CLS ตอนที่ 25 กดราคา!
#25: กดราคา!
“ติ๊ง รับภารกิจช่วยเหลือตึกอวี่เทียนกำจัดตึกเทียนฟงสำเร็จ รางวัลเมื่อสำเร็จ ค่าประสบการณ์ 5,000, ค่าความชอบของจื่ออวี่เหว่ยเพิ่มขึ้น 100, ทอง 520, ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 10 แต้ม”
หลังจากเข้ามา อี้เทียนหยุนก็ได้รับภารกิจนี้ ไม่คิดเลยว่าจะเพิ่มค่าชื่อเสียงด้วย แล้วจื่ออวี่เหว่ยนี่ใคร คงจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับตึกอวี่เทียนนี้แน่ๆ เลย
“ดูเหมือนว่าภารกิจจะมีอยู่ทุกที่ ภารกิจสุ่มก็มีมาเรื่อยๆ ไม่สามารถหยุดได้!”
สายตาของเขาเป็นประกายต่อเนื่อง แค่จะรังแกคนก็มีรางวัลให้ด้วย? เขาสัมผัสได้ว่าพลังฝึกตนของเขากำลังจะเพิ่มขึ้นอีกหลายระดับ เมื่อถึงตอนนั้น ตอนที่เข้าไปยังซากโบราณสถานเทียนเฉิน พลังของเขา อย่างต่ำก็สามารถขยี้ทุกคนทิ้งได้!
พนักงานที่เข้ามาใกล้ ถูกกระบี่วิญญาณหลายเล่มนี้ทำให้ตกใจ ศาสตราวิญญาณราคาไม่ใช่ถูก ซ้ำแล้วยังเป็นศาสตราวิญญาณขั้นกลาง ราคาที่ขายได้ต้องดีมากอย่างแน่นอน!
“ท่านลูกค้า เชิญ เชิญครับ ช่วยรอสักครู่นะครับ ข้าจะไปเรียกเจ้าตำหนักจื่อก่อน.....” พนักงานรีบวิ่งไปเรียกเจ้าตำหนักในทันที ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวในชุดสีม่วงก็ได้เดินลงมาจากชั้นบนอย่างรวดเร็ว นี่คือเจ้าตำหนักจื่อ จื่ออวี่เหว่ย
เมื่อจื่ออวี่เหว่ยเดินมา รูปร่างของเธองดงามมาก อายุประมาณ 20 กว่าๆ เธอคือเจ้าตำหนักของตึกอวี่เทียนแห่งนี้ เมื่อเธอเห็นกระบี่วิญญาณขั้นกลางนับสิบเล่มปักอยู่บนพื้น ตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมาทันที “เยี่ยม กระบี่วิญญาณขั้นกลาง 10 เล่ม ท่านจะขายให้เราจริงๆ?”
“เป็นอย่างงั้น แต่ว่าข้ามีเงื่อนไข ข้าอยากจะกดราคาลงเล็กน้อย เพื่อแย่งลูกค้าของทางฝั่งตึกเทียนฟง ศาสตราวิญญาณพวกนี้ข้าเป็นคนหลอมเอง ท่านตั้งราคาเองได้เลย แต่แน่นอนว่าต้องต่ำกว่าตึกเทียนฟง กำไรที่ได้ส่วนมากเป็นของท่าน ข้าขอแค่นิดหน่อยก็พอ ตราบเท่าที่ท่านมีวัตถุดิบ ข้าจะหลอมมัน แล้วท่านก็มีหน้าที่ขาย ท่านคิดว่ายังไง?”
ดูเหมือนว่าอี้เทียนหยุนจะเป็นคนขาดทุน แต่สำหรับเขาแล้ว เขากลับได้กำไรมากกว่า เขาใช้สถานการณ์ที่ 2 ตึกแข่งขันกัน หลอมศาสตราออกมาอย่างต่ำเนื่อง ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับค่าประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังสำเร็จภารกิจอีกด้วย แล้วแบบนี้ทำไมเขาถึงจะไม่ทำมันล่ะ?
“ดูเหมือนว่านายน้อยท่านจะมีเรื่องกับตึกเทียนฟงใช่หรือไม่?” จื่ออวี่เหว่ยพูดด้วยรอยยิ้ม
“ตามนั้น แล้วท่านจะยอมรับธุรกิจนี้หรือไม่?” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มพร้อมกับมองเธอ
“แน่นอน พวกเรายินดีมาก” ดวงตาสีอัลมอนด์ของเธอหรี่ลง ยังเด็กแต่ก็มีแผนการ เธอใคร่ครวญในใจ
อันหลิงและฉินเสวี่ยมองหน้ากัน สถานการณ์นี้มันอะไรกัน ตกลงกันแล้วเหรอ?
“ศิษย์พี่ทั้งสอง ข้ามีเรื่องให้ช่วย รบกวนช่วยพาน้องชายของจิ่วหลิงจวินที่ติดพิษมาที่นี่ที ข้าจะได้รักษาพิษให้กับเขา” อี้เทียนหยุนยังไม่ลืมเรื่องนี้ เขาอยากจะซื้อของแล้วไปช่วยน้องชายของเธอ แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ได้แล้ว เขาจึงต้องให้พวกเธอช่วย
“ไม่มีปัญหา พวกเราจะไปกันตอนนี้เลย” ศิษย์พี่ทั้งสองพยักหน้า จากนั้นก็นำจิ่วหลิงจวินไปด้วยกัน น้องชายของจิ่วหลิงจวินติดพิษ เรื่องนี้ไม่อาจช้าได้
ขณะที่ทางนี้กำลังเตรียมการกันไม่หยุด ทางฝั่งตึกเทียนฟงเหมือนกับมีงานเฉลิมฉลองก็ไม่ปาน ด้านข้างมีวงดนตรีเล็กๆ บรรเลงอยู่ ราวกับมีงานเลี้ยง
“ฮึ่ม คิดจะสู้กับข้า ข้าจะทำให้ตำหนักเทียนเฉวียนของพวกเจ้าไม่มีทางซื้อของที่นี่ได้!” อาจารย์ขงร้องฮึ่มออกมา คิดแล้วก็โมโหไม่หาย ก่อนหน้านี้เขายังจำได้ ก้นที่ถูกถีบทำให้เขาอับอายอย่างมาก เรื่องนี้ไม่มีทางลืมแน่ ตอนนี้ในตาของเขายังมีจิตสังหารออกมา คิดหาทางจัดการกับอี้เทียนหยุนเพื่อระบายความโกรธของตัวเอง
“อาจารย์ขง ดูเหมือนว่าตำหนักเทียนเฉวียนจะตอแยท่าน เรื่องนี้เป็นพวกเขาไม่ถูก ถึงยังไงตำหนักเทียนเฉวียนก็ไม่มีอาจารย์หลอมศาสตรา การจะได้มาซึ่งศาสตราวิญญาณเป็นเรื่องยาก ที่นี่คนส่วนใหญ่มาเพราะอาจารย์หลอมศาสตรา การตอแยท่านอย่างนี้ ช่างเป็นการกระทำที่บ้าจริงๆ” เจ้าตำหนักเหลียงพูดเอาใจอาจารย์ขงอยู่หลายคำ
อาจารย์ขงยังหนุ่ม ในอนาคตจะต้องกลายเป็นอาจารย์หลอมศาสตราชั้น 5 ได้แน่ เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ดังนั้น เจ้าตำหนักเหลียงจึงเต็มใจที่จะเป็นศัตรูกับตำหนักเทียนเฉวียน
ขณะที่พวกเขาคุยกันอย่างมีความสุขนั้น ทันใดนั้น ยามเฝ้าประตูก็ได้รีบวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน จนชนเข้ากับโต๊ะ ทำให้แก้วชาตกแตก
“มีเรื่องอะไร ทำไมถึงได้รีบร้อนนัก ไม่รู้หรือไงว่ามันเสียมารยาท!” เจ้าตำหนักเหลียงขมวดคิ้ว
“เจ้าตำหนักเหลียง ทางฝั่งตึกอวี่เทียนขายศาสตราวิญญาณขั้นกลางต่ำกว่าพวกเรา พวกเขาขายต่ำกว่า 12,000 เหรียญทอง......” ยามรีบพูด
“อะไรนะ!”
เจ้าตำหนักเหลียงและอาจารย์ขงตกใจจนพากันยืนขึ้น ไม่อยากจะเชื่อในเรื่องที่ได้ยิน
“พวกนั้นบ้าไปแล้วเหรอ ขายต่ำกว่า 12,000 เหรียญทองนี่นะ นี่มันสูงกว่า 2 เท่าของราคาศาสตราวิญญาณขั้นต่ำแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง พวกเขาอยากล้มละลายหรือไง!” เจ้าตำหนักเหลียงส่ายหัวแล้วพูดออกมา
“เรื่องนี้ บางทีอาจเป็นความคิดของผู้จ้างวาน เขาให้ตำหนักอวี่เทียนเป็นผู้ขาย เพื่อดึงลูกค้าของเราไป” ยามพูด
“ความคิดของผู้จ้างวานอย่างงั้นเหรอ ผู้จ้างวานคนนี้มันบ้าไปแล้วหรือไง มันเต็มใจที่จะขายในราคาต่ำจริงๆ?” เจ้าตำหนักเหลียงพูดด้วยสีหน้าสงบ
“คือว่า..... คนๆ นั้นคือคนที่พวกเราไล่ออกไป” ยามพูดออกมา
“อะไรนะ!?” เจ้าตำหนักเหลียงตกใจ พูดอย่างจริงจังว่า “ทำไมเป็นเขาล่ะ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนของตำหนักเทียนเฉวียนหรอกเหรอ ทำไมถึงขายศาสตราวิญญาณล่ะ? ตำหนักเทียนเฉวียนมีศาสตราวิญญาณแค่ไม่กี่ชิ้น แล้วทำไมถึงขายในราคาต่ำขนาดนั้น นี่มันเรื่องอะไร? หรือว่าถูกพวกเราไล่ออกไปจนเป็นบ้าไปแล้ว”
“ระ เรื่องนี้จะต้องเป็นเพราะพวกเราไล่พวกมันออกไปแน่ พวกมันถึงทำอย่างนี้ ข้าอยากจะรู้นักว่ามันจะมีปัญญาเอาออกมาขายได้สักกี่ชิ้น เมื่อขายหมดแล้ว ไม่ใช่ว่าแขกคนอื่นจะกลับมาหาพวกเราเหมือนเดิมอย่างงั้นเหรอ?” อาจารย์ขงพูดตะกุกตะกัก เพราะว่าเขารู้ว่าอี้เทียนหยุนก็เป็นอาจารย์หลอมศาสตราเช่นเดียวกัน กับเรื่องนี้ พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
เขาได้แต่หวังว่าอี้เทียนหยุนจะไม่สามารถทำต่อไปได้ สุดท้ายก็ยอมแพ้ไป
“เรื่องนี้เป็นไปได้ เพราะว่าถูกพวกเราไล่ออกไป จึงคิดจะใช้ตึกอวี่เทียนเพื่อกำจัดพวกเรา?” เจ้าตำหนักเหลียงแสยะยิ้ม “เรื่องนี้จัดการได้ง่ายมาก พวกเราก็ส่งคนไปซื้อศาสตราวิญญาณของพวกมันมาซะก็สิ้นเรื่อง ในเมื่อพวกมันขายถูก พวกเราก็มีแต่กำไร!”
จากนั้น พวกเขาก็ส่งคนออกไปซื้อศาสตราวิญญาณพวกนั้นในทันที อย่างรวดเร็วก็ซื้อจนฝั่งนั้นว่างเปล่า แต่สักพักก็มีศาสตราวิญญาณออกมาวางขายในราคาต่ำอีก เจ้าตำหนักเหลียงก็ส่งคนออกไปซื้ออีก แต่เพิ่งจะซื้อมา ทางฝั่งตึกอวี่เทียนก็มีศาสตราวิญญาณออกมาวางขายอีกชุด เหมือนกับว่าพวกเขามีศาสตราวิญญาณออกมาขายไม่มีวันหมด
“ทำไมถึงมีอีก ตึกอวี่เทียนขายศาสตราวิญญาณของตนในราคาต่ำอย่างนี้ได้ยังไง?” เจ้าตำหนักเหลียงขมวดคิ้ว คิดว่าเรื่องนี้เริ่มไม่เข้าท่าแล้ว หรือว่าพวกมันจะโง่จริงๆ?
อาจารย์ขงในตอนนี้ก็พูดไม่ออกเช่นกัน เขารู้ว่าสถานการณ์นี้คืออะไร นี่ต้องเป็นทางฝั่งอี้เทียนหยุนคิดจะขโมยลูกค้าโดยการกดราคาแน่ๆ ก่อนหน้านี้เขาจำได้ว่าก่อนที่อี้เทียนหยุนจะเดินออกไป คำพูดที่บอกว่าเขาจะทำให้ตำหนักเทียนฟงเสียใจที่ไล่ลูกค้าไปอย่างนี้ มาตอนนี้สถานการณ์เริ่มเป็นอย่างที่เขาพูดแล้ว