บทที่ 15 หัวใจอันอ่อนแอบอบบางของเธอถูกทำร้ายอย่างหนัก
บทที่ 15 หัวใจอันอ่อนแอบอบบางของเธอถูกทำร้ายอย่างหนัก
ช่วงมื้อเย็น เยี่ยนเหล่ยเปิดขวดไวน์ขาวที่เก็บมานานหลายปี
ซ่งฉู่อี๋สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย “คุณพ่อครับ ผมคอไม่แข็ง ขอตัวดีกว่าครับ”
“ไม่ได้” เยี่ยนเหล่ยรินไวน์ให้เขาหนึ่งแก้วเต็มๆ ด้วยตัวเอง “พ่อไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว ไวน์นี้ต้องดื่ม มาๆๆ ถือว่าดื่มเป็นเพื่อนพ่อ ปกติเวลาที่อี้ฉินไม่มา พ่อต้องดื่มอยู่คนเดียวที่บ้านตลอด น่าเบื่อมาก”
หลินอี้ฉินก็ยิ้มเช่นกัน “ดื่มสักหน่อยน่า”
เยี่ยนเหล่ยต้องจิบไวน์เป็นประจำทุกมื้อ ซ่งฉู่อี๋ไม่อาจปฏิเสธได้ แต่ใครจะไปรู้เล่าว่าหลังจากดื่มไปหนึ่งแก้ว เยี่ยนเหล่ยที่กำลังคึกคักก็รินแก้วที่สองให้เขาอีก พอถึงแก้วที่สาม ซ่งฉู่อี๋ก็เริ่มมึนแล้ว ตอนนี้จากใบหน้าขาวหมดจดเจือเย็นชากลายเป็นแดงเรื่อ สองตาพร่ามัว เมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟที่นวลละมุน ดวงตาของเขาดูสวยสดใสมาก
ดูเหมือนกับปีศาจชัดๆ
ฉางฉิงมองดูด้วยความงุนงง
“เจ้าเด็กคนนี้ ไม่ไหวเลยจริงๆ ดื่มแค่นี้ก็เมาแล้ว” เยี่ยนเหล่ยเห็นซ่งฉู่อี๋นอนฟุบอยู่บนโต๊ะก็หัวเราะเอิ้กอ้าก
“พ่อคะ พ่อคิดว่าทุกคนเขาจะคอแข็งเหมือนพ่อเหรอไง” ฉางฉิงเบ้ปาก
“เพิ่งแต่งงานไม่ทันไรก็ช่วยพูดแทนเขาซะแล้ว” เยี่ยนเหล่ยหัวเราะพลางโบกไม้โบกมือ “ยังไม่รีบพยุงฉู่อี๋ขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องลูกอีก สภาพแบบนี้คืนนี้ขับรถกลับไปไม่ไหวแล้วล่ะ”
ฉางฉิงถามย้ำ “พ่อคะ พ่อหมายความว่าคืนนี้เขา...ต้องนอนในห้องหนู”
“แต่งงานกันแล้ว ถ้าไม่นอนห้องเดียวกัน แล้วจะไปนอนที่ไหน” เยี่ยนเหล่ยบอกกับหลินอี้ฉินว่า “ฉางฉิงคงพยุงไม่ไหว เธอช่วยหน่อยแล้วกัน”
หลินอี้ฉินก็รูปร่างสูงใหญ่เช่นกัน เขาช่วยพยุงซ่งฉู่อี๋ขึ้นไปบนห้องที่อยู่ชั้นสองได้อย่างง่ายดาย แล้ววางเขาลงบนเตียงสีชมพูของฉางฉิง
ฉางฉิงเดินก้าวเล็กๆ ตามขึ้นไป เมื่อเห็นชายหนุ่มนอนครอบครองเตียงของเธอ เธอก็บุ้ยปากแรง
“เขาเมาแอ๋เลย เดี๋ยวเธอก็ช่วยเช็ดหน้าให้เขาด้วยนะ” หลินอี้ฉินยิ้มพลางสั่งกำชับฉางฉิง แล้วเดินออกไป
หลังจากปิดประตูห้อง ฉางฉิงก็ผลักเขาอยู่หลายที “นี่ ลุกขึ้นมานะ คุณนอนแบบนี้ แล้วคืนนี้ฉันจะนอนยังไงล่ะ”
“พ่อครับ ไม่เอาแล้ว ผมดื่มไม่ไหวแล้ว...” เขาเมาพลางปัดมือเธอออก สองขาเขี่ยถอดรองเท้าทิ้ง แล้วขยับตัวเข้าไปด้านในเตียง ดูเหมือนเด็กผู้ชายตัวโตไม่มีผิด
ฉางฉิงทั้งโมโหทั้งขำ จริงๆ เลย เมาจนถึงขนาดนึกว่ายังอยู่ที่โต๊ะ
แต่เธอไม่ช่วยเช็ดหน้าให้เขาหรอกนะ
ฮึ
_ _ _ _ _ _ _ _
ฉางฉิงหยิบเสื้อผ้าแล้วไปอาบน้ำ ห้องเธอมีห้องอาบน้ำในตัว แต่เป็นแบบกระจกฝ้าและไม่มีตัวล็อก เธอคิดว่าเขาหลับไปแล้ว จึงไม่ได้ใส่ใจอะไร
เมื่ออาบน้ำมาได้ครึ่งทาง ท่ามกลางเสียงน้ำที่ไหล ‘“ซู่ๆ’ เธอรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวที่ด้านนอก ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี จึงรีบปิดฝักบัว
ทันใดนั้นประตูห้องน้ำก็ถูกผลักเปิดออก ซ่งฉู่อี๋เดินโซเซเข้ามาข้างใน
ใบหน้าของฉางฉิงเหมือนถูกเปลวไฟร้อนจี๋นาบ เธอส่งเสียง “กรี๊ด” ออกมา “คุณจะทำอะไรน่ะ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
เธออยากจะไปหยิบเสื้อผ้า แต่เสื้อผ้าอยู่ที่ด้านหลังประตู เธอไม่มีที่ให้กำบังตัวเลย ได้แต่ใช้สองมือปิดหน้าอกไว้ พอรู้ตัวว่าไม่มีอะไรปกปิดช่วงล่าง เธอก็กระวีกระวาดเอามือข้างหนึ่งปิดช่วงล่าง แต่มีเพียงตัวเธอเองที่รู้ว่าที่จริงแล้วปิดกับไม่ปิด มันไม่ได้แตกต่างกันเลย
ดูเหมือนว่าซ่งฉู่อี๋จะไม่เห็นว่าเธออยู่ตรงนั้นด้วย ดวงตาที่สะลึมสะลือมองผ่านตัวเธอไป แล้วเดินโซเซไปที่หน้าชักโครก ยกฝาชักโครกขึ้น ปลดเข็มขัดออก รูดซิป...
ฉางฉิงตื่นตกใจอีกรอบ เธอส่งเสียงกรี๊ดออกมาอีกครั้ง แล้วพุ่งออกจากห้องอาบน้ำโดยไม่สนเรื่องที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า
หลังจากสวมชุดนอนเรียบร้อยแล้ว ฉางฉิงก็นั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องแต่งตัว ในหัวปรากฏภาพเมื่อกี้ขึ้นมาอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้
หลังจากที่หัวใจอันอ่อนแอบอบบางของเธอถูกทำร้ายอย่างหนัก หัวใจก็เต้นระส่ำโดยไม่ฟังคำสั่งใดๆ
เธอคิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนั้น เธอเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก รู้สึกตะลึงงันไปเล็กน้อย
..................................................