Chapter 34 : ต่อสู้กลางแม่น้ำไนล์
Chapter 34 : ต่อสู้กลางแม่น้ำไนล์
“ไอ้แมงป่องเวรนั่นอยู่แถวนี้ !” ลีโอตะโกนร้องออกมา
พูดจบลีโอก็โยนดาบเล่มสีทองอีกเล่มให้ผมเหมือนเช่นเคย อยากจะบอกว่าการเข้าไปฝึกควบคุมพลังเวทมนตร์ที่ลีโอแชร์ให้ในกุญแจก็ยังคงไม่คืบหน้าเท่าไร ผมยังคงทำแจกันที่วางบนโต๊ะให้แค่ร่วงลงมาที่พื้นไม่ได้สักที ได้แต่ระเบิดทั้งโต๊ะทิ้งอยู่หลายครั้ง จนลีโอพลังเวทมนตร์หมด กลายเป็นลูกสิงโตตัวน้อยเหมือนเช่นเคย แล้วมันก็จบด้วยการที่หมอนั่นวิ่งไล่งับขาผมให้ออกมาจากกุญแจของตัวเอง
“อย่าใช้พลังเวทมนตร์เปลือง เข้าใจไหมวิน !” ลีโอร้องกำชับผมขึ้นมา ก่อนวิ่งออกไปอีกทางเหมือนกำลังหาใครอยู่ ผมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แต่ไม่ได้ตอบกลับไปว่าจะใช้อย่างไม่เปลือง เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำได้หรือเปล่า สงสัยหมอนั่นคงอยากเคลียร์กับสกอเปียสมาก ถึงได้ดูทำท่ารีบร้อนเหมือนสิงโตหิวเหยื่อขนาดนั้น
พอได้อาวุธจากลีโอ ผมก็รีบพุ่งตัวเข้าไปช่วยจัดการผู้ใช้เวทของอีกฝั่งที่พยายามจะพังประตูนิรภัยเข้าไปในห้องประชุมเพื่อเข้าไปหาผู้นำของแต่ละประเทศทันที ทั้งไอรีนและมินจุนก็ทำแบบเดียวกัน พวกเขาเริ่มใช้พลังเวทของตัวเองและทักษะของแต่ละคนเข้าไปตะลุมบอนกับกลุ่มคนพวกนั้น สภาพรอบ ๆ ตอนนี้จึงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย นอกจากนี้สฟิงซ์ตัวโตที่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตได้กระโดดลุยน้ำลงมาเรียบร้อยแล้ว คลื่นน้ำที่ซัดเข้ามาจากการเคลื่อนตัวของสฟิงซ์ทำให้เรืออยู่ในสภาพโคลงเคลง
“พวกนายเข้าไปช่วยเหลือคนข้างในนะ ส่วนสฟิงซ์ตัวนั้นอควาเรียสน่าจะช่วยได้ เพราะพวกเราอยู่กลางแม่น้ำ” ไอรีนพูดขึ้นมา ผมกับมินจุนจึงพยักหน้า มินจุนใช้ลูกบอลลมที่สร้างขึ้นมาจากเวทมนตร์พุ่งเข้าใส่ผู้ใช้เวทคนหนึ่งที่พุ่งตัวเข้ามาหาเรา ส่วนผมก็กระโดดหลบกระสุนปืนจากทหารบางคนที่ยิงพลาดมาทางพวกเราด้วยเช่นกัน โชคดีที่การยืมพลังเวทมนตร์ของลีโอทำให้การมองเห็นทุกอย่างช้าลงเกือบเท่าตัว
ระหว่างนั้นเองสองฝาแฝดไพส์ซีสก็ใช้แส้สายน้ำของตัวเอง เหวี่ยงร่างของผู้ใช้เวทที่พุ่งเข้ามาด้านหลังของมินจุนจนกระเด็นออกนอกเรือลงไปสู่แม่น้ำด้านล่างหลายสิบคน ส่วนซาจิททาเรียสก็กระโดดขึ้นไปด้านบนของดาดฟ้าเรือแล้วช่วยโจมตีในระยะไกลเข้าช่วยอยู่ห่าง ๆ
ตู้ม !
คลื่นน้ำซัดเข้ามาที่เรือด้วยฝีมือของสฟิงซ์ตัวนั้น ขาของมันยกขึ้นสูง ก่อนที่จะตะปบลงมาบริเวณท้ายเรือ นั่นทำให้ทุกคนที่อยู่บนเรือเซถลาล้มลงไปกองกับพื้นเพราะทรงตัวไม่อยู่ ไอรีนพยายามใช้พลังเวทของตัวเองรักษาสมดุลของเรือไว้ด้วยการบังคับควบคุมกระแสน้ำมาดันเรือไว้ทดแทนของส่วนที่มันเสียหายไป
ขณะเดียวกัน ร่างของอควาเรียสก็กระโดดลงไปจากเรือ ขาที่เคยเป็นมนุษย์ของอควาเรียสค่อย ๆ เปลี่ยนไป มันกลายเป็นหางปลาสีเขียวมรกต เช่นเดียวกับสีดวงตาของเธอ ทันทีที่ร่างของอควาเรียสกระทบกับน้ำ คลื่นน้ำเชี่ยวที่เคยซัดเรือให้โคลงเคลงก็หายไป ระดับน้ำในแม่น้ำค่อย ๆ ลดลง พร้อมกับตัวเรือที่เหมือนกับกำลังยุบตัวลงไปตามระดับน้ำด้วย
ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ากระแสน้ำที่ไหลล้อมรอบเรือยกตัวสูงขึ้นแทน มันสูงขึ้นจนอยู่สูงเหนือเรือ สิ่งที่เราเห็นอยู่ตอนนี้เหมือนอยู่ภายในกำแพงขนาดใหญ่ที่มีน้ำล้อมรอบ ท้องเรือตอนนี้จมอยู่ที่พื้นแม่น้ำด้านล่าง ซึ่งเท่ากับว่าเรือกำลังจอดนิ่งอยู่บนพื้นดิน เสียงร้องดังฮือฮาไปรอบทิศที่มีคนสามารถใช้เวทมนตร์ทำอะไรแบบนี้ออกมาได้ แต่การต่อสู้ก็ยังดำเนินต่อไป ผมกับมินจุนช่วยกันฝ่าวงล้อมไปด้านหน้าของทางเข้าประตูนิรภัยของห้องประชุม เพื่อที่จะเข้าไปช่วยผู้นำประเทศที่อยู่ภายในนั้นออกมา
แต่ก่อนที่พวกเราจะได้ทำอะไร สายลมก็พัดเอาทรายพุ่งตรงมาหาพวกเรา สายลมค่อย ๆ ก่อตัวรวมกันขึ้นเรื่อย ๆ จากลมเบา ๆ มันก็ปรากฏให้เห็นเป็นรูปร่างของใครบางคน ท้ายที่สุดร่างของคนคนหนึ่งที่แต่งตัวทะมัดทะแมงในชุดนักฆ่าพร้อมกับผ้าปิดปากที่ทำให้เห็นเพียงดวงตาของเขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเรา ในมือถือดาบสั้นสองข้างคล้ายกับมีด ผมรู้สึกได้ทันทีว่าคนนี้ไม่ใช่ผู้ใช้เวทธรรมดา
“เฮ้ย !”
ผมได้ยินเสียงมินจุนร้องขึ้นมาจึงรีบหันไปมอง เขากำลังพยายามขว้างลูกบอลลมลงไปที่พื้น ซึ่งตอนนี้ปรากฏให้เห็นเป็นแมงป่องยั้วเยี้ยหลายร้อยตัวที่ไม่รู้โผล่ออกมาจากบริเวณไหนบนเรือลำนี้ สัญลักษณ์เด่นชัดขนาดนี้คงไม่ต้องเดาแล้วว่าคนที่ปรากฏตัวข้างหน้าเป็นใคร
อามุน ...
“ถอยไปซะ ฉันไม่อยากจัดการกับพวกนายตอนนี้ เป้าหมายฉันไม่ใช่พวกนาย”
เสียงดังมาจากภายใต้ผ้าปิดปาก เพียงพริบตาเดียวร่างนั้นก็พุ่งตัวเข้ามาที่ประตูนิรภัยทางเข้าห้องประชุม แต่ผมไหวตัวทันเพราะดวงตาสีฟ้าของตัวเองที่ได้รับพลังจากการแชร์เวทมนตร์จากลีโอ ทำให้มองเห็นสิ่งรอบตัวช้าขึ้นกว่าเดิม
ปลายดาบสีทองจ่อไปที่คอของอามุน แล้วในใจผมก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี
มันง่ายขนาดนี้เลยหรอ ...
ดวงตาสีเข้มมีแววขบขัน จนผมพุ่งดาบเข้าไปยังร่างตรงหน้า แต่กลับเจอแต่ความว่างเปล่า อามุนไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น ภาพของอามุนกลายเป็นเพียงลมและกลุ่มทรายที่ล่วงลงไปบนพื้น
ตู้ม !
ร่างของผมถูกซัดกระเด็นไปด้านท้ายเรือด้วยแรงที่มองไม่เห็น ตัวของผมลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น ก่อนจะพยายามลุกขึ้นมาตั้งตัวอย่างว่องไว พร้อมกับร่างของอามุนที่เป็นทรายก่อตัวขึ้นมา ผมเมื่อเห็นร่างของอามุนก็พุ่งตัวเข้าไปหาเพื่อโจมตีอีกรอบ แต่คราวนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากเดิม จากที่คิดว่าร่างของเขาอยู่ตรงนั้นแน่ ๆ เมื่อใช้ดาบฟันออกไป มันกลับกลายเป็นว่าผมฟันอากาศ พร้อมกับทรายที่ร่วงลงไปสู่พื้น ก่อนร่างของอามุนจะปรากฏขึ้นมาอีกมุมหนึ่งแถวนั้น
“เอาจริง ๆ นายจะฟันฉันโดนไหมวันนี้” อามุนพูดขึ้นมาเยาะ ๆ
พอได้ฟังแล้วก็เหมือนว่าตัวเองกำลังถูกยั่วโมโห ผมพยายามดึงพลังเวทมนตร์ของลีโอเพิ่มขึ้นอีก ร่างกายตอนนี้มีออร่าสีฟ้าปรากฏขึ้นมา ก่อนผมจะตวัดดาบออกไปยังร่างตรงหน้า มันปรากฏเป็นลมอากาศคมสีฟ้าที่พุ่งตรงไปหาร่างของอามุนที่ผมเล็งดีแล้วว่ายังไงเขาก็ต้องหลบไม่ทันแน่ แต่ทุกอย่างกับผิดคาดอีกครั้ง ทันทีที่ลมอากาศคมเกือบเข้าถึงลำคอของเจ้าตัว ร่างของอามุนก็กลายเป็นเพียงอากาศว่างเปล่า พร้อมกับกองทรายอีกเล็กน้อยที่ร่วงลงที่พื้น
คมอากาศพุ่งผ่านตรงไปยังกำแพงน้ำที่อควาเรียสสร้างขึ้นจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นพร้อมกับกระแสน้ำบางส่วนสาดกระเด็นเข้ามา ด้านนอกกำแพงดูเหมือนว่าอควาเรียสกำลังใช้กระแสน้ำควบคุมร่างของสฟิงซ์ตัวนั้นให้อยู่ภายใต้น้ำวนให้เคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้
แต่ตอนนี้ผมงงไปหมดแล้ว ...
หมอนั่นทำได้ไง ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้ก็เห็นว่าร่างยืนอยู่ตรงนั้นแท้ ๆ ...
ตุบ !
ร่างของผมถูกซัดกระเด็นจากทางด้านหลังจนเซ ประกอบกับความคมของดาบที่ตวัดผ่านขาผมอย่างแม่นยำทั้งสองข้างบริเวณข้อเท้า มันทำให้ผมล้มลงไปกองที่พื้น แรงกดไม่ได้แรงมาก แต่มันก็ทำให้ขาทั้งสองข้างของผมหมดแรงที่จะยืนขึ้นมาเพราะความเจ็บปวด ตามมาด้วยคมดาบสั้นของอามุนที่ง้างขึ้นมาข้างตัว พร้อมพุ่งตรงมาที่คอผมอย่างรวดเร็วจนผมตั้งตัวแทบไม่ทัน
เฮ้ย ! ทำไมมันไวขนาดนี้ ผมเบิกตากว้าง
เคล้ง !
โชคดีที่มีดาบสีทองมาประดาบสั้นของอามุนไว้ก่อน ผมหายใจแทบไม่ทั่วท้อง ฝีมือของอามุนมันเหนือชั้นมากจริง ๆ มากกว่าผู้ใช้เวททุกคนที่ผมเคยเจอ มันเป็นรูปแบบการต่อสู้ของนักฆ่าที่เน้นความไว แถมเวทมนตร์ที่เขาใช้ในการต่อสู้ด้วยร่างทรายที่ผมไม่คุ้นเคย จนเหมือนมีเขาอยู่หลายคนไม่รู้ว่าร่างไหนคือร่างจริง ทุกอย่างดูยากในการมองรูปแบบการต่อสู้เหมือนที่ลีโอเคยสอน
เพียะ !
“โอ๊ย !” ผมร้องออกมาเมื่อเจอฝ่ามือของลีโอตบเข้าที่หัว นี่เดี๋ยวนี้ไอ้สิงโตเผือกมันกล้าทำกับผู้ถือครองกุญแจตัวเองขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ตามมาด้วยมินจุนที่ผมเห็นกำลังวิ่งมาทางพวกเราหลังจากผจญอยู่กับฝูงแมงป่องก่อนหน้า
“บอกแล้วไงว่าอย่าดึงพลังเวทมนตร์ออกมาเยอะ” ลีโอพูดออกมาอย่างหงุดหงิด ร่างของอามุนกระโดดหลบออกไปเพื่อตั้งหลักมองพวกเรา
“เฮ้ย เป็นไงบ้างวะเนี่ย !” มินจุนพูดออกมา ก่อนหมอนั่นจะนั่งลงใช้พลังเวทมนตร์ที่ตัวเองเชี่ยวชาญในการรักษาทำแผลที่บริเวณข้อเท้าให้ผม เกิดแสงสีขาวออกมาจากมือของมินจุนก่อนที่บาดแผลจะค่อย ๆ บรรเทาลงถึงจะยังไม่หายสนิท แต่มันก็ช่วยทำให้ผมลุกขึ้นยืนได้แล้ว พวกเราสามคนมองไปยังร่างของอามุนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเตรียมพร้อมรับมือกับเขา ดวงตาสีเข้มของอามุนหันไปมองข้างตัว ซึ่งพวกเราไม่เห็นว่าจะมีอะไร แต่พอมองไปยังบริเวณนั้นอีกที ทรายที่พัดเข้ามาในเรือก่อนหน้าก็ค่อย ๆ ปลิวมารวมตัวกัน ก่อให้เกิดเป็นรูปร่างของใครอีกคน
ร่างนั้นเป็นร่างของอมนุษย์ ช่วงบนเป็นร่างเปลือยของมนุษย์ผู้ชายรูปร่างกำยำสูงเกือบ 2 เมตร ใบหน้าคมเข้ม ดวงตามีแววที่แฝงไปด้วยความสนุก มือทั้งสองข้างไม่ได้เป็นมือมนุษย์ หากแต่เป็นก้ามของแมงป่องขนาดใหญ่ รวมถึงช่วงเอวลงไปก็เป็นขาทั้งแปดของแมงป่อง พร้อมกับหางที่ชูขึ้นมาอยู่เหนือหัว นี่คงจะเป็นสกอเปียสซินะ ถ้าเทียบกับซาจิททาเรียสที่เป็นภูติดวงดาวครึ่งม้าที่มองว่าสง่างาม สกอเปียสก็คงดูเป็นภูติดวงดาวครึ่งแมงป่องที่ดูดุดันน่ากลัว ขัดกับใบหน้าที่กำลังยิ้มมองมาที่พวกเราอย่างยินดี
“เหมือนจะเป็นเพื่อนภูติดวงดาวของนายนะ สกอเปียส” อามุนพูดขึ้นมา พร้อมกับหันไปคุยกับสกอเปียสที่ยืนอยู่ไม่ห่างกับเจ้าตัวมากนัก สกอเปียสมองหน้าลีโอแล้วยิ้มออกมาเหมือนเยาะเย้ย
“เอ๋ ... นี่มันแมวเผือกขี้แพ้เมื่อ 500 ปีที่แล้วนี่หว่า”
โอ้โฮ ... ฟังแล้วเจ็บจี๊ด
เป็นการเปิดบทสทนาที่หยามลีโอจนผมเห็นเจ้าตัวกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดนูนขึ้นมา ออร่าสีฟ้าแผ่ขยายขึ้นมารอบตัวของลีโอ แถมไปว่าเจ้าป่ากลายเป็นแมวซะอีก ดูท่างานนี้ได้เละกันไปข้างแน่
“แก ไอ้สกอเปียส ! วันนี้แกได้กลายเป็นแมงป่องชุบแป้งทอดแน่ !” ลีโอประกาศกร้าว ก่อนร่างของเขาจะพุ่งเข้าไปหาสกอเปียสอย่างรวดเร็ว
“กลัวจังเลยครับคุณแมวเผือก”
ตู้ม !
เกิดการระเบิดจากพลังเวทของลีโอและสกอเปียสจนดังสนั่นหวั่นไหว เศษซากที่เกิดจากการปะทะเมื่อสักครู่ทำให้เรือสำราญหายไปเกือบหนึ่งในสี่ ผมและมินจุนต่างหลบออกมาจากบริเวณการปะทะตรงนั้น ควันที่เกิดจากการระเบิดค่อย ๆ หายไป ปรากฏให้เห็นเป็นดาบของลีโอกำลังประอยู่กับก้ามแมงป่องขนาดใหญ่ของสกอเปียสทั้งสองข้างที่เป็นเหมือนดาบ ออร่าสีเหลือทองสว่างมาจากร่างของสกอเปียส ก่อนจะเกิดพายุทรายพุ่งตรงเข้าล้อมรอบลีโอ
แมงป่องที่มินจุนเคยกำจัดไปแล้ว ตอนนี้โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้อีกหลายร้อยตัว ยิ่งมองก็ยิ่งขนลุก พวกมันไต่ยั้วเยี้ยเต็มพื้นไปหมด ร่างของลีโอมีออร่าสีฟ้าเป็นเหมือนเกราะเข้าปกคลุมตัวเอง ฝีมือของทั้งคู่ดูสูสีกันมาก ผมเองก็อยากเข้าไปช่วยลีโอแต่ดูเหมือนว่าฝีมือตัวเองจะยังไม่ถึง อีกอย่างมันเป็นการต่อสู้ระหว่างภูติดวงดาวขืนเข้าไปช่วยแล้วไปดูดพลังเวทมนตร์ลีโอออกมาอีกทีละเยอะ ๆ หมอนั่นได้กลายเป็นลูกแมวตัวน้อยสมพรปากสกอเปียสแน่ ๆ
ตู้ม ! ตู้ม ! ตู้ม !
ฝนธนูของซาจิททาเรียสพุ่งเข้าสู่กองทัพแมงป่องที่ไต่ยั้วเยี้ยเต็มพื้น ก่อนพวกมันจะพากันลุกติดไฟเพราะดอกธนูของเขา สองฝาแฝดไพส์ซีสรีบวิ่งมาหามินจุนทันทีหลังจากจัดการผู้ใช้เวทที่อยู่รอบ ๆ ซึ่งเป็นศัตรูที่แทรกซึมเข้ามาอารักขาเหมือนกันกับพวกเรา สถานการณ์ตอนนี้เริ่มดีขึ้นมาหน่อย ยกเว้นก็เพียงแต่กำแพงน้ำของอควาเรียสเริ่มจะลดระดับลง เหมือนพลังเวทของเธอจะเสียไปมากกับการสร้างสนามเวทมนตร์ควบคุมแม่น้ำที่กว้างขนาดนี้ แถมยังขังตัวสฟิงซ์ให้อยู่ในกระแสน้ำวนอีก
“ซังมี ซังซู พวกเธอเองก็ใช้เวทมนตร์ธาตุน้ำ เข้าไปช่วยอควาเรียสเร็วไม่ต้องห่วงฉัน” มินจุนบอกสองฝาแฝดไพส์ซีสไปเมื่อเห็นกำแพงน้ำที่ล้อมรอบเรือเริ่มลดระดับลง เรือกำลังลอยจากพื้นเพราะน้ำอีกครั้ง สองฝาแฝดไพส์ซีสพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนกระโดดขึ้นไปด้านบนของดาดฟ้าเรือ
แส้ของทั้งสองขยายยาวออกไปทะลุกำแพงน้ำที่อควาเรียสสร้างขึ้น ก่อนมันจะเข้าไปพันร่างของสฟิงซ์ที่อยู่ในกระแสน้ำวนของอควาเรียสเพื่อช่วยแบ่งเบาสนามเวทมนตร์ที่อควาเรียสเป็นคนสร้าง กำแพงน้ำของอควาเรียสจึงกลับขึ้นไปสูงเหมือนอย่างเดิม ไม่อย่างงั้นพวกเราก็ต้องกลับไปเสียเปรียบเพราะต้องต่อสู้บนเรือที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในน้ำ ไม่ได้หยุดนิ่งอยู่บนพื้นด้านล่างแม่น้ำแบบนี้
แต่ดูเหมือนว่าทั้งผมและมินจุนจะลืมสิ่งสำคัญไป ...
“เฮ้ย ! ไอ้วิน อามุนมันหายไปแล้ว” มินจุนพูดออกมาเมื่อนึกขึ้นมาได้
“เออ จริงด้วย ห้องประชุม !” ผมร้องออกไป พร้อมกับวิ่งไปยังอีกฝั่งที่เป็นประตูนิรภัยของห้องประชุม
ภารกิจของพวกเรายังไม่จบนี่หว่า ...