ตอนที่ 47 วังมังกร
หลักจากที่ได้รับประสบการณ์อันข่มขืนจากการทรยศของเจียงเมิ่งเอ๋อ และการไล่ล่าจากหอคอยขนนกโลหิต ทำให้เจียงวู่เฉิงดูเป็นผู้ใหญ่และสุขุมมากขึ้น
เขาเข้าใจอย่างดี เมื่อเขาต้องอดทนและปิดบังสถานะของตัวเอง
การต่อสู้กับฟงตางยู่ก็เป็นตัวอย่าง ถ้าเขาพ่ายแพ้เขาจะเสียหน้าอย่างมาก แต่หากเขาชนะตัวตนของเขาอาจจะดูน่าสงสัยและโดนเปิดเผย
"พี่ชาย ท่านรู้อะไรเกี่ยวกับวังมังที่คนเหล่านี้พูดถึงใช่ไหม?"เจียงวู่เฉิงถาม
"วังมังกร..."เมื่อซื่อหม่าปู้กล่าวถึงวังมังกร การแสดงออกของเขานั้นเต็มไปด้วยความต้องการอย่างชัดเจน "นั่นคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์วังมังกรทองเหมือนกับราชวงศ์เทียนซ่ง มันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสมบัตินับไม่ถ้วน วิธีการบ่มเพาะวิชาก่อนต่อสู้ต่างๆที่ไม่สามารถหามาได้ในราชวงศ์เทียนซ่ง แต่สามารถหามันได้พบในวังมังกร”
"ในขณะเดียวกัน ในนั้นก็มีผู้ที่มีความแข็งแกร่งมากมายในขั้นระเบิดหยินหยาง ผู้ที่สามารถเข้ามาในวังมังกรได้จะได้รับทรัพยากรที่ดีที่สุดจากราชวงศ์เทียนซ่ง"
"แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าร่วมกับวังมังกรได้ ในราชวงศ์เทียนซ่ง มีการกล่าวว่าทุกคนในวังมังกรล้วนเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยม! ดังนั้นเจ้าคงจะเข้าใจว่ามีเพียงอัจฉริยะที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะมีโอกาสเข้าไปฝึกฝนในวังมังกร คนที่มีความสามารถเทียบเท่ากับมาตรฐานทั่วไปนั้นไม่มีสิทธิ์"
ความงุนงงปรากฏขึ้นในหัวของเจียงวู่เฉิง
"พวกเขาทั้งหมดนั้นเป็นอัจฉริยะ?"
กล่าวได้ว่าลูกศิษย์ของวังมังกรทุกคนนั้นจะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพเทียบเท่ากับคนสำคัญของราชวงศ์เทียนซ่ง ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเพราะอะไรมันถึงถูกเรียกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์
"พี่ชายปู้ ด้วยความต้องการที่สูงมากอย่างนี้ ตงฟางยู่นั้นมีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่วังมังกรได้หรือไม่?"เจียงวู่เฉิงเอ่ยถาม
"แน่นอน!"ซื่อหม่าปู้หัวเราะและพูดว่า "แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถจะเป็นลูกศิษย์ของวังมังกรได้ เงื่อนไขประการแรกคือเจ้าต้องได้รับการแนะนำจากทูตมังกรทอง ประการที่สองเขาต้องผ่านการทดสอบที่ถูกจัดขึ้นโดยวังมังกร สำหรับสองเงื่อนไขนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำเงื่อนไขแรกได้สำเร็จ"
เจียงวู่เฉิงเข้าใจในเงื่อนไขแรก นั่นคือการได้รับการรับรองจากทูตมังทอง
แต่สถานะของทูตมังกรทองคือสิ่งใด?
เป็นเรื่องที่รู้กันดีว่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่จุดสูงสุดของอาณาแก่นทองคำอย่างซื่อหม่าปู้ และมีความเข้าใจเกี่ยวกับแก่นแท้แห่งเปลวเพลิงยังเป็นเพียงองครักษ์สามกรงเล็บ มีเพียงผู้ที่ยิ่้งใหญ่อย่างมากเท่านั้นถึงจะได้เป็นทูตมังกรทอง การรับรองนั้นยากมากที่จะได้มา
"จูเถาบ่นว่าลูกศิษย์ของเขาไม่ได้รับการแนะนำ แต่ถ้าเขามีความสามารถจริงๆเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการรับรองเลย ดูท่านฮั่วสิ ถ้าตงฟางยู่มีความสามารถในระดับสัตว์ประหลาดจริงๆทำไมท่านฮั่วถึงไม่ยอมรับเขาล่ะ ไม่มีใครในที่นี้ที่จะติดต่อทูตมังกรทองได้ยกเว้นเพียงแค่เขา"ซื่อหม่าปู้กล่าวอย่างเย้ยหยัน
เจียงวู่เฉิงมองผู้อาวุโสที่สวมชุดคลุมเทาและยิ้มออกมา
ท่านฮั่วนั้นหรี่ตาอยู่ตลอดเวลา และเขาไม่แม้แต่จะมองไปที่ตงฟางยู่ แม้ว่าจูเถาจะพูดถึงเขามากแค่ไหนก็ตาม
"อันที่จริง เจียงวู่เฉิงถ้าเจ้าตั้งใจทำงานอย่างหนัก ในอนาคตด้วยความสามารถของเจ้ามันอาจจะมีโอกาสที่เจ้าจะได้เข้าสู่วังมังกร"ซื่อหม่าปู้กล่าว
"ข้า?"เจียงวู่เฉิงส่ายหัว
...
หลังจากพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองฉิงตงมาเป็นระยะเวลา3วัน เจียงวู่เฉิงก็กลับไปที่วังสาขาของวังมังกรทอง
เมื่อเจียงวู่เฉิงมาถึง เขาเห็นคนหลายคนถือตราไม้ที่เขาได้รับยืนรอยู่ในห้องโถง นั่นรวมถึงตงฟางยู่ด้วย
"มีคนอยู่เต็มไปหมด"เจียงวู่เฉิงรู้สึกประหลาดใจ เขาเพิ่งเข้ามายังไม่ทันที่จะได้มีเวลาหาที่นั่ง
"นักดาบ"เงาปรากฏขึ้นต่อหน้าของเจียงวู่เฉิง ซึ่งมันกลายเป็นตงฟางยู่ อย่างไรก็ตามเขามองไปที่เจียงวู่เฉิงและเอ่ยอย่างดูถูก "เจ้ายังกล้ามาอีกหรือ?"
"ทำไมจะไม่กล้า?"เจียงวู่เฉิงถาม
"เจ้าไม่สามารถจะรับกระบวนของข้าได้แม้กระทั่ง3กระบวนท่า เจ้าเป็นเพียงเศษขยะเท่านั้น เจ้ามาเพื่อที่จะถูกฆ่า?"ตงฟางยู่กล่าวพร้อมกับหัวเราะ
"แม้ว่าข้าจะเป็นเช่นนั้น แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเจ้า"เจียงวู่เฉิงพูดขณะที่เขามองไปที่ตงฟางยู่ เขาไม่ต้องการที่จะพูดกับตงฟางยู่ เพราะสำหรับเขาตงฟางยู่นั้นเป็นคนที่โง่เขลาอย่างมาก
"หืมม? สำหรับคนที่อ่อนแอ เจ้าไม่ควรที่จะมีอารมณ์ร้ายกาจนะ"ตงฟางยู่พูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ จากนั้นเขาคิดว่า"หนุ่มน้อยเมื่อเริ่มการทดสอบ อย่าปล่อยใหข้ามีโอกาส หรือ..."
ตงฟางยู่จำได้อย่างชัดเจนว่าปรมาจารย์ของเขา ขอให้เขาทำลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับซื่อหม่าปู้
เจียงวู่เฉิงนั่งอยู่ที่โต๊ะคนเดียว แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีชายที่มีผมสีดำเดินเข้ามาหาเขา
"เจ้าคือนักดาบใช่มั้ย?"ชายคนนั้นถามและยิ้มให้กับเขา การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความหลงไหล
"เจ้าคือใคร?"เจียงวู่เฉิงมองไปที่เขาและเอ่ยถาม
"ข้าคือหลิง เทียนห่าว แต่เจ้าสามารถเรียกข้าว่าหนู ข้ามาที่นี่เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จและกลายเป็นองครักษ์หนึ่งกรงเล็บเช่นเดียวกับเจ้า"ชายคนนั้นเปิดฝ่ามืดออกแสดงให้เห็นถึงตราไม้เช่นเดียวกับของเขา
"มีอะไรที่เจ้าต้องการงั้นหรือ?"เจียงวู่เฉิงถามอย่างเย็นชา
"แน่นอน"หลิง เทียนห่าวมองเจียงวู่เฉิงและถามว่า"นี่เป็นครั้งแรกที่จะรับภารกิจองครักษ์มังกรทองหนึ่งกรงเล็บ?"
"ใช่"เจียงวู่เฉิงพยักหน้า
"แต่นี่เป็นครั้งที่สามของข้า"หลิง เทียนห่าวถอนหายใจและพูดว่า "ความแข็งแกร่งของข้าไม่เพียงพอ ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถทำมันให้สำเร็จในสองครั้งก่อน ข้าทำได้แต่หลบหนีเท่านั้น ถ้าข้าไม่สามารถทำได้สำเร็จในครั้งที่สาม ข้าจะไม่สามารถเป็นองครักษ์มังกรทองได้อีก"
เจียงวู่เฉิงเงียบไป เขารู้ว่าคนๆหนึ่งสามารถรับภารกิจนี้ได้เพียงสามครั้ง หากเขาล้มเหลวถึงสามครั้งเขาจะไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นองครักษ์มังกรทองอีก
"ข้าต้องการที่จะร่วมมือกับเจ้า เมื่อภารกิจได้เริ่มต้นขึ้น มาเป็นทีมเดียวกันเถอะ"หลิง เทียนห่าวกล่าว
"โอ้?"เจียงวุ่เฉิงประหลาดใจเล็กน้อย"ร่วมมือ?"
"อย่าลังเลเลย"หลิง เทียนห่าวพูดต่อไปว่า"ข้ารู้ว่าเจ้าต่อสู้กับตงฟางยู่เมื่อสามวันก่อน และเจ้าไม่สามารถรับ3กระบวนท่าของเขาได้ ดังนั้นเจ้าจึงเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาผู้ที่มาทำภารกิจนี้ ถ้าเจ้าทำภารกิจนี้คนเดียวเจ้ามีโอกาสที่จะถูกฆ่าตายก่อนที่เจ้าจะทำมันสำเร็จ"
"เจ้าพูดถูก ข้าจะร่วมมือกับเจ้า"เจียงวู่เฉิงพูดและพยักหน้า
"ฮ่าฮ่า ถูกต้อง ตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าไปแนะนำกับคนอื่น"หลิง เทียนห่าวดึงเจียงวู่เฉิงไปพร้อมกับเขา
"คนอื่น?"
แม้ว่าเจียงวู่เฉิงจะไม่แน่ใจ แต่หลิงเทียน ห่าวก็พาเขาไปพบกับหญิงสาวที่มีผมสีแดง