ตอนที่ 30 จักรพรรดิคาโอ
ตอนที่ 30 จักรพรรดิคาโอ
กองทัพฟินเดลยึดเมืองเดเซียสกลับจากฝ่ายอคาซัสสำเร็จ ยังดีที่ทัพอคาซัสยึดเมืองได้ก็ไม่ถึงกับเผาทำลาย ทำให้สภาพเมืองยังสมบูรณ์เกือบทั้งหมด ฟินเดลรีบสั่งทหารซ่อมกำแพงเมืองให้เร็วที่สุดเพื่อรับมือกับทัพใหญ่ของคาโอ
“ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอสยอดเยี่ยมจริง ๆ พ่ะยะค่ะ ฝ่ายศัตรูเพียงเจอก็หนีแตกพ่าย ทำให้ทหารฝ่ายเราแทบไม่โดนพิษเลย”เคเดียนเสนาบดีกลาโหมวัยเกือบหกสิบปีกล่าวชมกษัตริย์หนุ่ม
ฟินเดลเพียงพยักหน้า สีหน้าเขายังเคร่งเครียด
ไม่นาน เซน่า ฟินโอร่า พร้อมทั้งนักบุญเจฟก็เดินขึ้นบันใดกำแพงเมืองมาพร้อมทหารเกราะเงินงดงามสลักลายเพกาซัส ทหารผู้นี้ถวายความเคารพฟินเดล
“ไดลัน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” ฟินเดลถามพร้อมเดินไปจับไหล่ทหารผู้นี้
ไดลันเป็นหัวหน้าทหารม้าเพกาซัส เขามีอายุราวสามสิบต้น ๆ
ไดลันกล่าวว่า “เพราะปัญญาของพระนางฟินโอร่าทำให้เราได้ชัยอย่างงดงาม”
ฟินเดลกล่าวว่า “ลำบากเจ้าแล้ว เจ้าต้องทนกับหน้าที่ฝึกเพกาซัสอยู่นาน แต่เจ้าก็ทำได้ดีเยี่ยม”
ไดลันกล่าวว่า “ข้าพระองค์เพียงแค่เลี้ยงเพกาซัส ยังอยู่สุขสบายกว่าพระองค์ที่ต้องแบกรับภาระดูแลทั้งแผ่นดิน”
ฟินเดลหันไปกล่าวกับพวกเซน่าว่า “พวกเจ้าล่ะเป็นอย่างไร?”
“ธังวอร์มตายด้วยมือของเจฟ” เซน่าเอ่ยขึ้น
ฟินเดลหันไปจ้องนักบุญเจฟ ที่ผ่านมาเขาเคยเห็นเจฟมาบ้างแต่ก็ไม่ได้สนใจนัก เขากล่าวว่า “ได้ท่านช่วยศึก ทำให้ฝ่ายเราได้เปรียบขึ้นอีกมาก”
เจฟกล่าวว่า “ข้าพระองค์มาช่วยศึก ส่วนหนึ่งก็เพื่อทวงถามความยุติธรรมให้อาณาจักรซิลเวอเนียของข้าพระองค์ด้วย”
ฟินเดลพยักหน้า
ฟินโอร่ากล่าวขึ้นบ้างว่า “ไม่นานทัพคาโอคงมาถึง ครั้งนี้ไม่ง่ายเหมือนกับทัพของอคาซัส”
จากนั้นฟินโอร่าถอนใจกล่าวต่อว่า “เสียดายข้าสังหารอคาซัสไม่ได้”
ฟินเดลกล่าวว่า “ไม่เป็นไร แต่แผนของเจ้ายอดเยี่ยมจริง ๆ แสร้งทำเป็นทะเลาะกับข้าต่อหน้าขุนนาง พอยามค่ำคืนกลับเข้ากระโจมข้าเสนอแผนเผาทัพอคาซัสด้วยไฟ เจ้ายกทัพเข้าป่าเรฟ่อน ให้ข้าแบ่งทัพมาตีเมืองเดเซียส แม้แต่ข้ายังเชื่อสนิทใจว่าเจ้าโกรธ”
ฟินโอร่ายิ้มพลางกล่าวว่า “จะทำให้ศัตรูหลงกล ต้องทำให้ฝ่ายตนเองเชื่อให้ได้ก่อน”
เซน่าเห็นฟินโอร่าเล่นละครได้ยอดเยี่ยมก็รู้สึกทึ่งนางไม่น้อย หวนนึกถึงหากสักวันต้องเป็นศัตรูกัน สตรีนางนี้อาจน่ากลัวไม่น้อยไปกว่าซาอู
หากเรดิกัลโกหกได้คล่องแคล่วเหมือนวิชาดาบของเขา ฟินโอร่าก็เล่นละครได้เก่งไม่แพ้วิชาเวทไฟของนาง
เซน่าจ้องมองไปที่ดาบที่เหน็บอยู่ข้างเอวฟินเดล เห็นดาบนั้นด้ามดาบสีขาว โกร่งดาบสีทอง ปลอกดาบขาวสะอาด ดาบนั้นคือดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอสที่นางปรารถนา เสียดายตั้งแต่ออกศึกมานางยังไม่ได้เห็นอานุภาพของมัน
ฟินเดลกล่าวกับเซน่าว่า “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่โดนพิษของพวกมันใช่หรือไม่?”
เซน่าพยักหน้า “พวกมันไม่มีโอกาสสัมผัสตัวข้า”
ฟินเดลพจับข้อมือเซน่าพาเดินสำรวจกำแพงเมือง เซน่าแม้จะไม่ยินยอมแต่แรงนางก็สู้ฟินเดลไม่ได้ อย่าว่าแต่การฉุดกระชากลากถูกันไปมาจะทำให้เป็นที่สนใจของทหารนับร้อยที่อยู่บริเวณนี้ นางได้แต่ปล่อยให้เลยตามเลย
ฟินเดลกล่าวว่า “ข้าต้องขอบใจเจ้า ตอนนั้นข้าแต่งตั้งให้เจ้าเป็นราชินี หวังให้เจ้าได้สุขสบายเพราะได้ช่วยข้าไว้ นึกไม่ถึงกลับทำให้เจ้าลำบากเข้าสู่สมรภูมิที่อันตราย ความจริงข้าอยากให้เจ้าอยู่เมืองหลวงมากกว่า”
เซน่ากล่าวว่า “ข้าก็นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะมีทัพเพกาซัส”
ฟินเดลกล่าวว่า “เหล่าเพกาซัสถูกเลี้ยงไว้ที่สถานที่เป็นความลับ อีกอย่างสัตว์วิเศษเหล่านี้ไม่ชอบให้มนุษย์รบกวน หากไม่จำเป็นข้าก็ไม่อยากนำมันออกทำศึก”
เซน่าถามว่า “เจ้ามั่นใจจะรับมือคาโอได้หรือไม่?”
ฟินเดลสีหน้าเคร่งเครียดกล่าวว่า “ข้าไม่รู้ แต่ข้ารู้อย่างหนึ่ง”
“อะไร?” เซน่าถาม
ฟินเดลคลายสีหน้าเคร่งเครียดและยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้าต้องปกป้องเจ้า แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต”
เซน่ารู้สึกสะอิดสะเอียนไม่น้อยที่มีบุรุษมากล่าวเช่นนี้ด้วย แต่เห็นแววตาฟินเดลแฝงไปด้วยความจริงใจ นางก็ได้แต่นิ่งเงียบไม่โวยวาย
แสงอาทิตย์อ่อน ๆ เริ่มสาดส่องในยามเช้า บนกำแพงเมืองเดเซียส กษัตริย์หนุ่มและราชินีงามต่างยืนจ้องตากัน ฟินเดลก้มหน้าลงหมายจุมพิตสตรีที่งดงามราวเทพธิดานางนี้
เซน่าได้แต่รีบถอยกายออกกล่าวว่า “อย่าได้ทำเหลวไหล”
ฟินเดลถามว่า “ข้ากับเจ้าเป็นสามีภรรยา มันเหลวไหลยังไง?”
เซน่ากล่าวว่า “ในยามศึก ไม่สมควรทำเช่นนี้”
ฟินเดลกล่าวว่า “นี่เพียงแค่จุมพิต หาได้เกินเลย”
เซน่ารีบตอบว่า “ทหารหลายนายจากบ้านจากภรรยา เจ้าควรนึกถึงจิตใจพวกเขาบ้าง”
ครั้งนี้ฟินเดลเห็นด้วยจึงกล่าว “นึกไม่ถึงเจ้าจะละเอียดอ่อนคำนึงถึงจิตใจทหาร”
ตลอดชีวิตของเซน่าไหนเลยเคยคำนึงถึงจิตใจทหาร?
ยามเที่ยง นกเธอร์ดิกซ์สีขาวของฟินโอร่าบินมาอย่างรวดเร็ว มันร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงกระชั้นสั้นหลายครั้ง แสดงถึงสัญญาณเตือนภัย ฟินโอร่าซึ่งนอนอยู่ในจวนของเจ้าเมืองรีบตื่นขึ้นและหยิบดาบโกร่งกุหลาบของนางขึ้นมา
นางสั่งทหารทุกหน่วยให้เตรียมพร้อม ข้าศึกคงจะมาถึงไม่นาน
กองทัพอมนุษย์มหึมาดุจคลื่นยักษ์ทยอยเคลื่อนตัวมาถึงเมืองเดเซียส พวกมันมีจำนวนมากจนสุดจะนับได้ เคเดียนประเมินว่าทัพนี้อาจมากถึงหนึ่งแสน ขณะที่ทัพฟินเดลมีทหารอย่างมากไม่เกินหกหมื่นคน
ฟินเดล เซน่า ฟินโอร่า เจฟ เคเดียน ไดลัน กิลฟอร์ด ต่างขึ้นอยู่บนกำแพงเมืองสีขาว ฟินเดลมองไปยังทัพของคาโอที่เคลื่อนตัวเข้ามาจึงถาม “ผู้ใดคือคาโอ?”
คำถามยังไม่ทันได้รับคำตอบ สัตว์สีเทาขนาดใหญ่ตัวหนึ่งบินมากลางอากาศพร้อมเหล่ามังกรไวเวิร์นหลายร้อยตัว
เมื่อสัตว์ตัวนั้นเข้ามาใกล้ พบว่ามันมีร่างกายมันมีสี่ขาและขาเป็นเกล็ดคล้ายมังกร แต่ลำตัวมีขนแบบนกเป็นสีเทา หัวมันเหมือนกับนกแร้ง ปีกของมันสยายออกกว้างใหญ่กว่าสัตว์ปีกชนิดใด ทุกครั้งที่กระพือปีกจะมีแรงลมรุนแรง จนพวกไวเวิร์นไม่อาจเข้าใกล้
บนสัตว์สีเทาตัวนี้ ยืนไว้ด้วยคนผู้หนึ่งร่างสูงใหญ่กว่ามนุษย์สองเท่า ผมเขาสีขาวยาวสยาย ใบหน้าสี่เหลี่ยมหน้าเกรงขาม ผิวสีเทา แต่ดวงตาสีเหลืองเจิดจ้าดุจดวงตะวัน
มือของคนผู้นี้ยังถือหอกใหญ่ด้ามหนึ่ง ใบหอกมีสีเทาหม่น ด้ามหอกสีน้ำตาล
“หอกเอ็นดัวร์แรนซ์ (Endurance - ความอดทน) หนึ่งในหกอาวุธในตำนาน ฟังว่าหอกนี้สามารถแยกได้แม้กระทั่งพสุธาอันกว้างใหญ่” เคเดียนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเครียด
“พญาวิหคนาร์กิส ไม่น่าเชื่อตำนานที่เล่าขานจะมีอยู่จริง” ไดลันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ฟินโอร่าขมวดคิ้วเรียวงาม นึกไม่ถึงคาโอจะมีทั้งหอกแห่งพสุธาซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธในตำนาน ซ้ำยังมีพญาวิหคนาร์กิสเป็นพาหนะ คนผู้นี้สามารถสู้ได้ทั้งทางบกและอากาศ เพียบพร้อมมากกว่าศัตรูคนใดที่นางเคยเจอ
พญาวิหคนาร์กีสบินมาอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ถึงบริเวณกำแพงเมืองเดเซียส มันบินสูงอยู่เหนือพวกฟินเดลไม่มากนัก ทุกครั้งที่มันกระพือปีก เหล่าทหารโกลด์เด้นกราวด์แทบยืนทรงตัวไม่ได้
คาโอยืนอยู่บนพญาวิหคจ้องมองลงมายังเบื้องล่าง ราวกับเห็นพวกฟินเดลเป็นเพียงมดปลวกอันต่ำต้อย มันมองไปที่สตรีสวมเกราะแดงขลิบทองและกล่าวว่า
“เจ้าคือฟินโอร่า?”
คำแรกที่คาโอกล่าวถึงคือกุหลาบศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองโกลด์เด้นกราวด์
ฟินโอร่ากล่าวว่า “หากไม่ต้องการสูญเสียเหมือนเช่นอคาซัส จงรีบถอยทัพ”
คาโอยิ้มเล็กน้อย มันรู้สึกพอใจอย่างยิ่งที่ได้พบศัตรูที่คู่ควร ตั้งแต่มันก่อตั้งอาณาจักรแอสเทลสำเร็จ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่กล้ากล่าวท้าทายมัน
ฟินเดลกล่าวว่า “หากเจ้าถอยทัพ เราจะยังสามารถสร้างความเป็นพันธมิตร หากเจ้าไม่ยินยอม ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอสจะปลิดศีรษะเจ้า”
คาโอจ้องมองไปที่ดาบที่เหน็บอยู่หว่างเอวของฟินเดล มันนิ่งเงียบไม่อาจเดาความคิดได้
ฟินเดลก็จ้องมองมันโดยไม่เกรงกลัว คาโอกล่าวว่า
“หากเจ้าไม่อยากให้แผ่นดินที่สร้างมาเจ็ดร้อยปีต้องล่มสลาย จงส่งมอบหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียนมา”
ฟินโอร่ากล่าวว่า “หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงตำนาน หากเจ้านำตำนานเป็นเหตุในการก่อสงคราม ผู้คนทั้งแผ่นดินเหนือใต้คงหัวเราะเยาะเจ้า”
ขณะที่คาโอจะตอบ เซน่าพลันถามว่า “เจ้ามีหลักฐานอะไรว่าหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่กับฟินเดล?”
คาโอจ้องมองเซน่า มันไม่สามารถสัมผัสถึงพลังเวทมนตร์จากสตรีนางนี้ได้ คาโอรู้สึกแปลกใจไม่น้อย
คาโอเงียบไม่ตอบ มันรู้สึกว่าสตรีไร้เวทมนตร์นางนี้ไม่คู่ควรกับการให้มันเจรจา
“เจ้าสั่งทำลายวิหารเพสเทียร์ทำไม?” เจฟร้องถามขึ้น
คาโอหันไปมองนักบุญเจฟ เห็นเจฟถือคทาทองแดงบนคทามีแร่สีอำพันอยู่ ดวงตาที่เจิดจ้าของมันยิ่งลุกวาวกว่าเดิม
“ที่แท้อยู่กับเจ้า” คาโอเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย
สิ้นคำคาโอ พญาวิหคนาร์กีสพลันส่งเสียงกรีดร้องแสบหูยิ่งกว่าเสียงของภูติผีในนรก จากนั้นมันสยายปีกออกก่อเกิดลมกรรโชกรุนแรงแทบพัดพวกฟินเดลลอยตกจากกำแพงเมือง
ฟินเดลจับมือเซน่าไว้แน่น เขารู้ว่าเซน่าไม่มีพลังเวทมนต์คุ้มกาย เหล่าทหารต่างยิงธนูนับร้อยใส่พญาวิหค แต่แรงกระพือปีกของมันก่อเกิดเป็นพลังลมมหาศาล ลูกธนูจำนวนมากถูกแรงลมกระแทกปลิวกระเด็น ยังมีบางส่วนลอยตกลงไปใส่พวกทหารได้รับบาดเจ็บ
“แสงแห่งสรวงสวรรค์” ฟินเดลยิงแสงสีขาวจากมือพุ่งใส่คาโออย่างรวดเร็ว คาโอขยับหอกเอ็นดัวร์แลนซ์ใช้ใบหอกใหญ่ปิดป้องก็กันเวทฟินเดลไว้ได้
ฟินโอร่ายิงเวทเสาแห่งเปลวเพลิงออก ส่วนนักบุญเจฟก็ชูสองมือยิงเวทนกฟินิกส์แห่งสรวงสวรรค์ พลังเวทมหาศาลของทั้งสองพุ่งตรงใส่คาโออย่างรวดเร็ว
คาโอสะบัดหอกเอ็นดัวร์แลนซ์ต้านทานเวทของทั้งสอง แต่ชั่วพริบตาก็มีสตรีนางหนึ่งกระโดดอยู่สูงอยู่เหนือหัวมัน
เซน่า !
เซน่าให้ฟินเดลใช้แรงกระแทกจากเวท “โฮรี่ บรีพ (Holy Belief-ศรัทธาสิ่งศักดิ์สิทธิ์)” ส่งกายนางให้ลอยตัวสูงขึ้น นางฟันดาบขวางใส่คาโอทันที !!
เพลงดาบเงาจันทรา แสงจันทร์ครึ่งดวง !
พลังดาบของเซน่ารุนแรงและรวดเร็ว คาโอรีบยกหอกเอ็นดัวร์แลนซ์ไปตั้งรับ คาดไม่ถึงดาบเซน่าพลิกแพลงจากฟันตรงเป็นฟันขวางอย่างกะทันหัน คาโอรีบถอยกายหลบไปครึ่งก้าว แต่ดาบเซน่ารวดเร็วยิ่ง ยังกรีดเสื้อผ้าที่หน้าอกมันขาดเล็กน้อย
คาโอรีบยื่นมือออก ทันใดเซน่ารู้สึกมีพลังอัดกระแทกนางจนปลิวกระเด็น ร่างเซน่าลอยกลางอากาศ คาดว่าจะตกจากกำแพงเมืองแน่นอน
แต่เหมือนดุจดังปาฏิหาริย์ ไดลันหัวหน้าทหารเพกาซัส รีบขี่เพกาซัสมารับร่างเซน่าไว้ พอไดลันเห็นพวกฟินโอร่าสู้กับคาโอก็รีบเรียกเพกาซัสคู่ใจซึ่งอยู่ใต้กำแพงเมืองมา
เพกาซัสสมเป็นเจ้าแห่งนภา ความเร็วของมันยังเร็วกว่ามังกรไวเวิร์นมากนัก
คาโอกำหอกเอ็นดัวร์แลนซ์แน่น ทันใดบริเวณกำแพงเมืองพลันสั่นสะเทือน มันเตรียมใช้หอกแห่งพสุธาทำลายกำแพงเมืองแล้ว !!
แต่มันไม่มีโอกาส
เพียงชั่วพริบตาที่คาโอรวมพลัง ฟินเดลชักดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอสออกมา แสงแห่งดาบเจิดจ้าชอนไชสายตาคนบนกำแพงเมือง แม้แต่พญาวิหคนาร์กีสยังต้องหลับตาหลบ
ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอสเปล่งแสงสีขาวที่ตัวดาบ ฟินเดลกระโดดขึ้นฟันดาบทันที
คาโอเตรียมหอกตั้งรับ มันอยากทดสอบพลังของดาบที่มีพลังระดับพระเจ้า
ดาบของฟินเดลไม่ได้ฟันใส่คาโอ แต่เป็นพญาวิหคนาร์กีส !
คลื่นพลังดาบสีขาวอันมหาศาลโจมตีใส่พญาวิหคนาร์กีส นกปีศาจส่งเสียงกรีดร้องลั่น
ยิงคนให้ยิงม้าก่อน กลยุทธ์ธรรมดาแต่ใช้ได้ผลทุกยุคสมัย
คาโอรีบยื่นมือออก คลื่นพลังอันมหาศาลออกจากมือเขาปะทะกับคลื่นสีขาวของดาบศักดิ์สิทธิ์
พลังทั้งสองปะทะกันจนเกิดคลื่นพลังเป็นวงกว้าง แต่พญาวิหคนาร์กีสอยู่ใกล้พลังของทั้งสองมากที่สุดจึงถูกแรงกระแทกได้รับบาดเจ็บ
คาโอตวาดลั่นด้วยโทสะ มันชูหอกแห่งดินขึ้นฟ้า เพียงชั่วประกายไฟ กำแพงเมืองเดเซียสก็ปริแตก จากนั้นก็พังลงมาแถบหนึ่งอย่างรวดเร็ว ทหารหลายสิบนายล่วงหล่นไปถูกเศษซากกำแพงถล่มทับ
เหล่าทหารคาโอโห่ร้องดีใจ นายมันชูหอกครั้งเดียวก็ทำกำแพงเมืองแตกได้ ทัพนับแสนคาโอบุกจู่โจมเมืองอย่างรวดเร็ว
ทหารโกลด์เด้นกราวด์เห็นอานุภาพคาโอก็ตื่นตระหนก พวกเขาไม่ทราบควรทำอย่างไร
“ตั้งสติ ! รอพวกมันเข้ามาใกล้คอยยิงธนู” ฟินโอร่าร้องขึ้น เสียงร้องของนางดังกึกก้องปลุกขวัญทหารให้เข้มแข็ง
พญาวิหคนาร์กีสพลันบินขึ้นฟ้า คาโอบังคับมันให้กลับไป
เหล่าไวเวิร์นหลายร้อยตัวบินมา กองทัพเพกาซัสซึ่งเตรียมพร้อมไว้อยูแล้วก็บินขึ้นต่อสู้ แต่ครานี้เหล่าไวเวิร์นส่วนใหญ่มีทหารเกราะขาวขับขี่ พวกมันต่างใช้ขวานยาวเป็นอาวุธ เสียงโห่ร้องฆ่าฟันกันกลางอากาศดังลั่น รวมทั้งเสียงร้องของเพกาซัสและไวเวิร์น
กองทัพอมนุษย์ของคาโอเริ่มบุกประชิดเมือง ธนูหลายพันดอกของทหารโกลด์เด้นกราวด์สังหารพวกมันไปได้หลายพันตน แต่จำนวนพวกมันคล้ายคลื่นทะเลที่กระทบฝั่งอย่างไม่มีวันหมดสิ้น
ฟินเดล ฟินโอร่า เซน่า เจฟ ต่างก็ขี่ม้านำทัพเข้าต่อสู้ ศึกนี้ตัดสินชะตาแผ่นดินแห่งทองคำ !!
สัตว์ที่เป็นต้นแบบจากพญาวิหคนาร์กีส แต่นาร์กีสมีขาสี่ขา หัวเป็นนกแร้ง และมีขนสีเทาทั้งตัว
-----------------
ตอนหน้าสถานการณ์จะยิ่งดุเดือดรุนแรงกว่านี้ นี่แค่น้ำจิ้มบอกเลย สงครามคาโอที่ยกทัพหนึ่งแสนตีเมืองเดเซียสจะยิ่งใหญ่แค่ไหนติดตามชม
สามารถติดตามอ่านตอนต่อไปได้ที่ Fictionlog