ตอนที่ 6: การปลุก 3
สิบนาทีผ่านไปตั้งแต่ที่เขาเริ่มตามอาร์ตลาน จุนฮยอกมองเห็นเนินลาดชัน ที่ปลายของมันมีหอคอยสูงประมาณห้าเมตร หอคอยมีนักธนูอยู่ทำให้เขานึกถึงหอเฝ้าระวัง หลังหอคอยมีสะพานที่ยาวประมาณสิบห้าเมตร ข้างหน้าของหอคอยมีคนที่นำกลุ่มมาผสมกับกลุ่มอื่นทำให้มีประมาณหนึ่งร้อยคน
ฝั่งตรงข้ามของสะพานมีหอคอยอีกหนึ่งอัน ข้างหน้าของหอคอยนั้นมีกลุ่มคนที่กำลังสวมเกราะรออยู่ แต่จุนฮยอกมองเห็นไม่ชัดเพราะพวกเขาอยู่ไกลเกินไป
จุนฮยอกมองไปที่พวกเขาและบีบเหรียญทองในมือของเขา เขาใช้เวลาสิบนาทีในการไปถึงที่นั่น จากที่ที่เขาอยู่ถึงหอคอยรักษาความปลอดภัยมันจะใช้เวลาน้อยกว่ายี่สิบนาที แต่ไมเคิลที่ตายไปเดินมาไม่ถึง
เหลือเพียงเหรียญทองที่ทิ้งไว้เท่านั้น
จุนฮยอกจ้องหลังของอาร์ตลานตาไม่กะพริบ เขาฟันหมาป่าอย่างง่ายดาย เขาแบ่งครึ่งหมาป่าด้วยการโจมตีเดียวและเขาสามารถช่วยพวกเขาได้ อาร์ตลานดูเหมือนจะไม่สนใจการจ้องมองของจุนฮยอกและเดินไปทางหอคอย จุนฮยอกถอนหายใจยาวๆและตามเขา
อาร์ตลานเข้าหอคอยโดยไม่พูดกับจุนฮยอก จุนฮยอกเงยหน้าขึ้นมองไปที่หอคอยรักษาความปลอดภัยและเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพิงกับกำแพงอิฐ เธอแต่งตัวเหมือนนักเวทย์ เธอเห็นจุนฮยอกและยิ้มให้เขา
จุนฮยอกกำลังจ้องไปที่เธอเมื่อชายคนหนึ่งเข้ามาหาเขา
"เกิดอะไรขึ้นกับชายผิวดำ"
จุนฮยอกหันหัวของเขาและเห็นคนเกาหลีก่อนหน้านี้ เขาทิ้งไมเคิลและจุนฮยอกไว้ข้างหลัง จุนฮยอกไม่ได้ตอบเขาและมองไปที่พื้นที่บริเวณสะพานต่อไป ชายเกาหลีเลียริมฝีปากและพูด
"มันไม่ใช่สถานการณ์ที่เหมาะสมที่จะเข้าไปยุ่ง"
จุนฮยอกไม่ได้โทษเขา แต่เขาไม่มีอารมณ์พูดและหัวเราะกับเขา เขาไม่ได้พูดอะไรและนี่ทำให้ชายเกาหลีโกรธ
"เจ้าสอดเรื่องคนอื่น! ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด!"
"ข้าไม่ได้พูดอะไรเลย" จุนฮยอกมองไปที่ชายเกาหลีในขณะที่เขาพูด เขาโกรธอาร์ตลานและสถานการณ์ที่ไม่สมเหตุสมผล
ชายคนนั้นเห็นความโกรธในดวงตาของจุนฮยอกและหยุดพูด
จุนฮยอกขยับเหรียญในมือของเขาซึ่งทำให้เขานึกถึงการตายของไมเคิล จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าคนรอบตัวเขาเริ่มตื่นเต้น จุนฮยอกมองตามสายตาของพวกเขาและเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนข้างหอคอย เธอมีชุดคลุมที่เหมือนนักเวทย์ แต่ชุดคลุมมีรูทำให้มันค่อนข้างโป๊ แต่เขาไม่ได้มองเธอเซ็กซี่ เธอสูงอย่างน้อยสองเมตร
เธอใช้นิ้วชี้ชี้มาที่จุนฮยอกและพยักหน้า จุนฮยอกชี้ที่ตัวเองด้วยนิ้วชี้และเอียงศีรษะ เธอยิ้มและพยักหน้า
"ใช่ เจ้า มานี่"
จุนฮยอกเข้าไปใกล้เธอ ผู้คนพูดคุยอยู่ข้างหลัง แต่เขาละเลยพวกเขาเมื่อเขายืนอยู่ข้างเธอ เธอมองมาที่เขาและพูด
"ตามข้ามา"
จุนฮยอกตามเธอเข้าไปในหอคอย หอคอยมีความพิเศษข้างในเพราะมันไม่ได้ทำด้วยอิฐทั้งหมด ภายในหอคอยมีไม้เป็นบันได เธอเดินขึ้นบันไดอย่างเงียบๆและจุนฮยอกตามหลังเธอ ด้านบนของหอคอยเธอมองไปที่อาร์ตลานและพูด
"ให้ข้าอธิบายให้เขาฟังไหม"
"เขามีคุณสมบัติที่จะได้รับคำอธิบาย"
อาร์ตลานดูราวกับว่าเขาไม่มีอะไรจะพูดเพิ่มเติม เขาหันมาและพูด
"ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้"
"ทำตัวตามสบายและกลับมา"
อาร์ตลานยิ้มเย็นชาและตอบ
"มันขึ้นอยู่กับว่าคนบ้านั่นทำอะไร"
อาร์ตลานลงไป ผู้หญิงกอดอกและพูด
"เจ้าขอให้อาร์ตลานอธิบายหรือ"
"ใช่ ข้าทำ"
"โชคดีที่เจ้าไม่ถูกฆ่า"
จริงๆจุนฮยอกรู้อยู่แล้วว่าเขาอาจถูกฆ่า ผู้หญิงยิ้ม
"ข้าชื่อวีร่า ถ้าเจ้าอยากรู้อะไรก็ถามข้า ถ้าข้ามีคำตอบข้าก็จะตอบเจ้า"
จุนฮยอกถามถึงสิ่งที่เขาอยากรู้ที่สุด
"ที่นี่คือที่ไหน"
"หุบเขาแห่งความตาย"
จุนฮยอกขมวดคิ้ว
"เจ้าก็รู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการรู้"
วีร่ายิ้ม แม้ว่าเธอจะสูงกว่าสองเมตรแต่เธอก็ยังค่อนข้างสวย
"ถ้าเจ้าต้องการคำตอบเบื้องต้นเพิ่มเติม สถานที่นี้ก็คือสนามรบมิติ"
"สนามรบมิติหรือ"
"ใช่ แต่ละมิติจะส่งอาสาสมัครมาต่อสู้ ดังนั้นนี่คือสนามรบมิติ"
มันเป็นไปได้อย่างไร
"นี่คือความฝันหรือ"
"ความฝันหรือ เจ้าจะคิดแบบนั้นก็ได้เนื่องจากร่างกายของเจ้ากำลังหลับ"
ทันใดนั้นความคิดที่น่ากลัวก็ผ่านหัวของเขา
"โรคลมหลับที่ผิดปกติหรือ"
วีร่ายักไหล่และตอบ
"เจ้าถูกอัญเชิญ ถ้าเจ้าถูกฆ่าในสนามรบมิติวิญญาณของเจ้าก็จะตายและร่างกายของเจ้าก็จะไม่มีวันตื่น"
จุนฮยอกไม่สามารถกำจัดความรู้สึกที่น่าขนลุกได้ จนถึงตอนนี้มันก็มีคนมากกว่าหนึ่งแสนคนที่อยู่ในอาการโคม่า
"จนถึงตอนนี้มีคนหนึ่งแสนคนที่ถูกนำมาที่นี่ พวกเขาทุกคนตายหมดเลยงั้นหรือ"
"มีเพียงหนึ่งแสนคนหรือ มันจะต้องเริ่มเมื่อไม่นานมานี้"
"เจ้าหมายความว่ายังไง"
วีร่าก้าวไปหาจุนฮยอก
"การอัญเชิญเริ่มขึ้นไม่นาน จำนวนนั้นจะเพิ่มขึ้น"
"ใครอยู่เบื้องหลังแผนการอันชั่วร้ายนี้ ทำไมเราจ้องมาที่นี่โดยไม่มีเหตุผลและตาย"
วีร่าหัวเราะและยิ้มกว้างให้จุนฮยอก
"เจ้าเคยจับแมลงและให้พวกมันต่อสู้กันไหม"
"อะไรนะ"
"การมีอยู่ของคนของเจ้าก็เป็นเหมือนแมลงนั้น"
จุนฮยอกรู้สึกโกรธ แต่ไม่ได้แสดงออกเพราะเขามองเห็นความเย็นชาในดวงตาของเธอ ดวงตาของเธอสว่างขึ้นด้วยพลังงาน พวกมันไม่แข็งแกร่งเท่าดวงตาของอาร์ตลานแต่พวกมันก็ดูอันตราย
"เจ้าเรียนรู้เร็ว"
จุนฮยอกถอนหายใจและมองที่วีร่า
"งั้นเจ้าก็เป็นแมลงด้วยงั้นหรือ"
วีร่าหัวเราะอีกครั้งกับคำถามของเขา
"เจ้าปราศจากความกลัว นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าขอให้อาร์ตลานอธิบาย"
วีร่าหยุดหัวเราะและตอบ
"อาร์ตลาน ข้าและคนอื่นๆแบบเราที่นี่อยู่ภายใต้สัญญา เรามีบางอย่างที่จะได้รับจากการมาที่นี่ เราไม่ได้เหมือนคนของเจ้าที่จะถูกโยนทิ้ง"
จุนฮยอกไม่ต้องการที่จะทำให้วีร่าโกรธดังนั้นเขาจึงถามในสิ่งที่เขาต้องการรู้
"ข้าเปิดใช้งานพลังของข้า มันหมายความว่ายังไง"
วีร่ายิ้มอีกครั้ง
"ใช่ เจ้าได้เปิดใช้งานพลังของเจ้า พลังของเจ้าเป็นประเภทไหน เจ้าแสดงให้ข้าดูได้ไหม"
"ข้าไม่สามารถควบคุมได้"
วีร่ายกมือขึ้นข้างหน้าของเธอและสร้างลูกไฟจากอากาศ
"เจ้าแน่ใจหรือ"
วีร่าสามารถโยนลูกไฟได้ทุกเวลา จุนฮยอกคิดเกี่ยวกับการมีชีวิตแล้วมันก็มีบางอย่างเคลื่อนไหวในหน้าอกของเขา เขาสร้างสนามสีขาวนวล
วีร่าโยนลูกไฟ
ตู้ม
มีการระเบิด แต่จุนฮยอกปลอดภัย ลูกไฟหายไป วีร่าเบิกตากว้าง
"นี่เป็นพลังระดับสูง มันเป็นทั้งความแข็งแกร่งทางกายภาพและเวทมนต์ มันเป็นสนามพลังที่ทรงพลัง"
สนามหายไป
"มันอยู่ประมาณสิบวินาทีหรือ"
เขาไม่ได้คิดเกี่ยวกับมันก่อนหน้านี้ แต่ถ้ามันอยู่ได้สิบวินาทีเขาก็ควรใช้มันเมื่อชีวิตของเขาอยู่บนเส้นด้าย หลังจากนั้นเขาก็จะคิดให้ออกว่าเขาจะสร้างสนามตามต้องการได้อย่างไร วีร่ายกมือไว้ที่คางของเธอ
"เจ้าสามารถใช้มันกับคนอื่นได้ไหม"
"อะไรนะ"
มันขึ้นอยู่กับความต้องการของเขาที่จะอยู่รอด เขาจะใช้กับคนอื่นได้อย่างไร จุนฮยอกตรวจสอบว่าเขาสามารถใช้มันกับวีร่าได้หรือไม่โดยการยื่นมือเข้าไปหาเธอ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น วีร่ายักไหล่
"ดูเหมือนว่าจะถูกต้อง เจ้าไม่สามารถใช้พลังระดับสูงเช่นนี้ได้กับคนอื่น มันยังไม่ได้พัฒนาเต็มที่"
"เจ้าหมายถึงอะไร"
วีร่าตอบในขณะที่ยิ้ม
"เจ้าต้องการรู้ว่าทำไมคนของเจ้าถึงถูกอัญเชิญมาที่นี่ใช่ไหม"
"ใช่"
"มันเป็นเพราะคนของเจ้ามีพลังที่มีศักยภาพ"
"พลังที่มีศักยภาพหรือ"
วีร่าเดินไปที่กำแพงอิฐและชี้ไปที่คนข้างล่าง
"ใช่พวกเขาทุกคนมีพลังที่มีศักยภาพแบบเจ้า แม้ว่าจะมีบางคนที่มีพลังที่อ่อนแอและไร้ประโยชน์"
จุนฮยอกยืนอยู่ข้างเวร่าและมองลงไป อาร์ตลานกำลังยืนอยู่ตรงกลางของสะพานและมีคนประมาณห้าสิบคนที่ดูกังวลข้างหลังเขา มีชายผมยาวยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของสะพาน เขาสูงสามเมตรและกำลังจับหอก ความสูงของอาร์ตลานอยู่แค่หน้าอกของเขาเท่านั้น ช้ายหลังชายคนนั้นมีคนประมาณห้าสิบคนกำลังตามเขา วีร่ามองที่ชายคนนั้นและพูด
"แน่นอนว่าในหมู่พวกเจ้าก็มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีพลัง"
"อะไรนะ มีคนมากกว่าหนึ่งแสนคนที่อยู่ในอาการโคม่าและมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเปิดใช้งานพลังของพวกเขา"
"รวมเจ้าก็มีคนเจ็ดคนเท่านั้น โดยปกติคนที่เปิดใช้งานพลังของพวกเขาจะเปิดออกมาโดยไม่รู้ตัวและจบลงด้วยการตาย"
มันหมายความว่าการเปิดใช้พลังของเขามันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะอยู่รอด วีร่าพิงกับกำแพงอิฐและมองที่เขา
"คนเจ็ดคนในหนึ่งแสนคนถือว่ามาก โดยปกติคนหนึ่งคนที่เปิดใช้งานจากหนึ่งแสน มีเหตุผลที่ดีที่คนของเจ้าถูกอัญเชิญมาที่นี่"
วิญญาณหนึ่งแสนคนได้หายไป เธอพูดแบบนี้ได้อย่างไร วีร่ายิ้มในขณะที่มองไปที่จุนฮยอกที่กำลังขมวดคิ้ว
"เจ้ารู้สึกไม่เต็มใจหรือ"
"ไม่ใช่ว่ามันเห็นได้อย่างชัดเจนหรือ"
วีร่ามองไปที่ท้องฟ้า
"ยอมแพ้เถอะ แม้ว่าเจ้าจะรู้สึกไม่ดีแต่เขาก็ไม่ใช่คนที่เจ้าจะจัดการได้"
"เจ้ารู้หรือว่าใคร"
วีร่ายังคงนั่งเคาะเท้ากับพื้น
"ข้าบอกเจ้าแล้ว เราที่นี่อยู่ภายใต้สัญญา"
"เขาคือใคร"
วีร่ากระโดดไปบนกำแพงอิฐและเต้น
"มันเป็นความลับ เจ้าไม่มีคุณสมบัติ"
จุนฮยอกคิดชั่วครู่และแสดงเหรียญทองคำ
"นี่คืออะไร"
วีร่ามองไปที่เหรียญด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
"เจ้าได้มาจากไหน"
"คนที่อยู่กับข้าทิ้งมันไว้เบื้องหลังเมื่อเขาตาย"
วีร่ากอดอกและพูด
"นั่นเป็นของขวัญจากคนที่อัญเชิญเจ้ามาที่นี่"
"ของขวัญหรือ"
"ใช่ ของขวัญ ทองบริสุทธิ์ที่มีค่าในทุกมิติ มันเป็นรูปแบบสกุลเงินที่เจ้าสามารถใช้ได้ในสนามรบมิติ"
"ข้าสามารถใช้มันที่นี่หรือ"
วีร่ายื่นแขนของเธอไปทางคนบนพื้น
"ใช่ เจ้าเห็นเหรียญทองเหล่านั้นไหม"
เธอเปรียบเทียบพวกเขากับแมลงและตอนนี้เป็นเหรียญทอง วีร่ามองที่จุนฮยอกและเขาฝังความรู้สึกของเขา
"แล้วสมุนคืออะไร"
"สมุนหรือ คนชั้นต่ำ ข้ารับใช้ ตามความหมายของมัน คนของเจ้าที่นี่อยู่ในระดับนั้น"
เขาโกรธในขณะที่เขาฟัง
"ทำไมเจ้าต้องอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ข้าฟัง"
วีร่ามีสีหน้าจริงจังและกระโดดมาข้างหน้าของจุนฮยอก เธอลดตัวลงให้สายตาอยู่ในระดับของสายตาจุนฮยอก
"เจ้าเปิดใช้งานความสามารถของเจ้า เจ้าเปลี่ยนจากสมุนเป็นมือใหม่"
"มือใหม่คืออะไร"
"มันเป็นตำแหน่งของคนที่เปิดใช้งานความสามารถของเขา"
ดวงตาของจุนฮยอกเปล่งประกาย
"นั่นหมายความว่าข้าสามารถใช้งานพลังได้มากขึ้นหรือ"
"ข้าไม่รู้ ถ้าพลังศักยภาพของเจ้าอยู่ในระดับมือใหม่เจ้าก็จะไม่สามารถก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นได้"
จุนฮยอกสงบใจลง
"ตอนนี้มันไม่สำคัญ ข้าจะอยู่รอดจากสถานที่นี้และกลับบ้านได้อย่างไร"
วีร่าพอใจกับคำถามของจุนฮยอกและยิ้ม
"นี่เป็นคำถามที่สำคัญที่สุด"
จุนฮยอกกลืนน้ำลาย วีร่าตอบด้วยรอยยิ้ม
"เจ้าต้องได้รับชัยชนะในสนามรบ แน่นอนว่าเจ้าต้องอยู่รอดก่อน"
คนหนึ่งแสนคนได้ตายไปแล้ว งานที่ยากที่สุดคือการอยู่รอดและกลับบ้าน จุนฮยอกกดเหรียญทองอย่างแรงและสัญญากับตัวเองว่าเขาจะกลับบ้าน
วีร่าเข้ามาใกล้เขา เธอเอนตัวมาข้างหูของเขาและกระซิบ
"จนกว่าสงครามจะจบต้องทำให้ดี"