ตอนที่แล้วตอนที่ 33: ภายในเกราะคุ้มกันชั้นที่สอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 35: ก่อนฟ้าสาง

ตอนที่ 34: ทำลายค่ายตะวันตก


ตอนที่ 34: ทำลายค่ายตะวันตก

 

เฮเซคียาห์มองมัลคอมที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาใกล้กับเกราะคุ้มกันชั้นที่สอง มัลคอมในตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อหนังรัดรูปสีดำสนิทซึ่งตรงบริเวณแผงอกและหน้าท้องมีริ้วสีฟ้าทะเลเน้นกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าว ชุดเสื้อหนังรัดรูปนี้จะช่วยให้มัลคอมมีสภาพโปร่งใสแฝงตัวกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ

 

“ความสามารถที่ขโมยมาจากผู้ใช้เศวตศาสตราคนอื่นชั่วคราว มีความสามารถในการบังคับแมลง การใช้พลังลม การลอยตัวในอากาศ การใช้พิษ การเปลี่ยนสภาพอุณหภูมิในอากาศเฉพาะจุด และการเนรมิตอาวุธประเภทปืนขึ้นมาในพริบตา” มัลคอมยืนยันกับเฮเซคียาห์ถึงความสามารถที่เขาได้รับมาจากบรรดาผู้ใช้เศวตศาสตราด้วยกันเอง

 

“เมื่อเริ่มใช้ความสามารถหนึ่งไปแล้ว คุณจะใช้ความสามารถนั้นได้อีกแค่ 2 ชั่วโมง ผมเข้าใจถูกต้องไหม”

 

มัลคอมพยักหน้าให้เฮเซคียาห์ ยกมือขึ้นแตะบนเศวตศาสตราในรูปลูกตุ้มห้อยห่วงตุ้มหูที่ประดับอยู่บนหูด้านซ้ายของเขา

 

“เอาล่ะ แล้วทีนี้เราจะติดต่อกันโดยผ่านบรอธ ผมกับบรอธจะส่งคำอธิบายแผนการให้กับคุณโดยตรงเข้าไปในสมอง นี่ไม่ได้ต่างจากการรับโทรจิตเลย แต่บรอธเป็นเหมือนกล่องแปลงสัญญาณลับ ทุกอย่างที่เราคุยกันจะไม่ถูกจับสัญญาณได้จากไลฟ์ควอตซ์” เฮเซคียาห์ยกมือข้างหนึ่งขึ้นแตะขมับ ชำแลมองบรอธทางหางตาของเขา

 

เขาเริ่มการคุยกับมัลคอมโดยผ่านบรอธ

 

“ผมได้ยินเสียงคุณชัดเจนเลย” มัลคอมเอ่ยอย่างยินดี ยืนยันว่าเขาไม่มีปัญหาในการสื่อสาร

 

“ระวังตัวด้วย อย่างที่ผมบอกว่าคุณห้ามสงสัยเด็ดขาดในแผนการของผม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะต้องทำตามที่ผมบอกอย่างเดียว” เฮเซคียาห์ย้ำอีกครั้งอย่างกังวล

 

มัลคอมยิ้ม และยกมือขึ้นกดบนชุดเสื้อหนังบริเวณลำคอ ทันใดนั้นหมวกหนังปรากฎขึ้นมาคลุมรอบศีรษะปิดบังใบหน้าทั้งหมดไว้ แต่เฮเซคียาห์ทราบว่าทัศนวิสัยของมัลคอมภายใต้เสื้อหนังเป็นปกติ เขามองตัวมัลคอมค่อยๆ เลือนหายไป ก่อนจะก้มลงมองที่แขนเพราะรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายตบลงมาเบาๆ

 

เฮเซคียาห์หยิบแว่นตาอันหนึ่งขึ้นมา พอเขาสวม เขาเห็นความร้อนจากร่างของมัลคอม

 

มัลคอมยกมือขึ้นตะเบะเล่นๆ แล้วหมุนกายเดินไปหาเกราะคุ้มกัน และทะลุผ่านไป ส่วนเฮเซคียาห์ที่เห็นว่าทุกอย่างในเวลานี้เป็นได้ด้วยดี เขาเดินย้อนกลับไปยังศาลาว่าการ ตรงเข้าไปในห้องที่เมเดียนจัดเตรียมไว้ให้ ถ้าเขาอยู่ในห้องนี้จะไม่มีคนรบกวนเขา และในขณะเดียวกันในห้องข้างๆ มีเครื่องรับและส่งสัญญาณถ่ายทอดสด บรอธจะส่งภาพการต่อสู้ไปยังเครื่องดังกล่าวเพื่อให้ชาวบ้านในเซนต์กิลเจนได้ติดตามเหตุการณ์

 

เฮเซคียาห์นั่งลงและขัดสมาธิตามที่บรอธบอก เขาปิดเปลือกตาลง และเริ่มร้อนซ่านขึ้นมาทั่วสรรพางค์ หลังจากนั้นภาพที่เข้ามาในสมองของเขาก็แจ่มชัดขึ้น เป็นภาพของพื้นที่ภายนอกเกราะคุ้มกันชั้นนอก ต้นไม้สีเขียวชอุ่ม และแสงอาทิตย์ยามเช้าดูอบอุ่นเย็นตา

 

เฮเซคียาห์เบือนหน้ามองไปโดยรอบ ภาพสิ่งต่าง ๆ ลอยผ่านไปเรื่อยๆ แล้วพอเขาหันมามองด้านข้าง เขาเห็นมัลคอมซึ่งกำลังเดินอยู่

 

“คำอธิบาย: นี่คือภาพนิมิตของโหมดที่ปรึกษาส่วนตัว ผู้ใช้เศวตศาสตราจะได้รับประสบการณ์ร่วมกับผู้รับคำปรึกษา สามารถกระซิบคำปรึกษาโดยตรง การเชื่อมต่อจะดำเนินต่อเนื่องจนกว่าผู้รับคำปรึกษาจะถึงแก่ชีวิต หรือผู้ให้คำปรึกษาจะตัดการเชื่อมต่อ ความเสียหายทางกายภาพหรือทางจิตใจของผู้รับคำปรึกษาไม่มีผลต่อผู้ใช้เศวตศาสตรา”

 

“หมายความว่ายังไง กระซิบคำปรึกษาโดยตรง” เฮเซคียาห์งุนงง

 

“ครับ? คุณว่าอะไรนะ” มัลคอมคุยกับเฮเซคียาห์ผ่านทางคลื่นความคิด เขาไม่ขยับปาก เคลื่อนกายรวดเร็วแต่เงียบเชียบ เฮเซคียาห์รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายใช้ลมในการพยุงตัวให้ลอยจากพื้นเล็กน้อยระหว่างก้าว ป้องกันปัญหาเหยียบใบไม้หรือกิ่งไม้และเกิดเสียงดัง

 

“คุณได้ยินเสียงผมตอนนี้ใช่ไหม” เฮเซคียาห์ขยับปากคุยกับอีกฝ่าย

 

“ครับ ชัดแจ๋วเลยละ ตอนนี้ผมใกล้ตรงจุดตั้งค่ายฝั่งตะวันตกมากแล้วนะ”

 

“ผมเห็นแล้ว แล้วเดี๋ยวทำตามที่ผมบอกทุกอย่างนะ”

 

มัลคอมรับปาก และเขามาหยุดด้านหลังต้นไม้ต้นหนึ่ง วางเท้าสองข้างลงบนพื้น และนั่งซุ่มแอบดูชาวมัสตินที่ตั้งกระโจมอยู่ไม่ไกล กระโจมกินพื้นที่ขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัส ด้านหน้ามีคน 2 คนนั่งคุยกันอยู่ และทันใดนั้นมีคนอีก 3 คนเดินออกมาจากกระโจม

 

“ตรงกลางของพวกที่เดินออกมา นั่นคือหัวหน้าทีม อย่างที่เคยบอกไป เขาถนัดการควบคุมไฟมากกว่าธาตุอื่นๆ”

 

บรอธส่งเสียงบอกกับเฮเซคียาห์ หัวหน้าทีมตะวันตกมาตามคนที่นั่งอยู่ด้านนอกไปรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน

 

“แถวนี้มีแมลงวันอยู่บ้าง คุณเรียกพิษขนานแรงที่ทำให้สลบออกมา แล้วทาไปตามต้นไม้ตรงหน้า จากนั้นเรียกพวกแมลงวันมาแตะเอาพิษจากบนต้นไม้ไป เพื่อเอาไปใส่ในอาหารของพวกมัสติน” เฮเซคียาห์พูดกับมัลคอมด้วยความรู้สึกเหมือนเขาตัวจริงไปยืนพูดกับเจ้าตัวตรงหน้า

 

มัลคอมทำตามที่เฮเซคียาห์บอก ฝูงแมลงวันถูกส่งเข้าไป

 

สักพักหนึ่ง เสียงโวยวายดังขึ้นในกระโจม เฮเซคียาห์บอกมัลคอมให้ลอยตัวในอากาศ พาตัวเองไปอยู่เหนือกระโจมและใช้ลมตัดผ้ากระโจมจากบนลงล่างหลายแนว ผ้ากระโจมทั้งหมดหล่นร่วงลงกับพื้นและเผยให้เห็นว่าภายในกระโจมมีคนอยู่เพียง 5 คน ซึ่ง 2 คนในนั้นหลับปุ๋ยไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีเครื่องเรือนที่พวกมัสตินสามารถย่อส่วนเพื่อพกพาได้ และหน้าจอใสแบบตั้งขึ้นเหมือนกระจกกั้นหลายบาน แต่ละบานปรากฎตัวหนังสือและภาพเคลื่อนไหว มันคือคอมพิวเตอร์ประมวลผลความเร็วสูงแบบภาคสนาม

 

“ทำลายคอมพิวเตอร์ทั้งหมด” เฮเซคียาห์ทันเห็นว่าบนหน้าจอเริ่มมีข้อมูลของมนุษย์ในหมู่บ้านปรากฏขึ้นมาแล้ว

 

เนื่องจากคนในหมู่บ้านต้องสัญจรผ่านป่ารอบหมู่บ้าน พวกเขาทิ้งร่องรอยทางชีวภาพไว้ไม่มากก็น้อย ระบบปฏิบัติการของชาวมัสตินเชื่อมต่อกับไลฟ์ควอตว์ซึ่งทำหน้าที่เหมือนเซิร์ฟเวอร์อัจฉริยะทำการจำลองหน้าตา และค่าต่างๆ ในร่างกายของคนที่มีการทิ้งร่องรอยทางชีวภาพไว้ในอาณาบริเวณใกล้ๆ จากนั้นจึงอัพเดตขึ้นระบบแม้ว่ายังไม่มีการจับมนุษย์คนใดในหมู่บ้านไว้ได้

 

“โอ๊ะ ดีนะที่ผมไม่ได้อยู่บนพื้น” มัลคอมมองไปด้านล่าง

 

ชาวมัสตินคนหนึ่งทำให้เกิดระเบิดบนพื้นดินรอบกระโจม ดูเหมือนกำลังสงสัยว่าผู้บุกรุกแอบซ่อนอยู่ไม่ไกล

 

“ถูกเห็นเข้าแล้ว” เฮเซคียาห์ได้รับการเตือนจากบรอธ

 

หญิงชาวมัสตินคนหนึ่งชี้มือมาทางมัลคอม

 

“เธอใช้อุปกรณ์ที่สวมไว้ที่กระจกตาจับความร้อนของคุณได้ ตอนนี้พวกมัสตินทั้งหมดทำเหมือนกันด้วย คุณซ่อนตัวไม่ได้แล้ว” เฮเซคียาห์อธิบายให้มัลคอมตื่นตัว แล้วเขาบอกมัลคอมให้เปลี่ยนสภาพอุณหภูมิเพื่อสร้างอากาศชื้น เพราะนั่นจะเป็นการขัดขวางหัวหน้าทีมตะวันตกให้ไม่สามารถใช้ไฟของเขาได้อย่างเต็มที่

 

“โอเคเลย วิธีนี้!” มัลคอมหัวเราะออกมา เมื่อเห็นไฟที่ถูกส่งมาจากมือของหัวหน้าทีมตะวันตก ลอยมาไม่ถึงตัวของเขาแต่มอดดับไปเสียก่อน

 

ระวัง!!!” เฮเซคียาห์บอก และเอื้อมมือผลักอีกฝ่าย

 

มือของเขาไม่รู้สึกอะไร ก็แน่ล่ะ เขาไม่ได้มีตัวตนอยู่ข้างมัลคอมจริงๆ ดีว่ามัลคอมเคลื่อนที่หลบเองไปเรียบร้อย

 

ผู้หญิงที่เป็นผู้สังเกตเห็นมัลคอมเป็นคนแรกในกลุ่มมัสติน 3 คน ยิงปืนใส่เขา

 

“เกือบไป...” มัลคอมหยีตามองไปยังเบื้องล่าง

 

เธอผู้ซึ่งโจมตีมัลคอมด้วยอาวุธปืนเอนกายไปทางด้านหลัง ปืนที่เธอใช้อยู่มีสีขาว ตัวกระบอกปืนมีริ้วสีทองแทรกลึกเป็นร่องทั้งขนานกันและตัดกัน ริ้วสีทองเหล่านั้นเรืองแสงก่อนที่ลำกล้องปืนจะยืดออกยาวขึ้น และกระบอกปืนขยายใหญ่ขึ้น

 

เพชฆาตหญิงชาวมัสตินลั่นไกปืน กระสุนที่มองไม่เห็นวิ่งมาหามัลคอม

 

“โล่ห์อากาศ” เฮเซคียาห์ตะโกนออกคำสั่ง

 

บางอย่างกระแทกเข้ามาที่มัลคอมซึ่งตั้งโล่ห์อากาศรับไว้อย่างแรง

 

พวกมัสตินที่มีสติดีสามคน คือหัวหน้าทีมตะวันตก หญิงมัสตินผู้ใช้ปืนที่แข็งแกร่ง และเพชฆาตชายอีกคนหนึ่ง ขยับมายืนรวมตัวกันและมองมาที่มัลคอมอย่างอาฆาตมาดร้าย

 

“โปรยพิษร้ายแรงถึงชีวิตลงไป”

 

“ลมจะหอบเอาพิษไปที่หมู่บ้านได้” มัลคอมเตือนเฮเซคียาห์

 

“...ควบคุมสภาพอุณหภูมิให้ไม่เอื้อต่อการเกิดลม จำกัดพื้นที่ให้พิษทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกับพวกมัสติน” เฮเซคียาห์ออกคำสั่งให้ละเอียดขึ้น

 

“คุณจะบอกอะไร ช่วยบอกให้หมดทีเดียว”

 

“เงียบ!” เฮเซคียาห์ไม่อยากเสียเวลาพูดคุย

 

การต่อสู้กับชาวมัสตินจะประมาทไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว ไม่งั้นมัลคอมจะไม่ได้กลับบ้าน

 

“หลบขวา ซ้าย กระโดดขึ้นบน ปฏิบัติ” เฮเซคียาห์สั่งมัลคอมเหมือนตอนสั่งฝึกทหารชาวมัสตินที่เพิ่งเข้าประจำการ

 

“ทำไม...” มัลคอมดันมีคำถามขึ้นมา

 

ผลคือ...

 

ตู้ม!!!

 

มัลคอมถูกหัวหน้ากลุ่มตะวันตกซึ่งพุ่งขึ้นมาจากพื้นด้วยความเร็วสูง ตวัดเท้าฟาดจนกระเด็นลงไปกระแทกพื้นเบื้องล่าง

 

“ไปๆๆ ใช้พลังลมผลักเข้ามาจากด้านหน้าให้ตัวพุ่งไปข้างหลังเร็วที่สุด” เฮเซคียาห์ตะโกนใส่อีกฝ่าย เมื่อครู่เฮเซคียาห์รู้สึกเหมือนเขาลอยละลิ่วตามมัลคอมลงไปบนพื้นพร้อมกัน แต่เขาไม่มีความรู้สึกเจ็บจุกเหมือนกับมัลคอม เฮเซคียาห์รับรู้ทุกอย่างเหมือนเขากำลังใช้เครื่องเล่นที่สร้างบรรยากาศจำลองเสมือนจริง (VR)

 

มัลคอมไม่รีรอจะทำตามที่เขาบอก ไม่ตั้งคำถามอีก

 

“ยกมือขึ้น เหนี่ยวขึ้นไป กระโดด ใช้พลังลม” เฮเซคียาห์สั่งต่อเนื่อง

 

บางครั้งเขารู้สึกเหมือนเสียงของเขาเร็วจนฟังไม่รู้เรื่อง แต่นั่นไม่ได้เป็นปัญหากับมัลคอม อาจเป็นเพราะนี่เป็นการสื่อสารทางจิต ไม่ใช่การพูดออกมาจริงๆ

 

“ดึงปืนสั้นแบบใช้คู่ออกมาจากในอากาศ ยิงไปข้างหน้าไม่ยั้ง” เฮเซคียาห์สั่งตามข้อมูลที่ได้รับมาจากบรอธซึ่งหลั่งไหลเข้ามาในสมองของเขา ตาของเขามองภาพของเพชฆาตชายชาวมัสตินพุ่งตัวขึ้นมาและต้องยกมือขึ้นป้องกันกระสุนปืนที่พุ่งเข้าไปหาไม่ให้เข้าหน้า

 

กระสุนปืนทั้งพุ่งทะลุเนื้อแขน และบิดฉีกทำลายให้แขนของเพชฆาตชายชาวมัสตินขาดวิ่น

 

“พุ่งเข้าหาเขา เปลี่ยนปืนทั้งสองข้างให้มีลำกล้องยาว ซ้อนปืนสองข้างเข้าหากันแนวทะแยง แล้วค้ำไปที่คอของเขาอย่างรวดเร็ว” เฮเซคียาห์ได้รับรู้จากบรอธว่าภาพของปืนที่เหมาะสมถูกส่งเข้าสู่สมองของมัลคอมโดยตรงแล้ว ซึ่งตรงส่วนบนของด้ามกระบอกปืนทำด้วยโลหะขัดคม

 

“บีบปลายกระบอกปืนเหมือนกับกรรไกร พร้อมกับใช้พลังลมช่วยในการบีบ”

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วตามที่บรอธและเฮเซคียาห์คาด คอของชายเพชฆาตมัสติหลุดกระเด็นจากตัว

 

“คว้าหัวเอาไว้” เฮเซคียาห์รีบบอก เขามองมัลคอมทำตาม

 

ร่างที่แยกออกจากคอนั้นดิ้นกระแด่วๆ จนตกลงไปบนพื้นก็ยังกระเสือกระสนลุกขึ้น

 

เฮเซคียาห์สั่งให้มัลคอมสั่งแมลงจากในป่าจำนวนมากพุ่งโจมตีหัวหน้ากลุ่มตะวันตกที่โดดพุ่งขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ในส่วนของหญิงเพชฆาตที่ตอนแรกเปิดฉากยิงมาที่มัลคอม ตอนนี้เธอยืนพิงปืนที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้น กายโงนเงน พิษร้ายที่มัลคอมโปรยใส่คงเข้าสู่กระแสเลือด คงใช้เวลาอีกหลายอึดใจกว่าร่างกายจะฟื้นฟู

 

พิษสลบ และพิษยาชาในขนานรุนแรงกว่าที่ใช้กับมนุษย์หลายเท่า สามารถใช้ได้ผลในหมู่มัสติน แต่พิษอื่นๆ ที่มีผลให้มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นถึงแก่ความตาย สิ่งเหล่านี้จะมีผลแค่ทำให้ชาวมัสตินรู้สึกไม่สบายตัวอยู่บ้าง เป็นช่วงสั้นๆ

 

ปัง!

 

มัลคอมใช้ปืนในมือหนึ่งยิงลูกกระสุนผ่านเข้านัยน์ตาของศีรษะที่เขาถือไว้ เพื่อให้กระสุนปืนทำลายสมอง แล้วกดไกยิงปืนต่อเนื่องจนศีรษะของชาวมัสตินในมือแตกเละไม่ต่างจากแตงโมถูกทุบ

 

“อี๋!” มัลคอมสะบัดมืออย่างขยะแขยง โยนทุกอย่างทิ้งไป

 

ปืนในมือหายวับไปในอากาศ

 

ด้านล่างหัวหน้ากลุ่มตะวันตกกำลังพุ่งขึ้นมาอีก เหตุผลที่เขาพุ่งตัวได้แรงและไกลน่าเหลือเชื่อเสมอเพราะรองเท้าที่สวมใส่อยู่ช่วยในเรื่องการเพิ่มกำลังและความเร็ว เฮเซคียาห์ให้มัลคอมสร้างกำแพงในอากาศ ทางหัวหน้ากลุ่มตะวันตกชนแอ๊กแล้วร่วงลงไปกับพื้นไม่ต่างจากนกบินชนกระจกของตึก

 

“เปลี่ยนอากาศเป็นใบมีด ส่งลงไปหั่นเขาเป็นชิ้นๆ”

 

เฮเซคียาห์พูดจบก็พอดีเห็นการเคลื่อนที่ของหญิงเพชฆาตทางหางตา

 

“ใช้ลมผลักตัวเองให้สูงขึ้น และควบคุมอุณหภูมิทื่พื้นข้างล่างให้สูงเท่าที่เป็นไปได้”

 

เฮเซคียาห์มองเห็นไอน้ำลอยมาจากบนพื้น ตอนนี้พวกมัสตินข้างล่างกำลังดิ้นพล่านกันอยู่ ควันฉุยๆ ลอยมาจากคนที่สลบ มีดอากาศที่ถูกส่งลงไปถูกหัวหน้ากลุ่มตะวันตกสกัดเอาไว้ได้ และตอนนี้ฝ่ายนั้นกำลังส่งลูกศรเพลิงนับร้อยขึ้นมาตอบโต้จากพื้นเบื้องล่างพร้อมกับใช้ลมพยุงร่างกายของเขาให้ลอยเหนือลมขึ้นมา

 

“ส่งพายุลูกเล็กใส่เขา”

 

พายุลูกเล็กหมุนวนเข้าไปหาหัวหน้ากลุ่มตะวันตกลูกแล้วลูกเล่า ในที่สุดหัวหน้ากลุ่มตะวันตกทรงตัวอยู่บนอากาศไม่ได้ และร่วงลงไปบนพื้นซึ่งกำลังเดือด

 

“แกไม่ควรใช้ธาตุที่ตัวเองไม่ถนัด” เฮเซคียาห์กระซิบรอดไรฟัน

 

“เอาไงต่อ” มัลคอมถามเฮเซคียาห์

 

มัลคอมเคลื่อนกายหลบกระสุนปืนที่เพชฆาตหญิงยิงใส่เขาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เธอขึ้นมายืนบนอากาศแล้ว และขณะเดียวกันพวกมัสตินที่สลบอยู่อีก 2 คนเริ่มรู้สึกตัวตื่น และพวกเขาดึงตัวเองขึ้นมาจากพื้นที่ร้อนฉ่าเหมือนกับถ่านคั่วไฟสะบัดสะบิ้งพลางค่อยๆ ลอยตัวไว้บนอากาศ

 

“โยนพวกเชื้อไฟใส่หัวหน้ากลุ่ม” เฮเซคียาห์สั่งมัลคอมต่อเนื่อง

 

ของจากบนพื้น ทั้งซากกระโจม เศษแก้ว เฟอร์นิเจอร์ ถูกดึงขึ้นมาด้วยพลังลมมหาศาลและพุ่งไปที่หัวหน้ากลุ่มตะวันตก ระหว่างนั้น มัลคอมยังต้องเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วตามคำสั่งของเอเซคียาห์อย่างคล่องแคล่ว การที่เขาแค่ทำตามที่บอกเป็นผลให้เขาพลาดจากการโจมตีของเพชฆาตชาวมัสตินครั้งแล้วครั้งเล่า

 

และเมื่อพวกเพชฆาตทั้งสามพากันใช้ดาบอากาศพุ่งเข้ามาหาเขาในจังหวะเดียว เขากระโดดขึ้นไปยืนบนปลายดาบที่มองไม่เห็นทั้งหมดได้ด้วยท่วงท่าสง่างาม

 

“ผู้ชมจากทางบ้านชอบใจกันน่าดู แต่เสียดายนะพวกเขาไม่เห็นนายด้วย ความดีความชอบนี้มัลคอมได้โชว์หล่อคนเดียว” บรอธเอ่ยกับเฮเซคียาห์

 

เฮเซคียาห์หัวเราะฮึ

 

เขารีบสั่งการต่อให้มัลคอมพัดกระแสลมที่แรงที่สุดใส่พวกมัสตินจนลอยกระเด็นไปไกล และบอกมัลคอมให้สร้างพายุลมจำนวนมากกวาดเข้าไปในป่าอย่างไม่ต้องคิดถึงทิศทางที่ปล่อยให้พวกมันเคลื่อนไป

 

“คราวนี้เผ่น กลุ่มอื่นกำลังมาทางนี้” เฮเซคียาห์คิดว่าเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว กระโจมตะวันตกถูกทำลายแตกแล้วและพวกเขายังสังหารชาวมัสตินได้หนึ่งคน นี่น่าจะปลุกขวัญกำลังใจของผู้ใช้เศวตศาสตราภายในหมู่บ้าน และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเฮเซคียาห์เองในฐานะนักวางแผนการต่อสู้

 

“แก!” หัวหน้ากลุ่มตะวันตกฝ่าพายุที่โหมเข้ามาได้ พร้อมกับมือที่มีไฟหมุนวนอยู่รอบราวกับกงจักร

 

เฮเซคียาห์ไม่ได้รับการเตือนจากบรอธก่อน และเขาจะบอกมัลคอมก็ไม่ทันแล้ว

 

เขาคิดถึงภาพมัลคอมที่รวบรวมลมมาอัดมวลแน่นจนเป็นเกราะอัดลม ซึ่งพอโดนไฟกระแทกเข้าใส่จะเกิดแรงระเบิดสะท้อนกลับจากโล่ห์ไปทางไฟ

 

ทันใดนั้น อยู่ๆ เฮเซคียาห์รู้สึกว่าภาพที่มองอยู่ ทั้งมัลคอมและสิ่งอื่นสั่นสะเทือน

 

อธิบาย: โหมดผู้บงการ ระยะเวลาในการบงการจำกัด 5 นาที” เสียงของบรอธดังขึ้นขณะที่ทัศนวิสัยของเขาเปลี่ยนไป

 

เฮเซคียาห์มองมือของมัลคอม ซึ่งมันเสมือนกลายเป็นมือของเขาตอนนี้ และดั่งใจของเขานึกไว้ มือนั้นกำลังควบคุมเกราะลมอยู่

 

“เกิดอะไรขึ้น” เขากะพริบตา เสียงที่พูดเป็นเสียงของมัลคอม เขารู้สึกร้อนผ่าวตอนที่เกราะกระแทกพลังความร้อนกลับไปใส่หัวหน้ากลุ่มตะวันตกอย่างแรง ร่างของหัวหน้ากลุ่มตะวันตกถูกคลอกด้วยไฟ ร่างลุกโชนด้วยเปลวเพลิงเต้นพล่านดูเหมือนร่ายระบำ ร่างนั้นตกลงไปท่ามกลางพายุไซโคลนหลายลูกที่กำลังหมุนวนอยู่เบื้องล่าง

 

เฮเซคียาห์ในร่างของมัลคอมยังมึนๆ แต่ขณะเดียวกัน เขาตระหนักรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

“เฮอะ! ตกลงมีความสามารถแบบนี้ด้วยเหรอ ฉันจะใช้ร่างคนอื่นก็ได้เหรอเนี่ย” เขายกสองแขนของมัลคอมขึ้นมอง ขยับแขน และเหวี่ยงมือจับไปทั่วกายท่อนบนของมัลคอม

 

ระยะเวลาที่เขาจะควบคุมร่างของมัลคอมได้ ถ้าเป็นไปตามที่บรอธบอกไว้ คือ 5 นาที ดังนั้นเขาตัดสินใจรีบควบคุมร่างของมัลคอมให้เผ่นกลับไปทางเกราะคุ้มกันหมู่บ้าน เมื่อมาถึงตัวเกราะ เขาควบคุมร่างของมัลคอมทะลุผ่านเกราะเข้าไปยังในหมู่บ้านอย่างไม่รั้งรอ

 

“อ๊ะ!” เฮเซคียาห์พบว่าทัศนวิสัยของเขาเปลี่ยนไป ตอนนี้มุมมองของเขาเหมือนตัวเขาเองกำลังยืนอยูู่่ข้างมัลคอม

 

บรอธเตือนเขาให้ผ่อนคลาย ปลดล็อคการเชื่อมต่อจิตกับมัลคอม และลืมตาที่แท้จริงของเขา

 

เฮเซคียาห์ปิดตาลง เขารับรู้ได้เพียงความมืด พอเขารู้สึกถึงหนังตาว่ามีน้ำหนักมากขึ้น เขาค่อยๆ ลืมตาเพื่อจะพบว่าร่างกายของตัวเองจริงๆ ยังนั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด