ตอนที่แล้วบทที่ 19 ค่าตอบแทนความดี (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 21 อัศวินมังกร (1)

บทที่ 20 ค่าตอบแทนความดี (4)


บทที่ 20 ค่าตอบแทนความดี (4)

 

        “สวัสดีจ้ะ ยินดีต้อนรับเจ้าเข้าสู่คณะในครั้งนี้ ขอเสียมารยาทถามสักหน่อย เจ้าเป็นแค่นักเวทระดับแดงจริงๆ เหรอ?”

 

อินจู๋พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ใช่ครับ! ระดับแดงขั้นสูง” อาจเป็นเพราะสาเหตุว่าพูดโกหก ใบหน้าของเขาจึงแดงก่ำขึ้นมา

 

อันยาก็ไม่เปิดเผยความจริงเช่นกัน ก่อนหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “มีนักเวทผู้แข็งแกร่งมาเข้าร่วม ย่อมเป็นเรื่องดี”

 

เกิร์นกล่าวว่า “ฟาร์เลนจงเจริญ คุณหนูอันยา พวกเราเตรียมตัวกันพอสมควรแล้ว พรุ่งนี้เช้าสามารถออกเดินทางได้ตรงเวลาแน่นอน”

 

อันยายิ้มพลางพยักหน้ากล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าก็วางใจค่ะ พวกท่านกำลังยุ่ง พรุ่งนี้เช้าพบกันที่ประตูเมืองนะคะ” พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไปอย่างสง่างาม

 

“ฟาร์เลนจงเจริญ ในที่สุดเธอก็ไปสักที” เกิร์นเช็ดเหงื่อบนศีรษะโดยไม่รู้ตัว

 

อินจู๋เอ่ยอย่างสงสัยใคร่รู้ว่า “ลุงเกิร์น ลุงกลัวพี่อันยามากเหรอ?”

 

เกิร์นกล่าวว่า “ไม่ได้กลัว แต่ไม่รู้ว่าทำไม พออยู่ต่อหน้าเธอข้าชอบรู้สึกว่าเงยหน้าไม่ขึ้นอยู่เรื่อย เธอคือผู้หญิงที่สวยที่สุดและบุคลิกสูงส่งที่สุดที่ข้าเคยเจอ พูดตามตรง ข้าถึงขนาดคิดล่วงเกินอะไรกับนางก็ยังคิดไม่ได้”

 

“คิดล่วงเกิน? มันคืออะไร?”

 

“คือว่า...เดี๋ยวต่อไปเจ้าก็รู้เอง”

 

สายตาของอินจู๋ยังคงมองไปทางประตู “ลุงเกิร์น พี่อันยาก็เป็นนักเวทเหมือนกัน”

 

“หา?” เกิร์นสะดุ้งตกใจ มองอินจู๋อย่างตกตะลึงพลางกล่าวว่า “ไม่หรอกมั้ง ดูเหมือนเธอจะเป็นแค่คนค้าขายเฉยๆ”

 

อินจู๋กล่าวอย่างจริงจังว่า “เธอต้องเป็นนักเวทแน่นอน เมื่อกี้เธอใช้พลังจิตหยั่งเชิงข้า คงไม่ผิดหรอก”

 

ดวงตาของเกิร์นฉายแววครุ่นคิด ความคิดของเขาไม่หยาบกระด้างเหมือนรูปลักษณ์ภายนอกอย่างเห็นได้ชัด “มิน่าล่ะเธอถึงได้มาซื้อใบชาในสถานที่ห่างไกลอย่างลัวร์ตัวคนเดียว ที่แท้ก็เป็นนักเวทผู้สูงส่ง อินจู๋ ถ้าอย่างนั้นเจ้ามองออกไหมว่าเธอระดับอะไร? เก่งกว่าเจ้าหรือเปล่า?”

 

อินจู๋ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้ามองไม่ออกว่านางระดับอะไร แต่เก่งกว่าข้าแน่ๆ”

 

“พูดอย่างนี้ เธออาจจะเป็นนักเวทระดับแสดก็ได้” เกิร์นแอบถอนใจในใจ โชคดีที่ตัวเองไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับนายหญิงคนนี้ ล่วงเกินนักเวทไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก แต่เขากลับไม่รู้ว่าหากยึดตามพลังเวทมนตร์ อินจู๋ตรงหน้าถือว่าอยู่ในระดับเหลืองขั้นสูง และอันยาก็ไม่มีทางธรรมดาถึงขนาดเป็นแค่ระดับแสด

 

เนื่องจากความเคารพนับถือที่มีต่อนักเวท เกิร์นจึงจัดเตรียมห้องเดี่ยวให้กับอินจู๋เพื่อพักผ่อน อินจู๋นั่งอยู่บนเตียงพลางครุ่นคิดอย่างกลัดกลุ้ม เขาหยั่งเชิงดูหลายครั้งเพื่ออาศัยพลังจิตติดต่อกับแหวนมิติของตัวเอง แต่ก็ล้มเหลวตลอด และเขารู้สึกได้ลางๆ ว่าแหวนมิติเหมือนจะห่างไกลจากตัวเองออกไปเรื่อยๆ

 

“ทำไม? ทำไมเจ้าต้องขโมยแหวนข้าด้วย ข้าให้เหรียญทองเจ้าไปแล้วไม่ใช่หรือไง? ไม่มีพิณแล้ว...” อินจู๋พบว่าจู่ๆ ตัวเองก็รู้สึกคิดถึงพิณขึ้นมาจับใจ สิบหกปีแล้ว เขาอยู่กับพิณแทบจะทุกวัน พิณกลายเป็นสหายที่ดีที่สุดของเขามาตั้งนานแล้ว ตอนนี้พิณทุกตัวหายไป ความรู้สึกหดหู่อ้างว้างทำให้เขาทุกข์ใจอย่างยิ่ง

 

นั่งขัดสมาธิให้เรียบร้อย เพื่อทำให้จิตใจของตัวเองสามารถสงบลงได้ เขาจำเป็นต้องฝึกฝนพลังยุทธ์ของตัวเอง รัศมีสีเหลืองแผ่ออกมาจากในร่างกายเขาอย่างเงียบเชียบ ก่อเกิดเป็นม่านเบาบางปกคลุมร่างของอินจู๋ไว้ภายใน พลังยุทธ์ไหลเวียนในเส้นลมปราณไม่ขาดสาย ความรู้สึกอันสดชื่นและอ่อนโยนค่อยๆ ขจัดความกระวนกระวายและความกังวลในใจของอินจู๋ ทำให้เขาเข้าสู่สภาวะเข้าฌาน

 

พลังยุทธ์แบ่งออกเป็นสามชั้น ไผ่เขียว ไผ่เหลือง และไผ่ม่วง เหมือนกับมนต์พิณที่อินจู๋ฝึกฝน สีสันที่แสดงให้เห็นในลำดับชั้นต่างๆ ไม่เหมือนกับระดับของสายรุ้งเจ็ดสีในทวีปลองกินุส ทุกชั้นต่างก็มีเก้าขั้น รัศมีสีเหลืองอ่อนที่แผ่ออกมาจากตัวเขาในตอนนี้แทนระดับไผ่เหลืองขั้นหนึ่ง พูดถึงระดับแล้ว พลังยุทธ์ของเขาถึงขั้นสูงกว่ามนต์พิณนิดหน่อย หากยึดเอาระดับสีรุ้งในทวีปลองกินุสมากำหนดก็คือระดับเขียวขั้นหนึ่ง และถือว่าอยู่ในระดับนักรบปฐพี เพียงแต่พลังยุทธ์ของเขาใช้เพื่อส่งเสริมมนต์พิณเป็นหลัก

 

เช้าตรู่ ยามแสงอาทิตย์แรกสาดส่องลงบนผืนแผ่นดิน บริเวณประตูทิศเหนือของเมืองลัวร์ก็เริ่มคึกคักขึ้นมา สมาชิกทั้งหกสิบแปดคนของหน่วยทหารรับจ้างหนามเหล็กพร้อมออกเดินทาง ในรถม้าสามคัน คันหน้าและคันหลังสุดบรรทุกสินค้า คันตรงกลางคือนายจ้างอันยา นักรบดาบหนักที่แข็งแรงที่สุดในหน่วยทหารรับจ้างยี่สิบคนล้อมอยู่รอบๆ รถม้าทั้งสามคัน มือธนูติดตามอยู่ข้างกายนักรบดาบหนัก วงรอบนอกไปอีกคือนักรบทวนและโล่ยี่สิบเจ็ดคน ทหารม้าเบาสิบคนคอยเบิกทางอยู่ข้างหน้า วิลเดอร์บีสต์ยี่สิบสี่ตัวที่เพิ่งซื้อมาใหม่นอกจากลากรถม้าก็แบกสัมภาระของคนทั้งคณะ ทุกสิ่งตระเตรียมไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

 

เย่อินจู๋ถือเป็นนักเวท จึงถูกจัดไปอยู่ด้านข้างรถม้าคันตรงกลาง การขี่วิลเดอร์บีสต์ครั้งแรกทำให้ทั้งตื่นเต้นและตื่นตระหนกไปพร้อมกัน แม้ว่าวิลเดอร์บีสต์จะเดินโคลงเคลงเล็กน้อย แต่สัตว์เวทขั้นหนึ่งที่มีนิสัยอ่อนโยนแต่กำเนิดก็ยังฝึกให้เชื่องได้ง่าย ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกคุ้นชินกับหลังของมัน ถึงอย่างไรสภาพร่างกายของเขาก็ไม่ได้ดูอ่อนแอเหมือนอย่างภายนอก

 

ขณะนี้ สายตาของอินจู๋จดจ่ออยู่ที่หัวหน้าหน่วยเกิร์นของหน่วยทหารรับจ้างหนามเหล็กข้างหน้าสุดของคณะตลอดเวลา สายตาเปี่ยมไปด้วยความอิจฉาและความประหลาดใจ เกิร์นไม่ใช่แค่นักรบปฐพีอย่างเดียว แต่เป็นอัศวินปฐพีด้วย พาหนะของเขากลับเป็นมังกรเลี้ยง มังกรพสุธาหลังเขียวขั้นสี่ลำตัวยาวห้าเมตรเต็ม สูงสองเมตรกว่า เท้าหน้าค่อนข้างเล็ก พึ่งพาเท้าหลังอันล่ำสันแข็งแรงพยุงร่างกาย ทั่วทั้งตัวปรากฏเป็นสีนิล นอกจากพลังปะทะ มังกรเลี้ยงขั้นสี่ประเภทนี้ยังมีพลังป้องกันและพลังพ่นน้ำกรดซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนที่ไม่เลวอีกด้วย แม้ในบรรดามังกรเลี้ยงจะถือว่าอยู่ในขั้นค่อนข้างต่ำ แต่เมื่อเทียบกับสัตว์เวทขั้นต่ำก็ยังแข็งแกร่งกว่ามาก เกิร์นที่มีความสามารถระดับเขียวขั้นพื้นฐานมีมันไว้ในครอบครอง ก็เพียงพอจะตีเสมอกับนักรบปฐพีระดับเขียวขั้นกลางได้ มังกรเลี้ยงตัวนี้คือลูกรักของทั้งหน่วยทหารรับจ้างหนามเหล็ก เกิร์นทุ่มเทเรี่ยวแรงไปไม่น้อยถึงจะได้มาไว้ในมือ

 

เหล่าทหารรับจ้างสวมเกราะหนังกันทั้งหมด ขบวนเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่ชักช้า พอช่วงสายๆ ก็ห่างจากเมืองลัวร์มาไกลแล้ว ค่อยๆ มุ่งหน้าไปทางดินแดนตอนในของอาณาจักรเบอร์บอน การรีบเดินทางคือเป้าหมายสำคัญ หลังจากเดินหน้าไปได้ทุกสองชั่วโมงเกิร์นก็จะสั่งให้พักสักครู่ เมื่อพระอาทิตย์แขวนลอยอยู่กลางทองฟ้าพอดีจึงค่อยกินอาหารแห้งง่ายๆ สักเล็กน้อยแล้วออกเดินทางต่อไป

 

“อินจู๋” ม่านรถเลิกขึ้น เผยให้เห็นดวงหน้าสวยจับใจของอันยา

 

“พี่อันยา มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?” เย่อินจู๋ทักทายนายจ้างสาวงามผู้มีบุคลิกสูงส่งอย่างมีมารยาท

 

อันยายิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าเป็นนักเวท จะขี่มันให้ลำบากทำไม? มานั่งข้างในรถม้าจะดีกว่า ดูท่าเจ้าคงจะเพิ่งเคยขี่วิลเดอร์บีสต์ครั้งแรก นานๆ ไปเกรงว่าเจ้าจะทนไม่ไหว การเดินทางครั้งนี้ของเราเกรงจะต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะถึงมิลานนะ”

 

“ได้ครับ!” อินจู๋ตอบรับอย่างดีอกดีใจ ก่อนจะกระโดดพรวดจากหลังวิลเดอร์บีสต์มุดเข้าไปในรถม้า

……………………………………….

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด