ตอนที่ 46 ตงฟาง ยู่
"ต่อสู้กับเจ้า?"
เจียงวู่เฉิงกรอกตาด้วยความรู้สึกกังวลเล็กน้อย
ซื่อหม่าปู้พูดด้วยน้ำเสียงต่ำ "จูเถาเคยมีเรื่องกับข้า เขาจึงเกิดความขุ่นเคืองในตัวข้า ด้วยความที่ความแข็งแกร่งของเขาไม่เท่ากับข้า ดังนั้นเขาจึงไม่กล้ามาหาเรื่องข้าด้วยตนเอง เขาจึงส่งลูกศิษย์ของเขาไปสร้างปัญหาให้กับเจ้า เจ้าไม่ต้องไปสนใจเขา"
"อย่างงั้นหรือ?"เจียงวู่เฉิงรู้เหตุผล ในขณะที่จ้องมองที่ตงฟาง ยู่เขาส่ายหัวและพูดว่า"ขอโทษที แต่ข้าไม่สนใจ"
"ได้ยังไง? มันเป็นการแสดงว่าคนที่ท่านปู้พามานั้นเป็นคนขี้ขลาด?"ตงฟางยู่เอ่ยพร้อมยิ้มเยาะ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังกังวาลเพื่อที่จะดึงดูดความสนใจขององครักษ์ของคนที่อยู่ในห้องมั้งหมด
องครักษ์มังกรทองทั้งหมดต่างจ้องมาที่พวกเขาอย่างสนใจในทันที
เมื่อหลายคนจ้องมองมาที่เจียงวู่เฉิง จู่ๆเขาก็กดหมวกลงมาเพื่อปิดบังใบหน้าที่น่ากลัวของเข้า
"จูเถา เจ้าต้องการจะพูดอะไร?"ซื่อหม่าปู้ตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"ไม่มีอะไร ข้าไม่คิดเลยว่าคนที่เจ้าพามาจะหยิ่งยโสยิ่งนัก แต่อย่างไรก็ตามยังไงพวกเราก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จด้วยกันในภารกิจองครักษ์มังกรทองอยู่ดีในสามวันต่อจากนี้ แต่เขากลับยังโอหังไม่ทักทายข้า"จูเถาตอบด้วยความเย้ยหยัน
"เจ้าหมายความว่า ถ้าเกิดมีใครมาท้าท้ายเรา เราจำเป็นต้องรับคำท้า? ในกรณีนี้ข้าขอท้าทายเจ้า เจ้ามีความกล้าพอที่จะต่อสู้กับข้าหรือเปล่า?"ซื่อหม่าปู้กล่าวด้วยน้ำเสียงลึก
"ฮ่าฮ่า ท่านปู้เจ้ากำลังทำให้ข้าขำ ทุกคนนั้นรู้ถึงความแข็งแกร่งของเจ้า ข้าคงไม่กล้าที่จะต่อสู้กับเจ้า"จูเถากล่าว
เรื่องตลก? ซื่อหม่าปู้เข้าใจในแก่นแท้แห่งเปลวเพลิง เขายังเป็นองครักษ์มังกรทองสามกรงเล็บ และเขายังอยู่ในจุดสูงสุดของอาณาแก่นทองคำ ซื่อหม่าปู้นั้นแข็งแกร่งกว่าจูเถาอย่างมาก
"นักดาบ เจ้าจะหลบซ่อนอยู่ข้างหลังของท่าปู้ตลอดไปงั้นหรือ? หากเจ้าเป็นคนขี้ขลาดเจ้าจะมีคุณสมบัติอะไรที่จะทำให้ภารกิจองครักษ์มังกรทองหนึ่งกรงเล็บได้สำเร็จ?"ตงฟาง ยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
"เจ้าพูดถูก"เจียงวู่เฉิงจ้องมองด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย"ถ้าเป็นเพียงคำทักทาย ข้าคงไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธ เชิญ"
"เจียงวู่เฉิง"ซื่อหม่าปู้มองอย่างประหลาดใจ
"ไม่ต้องกังวล ข้ารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่"เจียงวู่เฉิงพูดด้วยเสียงที่เบา
เจียงวู่เฉิงยอมรับการท้าทาย และหลังจากคุยกันก็ได้รับการตัดสินว่าพื้นที่การต่อสู้จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งของห้องโถง
ในพื้นที่หลายสิบเมตร เจียงวู่เฉิงและตงฟาง ยู่ยืนอยู่ พร้อมกับองครักษ์มังกรทองจำนวนมากในบริเวณใกล้เคียงและมองดูอย่างมีความสุข
ในขณะที่ยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับด้ามไม้ยาวสีดำ ตงฟาง ยู่เปล่งประกายพลังออร่าที่พุ่งสูงขึ้น
"ไม้เท้างั้นเหรอ?"
การแสดงออกของเจียงวู่เฉิงเปลี่ยนไปเมื่อเขาดึงดาบสะบั้นชีพออกจากฝัก
"หนุ่มน้อยระวังตัวด้วย"ตงฟาง ยู่ยิ้มตามมาด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเขา จากนั้นเขาก็พุ่งออกไปในทันที แท่งไม้ยาวในมือของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำวาววับ
"ช้ามาก"
เจียงวู่เฉิงเห็นการเคลื่อนไหวของตงฟาง ยู่ที่เคลื่อนไหวมากตรงๆ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก
อันที่จริงแล้วการระเบิดความเร็วของตงฟาง ยู่ที่อยู่ในขั้นอาณาทะเลลมปราณผันแปรนั้นรวดเร็วอย่างมาก แต่เมื่อเทียบกับเจียงวู่เฉิงที่เข้าใจแก่นแท้แห่งลมนั้นมันค่อนข้างจะช้า
แม้ว่ามันจะช้า แต่พลังก็ไม่อ่อนแอ
"ข้าจะใช้เขาเพื่อปกปิดความแข็งแกร่งของข้า"เจียงวู่เฉิงยิ้มอย่างแผ่วเบาและหมุนดาบสะบั้นชีพอย่างกระทันหัน ปล่อยแสงดาบที่เปล่งเสียงหวีดซึ่งแบ่งออกอากาศเป็นสองซีก
เคร้ง!
ดาบสะบั้นชีพปะทะกับแสงสีดำที่เปล่งประกาย ทำให้เกิดเสียงสะท้อนดังไปทั่วพื้นที่ จากนั้นแสงสีดำก็เปลี่ยนเป็นงูตัวใหญ่บิดตัวมาไปในอากาศก่อนที่จะเปลี่ยนกลับไปเป็นไม้เท้า และเล็งไปที่เจียงวู่เฉิงในทันที
"อะไรน่ะ?"
เจียงวู่เฉิงดูเหมือนจะตื่นตระหนกขณะที่เขาสะบัดดาบเพื่อป้องกัน แต่เขายังคงถูกฟาดด้วยไม้เท้าทำให้เขาคุกเข่าลง ยิ่งไปกว่านั้นรูปแบบของงูนั้นยาวอย่างไม่คาดคิด ราวกับว่าปากที่ดุร้ายซึ่งมีขนาดใหญ่ของมันกำลังอ้าขึ้นเพื่อที่จะกัดเจียงวู่เฉิง
เจียงวู่เฉิงรีบยกดาบขึ้นมาในแนวนอนบนหน้าอกของเขา เพื่อป้องกันตัวเองด้วยความพยายามอย่างมาก
เป้ง!
เสียงปะทะกันดังก้องออกมา ขณะที่เจียงวู่เฉิงถูกกระแทกย้อนออกมาไปยังพื้นที่ข้างหลังเพื่อรักษาสมดุลร่างกายของเขา ยิ่งกว่านั้นยังเลือดที่ไหลออกจากปากของเขาในขณะนี้
"เหมือนกับเศษขยะจริงๆ!"
ตงฟางยู่วางไม้เท้าและพูดด้วยท่าทางที่ไม่แย่แสว่า"เจ้าไม่แม้แต่จะรับการโจมตีสามครั้งด้วยไม้เท้าของข้าด้วยซ้ำ แต่เจ้ากลับต้องการเป็นองครักษ์มังกรทองหนึ่งกรงเล็บ ไร้สาระ!"
หลังจากที่เขาพูดจบตงฟางยู่ไม่สนใจที่จะเหลียวมองเจียงวู่เฉิงอีก เขาเดินกลับไปหาอาจารย์ของเขา ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย
"จูเถา ลูกศิษย์ของเจ้าช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก!"
"เทคนิคของเขานั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก นอกจากนี้การฝึกฝนของเขาก็มาถึงจุดสูงของขั้นอาณาทะเลลมปราณ นอกจากนี้วิถีการฝึกฝนของเขาดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งปกติและการปลดปล่อยพลังลมปราณของเขานั้นแข็งแกร่งกว่านักรบทั่วไป
"เจ้าหาศิษย์ที่ดีเช่นนี้มาจากไหน?"
องครักษ์มังกรทองนั้นคุ้นเคยกับจูเถาอยู่แล้ว พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับตงฟางยู่ และไม่มีใครสนใจเจียงวู่เฉิงแม้แต่น้อย
ท้ายที่สุดในโลกนี้ความแข็งแกร่งจะได้รับการเคารพนับถือเสมอมา ตั้งแต่เจียงวู่เฉิงพ่ายแพ้และไม่สามารถรับ3กระบ่านท่าได้ เขาจึงไม่ได้รับความสนใจจากองครักษ์มังกรเหล่านี้ได้
"ฮ่าฮ่า ข้าจะบอกความจริงแก่พวกเจ้า ลูกศิษย์ของข้าจริงๆแล้วเขาเป็นลูกชายของเพื่อนเก่าข้า ข้าสังเกตเห็นถึงพรสวรรค์ของเขา ดังนั้นข้าเลยคิดจะส่งไปเขาที่วังมังกรทอง แต่ไม่มีใครสามารถแนะนำเขาได้"จูเถากล่าวพร้อมกับหัวเราะ
"วังมังกร?"
"เจ้าตั้งใจที่จะส่งเขาไปที่วังมังกรทอง แต่ไม่มีใครสามารถแนะนำเขาได้?"
"ฮ่าฮ่าจูเถาลูกศิษย์ของเจ้ายอดเยี่ยมจริงๆ!"
"วังมังกรทองมีชื่อเสียงอย่างมากเพราะองครักษ์มังกรทองหลายคนกำลังพูดถึงหัวข้อที่เกี่ยวกับ "วังมังกรทอง"
เจียงวู่เฉิงผู้ที่ไม่มีคนสนใจ ทิ้งความสนใจที่เกี่ยวกับบทสนทนา และเดินเข้ามาหาซื่อหม่าปู้
ซื่อหม่าปู้กำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียวที่โต๊ะ โยนสุราไปที่เจียงวู่เฉิงเมื่อเห็นเขากำลังเดินมา
"มาดื่มกัน"ซื่อหม่าปู้พูด
เจียงวู่เฉิงจับขวดสุราและดื่มโดยไม่ลังเล เขาเรียนรู้ที่จะดื่มจากซื่อหม่าปู้ในป่าแห่งความมืเในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้เมื่อเขาดื่มเขารู้สึกสบายอย่างมากที่ได้ลิ้มรสที่ร้อนแรงของสุรา
"สดชื่นจริงๆ"เจียงวู่เฉิงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
"เจ้าสามารถที่จะโจมตีเขาได้ ทำไมถึงได้ยอมแพ้"ซื่อหม่าปู้หัวเราะด้วยเสียงเบา
แม้ว่าคนอื่นจะไม่รู้ถึงพลังของเจียงวู่เฉิง แต่ซื่่อหม่าปู้นั้นรู้อย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าเจียงวู่เฉิงนั้นจงใจที่จะแพ้
นี่คือวังสาขาของวังมังกรทอง ดังนั้นจึงมีผู้คนผ่านเข้ามามากซึ่งอาจจะมีสายลับจากหอคอยขนนกโลหิต ข้าต้องการจะทำตัวให้อ่อนแอทุกคนจะได้มุ่งจุดจนสนใจไปที่ตงฟาง ยูดังนั้นทุกคนจะไม่สนใจข้า นั่นไม่ดีกว่าหรือ?"เจียงวู่เฉิงพูดและหัวเราะ
"ฮ่าฮา ข้าเข้าใจความตั้งใจของเจ้า แต่เจ้าไม่รู้สึกอายที่พ่ายแพ้ให้แก่ตงฟางยูภายใน3กระบวนท่าต่อหน้าผู้คนจำนวนมากหรือ?"ซื่อหม่าปู้ถามขึ้นอีกครั้ง
"เมื่อเทียบกับชีวิตของข้า การเสียหน้าของข้านั้นนับเป็นเรื่องเล็กน้อย!"เจียงวู่เฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้มและดื่มต่อไป
...