Money Monster Episode XXXV [แก้มือ(1)]
Money Monster Episode XXXV [แก้มือ(1)]
เมื่อทั้งสี่รีบจัดแจงเสื้อผ้าให้พร้อมสู่การเข้าสมรภูมิที่วิ่งเข้าหาอย่างกะทันหัน พวกเขาพลันวิ่งออกมาจากโรงพยาบาลโดยมีจูดัสยืนอิงเสาไฟฟ้ารออยู่ตรงจุดจอดรับผู้โดยสาร
“ผมได้ส่งพิกัดให้พวกคุณแล้วนะครับ”
“ขอบใจ” ไลท์เอ่ยกับจูดัส
“ส่วนผมคงอีกสักพักถึงจะตามไป”
“ทำไมล่ะ?”
“งานนี้น่าจะศึกหนักแต่ผมเอาของบางอย่างไปจำนองน่ะครับ ต้องไปไถ่คืนมาก่อนอาจไปช้าสักชั่วโมงหนึ่ง”
“งั้นเหรอ พวกฉันไปก่อนนะ” ไลท์กล่าวกับชายหนุ่มผมขาวก่อนจะยกบัตรMMCขึ้นรีบแท็กซี่ เขานั่งที่นั่งด้านหน้าปล่อยให้อีกสามคนอัดกันเป็นปลากระป๋องอยู่ด้านหลังโดยมีลูน่าคั้นระหว่างกลาง
“อือ..อึดอัดอะค่ะ คุณครอสซ์ช่วยเขยิบไปอีกนิดจะได้ไหมคะ”
“อย่าบ่นน่า! ฉันเองก็อึดอัดจะแย่เหมือนกัน”
“ทั้งคู่หยุดพูดก่อนเถอะน่า” แจ๊สเปอร์เอ่ยเตือน
“แท็กซี่ ไปทางนี้ครับ” ไลท์เอ่ยพลางเปิดแอพพลิเคชั่นของจูดัสคลับให้แท็กซี่ดู เมื่ออีกฝ่ายรับทราบตำแหน่งก็ขับรถแล่นฉิวออกไปยังโลกภายนอกในทันทีด้วยความเร็วสูงมาก ในระหว่างนั้นทุกเวลานั้นมีค่า เขาเลื่อนกระดานพลาสติกที่อยู่ในลิ้นชักของรถออกมาแล้วค่อยๆ บรรจงเทการ์ดทั้งหมดที่มีออกมา
“จะทำอะไรน่ะไลท์?” แจ๊สเปอร์เอ่ยถาม
“จัดสำรับ ฉันมันเซฟโซนเกินไป ถ้าฉันไม่ยอมเสี่ยงบ้างคงเอาชนะกรีดที่เลเวลสูงกว่าสามไม่ได้แน่ๆ” ไลท์เอ่ยกับเพื่อนก่อนจะหยิบการ์ดที่มีตัวอักษรเขียนเอาไว้สองตัว [SR]สองใบมาขึ้นมือ มันคือการ์ดที่เขาเดิมพันกับเซลิเป้กับการ์ดที่เขาซื้อเอาไว้อยู่แล้ว
เพราะว่าที่ผ่านมาสู้แต่พวกระดับต่ำจึงไม่มีโอกาสได้ใช้เสียทีแต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ มันคุ้มค่าที่จะใช้อย่างแน่นอน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไลท์จัดสำรับการ์ดโดยการเน้นที่การนำการ์ดที่สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์มาใส่เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการ์ดอาวุธ อบิลิตี้หรือการ์ดโจมตีง่ายๆ ทำให้ไม่เคยการ์ดเน่าเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่นั่นก็มีข้อเสียเพราะประสิทธิภาพของมันถูกจำกัด
หากอยากให้สำรับมีพลังสูงก็ต้องยอมเสี่ยงใส่การ์ดที่อาจใช้ไม่ได้ในบางสถานการณ์ ซึ่งคราวนี้เขายอมเสี่ยง เมื่อจัดการ์ดทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยก็ยกบัตรMMCขึ้นเปลี่ยนเครื่องแบบให้กลายเป็นชุดสีดำสนิทตัวเก่งที่ใช้ออกต่อสู้
รถแท็กซี่สีดำสุดหรูจอดเบรกกะทันหันก่อนที่คนขับจะเอ่ยกับไลท์ว่า
“ขออภัยครับคุณผู้ชาย ที่นี่อยู่ในเขตต่อสู้ ด้วยสัญญาที่พวกกระผมได้ตกลงกับMoney Monster จึงไม่สามารถเข้าใกล้ไปมากกว่านี้ได้”
“ไม่เป็นไร” ไลท์รีบกล่าวก่อนจะรูดบัตรเงินสดเพื่อชำระค่าโดยสาร ผลักประตูออกไปอย่างแรงแล้ววิ่งไปบนถนนคอนกรีตอย่างรวดเร็วพร้อมกับสหายอีกสามคน GPSบนแอพพลิเคชั่นกำลังร้องเตือนว่าเขาข้าใกล้ที่หมายขึ้นทุกที โดย ณ จุดนั้นมีสมาชิกของจูดัสคลับไม่ต่ำกว่าสองร้อยคนอย่าแน่นอน เมื่อดูจากจุดสีขาวที่กระพริบอยู่
“แย่ล่ะสิ ลืมไปสนิทเลยว่าไม่ได้ซื้อกระสุนเตรียมมาด้วย”
“เอ้า!” ทั้งสามคนโพล่งเสียงขึ้นพร้อมกันอย่างมึนงง ทำไมเวลาสำคัญเช่นนี้เจ้าตัวถึงได้ลืมได้
“มีพอใช้ไหม”
“ไม่แน่ใจ เอาไว้ค่อยใช้การ์ดWeaponเสกออกมาใช้แทนปืนพกก็แล้วกัน” ไลท์เอ่ยก่อนจะหยิบการ์ดขึ้นมาชุดหนึ่งหลังจากที่สต๊อกการ์ดได้จ่ายการ์ดให้เขา
มีการ์ดSummonหนึ่งใบ Weaponหนึ่งใบและAbilityหนึ่งใบ ดูเหมือนจะไม่เลวแต่ใช้ไม่ได้
‘การ์ดแย่แต่เริ่มต้นเลยแฮะ’ ไลท์คิดในใจก่อนที่จะมาเยือนยังพื้นที่เป้าหมาย
“ตาย! ตายไปซะไอ้พวกปีศาจเวร”
“เอานี่ไปกินหน่อยเป็นไง!”
“เงิน..ต้องการมากกว่านี้ ฉันต้องการเงินมากกว่านี้ รีบๆ ตายซะทีเซ่!”
เสียงของเหล่าโบรกเกอร์ดังระงมขึ้นจากทุกที่ ร่างอมนุษย์สีดำตั้งแต่เลเวลหนึ่งกับสองเต็มไปทั่วพื้นที่นับร้อย โดยมีเหล่าโบรกเกอร์กำลังคอยต้านอย่างดุเดือด ทุกคนงัดการ์ดและอาวุธออกมาใช้สู้อย่างเต็มที่เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
“จะ..เยอะจังเลยค่ะ” ลูน่ากล่าวเสียงสั่น
“จากข้อมูลในแอพพลิเคชั่น เหมือนที่จริงแล้วจะมีโบรกเกอร์กลุ่มหนึ่งเก็บชิพเตอร์เอาไว้คนเดียวมาหกวันแล้ว วันนี้เป็นวันสุดท้ายกรีดเลยยิ่งแห่เข้ามาเยอะเป็นพิเศษถึงแจ้งให้เครือข่ายทราบและขอความช่วยเหลือ ให้ตายเถอะ โลภมากจริงๆ” แจ๊สเปอร์วิจารณ์สถานการณ์ออกมาอย่างถี่ถ้วน นั่นเป็นสาเหตุที่กรีดมารวมตัวกันเยอะขนาดนี้นั่นเอง
ส่วนไลท์เฉยๆ มาก เพราะตอนเขาเป็นชิพเตอร์วันสุดท้ายมีกรีดมาอ้อมล้อมหวังจะฆ่าเขาจำนวนเกือบหมื่น ชายหนุ่มบรรจุกระสุนลงที่ปืนพร้อมกวาดสายตามองอ่านสถานการณ์ตรงหน้าให้เฉียบขาด เขาเงียบอยู่สักพักก่อนจะลอบเผยรอยยิ้มออกมา
“ทุกคนต่างก็ต้องทำเงินให้ได้มากที่สุดล่ะนะ” ไลท์เอ่ยออกมาก่อนจะยกปืนขึ้น
“แจ๊สเปอร์ ครอสซ์ ลูน่า ฉันว่าพวกนายไปวนอยู่แถวๆ ชิพเตอร์ดีกว่า”
“ทำไมล่ะ? ตรงนี้พวกกรีดน่าจะเยอะสุดนี่นา” แจ๊สเปอร์ถามก่อนที่ไลท์จะหันกลับมามองด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์เจ้ากล
“ถ้านายอยู่ที่นี่จะไม่ได้แม้แต่เหรียญเดียว ที่นี่คนใช้ปืนแบบฉันจะเฉิดฉายได้มากกว่า”
“?”
“ไปเถอะน่า เชื่อฉันสิ”
“เข้าใจแล้ว ครอสซ์ ลูน่า ตามฉันมา” แจ๊สเปอร์เอ่ยกับสองคนที่เหลือ พวกเขาพากันพยักหน้าก่อนจะวิ่งตามแจ๊สเปอร์ไปยังจุดที่ชิพเตอร์กำลังถูกคุ้มกันอยู่ เมื่อเห็นเพื่อนๆ จากไปแล้วไลท์ก็ยิ้มจางๆ ยกปากกระบอกปืนไปยังกรีดตัวหนึ่งที่กำลังมีโบรกเกอร์คนหนึ่งสู้อยู่
ปัง!
ไกปืนถูกเหนี่ยวออกไป กระสุนพุ่งทะลวงอากาศแหวกไปทะลุผ่านหลังของอมนุษย์สีดำตัวหนึ่งจนมันสะดุ้งเฮือกจนซะงักการโจมตี เป็นผลให้โบรกเกอร์คนนั้นโจมตีได้ง่ายขึ้นในพริบตานั้น เจ้าของกรีดตัวนั้นมีสีหน้าประหลาดใจจนถึงที่สุดแล้วหันมามองไลท์
“จะมาแย่งกันหรือไง! ไสหัวไปไกลๆ เลยนะเฟ้ย ตัวนี้ของฉัน”
“อย่าขี้เหนียวนักสิ ดูสิมันบาดเจ็บแล้ว นายก็ฆ่ามันได้ง่ายขึ้นไง วิน-วิน” ไลท์เอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะวิ่งเข้าสู่กลางสมรภูมิรบ เล็งปากกระบอกปืนใส่กรีดที่มีเจ้าของตัวแล้วตัวเล่าแล้วยิงใส่ส่วนที่ไม่สำคัญมากนัก เช่นบริเวณข้อต่อแขนหรือขา หัวใจ จนกระทั่งศีรษะ
ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!
ปืนยิงลูกกระสุนพุ่งออกไปจำนวนมาก ถูกเสียบปลอกใหม่แล้วยิงต่ออย่างต่อเนื่องราวกับว่าเจ้าของมันกำลังร่ายรำสาดกระสุนอยู่ไม่มีผิด พวกโบรกเกอร์คนอื่นทีแรกพากันไม่พอใจจนด่าพ่อแช่งแม่กันเป็นแถบๆ ทว่า ก็ต้องรู้สึกเจ็บใจอย่างมาก
ไลท์เลือกยิงเฉพาะเวลาที่กรีดกำลังโจมตีกลับ ทำให้อมนุษย์สีดำหยุดซะงักแล้วสร้างช่องว่างขึ้นเหมือนที่เขาทำขึ้นในทีแรก โบรกเกอร์พวกนั้นก็ได้ผลประโยชน์ไปด้วย แล้วไลท์ได้รับผลประโยชน์อะไรกัน?
กฎการแบ่งเงินของDividend ปกติจะมีค่าเฉลี่ยตายตัวเช่น5.000-15,000 แต่หากว่าคนที่โจมตีกรีดมีมากกว่าหนึ่งขึ้นมาสรุปเงินจะไปเข้าบัญชีของใครในอันตราเท่าไหร่ ในส่วนนี้หากอยู่ในกลุ่มหรือองค์กรเดียวกันอาจเป็นการแบ่งปันผลประโยชน์ตามตัดส่วนที่เท่ากัน แต่หากไม่รู้จักกันขึ้นมาล่ะ
กฎการแบ่งเงินจะถูกใช้เป็นอีกแบบ นั่นคือ[ตามผลงาน] ยิ่งใครสร้างความเสียหายเยอะก็ยิ่งได้รับเงินมากขึ้น ตอนนี้ไลท์มีกระสุนจำกัดจะฆ่ากรีดก็คงทำได้ไม่กี่ตัว เขาจึงใช้วิธียิงกรีดหลายๆ ตัว เพื่อจะได้ส่วนแบ่งจากกรีดที่มีเจ้าของอยู่แล้ว แม้จะไม่มากแต่เมื่อไหลเข้ามาเป็นจำนวนมากก็เป็นเงินก้อนได้
แม้จะดูเป็นวิธีที่หน้าด้านไร้ยางอายซะไม่มี แต่พวกโบรกเกอร์ก็พอได้ผลประโยชน์บ้าง แถมเงินที่อีกฝ่ายได้ก็นิดเดียวจะไปหาเรื่องก็ใช่ที จึงสลัดความคิดจะไปทวงเงินคืนทิ้งไปซะแล้วกระทืบอมนุษย์ต่อด้วยความเจ็บแค้นใจที่รู้สึกเหมือนถูกหลอกใช้ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่
เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพักการ์ดในมือก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาไม่ได้ใช้การ์ดเลยแม้แต่ใบเดียว รอคอยการ์ดใบสำคัญอย่างใจจดใจจ่อเพื่อเตรียมรับมือกับอาหารชิ้นโตที่กำลังจะมาถึง
ออกมาเลยสิ พวกเลเวลสาม คราวนี้ฉันจะฆ่ามันให้ได้
ภายในโกดังเก็บของขนาดใหญ่ โบรกเกอร์ราวยี่สิบกว่าคนกำลังต้านเหล่าอมนุษย์ที่หลุดลอดเข้ามา เป็นจังหวะเดียวกับที่พวกแจ๊สเปอร์รีบวิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง
“กำลังเสริมมาแล้วสินะ! รีบมาช่วยยันเจ้าพวกนี้เอาไว้เร็วเข้า”
“โถ่เว้ย! จะเยอะเกินไปแล้วนะเฟ้ย ย้าก!”
เหล่าโบรกเกอร์พากันตะโกนออกมาด้วยความอึดอัด ใช้อาวุธที่มือกระแทกเข้าตามส่วนต่างๆ พลางใช้การ์ดจู่โจมซัดการโจมตีที่รุนแรงเข้าใส่จนพวกมันต่างพากันกระเด็น
“ครอสซ์เข้าไปช่วยเขาเร็ว ลูน่าคุ้มกันชิพเตอร์เอาไว้ ว่าแต่คนไหนคือชิพเตอร์” แจ๊สเปอร์รีบถามไถ่ข้อมูลในทันทีจนอีกฝ่ายชี้ไปยังจุดแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มในชุดนักศึกษากำลังนอนขดตัวสั่นระริกด้วยความกลัวโดยมีกลุ่มชายหญิงติดอาวุธรายล้อมป้องกันจากภายนอก
“ผมกลัวแล้วๆ ทำไมล่ะ ทำไมถึงต้องเกิดเรื่องแบบนี้ ผมไม่มีอะไรอยากได้สักหน่อย ผมแค่อยากมีชีวิตต่อไปเรื่อยๆ ผมยังไม่อยากตายๆ” ชายหนุ่มวิตกจริตถึงขีดสุด ดวงตาลอกแลกไปมาตัวสั่นเหงื่อไหลไม่หยุด
ลูน่าสะเทือนใจจนต้องเอามือมากุมที่หน้าอก
“คนที่โดนกรีดเพ่งเล็งนี่น่าสงสารจังเลยนะคะ”
“ใช่ จะว่าไปลูน่าขอพรก่อนจะโดนกรีดล่านี่นะ”
“ค่ะ”
“ดีแล้ว..”แจ๊สเปอร์เอ่ยก่อนจะหยิบพลั่วในมือเข้าไปสมทบกับพวกที่รายล้อมชิพเตอร์อยู่ เพราะต่อให้เข้าไปอยู่แนวหน้าก็ช่วยอะไรมากไม่ได้นัก ส่วนลูน่าก็รวบรวมความกล้าที่มีเข้าไปร่วมกลุ่มกับพวกที่ใช้คฑาในการต่อสู้ ระดมกันยิงพลังใส่พวกอมนุษย์อย่างเป็นระบบจนเกิดเป็นแนวโจมตีกลางขึ้น
‘เข้าใจแล้ว เป็นแบบนี้เอง’ แจ๊สเปอร์ล่วงรู้สิ่งที่ไลท์พยายามจะสื่อให้พวกเขาฟังเมื่อกำลังเผชิญในสถานการณ์ตรงนี้อยู่
โบรกเกอร์ส่วนมากเกือบทั้งหมดจะคิดว่าหากไปอยู่ด้านนอกจะทำกำไรได้ดีที่สุดและพวกที่เฝ้าระวังชิพเตอร์อยู่ภายในจะไม่มีกรีดมาถึงให้กำจัด แต่คนพวกนั้นคิดตื้นเกินไป
จะยังไงคนของจูดัสคลับก็เป็นพวกเหลือของที่ไม่ได้เป็นที่ต้องการของพวกองค์กรที่มีระบบอย่างเป็นทางการ ฝีมือไม่ได้ดีเด่นอะไรมากมาย การจะกำจัดกรีดทุกตัวที่เข้ามาในแนวหน้ามันเป็นไปไม่ได้ ยิ่งต้องใช้สมาธิทั้งหมดในการต่อสู้กับศัตรูแค่ตัวเดียวก็แทบไม่สังเกตสถานการณ์โดยรอบกันเลย
จนไม่รู้เลยว่า รับมือไม่ทันจนมีกรีดหลุดเข้ามาถึงภายใน ยิ่งนานเข้าก็หลุดมามากขึ้น การต่อสู้ภายนอกที่คนเยอะมากยิ่งทำให้วุ่นวายหนักเข้าไปใหญ่ ทั้งต้องไม่ไปรบกวนคนอื่น ทั้งต้องไปแย่งเหยื่อจากคนอื่น คนที่มาใหม่จะไปหาหรือแย่งกับคนอื่นก็ลำบาก
แต่หากอยู่ภายใน แค่รอให้กรีดหลุดเข้ามาหาซึ่งมีจำนวนที่ไม่น้อยเลย เพราะพวกที่คอยเฝ้าชิพเตอร์อยู่มีจำนวนไม่มากความเร็วในการกำจัดย่อยน้อยตามไปด้วย ไลท์จึงแนะนำให้เข้ามาอยู่กับแนวหลังเพื่อจะทำให้ไม่ต้องไปแย่งเหยื่อกันอุตลุดกับพวกข้างนอก แต่มาคอยเก็บเงินเรื่อยๆ จากภายในสบายๆ แทน
‘ยอดเยี่ยมมากเลยไลท์ เพราะฉันสู้อะไรมากไม่ได้ด้วยอยู่ภายนอกไปก็จะพลอยอันตรายไปด้วยสินะ ลูน่าเองก็จะได้ไม่ต้องไปอยู่กลางฝูงศัตรูด้วย ในที่สุดก็เริ่มคิดถึงคนอื่นแบบเป็นจริงเป็นจังแล้ว’
“ยิง!” เมื่อได้ยินสัญญาณเหล่าผู้ใช้คฑาพลันยกอาวุธขึ้น ลูกบอลพลังธาตุหลายสิบลูกยิงออกไปใส่พวกที่ไต่ตามกำแพงและฝาผนังหวังจะเข้าใกล้เหยื่อโดยไม่ต้องมาทางภาคพื้นดินตามปกติ
“ชาร์ตมานาให้เต็มเร็วเข้า มันใกล้เข้ามาแล้วนะ”
“โอ้!/ครับ/ค่ะ” หลายเสียงขานรับ ลูน่าก็เริ่มทำตามด้วย
‘ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็พอไหว ไม่สิ ต้องไหวแน่ๆ’ ลูน่าคิดพลางบีบคฑาไว้แน่น
ตรงเบื้องหน้าไม่ไกลจากลูน่านัก พวกครอสซ์ก็กำลังต้านกรีดอย่างเมามันด้วยกำปั้นและลูกเตะ
“ย้าก!ย้าก!ย้าก!ย้าก!ย้าก! เข้ามาเลยเจ้าพวกกระจอก อะไร อะไร ยังไง อย่าคิดว่าจะหลบหมัดมหากาฬของท่านครอสซ์ผู้ยิ่งใหญ่เอาไว้ได้ เอาล่ะนะ ลูกเตะสลาตัน” คอรสซ์ว้ากเสียงออกมาเนื่องๆ กระโดดหมุนตัวเตะกลางอากาศเป็นวงกลม ซัดร่างสีดำให้ปลิวออกไป
ชายหนุ่มนักมวยไม่ปล่อยให้มันได้มีโอกาสพักผ่อน วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้วเมื่อมันทำทีจะยืนขึ้น เขากระโดดขึ้นกระแทกเข่าอันแข็งแรงดุจหินผาเข้าที่เบ้าหน้าอย่างแรงก่อนที่ร่างมันจะสลายหายไป
“เยี่ยม! จะหน้าไหนก็เข้ามา ฉันจะสอนมวยให้มันเอง” ครอสซ์ตวาดเสียงไปทั่วด้วยความเลือดร้อน ชายหนุ่มพุ่งร่างเข้าซัดหมัดใส่ไอ้ตัวที่พลัดหลงเข้ามาแล้วกระแทกศอกใส่อย่างรุนแรง
“ไม่ว่าใครก็หยุดฉันไม่ได้แล้ว! ย้าก!!”
โครม!
เสียงระเบิดดังขึ้นจนทุกสายตาต้องหันไปมองในชั่วขณะ เมื่อฝุ่นควันจางลงก่อนที่ร่างสีดำในชุดผ้าหนังจะปรากฏขึ้นพร้อมหมวกฟางสางและรูปร่างที่สมส่วนมาตรฐานมนุษย์ หากแต่มีกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดา
ผู้มาเยือนใหม่ใช้ดวงตาสีขาวจดจ้องมาที่ชิพเตอร์ตาเขม่งก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา
“ชิพเตอร์..ยอดเยี่ยม! นายท่านซาลามันเดอร์ต้องชอบแน่ๆ”
“ซาลามันเดอร์? พูดอะไรของมันฟะ” ครอสซ์โก่งคิ้วขมวดเหมือนได้ยินคำนี้ที่ไหน แต่เมื่อแจ๊สเปอร์ได้สังเกตดีๆ เขาถึงกับต้องลั่นตะโกนบอกกับทุกคนถึงหายนะที่ได้เข้ามาถึงตัวพวกเขาแล้วเป็นที่เรียบร้อย
“ครอสซ์! มันเป็นกรีดเลเวลสาม”
“ว่าไงนะ!”
“เข้าใจแล้วก็ดี..เอามา เอาเหรียญมาให้พวกข้า” กรีดเลเวลสามกล่าวเสียงแข็งพลันเปลี่ยนแขนขวากลายเป็นปืนแก็ตลิงเล็งมาที่กลุ่มโบรกเกอร์ เมื่อหัวกระบอกทั้งหกหมุนเป็นวงกลมพลันส่งกระสุนจำนวนมหาศาลออกมา
“แย่แล้ว หลบเร็ว!” ชายคนหนึ่งร้องเตือนทำให้ทุกคนในนั้นต้องรีบหลบหมอบ ทว่า ยกเว้นเด็กสาวผู้หนึ่ง
“ลงทุนเติมมานา2,000เหรียญ” เสียงของลูน่าเอื้อนเอ่ยก่อนจะปรับหมุนที่คฑาเล็กน้อย เด็กสาวตวัดอาวุธคู่กายสร้างม่านบาเรียสีฟ้าจางๆ ชึ้นพร้อมใช้การ์ดบาเรียสีชาด เสริมการป้องกันให้แข็งแกร่งจนต้านทานกระสุนได้สำเร็จ ส่งผลให้กระสุนไม่สามารถเจาะไปถึงแถวหลังได้
“!”
“ลูน่า..” แจ๊สเปอร์เอ่ยชื่อของเด็กสาว ที่ขาอันขาวเล็กสั่นระริกจนแทบยืนไม่ไหว มือไม้แข็งค้างแทบไม่ขยับใดๆ เลย ดวงตาเบิกกว้างลมหายใจหอบระรัว แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังหันอาวุธใส่อมนุษย์สุดแกร่งตรงหน้าแม้กลัวจนแทบทรุด
“ฉันจะ..ปกป้องคุณแจ๊สเปอร์เองค่ะ”
“ลูน่า!” แจ๊สเปอร์ตะโกนเรียก
“ฉันอยากเติบโตค่ะ..ฉันไม่อยากเป็นตัวถ่วงแล้ว ฉันไม่อยากกลัวแล้วค่ะ เพราะงั้นฉันต้องสู้!”
“ช่างเป็นยอดหญิงยิ่งนัก..แม่สาวน้อย ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าแต่คงปล่อยให้ขัดขวางงานของข้าไม่ได้” กรีดปืนแก็ตลิงเอ่ยก่อนจะสะบัดมืออีกข้าง ทันใดนั้นกรีดลูกไล่พลันปรากฏกระโดดขึ้นมาวิ่งเข้าใส่กลุ่มโบรกเกอร์เป็นนับสิบๆ ตัว
“ต้องรับมือเลเวลสามพร้อมป้องกันชิพเตอร์ไปด้วยต้องแย่แน่ๆ! รีบอพยพเร็วเข้า”
“ไม่ปล่อยให้ทำหรอก! พวกเจ้าไม่มีทางหนีไปไหนได้ ใช่ ไม่มีทางเลย” กรีดปืนแก็ตลิงขู่เสียงเข้มพลันยกกระบอกปืนขึ้นเล็งอีกครั้ง ทว่า..
ปัง!
เสียงปืนดังลั่นกระสุนสีแดงพุ่งเข้าเจาะกะโหลกศีรษะของมันจนทะลุออกไปอีกข้าง เลือดสีทองไหลอาบก่อนที่สายตาอันว่างเปล่าสีขาวจะหันไปเพ่งมองเจ้าของกระสุนนัดนี้
ชายหนุ่มผมสีทองเล็งปืนที่มีควันลอยออกมาอยู่ที่นอกประตูไม่ไกลนักจากตรงจุดที่มันยืนอยู่ สายตาอันแข็งกร้าวจดจ้องมันราวกับไม่มีความกลัวเหลืออยู่อีกเลย
“ถูกเจาะสมองยังไม่ตายเลยงั้นเหรอ..อึดเป็นบ้า”
“เจ้า..” กรีดปืนแก็ตลิงหันมามองชายหนุ่มผมสีทอง
“ไลท์ ลินสตอร์ม..คนที่จะมาล่าแกไง”
[Summon Card : (R) Rabbit Gunner 12,000 Coin]
“เช็ค”
[Payout Complete]
แสงสว่างสีทองเปล่งอร่ามก่อนที่ร่างของกระต่ายขนปุยถือปืนคู่จะปรากฏขึ้นที่ไหล่ของชายหนุ่ม
สองมนุษย์หนึ่งกระต่ายจดจ้องไปที่ร่างของศัตรูตาเขม่ง เมื่อร่างของเขาเริ่มเคลื่อนไหวการต่อสู้ระหว่างมือปืนก็ได้เริ่มขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว