเลย
ต้าเจิ้งหันไปมองโกโก้ "ไม่ต้องรีบ ไว้พูดรู้เรื่องแล้วค่อยออกรถ ขืนกลับไปที่กองบังคับการตอนนี้ เธอก็จะทั้งหลบทั้งหนีเหมือนเดิม ข้าจะหาก็หาเธอไม่เจอ นอกจาก..."
โกโก้งอนจนแก้มป่อง นอกจากว่าอะไร
หัวหน้าหน่วยอาชญากรรมยิ้มอย่างกะลิ้มกะเหลี่ย "นอกจากเธอจะให้ฉันจูบอีกที เรื่องของเราสองคนก็ถือว่าเป็นอันตกลงกัน"
อันธพาล นี่มันเป็นความผิดทางอาญาที่พูดจาลวนลามอย่างเปิดเผยนะโว้ย สหายทั้งหลาย
โกโก้เบะปาก "มาตุภูมิยังไม่ได้รวมเป็นปึกแผ่น จะไม่มีความรักเด็ดขาด"
ต้าเจิ้งโกรธ หยิกแก้มน้อยๆ ของเธอ โกโก้ร้องโอ๊ย มือทั้งสองอุ้มกล่องไม้ประดู่อยู่ ไม่ว่างไปโต้ตอบ ความอายบวกกับความโกรธ ทำให้เธออ้าปากกัดเข้าให้
แหย่เล่นไปพักหนึ่ง ในรถกลับคืนสู่สภาพเงียบสงบอีกครั้ง
ต้าเจิ้งถอนหายใจเบาๆ ลูบคลำกล่องบุหรี่ในมือ จู่ๆ เหมือนจะนึกอะไรออก "โกโก้ เรื่องของพี่สาวเธอ..."
ร่างของโกโก้สะดุ้ง แล้วก็แข็งทื่อต่อ ดวงตาจ้องไปยังช่องแอร์ในรถ แต่มือทั้งคู่กลับกำไว้แน่น
"สวินอวิ๋นเจี๋ย อายุมากกว่าเธอ 4 ปี เป็นนักเรียนดีเด่นตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งอายุ 18 เธอตัดสินใจไปเรียนหนังสือกับแฟนด้วยกันที่ภาคเหนือ ก่อนออกเดินทางไม่กี่วันเกิดอุบัติเหตุจราจร..."
"หุบ...ปาก..." โกโก้กัดฟันหลุดออกมาสองคำ
ต้าเจิ้งไม่มองเธอ "ท่านผู้เฒ่าฉางบอกผมว่า ตอนที่เธอเรียนวิชานิติเวช ไปค้างที่บ้านท่านประจำ บางคืนเขาจะได้ยินเธอร้องไห้ในฝัน ปากก็พึมพำว่า ขอโทษนะ พี่สาว โกโก้ ผมอยากบอกเธอว่า ผมไม่ได้พูดเล่น ผมไปรู้เรื่องเกี่ยวกับเธอไว้มาก ดังนั้น..."
ขอโทษนะ พี่สาว...
จู่ๆ โกโก้ก็พุ่งไปข้างตัวต้าเจิ้ง เอื้อมมือไปปลดล็อคประตู ต้าเจิ้งไม่ทันตั้งตัว เธอจึงได้เปิดประตูกระโดดลงไป
เธอไม่อยากฟัง ไม่อยากฟังเรื่องอย่างนี้จากปากของคนอื่น คำว่าพี่สาวเป็นความทรงจำที่แม้ตัวเธอเองก็ไม่อยากจะไปสัมผัส ทำไมถึงมีคนอื่นที่ใช้น้ำเสียงเย็นชาเหมือนกับบรรยายคดีมาพูด...
ต้าเจิ้งรีบตามไป โกโก้อุ้มกล่องไม้ประดู่ก้าวสวบๆ ไปข้างหน้า ยังไม่ทันไปไกลก็ถูกต้าเจิ้งจับตัวไว้ได้ ตอนที่หันหน้ากลับมา ต้าเจิ้งเห็นเธอกัดฟันอยู่ ไม่มีเสียงออกมาสักแอะ แต่น้ำตาร่วงลงเป็นหยดใหญ่ๆ
เรื่องบางเรื่องเป็นเนื้อร้าย ซ่อนอยู่ในซอกหนึ่งของใจ อยู่กับทุกก้าวย่างของชีวิต ถ้าอยากจะรักษา ต้องกรีดให้น้ำหนองร้ายไหลออกมาจนหมด มีดกรีดลงครั้งแรกจะเจ็บถึงขั้วหัวใจ ดังนั้น เธอใจอ่อน ไม่ยอมลงมือเฉือนออกไปจนหมด น้ำหนองร้ายไหลออกมาบ้าง แล้วก็แข็งตัวเป็นก้อน ยังอยู่ต่อ อยู่กับทุกก้าวย่างของชีวิต ทำให้ทุกก้าวนั้นหนักอึ้งยิ่งขึ้น...
ต้าเจิ้งวางกล่องไม้ประดู่ไว้ที่เบาะหลัง โกโก้นั่งอยู่ข้างคนขับอย่างสงบ ไม่ส่งเสียงแล้วก็ไม่มีปฏิกิริยา มีเพียงน้ำตาที่ขาดหายเป็นห้วงๆ
ต้าเจิ้งขมวดคิ้ว ลูบคลำผมของเธออย่างแผ่วเบา ขอโทษนะ ผมไม่ได้อยากให้เธอเสียใจ
โกโก้ ไม่ใช่ความผิดของเธอ...
โกโก้ไม่ได้พูดอะไรอีก