ตอนที่แล้วตอนที่ 32 อาเมะผู้งดงาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 34 บททดสอบของทั้งสอง (ปราสาทจิฮาดะ Part 2)

ตอนที่ 33 ห้วงแห่งจิตใจ (ปราสาทจิฮาดะ Part 1)


ตอนที่ 33 ห้วงแห่งจิตใจ (ปราสาทจิฮาดะ Part 1)

 

หลังจากคุยกับท่านชายอาเมะในห้องรับรอง บ่าวใช้ก็เชิญทั้งสองมายังห้องพัก ระหว่างนั้นลินจิก็บ่นนักบ่นหนาว่า ปราสาทนี้มีแต่ผู้ชายหรืออย่างไรกัน

อันที่จริงตนแค่รู้สึกด้อยกว่าและอิจฉา ท่านชายทั้งน่ารักแถมยังได้มีหนุ่มหล่อมากมายเป็นบริวาร ลินจิรู้สึกพ่ายแพ้จึงพาลหยิบเรื่องเล็กน้อยบ่นปลอบใจตนเอง

ขณะที่บ่าวใช้ยืนส่งทั้งสองหน้าประตูห้องพัก ท่านชายอาเมะก็เดินเข้ามา เช่นนั้นลินจิที่กำลังจะอ้าปากบ่นต่อจึงเงียบทันที

“พวกท่านต้องการอะไรเพิ่ม ขอให้ได้เลยนะ”

ท่านชายมองมาทางลินจิ ยกยิ้มน้อย ๆ ดวงตากระจ่างใส

ลินจิรู้สึกละอายใจ ท่านชายอาเมะไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่ตนคิด ที่รู้สึกไม่ดีเพราะตนคิดริษยาไปเอง เช่นนั้นจึงยิ้มรับ ตอบว่า “ครับ” พร้อมแอบสำนึกผิดในใจ

“อ๊ะ”

มือนุ่มของท่านชายคว้าแขนลินจิดึงเข้าใกล้ ก่อนยกมืออีกข้างป้องปากกระซิบ

“ท่านเทพขาดเหลืออะไร บอกข้าได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”

“…เอ๊ะ”

ลินจิร้องไม่เข้าใจ ท่านชายยกนิ้วทาบปาก ประมาณว่าความลับ

ชุนย่นคิ้วมองทั้งสอง ซุบซิบอะไรกันน่ะ จากนั้นท่านชายก็ค้อมศีรษะกล่าวลา

“ข้าขอตัวก่อน เชิญพวกท่านพักกันตามสบาย”

“ครับ”

ลินจิตอบ ก้มศีรษะรับโดยไม่รู้ตัว ทั้งสองมองเหล่าบ่าวใช้และท่านชายเดินเข้าไปอีกห้องหนึ่ง เมื่อลับตาจึงเข้าห้องพัก

ภายในห้องมีข้าวของเครื่องใช้มากมาย เตียงไม้ขนาดใหญ่แกะสลักลวดลายสวยงาม มุ้งคลุมสีน้ำตาลทำจากผ้าเนื้อดี ซ้ายและขวามัดจีบระบายคล้ายตัว ‘?’ เมื่อเปิดหน้าต่างก็มองเห็นทิวทัศน์ของเกาะ ท้องฟ้า ทะเล ต้นไม้ ริมผนังวางโต๊ะพร้อมเก้าอี้ไว้นั่งชมวิว

ลินจิวางเป้ลงพื้นดังปัก วิ่งพรวดเข้าหาเตียงแต่ก็ต้องหยุดกะทันหัน ชุนรั้งคอเสื้อด้านหลังของเขาไว้

“อะไรครับ”

ลินจิหันถามอย่างไม่เข้าใจ ชุนปล่อยมือจากคอเสื้อ แล้วเดินไปนั่งริมหน้าต่าง จากนั้นวางมือหนาบนโต๊ะสองครั้งเบา ๆ

“เจ้ามานี่หน่อย”

“เอ๊ะ”

ก้าวพลาง มองพลาง ท่าทางอย่างนั้นมันอะไรกัน พอลินจินั่งลงชุนก็ถาม

“เจ้าว่าเรื่องที่ท่านชายจิฮาดะเล่าเป็นความจริงหรือเปล่า”

ปากว่าแต่สายตากลับทอดไปยังทิวทัศน์ด้านนอก

ลินจิมองชุนก่อนจะหันออกนอกหน้าต่างตาม ถามเรื่องอะไรของเขาน่ะ เมื่อไม่รู้จะตอบอย่างไรจึงหันกลับมาถาม

“หมายถึงเรื่องอะไรเหรอครับ”

ชุนระบายลมหายใจ ส่ายหน้าช้า ๆ เทพเจ้าตนนี้ถูกม้ากินสมองไปแล้วหรืออย่างไรกัน

“เรื่องที่ท่านจิฮาดะจะกลับมาช่วงรุ่งสาง”

“เอ๊ะ ทำไมเหรอ”

ใบหน้าบ่งบอกว่า อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ไม่เข้าใจ

เห็นเช่นนั้นชุนจึงตอบ “อืม” ในคอ

ชุนเอ่ยเสียงต่ำ คิดว่าเทพตนนี้คงใช้สมองกับเรื่องไม่เป็นเรื่องหมดแล้วอย่างแน่นอน

สัญชาตญาณของเขาบอกว่า สถานที่แห่งนี้ และท่านชายอาเมะ ช่างแปลกประหลาด คาดจากสายตาท่านชายคงอายุไม่น่าเกินสิบแปดปี ไม่มีบิดามารดาอาศัยอยู่ด้วยหรือ ครั้นจะถามคงเสียมารยาท

“ข้าว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เจ้าไม่รู้สึกเช่นนั้นหรือ”

“อะไรแปลก แปลกยังไง คิดมากเกินไปแล้วมั้งครับ”

ลินจิประสานมือเท้าคาง

ชุนพ่นลม ปรายตามอง คิดว่าทำไมแค่นี้ไม่เข้าใจ แต่ตนไม่รู้จะบอกอย่างไร จึงเอ่ยว่า

“ข้ารู้สึกว่ามันแปลก”

“อธิบายหน่อยสิครับ บอกว่าแปลกอย่างเดียวจะเข้าใจได้ยังไง”

เอ่ยเสร็จ ลินจิก็ยกแขนบิดขี้เกียจ ก่อนเหยียดหลังนั่งตรง

ชุนส่ายหน้า เคาะนิ้วบนโต๊ะ สัญชาตญาณมันอยู่เหนือเหตุผล ให้อธิบายได้ยังไงเล่า

“เอาเถอะ เจ้าก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน”

ได้ยินเช่นนั้น ลินจิก็มองหน้าอย่างถามว่า เป็นห่วงเขาด้วยหรือ เมื่อความเงียบงันแผ่คลุมชั่วขณะ จึงชวนคุย

“คุณชุนมาที่นี่เรื่องดาบเหรอ”

ตอนถามสายตาก็มองต่ำยังดาบกระดูกเทพ

ชุนพยักหน้า ระบายลมหายใจออกมาจนเหมือนตัวแฟบลง ก่อนจะกลับมานั่งหลังตรงเหมือนเดิม

“ไม่ใช่แค่ดาบ แต่ข้ารู้สึกถึงพลังเวทที่เปลี่ยนไป แม้จะนิดเดียวก็เถอะ ถึงเช่นนั้นก็ยังไม่แน่ใจมากนัก”

สีหน้าของเขาดูกังวล ลินจิเห็นก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่ตนก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร คงต้องรอท่านจิฮาดะกลับมายามรุ่งสาง

ช่วงค่ำชุนและลินจิเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยจึงไปหาท่านชายอาเมะในห้องรับรอง

บ่าวใช้มากมายนั่งล้อมรอบจนมองไม่เห็นผนังห้อง บนโต๊ะมีผลไม้มากมายให้เลือกสรร แต่ที่เด่นสะดุดตาคือผลองุ่นสีม่วงสด

ตอนที่เข้าไปก็พบท่านชายกำลังนั่งเท้าคาง หยิบองุ่นเข้าปากด้วยท่าทางเซ็ง ๆ พอฝั่งนั้นเห็นแขกผู้มาเยือนก็รีบปล่อยพวงองุ่น ปรับท่านั่ง เหยียดหลังตรงยิ้มให้ทั้งสองอย่างอ่อนโยน

“…เชิญพวกท่านนั่ง”

มือเรียวสวยยื่นไปยังเบาะขนสัตว์ฝั่งตรงข้าม

ทั้งสองพยักหน้าก่อนนั่งลง จากนั้นชุนจึงค้อมศีรษะอย่างสุภาพ ลินจิเหลือบไปเห็นก็ค้อมตาม

ชุนเหลือบมองลินจิครู่หนึ่งก่อนดึงสายตากลับ เอ่ยว่า…

“ท่านชายอาเมะ ขอบคุณท่านมากสำหรับความช่วยเหลือ”

ท่านชายส่ายหน้าเบา ๆ

“ไม่หรอก หากจะขอบคุณก็บอกกับท่านโมโมะเถิด ตระกูลของพวกเราได้ท่านเปี๊ยกโกะและท่านโมโมะช่วยเหลือตั้งแต่อดีต ถึงข้าจะเกิดไม่ทัน แต่ก็ฟังเรื่องเล่านี้จากปู่ทวด”

จิฮาดะ ริวไซ คือผู้ตี ‘ดาบกระดูกเทพ’ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อหลายร้อยปีก่อน ทว่าเรื่องที่ริวไซยังมีชีวิตอยู่ยังคงเป็นปริศนา ชุนเคยได้ยินโมโมะเล่ามาจึงสงสัย

“ท่านชายอาเมะ ปู่ทวดของท่านยังมีชีวิตอยู่จริงหรือ”

“เอ่อ…รุ่งสางท่านจะกลับมา อย่างกังวลเลย”

ท่านชายอาเมะยิ้มเจื่อน ปัดประเด็นสนทนา ถามว่า…

“พวกท่านดื่มสุราไหม ข้าจะบอกให้บ่าวใช้เตรียมให้”

“ข้าไม่ดื่มสุรา ขอบคุณท่านมาก”

ชุนตอบเสียงเรียบ ส่ายหน้าปฏิเสธ ตนไม่ได้มาที่นี่เพื่อความสำราญสักหน่อย ตั้งแต่ประมือกับเทพบุตรคิกิ อาจารย์ของตนก็ทักเรื่องพลังเวทที่เปลี่ยนไป แม้ตนจะสัมผัสได้ไม่ชัดเจน แต่โมโมะเป็นถึงเซียนที่บำเพ็ญตนหลายร้อยปี คงไม่โป้ปดอย่างแน่นอน

ความสงสัยยังค้างคาใจ ชุนจึงยื่นดาบให้ท่านชายอาเมะ

“ท่านพอจะดูดาบให้ข้าหน่อยได้ไหม”

เช่นนั้น ท่านชายจึงรับดาบด้วยสองมืออย่างไม่ค่อยแน่ใจ ก่อนวางบนโต๊ะ ก้มหน้าเล็กน้อยพลางจับคางครุ่นคิด จากนั้นจึงเงยหน้าถาม

“ก่อนหน้านี้ท่านชุนใช้ดาบทำอะไรมาอย่างนั้นหรือ”

จู่ ๆ แสงสีเขียวก็สว่างวาบขึ้นมาเสี้ยววินาทีหนึ่ง ลินจิมองอย่างสงสัย พอขยี้ตาแสงนั้นก็หายวับไป นึกในใจว่าตนคงตาฝาดไปเอง

ชุนไม่ทันสังเกต เปิดปากเล่าว่า…

“ก่อนหน้านี้ข้าประมือกับเทพบุตรคิกิ โดยใช้เวท ‘คลื่นมังกรธาตุคำราม’ จากนั้นข้าก็หมดสติไป”

ท่านชายกอดอกพยักหน้าตอบว่า “อย่างนี้นี่เอง”

ลินจิมองทั้งสองสนทนาอย่างไม่รู้จะแทรกอย่างไร ดาบเดิบอะไรตนไม่เข้าใจ ง่วงจะตายอยู่แล้ว จากนั้นเขาก็หยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาดูเวลา พบว่าอีกไม่กี่นาทีสามทุ่ม

ท่านชายเห็นสิ่งของแปลกประหลาดในมือเทพเจ้าก็นึกสนใจ

“นั่นคืออะไรหรือ”

“อ๋อ โทรศัพท์มือถือน่ะครับ แฮะ ๆ”

ลินจิยิ้มรีบเก็บทันที จะสารทยายให้เปลืองแบตฯ พร่ำเพรื่อไม่ได้ ตั้งแต่ออกมาจากตำหนักโมโมะ พาวเวอร์แบงค์พลังงานแสงอาทิตย์ยังไม่ได้สัมผัสแดดเลย

“…อืม”

ท่านชายตอบเหมือนเข้าใจปนอยากรู้ อันที่จริงก็ไม่เข้าใจ

ลินจิปิดปากหาวอย่างทนไม่ไหว ชุนเห็นอีกฝั่งดูอ่อนเพลีย ตาดำคล้ำเหมือนกะโหลกคนตาย จึงเอ่ยอย่างเป็นห่วง

“ถ้าเจ้าง่วงก็เข้าไปนอน”

ลินจิอ้าปากค้าง หาวยังไม่ทันเสร็จ รีบส่ายหน้าบอกว่า ‘ไม่’ เมื่อคืนเขาเอาแต่คิดเรื่องแหวนแต่งงานที่ชุนมอบให้จนนอนไม่หลับ ไม่แปลกใจที่ง่วงไวเช่นนี้

…เรื่องอะไรจะให้ชุนอยู่กับท่านชายกัน

ชุนดูออกว่าเทพเจ้าของตนท่าจะไม่ไหว จึงค้อมศีรษะให้ท่านชายเป็นการกล่าวลา

“คืนนี้พวกข้าขอตัวก่อน”

“เดี๋ยวก่อนสิ”

ท่านชายยื่นมือไปด้านหน้าเพื่อปราม

ชุนกะพริบตามองอย่างสงสัย

“มีอะไรหรือ”

ท่านชายยิ้มหยี สะบัดมือ ตอบว่า

“เปล่า ๆ ไม่มีอะไร…”

ลินจิง่วงตาปรือไม่ไหวแล้ว จึงเอ่ยว่า

“แบบนั้นผมขอตัวก่อนแล้วกัน ขอโทษที่เสียมารยาท”

แม้จะเป็นห่วงว่าชุนจะเป็นอะไรรึเปล่านะ แต่เห็นบ่าวใช้อยู่เป็นหูเป็นตาตั้งมากมาย คิดว่าคงไม่เป็นอะไรหรอก

ท่านชายแอบยกมุมปากครู่หนึ่ง

“เดี๋ยวข้าไปส่ง”

ว่าแล้วขึงลุกขึ้นช่วยพยุง

ลินจิลืมตาปรือ ฝืนยิ้ม พยักหน้าบอก “ขอบคุณ”

ชุนเลิกคิ้วหันมองทั้งสองอย่างประหลาดใจ สนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ

พอชุนกำลังจะลุกขึ้นตาม ท่านชายอาเมะก็หันขวับมา ยกมือปราม

“ท่านมีธุระต้องคุยต่อไม่ใช่หรือ”

ชุนพยักหน้างุนงงส่งเสียง “อืม” ในคอ สองตาจับจ้องมองทั้งสองออกจากประตู

จากนั้นเสียงตะโกนของท่านชายก็ดังมาจากด้านนอก

“อาผิง! มาช่วยข้าหน่อย”

บ่าวใช้หน้าตาคมเข้ม ผิวขาว ผมสั้นเท่านิ้วชี้ ลุกขึ้นตามเสียงฉับไว ตอนเดินผ่านชุนเขาก็โค้งตัว ผงกหัวให้เป็นการขอโทษ

ชุนเห็นท่าทางเกรงใจก็พยักหน้า บอกว่า “ไม่เป็นไร”

เมื่อบ่าวใช้ชื่อ ‘อาผิง’ เดินออกไป สายตาก็มองต่ำไปยังดาบของตน

บ่าวใช้คนหนึ่งเข้าใจว่าชุนมองพวงองุ่นจึงยิ้มเอ่ย

“กินได้เลยนะขอรับ”

ชุนสะดุ้งหันไป ไม่ได้มององุ่นสักหน่อย มองดาบต่างหากเล่า แต่ในเมื่อถูกทักเช่นนั้น ตนจึงพยักหน้า ก่อนหันกลับมามองบนโต๊ะเก็บดาบแนบกาย

คำพูดที่ได้ยินหากนำมาใส่ใจ ก็เปรียบดั่งบังเหียนที่ควบคุมทิศทางม้า เช่นนั้นชุนจึงมองไปยังพวงองุ่นสีม่วงผลเต่งตึงน่ากิน จากนั้นจึงยื่นมือหยิบผลองุ่นเข้าปาก

วินาทีที่ลิ้นสัมผัสกับผิวองุ่น ชีพจรก็เต้นกระตุกฉับพลัน สายตาพร่าเลือนแม้สะบัดหน้าก็ไม่หาย หมอกขาวแผ่กระจายรอบทิศบดบังจนไม่เห็นอะไร แล้วสติก็ผล็อยดับไปอย่างไม่ทันตั้งตัว

ท่านชายอาเมะคล้องแขนลินจิ ส่วนบ่าวใช้นามว่าอาผิงก็คล้องอีกแขนหนึ่ง พวกเขาเดินมาส่งลินจิถึงหน้าห้องพัก จากนั้นท่านชายก็ปล่อยมือ

“ท่านชุนดูท่าจะคุยธุระต่อ ท่านไม่ต้องกังวล จงพักผ่อนเสีย”

พอลินจิพยักหน้า ท่านชายก็หันหลังเดินกลับไปเหมือนรีบ อันที่จริงแค่นี้ตนเดินมาคนเดียวก็ได้ ไม่เห็นต้องมาส่งให้ลำบากเลย ขณะที่บ่าวใช้ยังพยุงร่างอยู่ มือหนึ่งก็เปิดประตูพลางเอ่ยขอบคุณ ทว่าตอนที่ดึงแขนกลับบ่าวใช้คนนั้นกลับไม่ยอมปล่อย

“ให้ผมไปส่งข้างในเถอะครับ เดี๋ยวท่านชายจะตำหนิเอา”

ลินจิได้สติพลันลืมตาตื่น พยักหน้ารับ บ่าวใช้คนนี้ยังไง ทำไมต้องมาส่งถึงในห้อง

เมื่อมาส่งลินจิถึงเตียง บ่าวใช้จึงปล่อยมือออก

ลินจิเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง แล้วหย่อนตัวลงนั่งบนที่นอน คิดว่ารอบ่าวคนนี้ออกจากห้องก่อน ตนจึงค่อยพักผ่อน การแสดงอากัปกิริยาสบาย ๆ ต่อหน้าชายหนุ่มคงไม่น่าดู แม้บางครั้งตนจะเผลอบ้าง แต่การเผลอถือเป็นโมฆะ ฮิฮิ

ขณะคิดไปยิ้มไป บ่าวใช้ก็นั่งลงบนพื้นข้างเตียง

“เอ๊ะ”

สองตากะพริบมองบ่าวใช้

“ข้าชื่ออาผิงขอรับ”

บ่าวใช้ยิ้มหวาน หน้าตาสมชาย คิ้วคมชัดไม่ถึงกับหนา จมูกเรียวโด่งเป็นสัน ปากบางได้รูป ใบหน้าหล่อเหลา ลินจิก้มหน้าระบายลมหายใจช้า ๆ ทำไมคนตรงหน้าถึงไม่ใช่ชุน

แม้ตนจะชอบผู้ชาย แต่ท่าทีที่แสดงออกไปแบบว่า ‘ใครก็ได้’ เป็นเพียงแค่การหยอกเท่านั้น ไม่ใช่ว่าท่านชายอาเมะจะคิดว่าตนต้องการผู้ชายหรอกนะ เมื่อรู้สึกไม่ค่อยดีลินจิจึงเอ่ยปาก

“เดี๋ยวผมกลับไปห้องรับรองดีกว่า”

ตอนที่กำลังลุกจากเตียง ประตูห้องก็เปิดจากด้านนอก เหล่าบ่าวใช้นับสิบเดินเข้ามาอย่างไม่บอกกล่าว

ลินจิตกใจก้าวถอยหลังทรุดนั่งบนเตียง

“อะ…อะไรน่ะ”

“ท่านชุนพวกให้พวกข้ามาดูแลท่าน”

บ่าวใช้คนหนึ่งกล่าว พลางเดินตรงมายังปลายเตียง ตามด้วยเหล่าบ่าวใช้อีกมากมาย

ลินจิรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงกระโจนกอดหมอน …นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

“แล้วท่านชายล่ะ”

ถามแล้วก็เผลอกัดริมฝีปากเพราะหวาดกลัว สองคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างห้ามไม่ได้

“อยู่กับท่านชายอาเมะขอรับ”

“เอ๊ะ!”

ดวงตาเบิกกว้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น อะไรกัน ทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ลินจิรัดหมอนแน่นแล้วก้มหน้า จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีคนเข้ามาใกล้

ไม่ทันไรมือหนาใหญ่ก็สัมผัสที่ข้อมือ

“อ๊ะ!”

ลินจิสะดุ้งตกใจ เมื่อร่างเล็กถูกกระชากลงจากเตียง ใบหน้ากระแทกเข้ากับอกของบ่าวใช้คนหนึ่ง

“…อะ”

เงยขึ้นมองพบว่าเป็นอาผิง

“ท่านเทพอยู่กับพวกเราดีกว่าขอรับ”

ใบหน้าหล่อเหลายิ้มตาปิดอย่างสบายใจ

“…”

ลินจิตกใจทำอะไรไม่ถูก

ตอนนั้นมือหนาก็โอบร่างของลินจิลากขึ้นนั่งตักบนเตียง

“…ปล่อยนะ”

เสียงปรามเบาเหลือเกิน ทว่าร่างกายกลับไม่ขัดขืน ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ลินจิรู้สึกสับสน

จากนั้นบ่าวใช้นับสิบคนก็ย่างขึ้นมาบนเตียง ลมหายใจอ่อน ๆ รดหลังใบหู หัวใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมา

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด