บทที่ 16 ต้องขอบอกว่าหุ่นของสามีเธอเพอร์เฟ็กต์เกินจะบรรยาย
บทที่ 16 ต้องขอบอกว่าหุ่นของสามีเธอเพอร์เฟ็กต์เกินจะบรรยาย
สิ่งที่ฉางฉิงอาจหาญที่สุดในชีวิตนี้ก็คือสมัยเรียนมหาวิทยาลัย หร่วนยั่งลากเธอมาดูหนังโป๊ในหอพัก
นอกจากหร่วนยั่งสาวใจกล้าและเจียงตั่วเหยาจอมหื่นแล้ว เธอกับกว่านอิงต่างก็อายม้วนต้วน
ตอนนั้นเธอก็รู้สึกตกอกตกใจอยู่พอควร แต่นึกไม่ถึงว่าซ่งฉู่อี๋จะน่าตกใจยิ่งกว่า
ฉางฉิงเอามือปิดหน้าที่ร้อนฉ่า ทันใดนั้นก็เกิดความสงสัยว่าซ่งฉู่อี๋ไม่ได้เรื่องเรื่องอย่างว่าจริงๆ น่ะเหรอ
ดูเหมือนจะไม่ใช่เลยแฮะ
เธอสะบัดหัวอย่างแรง เลิกคิดเรื่องทะลึ่งลามกพวกนั้นได้แล้ว
สิบกว่านาทีต่อมา เธอยื่นหน้าออกมาจากห้องแต่งตัว ซ่งฉู่อี๋กลับไปนอนที่เตียงของเธอแล้ว ฉางฉิงงุนงงเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีผู้ชายนอนบนเตียงเธอ
เธอเดินก้าวเล็กๆ ออกไป แล้วพบว่าเสื้อโค้ทของซ่งฉู่อี๋ถูกโยนทิ้งอยู่บนพื้น เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ใส่อยู่ด้านในปลดกระดุมออกทุกเม็ด มือขวาของเขาวางอยู่บนหน้าผาก ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงไปด้านหลัง ส่วนใบหน้าอันหล่อเหลา ใบหูและริมฝีปากบางล้วนเป็นสีชมพูระเรื่อ
ภาพนี้ช่างสวยงามดูมีชีวิตชีวาเหลือเกิน
ดวงตาเล็กๆ ของฉางฉิงเลื่อนลงไปอย่างควบคุมไม่อยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพบว่าภายใต้เสื้อกาวน์ที่ปกติวางมาดขรึมนั้นกลับซ่อนกล้ามอกและกล้ามท้องเป็นมัดๆ ไว้ แต่กล้ามของเขาไม่ได้ใหญ่เว่อร์เหมือนกับพวกเทรนเนอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายในศูนย์ฟิตเนส กล้ามเขาดูเซ็กซี่กำลังพอดี ไม่ได้ทำให้รู้สึกขยะแขยง ส่วนข้างล่างลงไปอีก...
ฉางฉิงเห็นว่าเขาหลับตาอยู่ ค่อยเบาใจหน่อย แล้วเธอก็มองเลื่อนลงไปด้วยความประหม่าเจือตื่นเต้นเล็กน้อยอย่างบอกไม่ถูก คงเป็นเพราะเขาเพิ่งไปเข้าห้องน้ำมา กางเกงจึงดูหลวมโพรก ร่องรูปตัว V บริเวณกล้ามท้องที่เพอร์เฟ็กต์โผล่ออกมาให้เห็น ทำให้เธอถึงกับเวียนหัวตาลาย
เธออยู่มายี่สิบสี่ปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสำรวจดูหุ่นของผู้ชายอย่างละเอียดลออขนาดนี้ แม้ว่าเมื่อก่อนจะเคยเห็นดารานายแบบหุ่นดีๆ มากมายที่สถานีโทรทัศน์อยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ได้แต่เหลือบมองทีสองที ไม่กล้าที่จะจ้องมองตลอดเวลา
ฉางฉิงเอามือปิดหน้าและเบือนไปอีกทาง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมาชำเลืองดูอีกที
ต้องขอบอกว่าหุ่นของสามีเธอคนนี้เพอร์เฟ็กต์เกินจะบรรยายจริงๆ
แต่ว่าชมก็ส่วนชม ฉางฉิงไม่ได้มีความคิดอย่างอื่น ตอนกลางคืนพอจะนอน เธอหยิบผ้าห่มมาปูลงบนพื้นข้างๆ เตียง เธอต้องเป็นเจ้าสาวที่น่าสงสารที่สุดในโลกนี้อย่างแน่นอน จดทะเบียนสมรสวันแรกก็ลงมานอนบนพื้นเสียแล้ว
วันนี้เกิดเรื่องขึ้นเยอะแยะมากมาย ทำให้ฉางฉิงนอนไม่หลับอีกแล้ว กว่าจะนอนหลับก็ปาเข้าไปตีสอง
_ _ _ _ _ _ _ _
เวลาแปดโมงเช้า ซ่งฉู่อี๋ตื่นขึ้นมา ปกติเขาไม่ดื่มเหล้า พอลืมตาขึ้นมา เขาก็พบว่ารอบตัวเป็นสีชมพูเต็มไปหมด เขาขยับมือไปมา มีลักษณะขนปุกปุย เหมือนกอดอะไรบางสิ่งบางอย่างเข้า
เขาก้มลงมอง แล้วมุมปากก็กระตุก ที่แท้ก็เป็นหมีตัวโตสีน้ำตาลนี่เอง
เขากวาดตามองไปรอบๆ ห้อง พอมองดูก็รู้ว่าเป็นห้องนอนของผู้หญิง สีชมพูหวานแหววจนทำให้เขารู้สึกหัวหนักอึ้ง เขาไม่ได้เมาหนักขนาดนี้มานานหลายปีแล้ว
เมื่อเขาลุกขึ้นมานั่งและมองหารองเท้า ถึงได้พบว่าฉางฉิงนอนอยู่ที่ข้างเตียง เธอสวมชุดนอนสีเขียวมินต์ทำจากผ้าฝ้าย ส่วนผ้าห่ม ครึ่งหนึ่งปูอยู่บนพื้น อีกครึ่งหนึ่งห่มตัวเธอ อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าเธอนอนไม่เรียบร้อย ผ้าห่มที่ห่มตัวเธออยู่ถูกถีบออก ส่วนเธอก็กลิ้งไปบนพื้นเย็นเฉียบ มิหนำซ้ำยังนอนคว่ำหน้าอีกต่างหาก ใบหน้าเธอแนบกับพื้น แล้วบนพื้นก็มีน้ำลายกองอยู่
ซ่งฉู่อี๋ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่ปกติดูสวยเด่นสะดุดตา ทำไมเวลานอนถึงได้แตกต่างกันมากขนาดนี้ ดูแล้วเหมือนแพนด้าจอมขี้เกียจในสวนสัตว์ ดูซื่อบื้อจริงๆ
สีหน้าเขาฉายแววจนปัญญาเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ก้มลงไปอุ้มเธอขึ้นมาวางลงบนเตียง
ฉางฉิงพลิกตัว แล้วโก่งบั้นท้ายมุดเข้าไปในผ้าห่ม
ซ่งฉู่อี๋มองดูเธออยู่พักหนึ่ง จากนั้นช่วยห่มผ้าห่มให้เธอ
_ _ _ _ _ _ _ _
พอฉางฉิงตื่นขึ้นมา ในห้องมีเธออยู่แค่คนเดียว ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเธอขึ้นมาอยู่บนเตียงตั้งแต่เมื่อไร ส่วนผ้าห่มที่เธอใช้ปูนอนบนพื้นเมื่อคืนก็พับเป็นระเบียบเรียบร้อยวางอยู่บนเก้าอี้
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เธอก็รีบลงมาข้างล่าง ฉางซินที่กำลังทานอาหารเช้าอยู่ยิ้มให้เธออย่างมีเลศนัย “อ้าว ตื่นแล้วเหรอ เมื่อคืนคงเหนื่อยน่าดูสิท่า”
“พี่พูดเหลวไหลอะไรน่ะ” ฉางฉิงมองตาขวาง
“ห้องพี่อยู่ติดกับห้องเธอ เมื่อคืนพอดีได้ยินเธอส่งเสียงร้องตั้งหลายทีแน่ะ” สายตาของฉางซินทะลึ่งลามกมาก “ในที่สุดก็จัดการกับครั้งแรกของเธอแล้วสินะ”
.................................................