The Dark King – Chapter 73 วันแห่งการ ‘ชำระล้าง’ [อ่านฟรี]
ฟู่เทียนพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ เขาไม่แปลกใจเท่าไหร่นักเป็นเพราะข้างนอกกำแพงนั่นมีความเข้มข้นของรังสีสูงเกินไป สิ่งของที่เก็บมาได้ส่วนใหญ่มักจะปนเปื้อนไปด้วยรังสีและพวกเชิ้อโรค ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะต้องทำความสะอาดพวกมัน แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือผู้รับผิดชอบงานนี้คือโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์
“ส่งของมา!” ผู้รักษาความปลอดภัยจากโบสถ์พูดอย่างเร่งรีบไปยังฟู่เทียน “ชื่อของนายด้วย!”
“ผมชื่อเทียน แล้วนี่ก็ของทั้งหมดครับ” ฟู่เทียนส่งมอบห่อผ้าที่ห่อสิ่งของทั้งหมดไว้
ผู้รักษาความปลอดภัยหนุ่มกวักมือเรียกชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆให้มารับสิ่งของจากฟู่เทียน มีหน้ากากสีขาวประดับอยู่บนใบหน้าของเขา พร้อมกล่าวต่อ “ใช้ได้เลย แต่นายไม่ควรเก็บเศษเหล็กกับพวกทองแดงเหล่านี้มา”
ของทั้งหมดถูกนำไปไว้บนรถม้า มีผู้รักษาความปลอดภัยสาวเป็นคนเขียนชื่อฟู่เทียนติดไว้บนสิ่งของพวกนั้น
“คนต่อไป” ผู้รักษาความปลอดภัยหนุ่มกวักมือ
ฟู่เทียนคิดอยู่ชั่วครู่จึงหยิบลูกบอลสีน้ำเงินเข้มออกมาจากกระเป๋า “ผมเอาเจ้านี่มาด้วย ต้องส่งมอบด้วยไหมครับ”
ผู้รักษาความปลอดภัยหนุ่มตกตะลึง เขามองตั้งแต่หัวจรดเท้าของฟู่เทียน “เจ้าเด็กน้อย นายไปเอาเจ้านี่มาจากไหน”
“จากหัวของพวกซอมบี้ครับ” ฟู่เทียนตอบ
ผู้รักษาความปลอดภัยหนุ่มจ้องมองไปยังเขาและกล่าว “ทำไมนายถึงควานหาสิ่งของในหัวของพวกซอมบี้ล่ะ”
“ด้วยความอยากรู้อยากเห็นน่ะครับ” ฟู่เทียนตอบ
ผู้รักษาความปลอดภัยหนุ่มจ้องมองเข้าไปยังนัยตาของฟู่เทียน เด็กหนุ่มจ้องมองกลับมาโดยไม่กระพิบตา “ฉันจะเอามันไปด้วย แม้ว่ามันจะไม่มีค่าก็เถอะ สมาคมก็น่าจะบอกเรื่องนี้กับนายแล้ว”
ฟู่เทียนดูไร้เดียงสาในสายตาของผู้รักษาความปลอดภัย
ปีเตอร์ก้าวออกมาจากทางเดิน ทุกๆคนส่งมอบสิ่งของที่เก็บมาได้ทั้งหมด เขาจึงกวักมือและกล่าว “ทุกคนขึ้นมาบนรถม้า”
“เทียน!” สก๊อตเปิดม่านสีดำพร้อมโบกมือเรียกฟู่เทียน “มาทางนี้”
ฟู่เทียนเห็นคำเชื้อเชิญของเขาและไม่คิดปฏิเสธ เขาก้าวขึ้นไปยังรถม้าทางที่อีกฝ่ายนั่งอยู่
ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่บนรถม้าขนาดใหญ่กับมีอาและเด็กใหม่อีกคน หน่วยค้นหาทั้งสามก้าวขึ้นตามมาทีหลัง
“พวกเราคิดผิดไปเกี่ยวกับนาย” สก๊อตกล่าวขอโทษในขณะที่รถม้ากำลังวิ่งออกไป
ฟู่เทียนส่ายหัวเล็กน้อย “ผมไม่โทษคุณหรอกครับ มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะระวังเอาไว้ก่อนเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่ตนเองไม่รู้”
สก็อตรู้สึกโลกใจเมื่อได้ยินคำกล่าวจากฟู่เทียน “เยี่ยม ครั้งนี้พวกเราได้นายช่วยไว้จริงๆ หลังจากวันแห่ง”การชำระ“สิ้นสุดลง ฉันน่าจะต้องเลี้ยงตอบแทนสักมื้อแล้ว” สก็อตหยุดลงชั่วครู่ “นายยังมีอายุน้อยอยู่เลย คงจะพาไปสถานที่มีแสงสีเสียงมากไม่ได้… นายน่าจะเข้าใจว่าฉันหมายถึงอะไรใช่ไหม?” สก็อตขยิบตา “เอาล่ะ ถ้านายกำลังมีปัญหาหรือสงสัยอะไร ถ้าเป็นสิ่งที่ฉันช่วยได้ ฉันจะช่วยอย่างเต็มที่เลย!” มีบรรยากาศแห่งความจริงจังปรากฏขึ้นขณะที่เขากำลังพูดเรื่องนี้ เป็นที่แน่นอนว่าสิ่งที่เขากล่าวออกมานั่นออกมาจากหัวใจของเขาอย่างสัตย์จริง
ฟู่เทียนยิ้ม ในตอนแรกสก็อตและมีอาพยายามเข้าไปช่วยเหลือพวกนักค้นหาที่ถูกโจมตีโดยพวกซอมบี้ ทั้งๆที่พวกเขาสามารถเอาตัวรอดออกไปได้อย่างง่ายดาย แต่พวกเขากลับไม่ทำเช่นนั้น แค่สิ่งเหล่านี้ก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้ฟู่เทียนยอมรับในตัวทั้งสอง
ในที่สุดฟู่เทียนก็ได้ผ่านประสบการณ์แห่งความเป็นและความตายมา เขาเข้าใจความรู้สึกสิ้นหวังของคนที่กำลังเผชิญกับความตายอย่างถ่องแท้ พวกเขามักทำสิ่งชั่วร้ายแม้จะยื้อชีวิตของตัวเองเพิ่มได้อีกสักอึดใจเท่านั้น
การที่จะยับยั้งสิ่งชั่วร้ายพวกนั้นได้ คนๆนั้นย่อมมีจิตใจอันดีงามตามธรรมชาติ
ฟู่เทียนชื่นชมพวกเขาจริงๆ
“อะไรคือวันแห่ง ‘การชำระ’ หรอครับ” ฟู่เทียนอยู่ในความสงสัย
สก็อตสัมผัสไปที่หัวของเขาพร้อมยิ้มและกล่าว “อ้ะ ลืมบอกไปซะสนิทเลย โชคดีนะที่ปีเตอร์ไม่รู้เรื่องนี้ ไม่งั้นเขาเอาฉันตายแน่” เขาถอนหายใจ ส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวต่อ “วันแห่ง‘การชำระ’ คือช่วงสามวันที่พวกเราจะต้องได้รับการตรวจร่างกายอย่างเข้มงวดก่อนที่จะสามารถกลับเข้าไปใช้ชีวิตภายในกำแพงได้ตามปกติ”
“ถ้าหากว่าติดเชื้อ ผู้คนจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นซอมบี้ภายในสามวันซึ่งเป็นระยะที่ยาวนานที่สุดแล้ว ถ้าผ่านพ้นสามวันไปได้ก็จะไม่กลายเป็นซอมบี้อีก นั่นหมายความว่าร่างกายของนายไม่ได้รับเชื้อ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ”
ฟู่เทียนเข้าใจดี
แน่นอนว่า มันคงไม่มีปัญหาที่พวกซอมบี้และพวกสัตว์ร้ายเพ่นพ่านอยู่ภายนอกเขตกำแพงยักษ์นั่น
แต่กลับกันหากมีการติดเชื้อเกินขึ้นภายในเขตกำแพง ผลลัพธ์ที่เกิดย่อมเลวร้ายกว่าหลายเท่าตัว มันคงไม่มีเวลามากพอที่จะตรวจสอบผู้คนทีละคนจากการติดเชื้อ และมีโอกาสที่คนในพื้นที่ทั้งหมดอาจจะได้รับเชื้อ
ทันใดนั้นเอง ฟู่เทียนนึกถึง “กำแพงกั้นเขตแดน” ขึ้นมา ซึ่งพวกมันถูกกั้นระหว่างย่านที่อยู่อาศัยและสลัม ถ้าหากมองเผินๆคงเป็นการแบ่งแยกพื้นที่ระหว่างพวกคนรวยและคนจน แต่ถ้ามองอีกมุมการแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายเขตอาจเป็นเรื่องของการป้องกันการแพร่เชื้อในแต่ละพื้นที่ก็เป็นได้
ในเวลานั้นเอง สก็อตถามออกมาด้วยความสงสัย “เทียน แล้วทำไมนายถึงมีพลังมากมายขนาดนั้น? นายได้รับเพียงพรสองประการ แต่กลับมีพลังที่มากกว่าฉันซะอีก ฉันได้รับพรมา 19 ประการน่ะนะ”
คนที่นั่งถัดไปจากเขา มีอาและพวกเด็กใหม่ก็กำลังสงสัยเช่นเดียวกัน
ฟู่เทียนเห็นแล้วว่าพวกเขายังไม่คลายความสงสัยในเรื่องพลังของตนได้ จึงรู้สึกไม่พอใจเกิดขึ้นมาเล็กน้อย แน่นอนว่าความอยากรู้ของผู้คนไม่มีวันจางหายไป
“คงเป็นเพราะอากาศภายในกำแพงนี่” ฟู่เทียนกล่าว
“ฉันไม่เข้าใจ” สก็อตตอบ
มีอาหลุดยิ้มออกมา
ฟู่เทียนเขินอายเล็กน้อย “จริงๆแล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนที่ผมไม่ได้สติและฟื้นตื่นขึ้นมาก็กลายเป็นแบบนี้ซะแล้ว”
“อืม… ...” สก็อตเห็นว่าน่าจะไม่ได้คำตอบเพิ่มเติมอีกจึงถอดใจไป
รถม้าจอดลงที่ไหนสักแห่งในเขตชานเมืองของย่านการค้า สถานที่แห่งนี้อยู่สุดขอบของย่านที่อยู่อาศัย แต่รังสีภายในอากาศเบาบางลงมาก ในความจริงแล้วความเข้มข้นของรังสีอาจจะเทียบเท่ากับย่านที่อยู่อาศัย แต่ทว่ามีประชากรอาศัยอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้น เหตุเพราะมันเป็นพื้นที่หวงห้าม
มีต้นไม้อันเก่าแก่อยู่ตามสองข้างทางของฟากถนน มีปราสาทอยู่สองสามแห่งตามเนินเขา รถม้าของฟู่เทียนหยุดลงด้านหน้าของปราสาทแห่งหนึ่ง พวกเขาค่อยๆก้าวลงจากรถม้า
มีผู้พิทักษ์เปิดประตูของปราสาทเมื่อพวกเขาก้าวลงมา ใกล้ๆกันมีม้าผิวแดงเข้มสูงกว่าสามเมตรเดินออกมาจากภายใน มีบรรยากาศดุดันถูกแผ่ออกมาจากพวกมัน
อัศวินแห่งแสงหนุ่มคนนึงกำลังนั่งอยู่บนม้าตัวนั้น เขาไม่ได้สวมใส่หมวกเหล็กเอาไว้ เขามีผมยาวประบ่าสีเขียว โดยรวมแล้วถือว่ามีหน้าตาที่หล่อเหลา เขาจ้องมายังฟู่เทียน สก็อตและคนอื่นๆ “ตามฉันมา!”
สก็อตพยักหน้าด้วยความเคารพ เขาและมีอาเดินตามไปสองคนแรก
ฟู่เทียนและที่เหลือเดินตามหลังทั้งสองไป
อัศวินแห่งแสงเป็นคนของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขามีตำแหน่งสูงส่งกว่าอัศวินทั่วๆไป ถ้าหากพวกเขาถูกกำเนิดมาจากตระกูลขุนนาง พวกเขาจะได้รับเกียรติโดยการแต่งตั้งต่อหน้าขุนนางคนอื่นๆ
สิ่งเหล่านั้นทำให้ครอบครัวของพวกเขารู้สึกเป็นเกียรติ
นอกเหนือจากเกียรติยศที่ได้รับแล้ว พลังของพวกอัศวินแห่งแสงนั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย เป้าหมายหลักของพวกเขาคือกำจัดพวกนักเล่นแร่แปรธาตุทั้งหลาย ผู้รอบรู้เรื่องพิษและพวกหุ่นเชิดถือเป็นสิ่งชั่วร้าย แม้แต่อัศวินทั่วไปทั้งหลายยังต้องก้าวลงจากหลังม้าและคำนับเมื่อเจออัศวินแห่งแสง
ทุกๆคนเดินตามหลังอัศวินแห่งแสงเข้าไปยังชั้นใต้ดินของปราสาท
“ทุกๆคนเข้าไปข้างในห้อง ทุกๆอย่างที่ต้องใช้ภายในสามวันถูกจัดเตรียมไว้ทั้งหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นมี”คัมภีร์แห่งแสง“มอบให้สำหรับทุกคนด้วย มันคงจะดีถ้าหากเปิดอ่านซะ แม้ว่าร่างกายจะไม่ได้ป้นเปื้อน แต่การชำระล้างจิตใจเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำได้” ชายหนุ่มผมเขียวกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย
“รับทราบครับ” สก็อตพยักหน้ารับด้วยความเคารพ เขาพอจะคุ้นเคยเกี่ยวกับกฏพวกข้างในนี้แล้ว
ห้องเล็กๆถูกสร้างและแบ่งขึ้นเป็นบล็อคๆ พวกมันถูกสร้างขึ้นจากเสาเหล็กหยาบ มีเตียง ห้องน้ำ ไม้กั้นและโต๊ะเล็กๆหนึ่งตัว บนโต๊ะตัวนั้นมีหนังสือสีเงินเคลือบทองวางอยู่
…