CLS ตอนที่ 30 สังหารให้สิ้นซาก
#30: สังหารให้สิ้นซาก
“ความสามารถ”ล่องหน“, ชุดคลุมเงา, มีดสั้นแดงชาด ของพวกนี้ล้วนแต่เป็นของระดับสวรรค์ทั้งนั้น!”
เมื่ออี้เทียนหยุนเข้าใจความสามารถที่สะท้านโลกของของทั้งสามสิ่งนี้ ครั้งนี้ตัวเขาใช้โชคดีไม่เสียเปล่าแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังได้รับรางวัลที่แสนพิเศษสุดๆ!
ความสามารถ “ล่องหน” ผลลัพธ์: ปกปิดตัวตนโดยสมบูรณ์, ความเร็วเพิ่มขึ้น 2 ขั้น, พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 2 ขั้น!
ชุดคลุมเงา ผลลัพธ์: ต้านทานทุกการโจมตี 5 วินาที!
มีดสั้นแดงชาด ผลลัพธ์: โจมตีกระหายเลือด, สามารถฟื้นฟูพลังกายให้ตนเอง, มีความสามารถติดพิษ, มีโอกาสสังหารในครั้งเดียว!
แต่ว่าน่าเสียดายอย่างมากที่อาวุธนี้ไม่สามารถเพิ่มระดับได้ รวมถึงความสามารถ “ล่องหน” ก็เช่นกัน ทั้งสองสิ่งนี้ล้วนแต่มีผลลัพธ์ที่แน่นอน ยังไงก็ตาม เขาค้นพบว่าอาวุธที่ได้หลังจากสังหารจะไม่สามารถเพิ่มระดับได้ แต่ระดับที่ได้ก็ไม่เลวเลย สามารถใช้ได้นานอยู่
พูดโดยทั่วไป ถ้ามองดูที่ระดับแล้ว อย่างน้อยในตอนนี้เขาก็ได้ความสามารถในการลอบสังหารพร้อมอาวุธชั้นดีที่พอให้เขาใช้ได้เป็นเวลานานแล้ว
และนี่ยังไม่รวมกับชุดคลุมเงาที่น่าตื่นตะลึงที่สุด มันสามารถต้านทานการโจมตีทุกชนิดได้ถึง 5 วินาที นี่หมายความว่าอะไร นี่คือเครื่องรางที่ไว้ใช้ปกป้องชีวิต ต่อให้ฝั่งตรงข้ามจะโจมตีได้รุนแรงแค่ไหน แต่เขาก็ยังสามารถทนได้ถึง 5 วินาที! แม้มันจะไม่อธิบายว่ามีขีดจำกัดแค่ไหน แต่เขาเชื่อว่ามันจะต้องไม่ต่ำทรามแน่นอน!
“ช่างร่ำรวยจริงๆ ดูท่าเจ้าหมอนี่ไม่เลวเลย! ยิ่งสังหารสัตว์อสูรหรือคนที่มีพลังมากเท่าไหร่ ค่าความคลั่งที่ได้รับยิ่งมากตาม อย่างนี้การที่จะให้ได้มาซึ่งค่าความคลั่งเป็นพันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร”
สมบัติที่อี้เทียนหยุนได้รับมานี้ เขาพึงพอใจอย่างมาก ก่อนหน้านี้ด้วยความที่สัตว์อสูรและคนที่เขาฆ่ามีพลังต่ำ ทำให้ได้รับค่าความคลั่งต่ำไปด้วย ตอนนี้เมื่อสังหารนักฆ่าคนนี้ทิ้งไป ค่าความคลั่งที่ได้กลับมากมายอย่างยิ่ง มากพอที่จะให้เขาใช้ได้เป็นเวลานาน
และหลังจากความตื่นเต้นผ่านพ้นไป สีหน้าของเขาก็กลายเป็นเย็นชา “ถึงกับส่งนักฆ่ามาลอบสังหารข้า ถ้าไม่ใช่ตึกเทียนฟงก็ต้องเป็นอาจารย์ขงนั่นแน่ๆ!”
เขาครุ่นคิด สุดท้ายก็วิเคราะห์ออกมาว่าคนที่จะส่งนักฆ่ามาลอบสังหารเขานั้นมีใครบ้าง หลังจากเปลี่ยนให้นักฆ่าคนนั้นกลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็ง และตามด้วยหมัดที่รุนแรง ร่างของนักฆ่าคนนั้นก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ หมัดของเขาในตอนนี้เมื่อเทียบกับตอนที่สังหารหมาป่าหิมะแล้ว แข็งแกร่งกว่าตอนนั้นมาก ทั้งยังมีความช่วยเหลือจากโหมดคลั่งอีก ทำให้หมัดนี้ของเขาระเบิดนักฆ่าคนนี้เป็นชิ้นๆ ไป
ยังไงก็ตาม เขาก็เก็บชุดที่ตกอยู่เข้าแหวนเก็บของไป พร้อมกับมองไปรอบๆ จากนั้นก็พบว่ามีของตกอยู่ไม่กี่อย่าง มียาฟื้นฟูบ้าง และก็พบศาสตราวิญญาณระดับต่ำ 2 ชิ้น
บนศาสตราวิญญาณนี้ไม่มีป้ายกำกับ แต่จากระดับของมัน คงเป็นขงเสิ้งเฟิงที่หลอมออกมา
“อย่างแรกคงต้องไปตรวจสอบที่ตึกเทียนฟงก่อน หาต้นตอว่าใครที่ส่งนักฆ่ามา!”
อี้เทียนหยุนใช้ความสามารถล่องหน หายไปในความมืดในพริบตา เงียบเชียบ และจากนั้นก็กระโดดออกหน้าต่างไปโดยไร้เสียง และระหว่างทางที่ไปตึกเทียนฟงนี้เอง ที่มุมอับแห่งหนึ่ง เขาก็ได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยเข้า
“ไม่รู้ว่าข้างบนเป็นยังไงบ้าง หวังว่าคงจะไม่เผยความลับออกมานะ! เป็นถึงนักฆ่าจากสมาคมเงาสังหาร หวังว่าคงจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!”
คนที่พูดนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นขงเสิ้งเฟิงนั่นเอง!
“เป็นมันจริงๆ นอกจากมันแล้วก็ไม่มีใครอื่นอีก!” อี้เทียนหยุนมีสีหน้าเย็นชา ทันใดนั้น มีดสั้นแดงชาดก็ปรากฏขึ้นมือของเขา ท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน ประกายสีแดงชาดจากมีดสั้นก็ถูกปกปิดไว้ ภายใต้ความสามารถล่องหนของเขา แม้แต่แสงอะไรก็ไม่มีให้เห็น
“ติ๊ง ท่านจะรับภารกิจสังหารศัตรู ขงเสิ้งเฟิงหรือไม่ รางวัลเมื่อสำเร็จ ค่าประสบการณ์ 10,000, ค่าความชำนาญในการหลอมศาสตรา 300, ทอง 320, ค่าความคลั่ง 300!”
“รับ!”
อี้เทียนหยุนรับภารกิจนี้ทันที สายตาที่เย็นชาของเขาจับจ้องไปยังขงเสิ้งเฟิง จากนั้นข้อมูลของมันก็ไหลเข้ามายังสมองของเขาไม่หยุด
ชื่อ: ขงเสิ้งเฟิง
พลังฝึกตน: ปรับแต่งวิญญาณขั้นที่ 2
ความสามารถ: ไม่แน่ชัด
พลังโดยรวม: ไม่แน่ชัด
ข้อมูลนี้ไม่ได้ให้อะไรกับเขาเลย แต่แค่รู้ว่าพลังของมันอยู่ที่ระดับปรับแต่งวิญญาณขั้นที่ 2 นั่นก็เพียงพอแล้ว!
อึดใจต่อมา เขาก็ได้ย่องไปยังข้างหลังของขงเสิ้งเฟิงอย่างเงียบๆ พร้อมกับแทงมีดสั้นในมือใส่หลังเขาอย่างแรง ขงเสิ้งเฟิงที่ยังคงมองไปรอบๆ อย่างระวังอยู่นั้น ไม่ได้รู้เลยว่าอี้เทียนหยุนได้มาอยู่ข้างหลังตัวเองแล้ว
เปิดใช้งานโหมดคลั่ง, เปิดใช้งานโชคดี!
“แค่ก!”
มีดสั้นเหมือนกับแทงเข้าไปในก้อนเนย ปักเข้าไปในหลังของขงเสิ้งเฟิงคนนี้อย่างง่ายดาย ตรงไปยังหัวใจของเขา
ขงเสิ้งเฟิงรู้สึกตัวเย็นเฉียบ ก้มหน้าลง ท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน เขายังคงมองเห็นมีดสั้นสีแดงที่แทงทะลุหน้าอกของตน เขาสัมผัสได้ว่าเลือดในร่างกำลังไหลออกมาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังสัมผัสได้ถึงพิษที่น่าสะพรึง ที่กำลังกระจายไปทั่วตัวเขา
“คิดจะลอบสังหารข้า เจ้าคิดผิดมหันต์แล้ว!”
เสียงที่เย็นชาของอี้เทียนหยุนดังขึ้นในหูของเขา น้ำเสียงที่คุ้นเคยนี้ ทำไมเขาจะไม่รู้ ทั้งมือและขาของเขาพลันเย็นเฉียบ ขณะที่เขาเปิดปากเตรียมจะพูดอะไรอยู่นั้น เขาก็พบว่าตัวเองไม่มีคำพูดใดจะกล่าว
ในช่วงสติสุดท้ายของเขา เขาก็ได้เงยหน้าขึ้นไปมองไปหน้าที่คุ้นเคยของอี้เทียนหยุน และในวินาทีถัดไป เขาก็หมดสติลงโดยสมบูรณ์ ภายใต้การแทงของมีดสั้นแดงชาด คิดจะรอดชีวิต เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้สังหารขงเสิ้งเฟิงสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 6,000, ค่าความคลั่ง 200, ค้อนหลอมเทวะ”
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนทำภารกิจสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 10,000, ค่าความคลั่ง 500, ค่าความชำนาญในการหลอม 300, ทอง 320!” (นิยายเรื่องนี้ตัวเลขผิดเยอะมาก เพราะงั้นผมจะไม่แก้นะครับ ผมจะแปลตามที่ผู้แต่งได้แต่งไว้)
ของที่ได้รับหลังจากฆ่าขงเสิ้งเฟิงไม่มากอย่างที่คิด ทั้งยังไม่ใช่ของดี แต่ก็เหมือนจะมีของดีอยู่อย่าง
“ค้อนหลอมเทวะ?”
อี้เทียนหยุนสำรวจช่องเก็บไอเทมของเขา ทันใดนั้นข้อมูลของมันก็ปรากฏ ค้อนหลอมเทวะ: เพิ่มอัตราสำเร็จให้กับการหลอม, มีโอกาสเพิ่มระดับให้กับไอเทมที่หลอมตามค่าชื่อเสียงที่มี
ค้อนหลอมเทวะนี้ไม่ใช่อาวุธ ทั้งไม่ใช่ค้อนเหล็ก แต่เป็นจี้เหล็กอันเล็กๆ ที่เหมือนเครื่องประดับมากกว่า
“เป็นของดีจริงๆ ด้วย สามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จให้กับของที่หลอม นี่แหละคือสิ่งที่ข้าต้องการ! ทั้งยังมีโอกาสเพิ่มระดับให้ของที่หลอมอีกด้วย ช่างเป็นของดีจริงๆ!”
อี้เทียนหยุนเลียริมฝีปาก ของชิ้นนี้ดีมาก แต่เมื่อเทียบกับของที่นักฆ่าระเบิดออกมา มันออกจะน้อยไปหน่อย นี่ไม่ใช่เพราะว่าขงเสิ้งเฟิงอ่อนแอเกินไป แต่เป็นเพราะโชคไม่มากเท่าที่ควร ดังนั้นของที่ออกมาจึงไม่เยอะ
จากนั้นเขาก็มองลงไปยังร่างของขงเสิ้งเฟิงที่ตายตาไม่หลับ จากนั้นก็หยิบยาขวดหนึ่งออกมา จากนั้นก็เทมันลงบนร่างของขงเสิ้งเฟิง จากนั้นเสียง “ชี่” ก็ดังออกมา หลังจากนั้น ร่างของขงเสิ้งเฟิงก็เปลี่ยนเป็นกองเลือด ไม่เหลือเค้าโครงที่บ่งบอกว่าเป็นเขาอีก
นี่เป็นของที่เขาได้รับมาจากนักฆ่า เป็นยาที่มีไว้ใช้ทำลายศพ เป็นของที่นักฆ่าต้องมี ตอนนี้เขาได้ใช้มันกับพวกเขา
“เมื่อจำกัดคนๆ นี้ทิ้งไปแล้ว ปัญหาในอนาคตก็คงจะไม่มีอีก!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างเย็นชา ยังดีที่เป้าหมายเป็นเขา ถ้าเกิดส่งนักฆ่าไปหาพวกอันหลิง ผลลัพธ์คงยากจะคาดเดา
จากนี้ไปเขาต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ถ้าเจอศัตรูอีกล่ะก็ เขาต้องกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก!