CLS ตอนที่ 23 ศัตรูในหนทางคับแคบ
#23: ศัตรูในหนทางคับแคบ
“จริงเหรอ จริงอย่างงั้นเหรอ?” จิ่วหลิงจวินเงยหน้าขึ้น ในนัยน์ตาที่ใสกระจ่างเต็มไปด้วยความคาดหวัง แต่ก็ส่ายหัวแล้วพูดออกมา “ข้าขอเวลาคิดก่อนจะได้หรือไม่.....”
เธอไม่ได้ตอบรับในทันที เธอไม่รู้กระทั่งว่าอี้เทียนหยุนนั้นชื่ออะไร แล้วจะให้ตกปากรับคำทันทีได้ยังไง
นี่ทำให้พวกอันหลิงประหลาดใจ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงตอบรับไปแล้ว แต่นี่ยังต้องการเวลาคิดอีก?
อี้เทียนหยุนพลันรู้ถึงสิ่งที่เธอคิดทันที จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เพราะน้องชายของเจ้าอย่างงั้นเหรอ?”
“ท่าน ท่านรู้ได้ยังไง?” จิ่วหลิงจวินตาโต ด้วยไม่คิดว่าชายตรงหน้าจะล่วงรู้ความคิดของเธอ
“ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนพูดออกมาเองหรอกเหรอว่ายังมีน้องชายอยู่?” อี้เทียนหยุนคาดคิดออกมา ดูจากเสื้อผ้าที่เธอสวม แน่นอนว่าเธอต้องไม่ได้มาจากครอบครัวที่ดูดีเท่าไหร่ ที่เธอไม่เต็มใจจากไป สาเหตุเดียวที่มีคงเป็นเพราะห่วงใยน้องชายของเธอนั่นเอง
“เรื่องนี้..... ข้าไม่สามารถทิ้งน้องชายของข้าไปได้ หวังว่านายน้อยจะไม่โกรธ” จิ่วหลิงจวินเอามือจิกชายเสื้อของเธอแน่น ตัวเธอก็อยากจะไป แต่ก็ทิ้งน้องชายไม่ได้เช่นกัน
“ติ๊ง ท่านจะรับภารกิจช่วยเหลือน้องชายของจิ่วหลิงจวินหรือไม่ รางวัลเมื่อสำเร็จ ค่าประสบการณ์ 1,000, ค่าความชอบของจิ่วหลิงจวินเพิ่มขึ้น 50 แต้ม, ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 5 แต้ม”
ในตอนนี้เอง อยู่ๆ ภารกิจก็เด้งขึ้นมา ช่างเป็นภารกิจที่ขึ้นมาได้ถูกเวลาจริงๆ แต่รางวัลที่ได้ก็ธรรมดา เรื่องนี้อี้เทียนหยุนสามารถจินตนาการได้ว่าทำไมรางวัลที่ได้ถึงต่ำอย่างนี้ เพราะว่านี่คือภารกิจธรรมดา ทั้งยังเป็นประเภทภารกิจรอง แน่นอนอยู่แล้วที่ของรางวัลที่ได้จะต้องต่ำ
“หือ ค่าชื่อเสียงอย่างงั้นเหรอ?”
ในตอนนี้เอง เมื่อเขาอ่านอย่างละเอียด เขาก็พลันตกใจ ในหน้าต่างสถานะของเขา ปรากฎค่าชื่อเสียงขึ้นมาจริงๆ! ก่อนหน้านี้เขาเอาแต่จดจ่ออยู่กับหลิวลี่อะไรนั่น จึงไม่ทันได้สนใจสิ่งนี้ แต่ตอนนี้เขาพบแล้วว่าได้มีค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างหนึ่ง
ผู้เล่น: อี้เทียนหยุน
เลเวล: เลเวล 12 (ระดับปรับแต่งวิญญาณขั้นที่ 2)
ค่าประสบการณ์: 5820 / 50,000
ค่าความคลั่ง: 670
ค่าชื่อเสียง: 5
วิชาบ่มเพาะ: เทพอุดรทมิฬ (ระดับมนุษย์ ขั้นต่ำ)
วิชายุทธ์: มหาเวทดูดดาว (ระดับมนุษย์ ขั้นต่ำ), กรงเล็บอินทรี, เพลงกระบี่ขนนกโปรยปราย, ท่าเท้าเหยียบเมฆา
อาวุธ: หมัดเยือกแข็ง (ระดับเหล็ก, ความชำนาญ 77/1,000)
เครื่องสวมใส่: รองเท้าศึกหมาป่าหิมะ, เสื้อเกราะเทียนเสิ่น
ความสามารถศักดิ์สิทธิ์: โหมดคลั่ง, โชคดี
ความชำนาญ: สลักอาคม, ค่ายกล, หลอมศาสตรา, กลั่นโอสถ
จากนั้นเขาก็ตรวจสอบความสามารถของค่าชื่อเสียงที่ได้รับมา
ค่าชื่อเสียง: เพิ่มโชค, ยิ่งค่าความดีสูง ค่าโชคยิ่งสูงตาม สามารถใช้ได้กับทุกอย่าง
“ดูท่าจะเป็นของดี แต่ถ้าค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น ไม่รู้ว่าจะให้ผลลัพธ์อะไรออกมาอีก”
อี้เทียนหยุนคิดไป ถ้าใช้ค่าชื่อเสียงนี้พร้อมกับโชคดี มันจะเป็นการผสมผสานที่ให้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย
“รับ!” อี้เทียนหยุนรับภารกิจนี้ทันที จากนั้นก็หันไปพูดกับจิ่วหลิงจวินด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง “งั้นก็ไปพาน้องชายเจ้ามาด้วยกันเลย ตำหนักเทียนเฉวียนของพวกเราสามารถรับคนแค่คนเดียวได้อยู่แล้ว”
พวกอันหลิงพากันตาโต แต่ก็ไม่พูดอะไร รับคนมาเพิ่มอีกคนก็ไม่มีปัญหา เพราะยังไงก็มีงานให้ทำมากมายอยู่แล้ว
“จริงเหรอ?!” จิ่วหลิงจวินพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจทั้งยังแฝงด้วยความสุข
“ใช่ แต่ตอนนี้พวกเราต้องไปซื้อของก่อน” อี้เทียนหยุนพูดกับเธอ
“งั้นข้าจะรอท่านที่นอกเมือง” จิ่วหลิงจวินพูด “ข้าไม่อาจไปกับท่านได้ ที่ที่ท่านไปไม่ต้อนรับคนจนอย่างพวกเรา...... ข้าไปด้วยไม่ได้”
ตึกเทียนฟงไม่ต้อนรับคนที่มาจากสลัมอย่างพวกเธอ คนที่อาศัยอยู่ในสลัมเป็นพวกไม่มีเงิน ต่อให้เข้าไปก็ไม่มีปัญญาจ่าย ต่อให้จะไปขายสมุนไพรวิญญาณพวกเขาก็ยังไม่ต้อนรับ เหตุผลเป็นเพราะพวกเธอดูสกปรก ยิ่งกว่านั้น สมุนไพรวิญญาณยังขายได้ราคาแค่ไม่กี่เงิน ไม่มีค่าอะไรสำหรับพวกเขา
ถ้าอยากจะไป ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้ดูดี แต่พวกเธอคงทำไม่ได้ เพราะราคาของเครื่องแต่งกายที่ดีนั้นไม่ใช่น้อยๆ
“มีข้าอยู่ เจ้าก็เป็นเหมือนลูกค้าคนหนึ่ง ไม่มีใครกล้าไล่เจ้า!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง
จิ่วหลิงจวินมองเข้าไปในสายตาเขา สุดท้ายก็พยักหน้าเบาๆ เธอไม่เคยเข้าไปยังตึงเทียนฟงมาก่อน ดังนั้นจึงอยากจะเข้าไปอย่างมาก
อี้เทียนหยุนพาจิ่วหลิงจวินเดินไปยังตึกเทียนฟง แต่เพิ่งจะเดินมาถึงก็ถูกคนเฝ้าประตูขวางไว้ พร้อมกับมองมายังพวกเขาอย่างเย็นชา
“ขออภัย ที่นี่ไม่ต้อนรับคนที่มาจากสลัม” คนเฝ้าประตูพูดด้วยท่าทางแข็งกร้าว ด้วยพลังระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 5 ทำหน้าที่เฝ้าประตูที่นี่ แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา
“เธอเป็นคนของข้า ข้าจะพาเธอเข้าไปด้วย พวกเจ้ามีปัญหา?” สายตาอี้เทียนหยุนเย็นชา เปล่งพลังออกมา ยามทั้งสองลูกตาหดลง ท่าทางที่อี้เทียนหยุนแสดงออกมา ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ต้องถอยหลังหนึ่งก้าว อดไม่ได้ให้รู้สึกเย็นวาบที่หลัง พลังที่แสดงออกมานี้ แข็งแกร่งกว่าพวกเขาหลายเท่า
“ไม่มี ไม่มีปัญหา เชิญครับ เชิญ.....” บนหน้าผากของคนเฝ้าประตูปรากฎหยาดเหงื่อขึ้น รีบเชื้อเชิญอี้เทียนหยุนเข้าไปโดยไว
มีผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งพามา พวกเขาจะไปกล้าห้ามได้ยังไง ที่ไม่ให้คนในสลัมเข้า นั่นเพราะพวกเขาไม่มีปัญญาจะใช้จ่าย ดังนั้นจึงห้ามคนจากสลัมเข้าโดยเด็ดขาด
แต่ตอนนี้มีผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งพามา พวกเขาจึงไม่กล้าห้าม ตราบเท่าที่ท่านมีเงิน ไม่ว่าจะพาใครมาก็ได้ทั้งนั้น
จิ่วหลิงจวินไม่มีเงิน ทั้งชุดของเธอยังเก่า แต่ก็ดูสะอาดสะอ้าน แม้จะสีซีดไปบ้าง แต่ก็ไม่พบว่ามันสกปรกแม้แต่น้อย กระทั่งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ โชยออกมาด้วยซ้ำ กลิ่นที่โชยออกมานี้ เหมือนกับกลิ่นดอกไม้ป่า เห็นได้ชัดว่ายามเมื่อเธออาบน้ำ เธอได้ผสมดอกไม้ป่าลงไปด้วยเล็กน้อย
“ข้าเข้าไปได้จริงๆ.....” จิ่วหลิงจวินตื่นเต้นอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาที่นี่ ในใจของเธออดรู้สึกกังวลไม่ได้ สิ่งที่เธอกังวลที่สุดก็คือการเผลอไปทำความเสียหายให้กับอะไรบางอย่างเข้า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เธอในตอนนี้คงไม่มีปัญญาชดใช้
“เจ้าอยากจะซื้ออะไร?” อี้เทียนหยุนถาม
“ข้าไม่มีอะไรต้องการ แค่อยากมาดูเท่านั้น.....”
เธอส่ายหัว ของรอบๆ ล้วนแต่แพงบรรลัย แค่เริ่มต้นก็ 120 เหรียญเงินแล้ว เธอที่มีเงินอยากมากแค่ 20 เหรียญเงินจะไปมีปัญญาซื้อที่ไหนกัน แค่มองไปรอบๆ ก็เจอของราคาหลายร้อยเหรียญเงินแล้ว แค่เห็นราคาก็ทำเอาเธอพูดไม่ออก
อี้เทียนหยุนก็ไม่พูดอะไรอีก เขานำเธอเดินชมรอบๆ แต่ก็ไม่พบวัตถุดิบดีๆ เลย ดึงนั้นจึงเดินขึ้นไปยังชั้น 2 แต่หลังจากเขาเดินชมรอบๆ เขาก็พบว่าสายตาของจิ่วหลิงจวินจับจ้องอยู่ยังยาขวดหนึ่ง แต่เมื่อเธอเห็นราคาของมัน สายตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเธอก็หม่นแสงลง
เพียงแค่กวาดตามองเขาก็เห็นชื่อของยาขวดนี้แล้ว ยาขวดนี้ชื่อว่า “ยาขับพิษ” เป็นยาที่ใช้ขับพิษตรงตามชื่อของมัน ยังไงก็ตาม ราคาของมันก็แพงมาก ราคาของมันสูงกว่า 2,000 เหรียญเลยทีเดียว ไม่แปลกเลยที่เธอจะไม่กล้าถาม แค่ราคาที่เห็นนี้ก็เพียงพอให้เธอใช้ได้เป็นสิบปีแล้ว
“เจ้าต้องการยานี่เหรอ?” อี้เทียนหยุนชี้ไปยังยาขวดนั้น
“ข้า.....” เธออยากจะพูด แต่ก็ลังเล สุดท้ายก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ข้า ข้าต้องการยานี้ แต่ข้ายังต้องเก็บเงินอีกมากเพื่อมัน......”
“เจ้าอยากจะได้ยานี่ไปทำอะไร?” อี้เทียนหยุนถาม
“น้องชายของข้าถูกพิษจนตอนนี้ยังเดินไม่ได้ ข้าได้ยินว่ายาขับพิษขวดนี้สามารถรักษาเขาได้ ข้าอยากจะซื้อมันไปให้เขา” ในดวงตาที่ใสกระจ่างของเธอเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง ในใจของเธอห่วงใยน้องชายของเธอยิ่งกว่าตัวเองเสียอีก
“อย่างงั้นเหรอ ไว้เจ้าพาข้าไปหาน้องชายของเจ้า ข้าจะช่วยรักษาเขาให้ ถ้าแค่ยาขับพิษนี้ก็สามารถรักษาเขาได้ งั้นข้าก็รักษาน้องชายเจ้าได้เช่นกัน” อี้เทียนหยุนยิ้ม
“จริงเหรอ!” จิ่วหลิงจวินร้องออกมาอย่างตื่นเต้น
อันหลิงและฉินเสวี่ยที่อยู่ใกล้ๆ ต่างมองกันด้วยท่าทางสงสัยอย่างมาก อี้เทียนหยุนรักษาได้ด้วยเหรอ?
“ไม่มีปัญหา ไว้เราเสร็จธุระจากที่นี่แล้วค่อยไปกัน” อี้เทียนหยุนพยักหน้า
ขณะที่เขาเตรียมจะพาพวกเธอไปซื้อวัตถุดิบต่อ ที่ข้างหูก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหูดังมา “ทำไมถึงมีคนในสลัมอยู่ในนี้ด้วย ตึกเทียนฟงตกต่ำลงแล้วหรือไง? ช่างน่าอับอายจริงๆ!”
อี้เทียนหยุนหันไปมอง แล้วก็เห็นร่างที่คุ้นเคยของอาจารย์ขงอยู่ตรงนั้น!
ศัตรูในหนทางคับแคบ ตอนนี้คำพูดนี้เป็นจริงแล้ว เขาได้พบกับอาจารย์ขงคนนี้เข้าจริงๆ