ตอนที่ 1: วันสัมภาษณ์ 1
ในขณะที่จุนฮยอก ลีมองไปในกระจกเขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆและขยับเน็คไทของเขา
"จุนฮยอก ลี แกจะต้องทำได้"
ดูราวกับว่าเขากำลังสะกดจิตตัวเอง เขาพูดกับกระจกและปิดตู้เสื้อผ้า เขาเดินไปรอบห้องนอนเพื่อดูว่ามันสะอาดแค่ไหน เมื่อมองไปที่ห้องที่เป็นระเบียบมันก็ทำให้เขาสงบใจลง
"เอาล่ะ"
เขารู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างจะออกมาได้ดี จุนฮยอกใส่รองเท้าสะอาดที่มันวาวและออกไปนอกประตู ระหว่างทางไปที่ป้ายรถเมล์เขาก็เอาสมาร์ทโฟนออกมา
ในขณะที่เขากำลังฟังคำถามที่เกี่ยวข้องกับการสัมภาษณ์ที่กำลังจะมาถึงเขาก็เห็นร้านขายของชำและเดินไปหามัน เมื่อเขาเห็นผู้หญิงยืนอยู่ข้างหน้าของเคาน์เตอร์ชำระเงินจุนฮยอกก็เปิดประตูที่มีกระดิ่ง
กริ๊งกริ๊ง
"ยินดีต้อนรับค่ะ" ผู้หญิงคนนั้นพูด เธอก้มศีรษะเพื่อตอบสนองต่อเสียงกระดิ่ง เธอมองไปที่จุนฮยอกและยิ้ม "นายกำลังจะไปสัมภาษณ์ใช่ไหม"
"ฮ่าๆ ใช่แล้ว มีนมกล้วยไหม"
"มีค่ะ"
จุนฮยอกหยิบนมสองกล่องและวางไว้ที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน โซยอน ชินทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายของชำ เธอจ้องที่เขาและเริ่มสแกนกล่องนมให้เขา
จุนฮยอกยื่นให้เธอกล่องหนึ่งและพูด
"ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี!"
โซยอนยิ้มทำให้เห็นรอยบุ๋มลึกที่แก้มของเธอและยกกำปั้นข้างหนึ่งมาทางเขา
"ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดี!" (ลองอ่านดูเห็นในเน็ตบอกว่ามันเป็นเหมือนกับมารยาทของประเทศเขา)
"ครั้งนี้ฉันจะได้งานแน่นอน" เขาพูดในขณะที่เขาออกจากร้านขายของชำ
โซยอนเฝ้าดูเขาไปและเอาหลอดดูดออกมา เธอแทงไปในกล่องนมและเธอก็เริ่มดื่มนม
"ครั้งนี้ทุกอย่างจะไปได้ด้วยดี" โซยอนพูด นี่เป็นครั้งที่ห้าที่เธอเห็นสถานการณ์นี้และเขาล้มเหลวในการหางานทุกครั้งก่อนหน้านี้
ในขณะที่โซยอนดื่มนมกล้วยของเธอเธอก็ได้ยินข่าวจากวิทยุ
"วันนี้เป็นวันศุกร์ ในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมามีโรคลมหลับและอาการโคม่าที่ผิดปกติในวันศุกร์ เพื่อเป็นการป้องกันทุกท่านควรเดินทางออกไปข้างนอกให้น้อยที่สุดในวันนี้ เราจะพูดอีกครั้ง วันนี้เป็นวันศูกร์ ในช่วง....."
การกระจายข่าวทางวิทยุทำให้เธอตกใจและเธอก็กระซิบ
"เขาจะไม่ขึ้นรถเมล์ใช่ไหม"
ที่ป้ายรถเมล์จุนฮยอกกำลังฟังคำถามที่เป็นไปได้ในการสัมภาษณ์งานในสมาร์ทโฟนของเขา ในขณะที่รถบัสกำลังใกล้เข้ามาเขาก็เก็บสมาร์ทโฟนของเขา
ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาคิด มีคนไม่มากบนรถบัสคันนี้ เขานั่งข้างหลังคนขับโดยไม่ลังเล ที่นั่งไม่สบายเพราะมันอยู่เหนือล้อโดยตรง แต่มันก็ยังเป็นจุดที่ดีสำหรับเขาที่จะฝึกการสัมภาษณ์ต่อไป
ประตูปิดลง ขณะที่รถบัสกำลังจะออกก็มีใครบางคนเคาะประตูหน้า มันเป็นหญิงชรา ประตูรถบัสเปิดและเมื่อเขาเห็นเธอขึ้นรถบัสเขาก็ลุกขึ้นยืน
"เชิญนั่งครับ"
หญิงชรามองไปรอบๆรถบัสและนั่งลงบนที่นั่งที่เขาบอก ยกเว้นจุนฮยอกทุกคนรอบๆดูแก่
หญิงชรานั่งโดยไม่ขอบคุณเขา แต่เขาไม่สนใจและยืนอยู่ข้างเธอเพื่อฟังเสียงในสมาร์ทโฟนของเขา
ในขณะที่เขากำลังจดจ่อกับรถบัสที่กำลังจะออกจากป้ายเขาก็ได้ยินเสียงวิทยุ
"วันนี้้เป็นวันศุกร์ คุณกาฮี วันนี้คุณมาที่สตูดิโอยังไง"
เมื่อวิทยุพูดชื่อกาฮีจุนฮยอกก็ให้ความสนใจมากขึ้น กาฮีเป็นนักแสดงคนโปรดของเขา แม้เธอจะดูดีแต่เธอก็ไม่ได้รับความนิยมมาก อย่างไรก็ตาม เธอได้รับความนิยมเล็กน้อยจากการไปรายการวิทยุ
"วันนี้เป็นวันศุกร์ดังนั้นฉันจึงขึ้นรถไฟใต้ดิน มันเป็นเพราะอุบัติเหตุเมื่อสองเดือนก่อนตอนนี้รถไฟใต้ดินมีคนบังคับสามคนดังนั้นมันจึงปลอดภัย"
จุนฮยอกรู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อฟังคำพูดของเธอ มันมีเรื่องต้องกังวล ตอนนี้เขากำลังขึ้นรถบัส เมื่อมองไปรอบๆผู้โดยสารส่วนใหญ่แก่มาก พวกเขาไม่สนใจเรื่องความปลอดภัย
"ทุกวันศุกร์ผู้คนจะได้รับผลกระทบจากโรคลมหลับที่ผิดปกติ ขณะที้มีผู้ป่วยจำนวนมากกว่าหกพันคนและภายในหนึ่งชั่วโมงคนที่ตกอยู่ในอาการโคม่าก็มีตัวเลขเกินหนึ่งแสน"
เสียงของกาฮีสั่นเล็กน้อย
"ฉันหวังว่าทุกคนจะตื่นอย่างปลอดภัย"
"นักวิชาการทั่วโลกกำลังทำงานเพื่อหาคำอธิบายกับปรากฎการณ์นี้ ดังนั้นข่าวดีจะมาในเร็วๆนี้ ตอนนี้เราควรมาฟังตอนของวันนี้"
จุนฮยอกหายใจเข้าลึกๆ
โรคลมหลับที่ผิดปกติทำให้คนหลับอย่างฉับพลัน มันแตกต่างจากโรคลมหลับปกติในขณะที่อยู่ในสภาวะโรคลมหลับที่ผิดปกติผู้คนจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ตัวอย่างเช่น ถ้าคนๆหนึ่งประสบกับโรคลมหลับในขณะที่กำลังขับขี่มันก็จะมีอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุแต่คนที่ได้รับผลกระทบจากโรคลมหลับที่ผิดปกติจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะอยู่ในอาการโคม่าและไม่ตื่นขึ้นมา
เมื่อพวกเขาได้รับผลจากโรคลมหลับที่ผิดปกติพวกเขาก็จะปลอดภัยจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่อุบัติเหตุเหล่านั้นก็จะทำให้คนมากมายเสียชีวิต อุบัติเหตุที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นบนเครื่องบิน นักบินและผู้ช่วยนักบินหลับและชนกับโรงแรม มีคนมากกว่าสี่ร้อยคนเสียชีวิต เพราะเหตุนี้ความสนใจของโลกจึงจดจ่อกับเรื่องนี้ ตอนนั้นผู้คนคิดว่าพวกเขาหลับ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ตอนนั้นพวกเขาก็ค้นพบเรื่องต่างๆมากมาย
หนึ่งในการค้นพบคือโรคลมหลับที่ผิดปกตินั้นเกิดขึ้นในวันศุกร์ คนส่วนใหญ่ที่ประสบจะมีอายุน้อยกว่าสี่สิบปีและมันรวมทั้งชายและหญิง ผู้คนที่ประสบกับโรคลบหลับจะมีความทนทานทางกายภาพ หลังจากนั้นเพียงหนึ่งชั่วโมงพวกเขาก็จะอยู่ในอาการโคม่าและร่างกายของพวกเขาก็จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
จุนฮยอกเกร็งและดูสีหน้าของคนขับ คนขับอยู่ในวัยห้าสิบดังนั้นเขาจึงรู้สึกปลอดภัยอีกครั้งและพยายามที่จะมีสมาธิกับสมาร์ทโฟนของเขา
เขาได้ฟังคำถามสัมภาษณ์ แต่เขาไม่ได้สนใจมันแล้ว เขาถอนหายใจและกลับไปฟังรายการวิทยุ
เขาได้ยินเสียงของกาฮี
"ฉันหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างของทุกคนในวันนี้จะเป็นไปได้ แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีค่ะ"
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอจุนฮยอกก็รู้สึกราวกับว่าการสัมภาษณ์ของเขาในวันนี้จะไปได้ด้วยดี ดังนั้นเขาจึงเก็บสมาร์ทโฟนใส่กระเป๋าของเขา หญิงชราที่นั่งอยู่บนที่นั่งของเขาเรียกเขา
"พ่อหนุ่ม"
"ครับยาย"
"รถบัสคันนี้ข้ามเส้นเหลืองหรือเปล่า" เธอพูดในขณะที่มองออกไปนอกหน้าต่าง
"อะไรนะ" จุนฮยอกหันหัวไปมองข้างหน้า ในขณะนั้นรถบัสกำลังข้ามเส้นเหลืองอย่างช้าๆ เขารีบไปที่คนขับซึ่งเขาพบว่าคนขับหลับไปแล้ว "เวรแล้ว!"
โรคลมหลับที่ผิดปกติควรจะส่งผลกระทบต่อคนที่อ่อนกว่า 40 เท่านั้น
จุนฮยอกหมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็วและข้ามไปด้านในของเส้นเหลือง แต่ขาคนขับที่หลับไปแล้วเหยียบคันเร่งและระยะทางกับรถคันหน้าก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
จุนฮยอกบีบแตร
ปิ๊น!
เมื่อได้ยินเสียงแตรหน้าต่างของรถคันหน้าก็เปิดและคนขับก็ชูนิ้วกลางให้เขา
"หลบไป!"
แม้ว่าเขาจะตะโกนแต่รถคันหน้าก็ยังวิ่งตรงต่อไป ดังนั้นจุนฮยอกจึงหมุนพวงมาลัยและพยายามหลบมัน อย่างไรก็ตาม รถบัสยังคงเร่งความเร็วและโดนกันชนหลังของรถคันหน้าเล็กน้อย
ตู้ม
คนๆนั้นไม่ได้คาดหวังว่าจะโดนชนและหน้าตาที่ดูไม่ดีของเขาก็ออกมานอกหน้าต่างและตะโกน
"ไอ้เวร! รถนี้...."
ในขณะที่เขากำลังจะสบถต่อเขาก็เห็นคนขับหลับและจุนฮยอกกำลังจับพวงมาลัย เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็ตกใจและหยุดสบถ โรคลมหลับที่ผิดปกติเป็นปัญหาทั่วโลก เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน
"หลบไป!"
ชายคนนั้นขยับไปและทำให้ตัวเองสงบลง
"ทุกสิ่งทุกอย่างยุ่งเหยิงไปหมด!" จุนฮยอกจับพวงมาลัยและตะโกนใส่ผู้โดยสารคนอื่น "ช่วยผมด้วย!"
"เกิดอะไรขึ้น"
ผู้โดยสารส่วนใหญ่แก่ แต่หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะอายุสี่สิบ เขามาข้างหน้าและเริ่มตบคนขับ
"เฮ้ ตื่น!"
เพี๊ยะ เพี๊ยะ
แม้ว่าเขาจะตบแต่คนขับก็ไม่ตื่น เห็นได้ชัดว่ามันเป็นกรณีของโรคลมหลับที่ผิดปกติ จุนฮยอกเพ่งความสนใจใหม่
"เราต้องเหยียบเบรก จับพวงมาลัยไว้"
"ตกลง"
ชายที่มาช่วยจับพวงมาลัยไว้ในขณะที่จุนฮยอกผลักเท้าของคนขับจากคันเร่ง เขาเหยียดขาลึกเข้าไปและเขาก็เหยียบเบรก
เอี๊ยดดด
มาตรวัดความเร็วอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่มันก็เริ่มช้าลง ความเร็วลดลงและรถบัสก็หยุด จุนฮยอกถอนหายใจด้วยความโล่งอก
มันเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัว
โครม
มีเสียงดังมาจากภายนอกผ่านหน้าต่างรถบัส จุนฮยอกหันไปมองแล้วเขาก็แข็งทื่อ คนขับรถในเลนตรงข้ามจะต้องมีอาการโรคลมหลับผิดปกติ รถชนรถอีกคันและมันก็พุ่งมาทางรถบัส รถกระเด็นออกจากพื้นและมันก็บินมาทางที่นั่งคนขับของรถบัส เมื่อมองเหตุการณ์ทั้งหมดนี้จุนฮยอกรู้สึกเหมือนกับว่าเวลาช้าลง
เขารีบผลักคนที่จับพวงมาลัยไปด้านข้างและตระหนักว่าเขาไม่มีเวลาพอที่จะหลบ
รถบินมาทางหน้าต่างแล้ว
ในขณะนั้นจุนฮยอกคิดเกี่ยวกับอาการโรคลมหลับที่ผิดปกติ เมื่อคนๆนั้นหลับไปจะสามารถทนต่อเหตุการณ์ทางกายภาพ ถ้าเขาไม่ได้ยินวิทยุในเวลาก่อนหน้านี้เขาก็คงจะไม่นึกถึงความจริงนั้น
จุนฮยอกซ่อนข้างหลังที่นั่งคนขับอย่างรวดเร็ว จากนั้นรถที่บินมาจากเลนตรงข้ามก็ชนหน้าต่าง
โครม
หน้าต่างแตกเป็นชิ้นเล็กๆและเนื่องจากแรงกระแทกทำให้รถบัสสั่นสะเทือนจากด้านข้าง จุนฮยอกที่กำลังซ่อนอยู่ข้างหลังที่นั่งคนขับตกใจจากแรงกระแทกและเริ่มสับสน
ด้วยความโชคดีที่รถที่บินโดนหน้าต่างเบี่ยงขึ้นไปและขึ้นไปอยู่ข้างบนของรถบัส ถ้ารถทะลุหน้าต่างและชนที่นั่งคนขับจุนฮยอกก็คงจะตายอย่างแน่นอน
จุนฮยอกผลักที่นั่งคนขับด้วยแรงทั้งหมดของเขาและลุกขึ้นยืน ในขณะนั้นเขารู้สึกว่าหัวของเขากำลังหมุนและเซไปมา เขาจับเสาเหล็กเพื่อทำให้ยืนได้อย่างมั่นคง
เมื่อมองไปข้างหลังเขาทุกคนก็ดูกลัว แต่ไม่มีใครตาย ชายที่จับพวงมาลัยดูไม่เหมือนว่าเขาต้องการการดูแลฉุกเฉินแม้ว่าจะมีเลือดออกเล็กน้อยเพราะมีรอยข่วนเล็กน้อยจากกระจกที่แตก เขาดูไม่เป็นไรเพราะจุนฮยอกผลักเขาออกไป
"ทุกคนไม่เป็นไรใช่ไหม"
"ชายหนุ่ม สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม"
"ผมสบายดี"
หญิงชราที่นั่งอยู่ในที่นั่งของเขาดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาและพูด
"หน้าผากของเธอมีเลือดไหลออกมาเยอะมาก"
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขารู้สึกเวียนหัว! ร่างกายของเขาอยู่ในสภาพที่น่ากลัว จุนฮยอกเอาผ้าเช็ดมาจากหญิงชราและเอามันกดกับหน้าผากของเขา
"ขอบคุณครับ"
"ไม่ต้องขอบคุณเรา! เธอช่วยเรา! เราควรขอบคุณเธอ!"
จุนฮยอกพูดด้วยรอยยิ้ม
"ยังไงก็ตาม เราควรไปขึ้นรถบัสคันอื่น ทำไมเราถึงไม่ลงรถกันก่อนล่ะ"
ทุกคนลุกขึ้นจากที่นั่งของพวกเขาอย่างระมัดระวัง
เอี๊ยดด
บางทีมันอาจเป็นเพราะน้ำหนักของรถที่อยู่ด้านบนของรถบัส หลังคาของรถบัสกำลังตกลงมาอย่างรวดเร็ว เขามองเห็นชายชราที่กำลังลุกขึ้นยืนจากที่นั่งของเขาอย่างเชื่องช้าและกำลังถือกระเป๋าอยู่
จุนฮยอกวิ่งไปหาเขา เขากอดชายชราและกลิ้งตัวไป
โครม
หลังคาของรถบัสฉีกออกและรถที่อยู่ด้านบนของรถบัสก็พุ่งลงมาโดนที่นั่งที่ชายชราเคยนั่ง จุนฮยอกถอนหายใจด้วยความโล่งอกและชายชราก็พูดว่า
"ชายหนุ่ม เธอเป็นอะไรไหม"
"ผมไม่เป็นอะไรครับ ปู่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม"
"ขาของเธอ"
จุนฮยอกมองลงไปที่ขาของเขาและพบว่ากางเกงของเขาขาดและหน้าแข้งซ้ายของเขาถูกตัดจนมีเลือดออก
ชายชราดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาและพันรอบหน้าแข้งของจุนฮยอก
"ผมทำเองได้ครับ"
"ในวันที่ฉันยังเด็กฉันเคยเป็นแพทย์ในกองทัพ" ชายชราพันรอบบาดแผลแน่น "เรามีปัญหาใหญ่ เราจะลงอย่างไร"
จุนฮยอกลุกขึ้นยืนและหยิบค้อนฉุกเฉินออกมาเพื่อทุบหน้าต่าง
"ปู่หลบไปด้านข้าง ผมจะทุบหน้าต่าง"
"ชายหนุ่ม เธอจะทำได้หรือ"
เมื่อรถยนต์ตกลงมาจากหลังคามันก็แยกรถบัสออกเป็นสองส่วนคือข้างหน้าและข้างหลัง มีคนห้าคนอยู่ข้างหลัง เขาตัดสินใจที่จะพาคนทั้งห้าออกจากไปก่อนแล้วไปข้างหน้า
"ผมทำได้" จุนฮยอกกระซิบราวกับว่าเขาพูดกับตัวเองและตีหน้าต่างอย่างแรงด้วยค้อนในมือของเขา