ตอนที่ 208 ข่าวลือเกี่ยวกับคฤหาสน์ขององค์หญิงแห่งมณฑล
เมื่อเฟิงหยูเฮงออกมาจากห้องเก็บยา วังซวนกำลังรอนางอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นนางออกมา วังซวนก็เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ขณะที่นางกำลังจะพูด นางเห็นรอยมีดบาดที่นิ้วชี้ซ้ายของเฟิงหยูเฮง แม้ว่าจะได้รับการรักษามันก็ยังคงเป็นสีแดงและบวมอย่างเห็นได้ชัด
“เกิดอะไรขึ้นเจ้าค่ะคุณหนู”
"ทุกอย่างปกติดี โดนมีดบาดมือโดยไม่ได้ตั้งใจ" ในขณะที่ทำความสะอาดมีดผ่าตัด นางเสียสมาธิทำให้มืดบาดมือของนาง แน่นอนว่านางไม่ได้ตั้งใจที่จะบอกวังซวนกับสิ่งที่น่าอับอาย “ข้าใส่ยาแล้ว พรุ่งนี้คงจะดีขึ้น”
เมื่อได้ยินว่ามันเป็นเพียงความประมาท วังซวนก็สงบลงเล็กน้อย นางไม่ต้องการให้เฟิงหยูเฮงกังวลอีก แต่หลังจากคิดเล็กน้อย นางก็ยังพูดว่า “พระชายาที่อยู่ในตำหนักเย็นเสียชีวิตแล้วเจ้าค่ะ” ซวนเทียนหมิงมีหูตาอยู่ภายในพระราชวังมากมาย ใครจะรู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทุกอย่างตั้งแต่เรื่องใหญ่ไปจนถึงเรื่องเล็ก ๆ จะถูกส่งมายังเรือนตงเซิง
การตายของบุใบปิงนั้นไม่เกินความคาดหมายเกินไป เมื่อคนพิการเข้ามาในตำหนักเย็น นางจะรอดชีวิตอยู่ได้อย่างไร อย่างไรก็ตามสิ่งที่นางไม่รู้ก็คือตระกูลบุจะทำหน้าอย่างไร ท่าทีในปัจจุบันของฮ่องเต้ต่อพวกเขาคือสิ่งที่นางยังไม่เข้าใจ
“ไปสืบมาให้ละเอียด” นางบอกวังซวน “ด้านคฤหาสน์ตระกูลเฟิงก็ต้องถูกจับตามองเช่นกัน ทันทีที่เฟิงจินหยวนส่งจดหมายกลับมา ข้าจะต้องได้อ่าน”
วังซวนพยักหน้า “เจ้าค่ะ”
ในเวลานี้ฉิงซวงนำบ่าวรับใช้ไปที่ทางเข้าเรือน เฟิงหยูเฮงจำบ่าวรับใช้คนนี้ได้ทันที มันเป็นบ่าวรับใช้ที่ดูแลจินเฉินกับม่านซี นางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและถามวังซวน “ตอนนี้กี่โมงแล้ว”
วังซวนตอบว่า “ใกล้เที่ยงคืนแล้วเจ้าค่ะ”
ขณะที่นางพูดสิ่งนี้ ฉิงซวงและบ่าวรับใช้ก็เข้ามา เมื่อเห็นเฟิงหยูเฮงยังอยู่ในเรือน นางก็คำนับอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “คุณหนูรองเจ้าคะ ตอนแรกข้าเพียงแต่จะมาถามวังซวนว่าคุณหนูรองยังอยู่ที่เรือนหรือไม่ แต่คุณหนูอยู่ยังที่นี่”
หลังจากพูดอย่างนี้ บ่าวรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ นางก็คุกเข่าลงต่อหน้าเฟิงหยูเฮง ด้วยน้ำตาไหลบนใบหน้าของนาง นางพูดว่า “ข้าขอร้องให้คุณหนูรองไปช่วยอนุจินเฉินด้วยเถิดเจ้าค่ะ !”
“เกิดอะไรขึ้นกับอนุจินเฉิน ?” วังซวนถาม “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ลุกขึ้นพูด อย่าร้องไห้เลย”
ฉิงซวงช่วยบ่าวรับใช้คนนั้นลุกขึ้น “คืนนี้อนุฮันเชิญนักแสดงมาที่สวนดอกไม้ อนุจินเฉินพาม่านซีไปดู แต่พวกเขาไม่ได้กลับมาอีกนานหลังจากนั้น บ่าวรับใช้คนนี้กังวลและไปหาพวกเขาที่สวนดอกไม้ แต่… แต่เมื่อบ่าวรับใช้นี้ไปถึง อนุจินเฉินยืนอยู่บนเวทีด้วยเหตุผลบางอย่าง และนักแสดงก็ยังคงแสดงต่อไป ด้านล่างมีคุณหนูสี่และอนุฮันยืนอยู่ และดุอนุจินเฉินในขณะที่ม่านซียืนอยู่ข้างล่าง ก้มหน้าลง บ่าวรับใช้คนนี้ไม่กล้าขึ้นไปเจ้าค่ะ”
ฉิงซวงรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “อนุฮันกำลังดูละครอยู่ แล้วทำไมอนุจินเฉินถึงขึ้นไปบนเวที?”
บ่าวรับใช้ส่ายหัว “ข้าไม่รู้ แต่บ่าวรับใช้คนนี้ได้ยินเพียงคำพูดของคุณหนูสี่ซึ่งดูถูกเหยียดหยามมาก แต่อนุจินเฉินเคยกล่าวไว้ว่ามีเพียงคุณหนูรองเท่านั้นที่สามารถปกป้องนางในคฤหาสน์นี้ได้ ไม่มีสิ่งใดที่บ่าวรับใช้คนนี้สามารถทำได้ ดังนั้นข้าจึงมาเพื่อขอให้คุณหนูรองไปช่วยเจ้าค่ะ คุณหนูรองได้โปรดช่วยอนุจินเฉินด้วยเจ้าค่ะ”
เรือนตงเซิงอยู่ค่อนข้างไกลจากสวนดอกไม้ ดังนั้นจึงไม่ได้ยินเสียงของการแสดง แต่เฟิงหยูเฮงจำบ่าวรับใช้นี้ได้และรู้ว่านางจะไม่กล้าพูดโกหก ดังนั้นเฟิงหยูเฮงจึงพยักหน้าและพูดกับฉิงซวง “ไปกับนาง แล้วบอกพวกเขาว่าข้าต้องการให้จินเฉินมาที่นี่ช่วยเย็บปักถักร้อย พาทั้งนางและม่านซีมา จัดการให้พวกเขาอยู่ที่นี่ พรุ่งนี้ค่อนกลับเรือน”
ฉิงซวงคำนับอย่างรวดเร็ว และออกไปพร้อมกับบ่าวรับใช้
เมื่อพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสวนดอกไม้ ไม่เพียงแต่บ่าวรับใช้ของจินเฉินเท่านั้นที่เห็นมัน ยี่หลินบ่าวรับใช้ส่วนตัวของเฟิงเฉินหยูก็แอบดูด้วย ในเวลานี้นางกำลังรายงานเฟิงเฉินหยูกับเรื่องที่เฟิงเฟินไดและฮันชิที่ปฏิบัติต่อจินเฉิน
เฟิงเฉินหยูได้ยินอย่างนี้และรู้สึกมีความสุขมาก “พวกเขาทำได้ดี จินเฉินนั้นเคยเป็นสาวใช้ส่วนตัวของท่านแม่ ใครจะรู้ว่าแทนที่จะทำงานตามหน้าที่ในฐานะสาวใช้ นางกลับปีนขึ้นเตียงของท่านพ่อทำให้ตัวเองได้เป็นอนุ”
นางพูดแบบนี้ด้วยสายตาที่เคียดแค้น อย่างไรก็ตามยี่หลินกล่าวเพิ่มเติมว่า “แต่บ่าวรับใช้ของคุณหนูรองมาพาตัวอนุจินเฉินไปที่เรือนตงเซิง จากสายตาของคุณหนูสี่และอนุฮัน แม้ว่าคุณหนูสี่จะยอมปล่อยนางไป นางพูดเพียงไม่กี่คำแต่ไม่กล้าปฏิเสธที่จะปล่อยอนุจินเฉินไป”
เมื่อพูดถึงเฟิงหยูเฮง เฟิงเฉินหยูก็นึกถึงสิ่งที่เฟิงเฟินไดเล่าให้นางฟังเรื่องที่องค์ชายเจ็ดได้รับบาดเจ็บ เฟิงหยูเฮงไม่เพียงรู้เท่านั้น ทั้งสองยังอยู่ด้วยกันในวันที่เขาได้รับบาดเจ็บ นางจะจัดการกับเฟิงหยูเฮงและซวนเทียนฮั่วได้อย่างไร?
เมื่อเห็นสีหน้าของเฟิงเฉินหยูดุดันขึ้นเรื่อย ๆ ยี่หลินก็ตกใจและเตือนนางอย่างรวดเร็วว่า "คุณหนูอย่าคิดมากเจ้าค่ะ นายท่านสามของตระกูลเฉินพูดแล้วว่าคุณหนูต้องทำตัวเหมือนที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ มีเหตุผลและสงบเสงี่ยม ค่อย ๆ ละทิ้งความแค้นในใจของคุณหนูต่อคุณหนูคนอื่น ๆ สำหรับคุณหนูสี่นั้นมันเป็นเพียงนิสัยของนาง คุณหนูต้องไม่ลดตัวลงไปเจ้าค่ะ”
เฟิงเฉินหยูเข้าใจความคิดนี้ แต่ใจของนางก็ยังรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องของซวนเทียนฮั่ว ตราบใดที่นางคิดว่าเฟิงหยูเฮงอยู่กับซวนเทียนฮั่วเพียงลำพังและเขาได้รับบาดเจ็บ นางต้องการทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น ซวนเทียนฮั่วได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร ทำไมนางไม่สามารถเข้าใกล้ชายที่เหมือนเทพบุตรได้ ไม่ว่านางจะพยายามมากแค่ไหน แต่เฟิงหยูเฮงกลับสามารถเข้าใกล้เขาได้
“นังบ้า !” นางขว้างอ่างทองแดงที่อยู่ตรงหน้านางอย่างรุนแรง และน้ำที่อยู่ภายในกระเด็นลงไปที่พื้น สิ่งนี้ทำให้ยี่หลินสั่นด้วยความกลัว “ไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะต้องจัดการเจ้าด้วยตัวเอง”
คืนแรกหลังจากเฟิงจินหยวนออกจากเมืองหลวงไม่มีใครในคฤหาสน์เฟิงนอนหลับ มีแต่เฟิงหยูเฮงที่นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอเพื่อรักษาขาของซวนเทียนหมิง
เช้าตรู่วันต่อมา ฉิงซวงส่งอาหารเช้าให้จินเฉินและม่านซีซึ่งพักค้างคืนที่เรือนตงเซิง นางยังบอกพวกเขาอีกว่า “คุณหนูรองบอกให้อนุจินเฉินกลับเรือนหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว วันนี้อนุฮันคงไม่สร้างปัญหาเจ้าค่ะ”
“ข้าอยากพบคุณหนูรอง” จินเฉินบอกฉิงซวง “คุณหนูรองออกไปแล้วหรือ?”
ฉิงซวงพยักหน้า “เจ้าค่ะ แต่คฤหาสน์ขององค์หญิงแห่งมณฑลมีเรื่องที่ต้องทำ คุณหนูรองได้สั่งให้ปิดประตูหลักไม่รับแขกเป็นเวลา 7 วัน หลัง 7 วันอนุจินเฉินค่อยกลับมาใหม่นะเจ้าคะ”
จินเฉินและม่านซีสับสน ทั้งสองถามพร้อมกัน “ทำไมต้องปิดประตูเป็นเวลา 7 วัน ?”
ฉิงซวงไม่ตอบกลับ
ทั้งสองเห็นว่านางไม่ตอบ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถามอีก พวกเขาทานอาหารเช้าอย่างเงียบ ๆ จากนั้นกลับไปที่คฤหาสน์เฟิง
รถม้าของซวนเทียนหมิงเข้าสู่คฤหาสน์ขององค์หญิงแห่งมณฑลโดยตรง
วังซวนและเฟิงหยูเฮงต้อนรับเขาสู่คฤหาสน์เป็นการส่วนตัว ทางเข้านั้นถูกปิดและไม่ต้อนรับผู้มาเยี่ยมเยือนอีกต่อไป
เฟิงหยูเฮงพาซวนเทียนหมิงไปที่เรือนของนางโดยตรง นางหยุดซวนเทียนหมิงเมื่อเห็นว่าเขาจะไปทักทายเหยาซื่อโดยกล่าวว่า “ข้าบอกท่านแม่ไปแล้วว่าข้าจะรักษาขาของเจ้า ไม่จำเป็นต้องไปทักทายท่านแม่”
ซวนเทียนหมิงรู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ดีและบอกกับเป่ยจื่อ “ไปเอาผ้าและเครื่องประดับให้ฮูหยิน จำไว้ว่าให้สุภาพมากที่สุด”
เป่ยจื่อพยักหน้า “พะยะค่ะ”
ซวนเทียนหมิงจึงอธิบายให้เฟิงหยูเฮง “พระราชวังเพิ่งได้รับผ้าไหมอีก 2 พับ ข้าขอเสด็จพ่อแล้ว และจะให้ฮูหยินทำผ้าม่าน”
นางยิ้มอย่างหงุดหงิด “นั่นเป็นสิ่งของที่หายากซึ่งคนอื่นอาจไม่เคยเห็นแม้แต่ครั้งเดียว แต่เจ้าก็มอบให้ ข้าขอขอบคุณในนามของท่านแม่สำหรับของขวัญชิ้นนี้” นางกล่าวขณะที่ผลักเขาเข้าห้องเก็บยา จากนั้นนางก็ปิดประตู “ตั้งแต่การตรวจร่างกายจนถึงการรักษาและการพักฟื้นช่วงแรก เรามีเวลา 7 วัน ข้าจะจัดการฟื้นฟูร่างกายของเจ้าเป็นการส่วนตัว แต่มีบางสิ่งที่ข้าต้องบอกเจ้าก่อน ตั้งแต่การตรวจร่างกายจนถึงการรักษากระดูกของเจ้า ข้าจะต้องทำให้ร่างกายเจ้าหมดความรู้สึก กล่าวคือเจ้าจะไม่รู้สึกตัวตลอดเวลา เจ้าตกลงหรือไม่ ?”
เขาพยักหน้า “ข้าเตรียมใจมาแล้ว พี่เจ็ดบอกข้าว่าพระองค์หลับเช่นกันเมื่อเจ้ารักษาเท้าของพระองค์”
"ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามการรักษาก็เป็นแบบนี้” เมื่อเห็นเขาปฏิบัติตาม เฟิงหยูเฮงก็ไม่รออีกต่อไป นางผลักเข้าไปในศูนย์กลางของห้องเก็บยาแล้วดึงชุดยาออกมา
เขาได้เห็นสิ่งนี้เมื่อนางปฏิบัติต่ออาการป่วยของพระชายาองค์ชายสาม แม้ว่าเขาจะยังพบว่ามันใหม่ เขาก็ไม่ได้ตกใจมากเกินไป
ดวงตาของเขามองเข็มบางๆ ถูกสอดเข้าไปในเส้นเลือดของเขา และยังคงพูดคุยกับเฟิงหยูเฮงต่อไป แต่ในขณะที่เขาพูด ดวงตาของเขาก็ปิดโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าและเขาก็หลับไป
ทันทีที่ยาสลบออกฤทธิ์ เฟิงหยูเฮงก็พาเขาไปที่ร้านขายยาของนาง
อีกสามวันต่อมา เฟิงหยูเฮงไม่ได้ก้าวออกจากห้องเก็บยา การไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่ามีฉิงซวงที่ไปแทน เมื่อนางมาถึง นางไม่ได้พูดอะไรมากนักเพียงแต่บอกกับท่านฮูหยินผู้เฒ่าว่าคฤหาสน์ขององค์หญิงแห่งมณฑลงานยุ่งมาก และคุณหนูรองไม่สามารถออกมาได้ เมื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว เฟิงหยูเฮงจะมาขอโทษอย่างแน่นอน
ฮูหยินผู้เฒ่าจะตำหนิเฟิงหยูเฮงได้อย่างไร ในความเป็นจริงการไปคารวะในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาไม่ได้ทำที่เรือนซูหยาเลย เพราะฮันชิได้เรียนรู้เคล็ดลับที่ชาญฉลาด เมื่อนางดูละครนางจะส่งคนมาเชิญฮูหยินผู้เฒ่าไปดู
เมื่อฮูหยินผู้เฒ่ายังเด็กนางชอบดูละครเหล่านี้ หลังจากที่นางโตขึ้น คนรุ่นใหม่ในคฤหาสน์ไม่ได้เชิญนักแสดงเหล่านี้มาแสดง และนางก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนนี้ฮันชิเชิญนาง นางจะไม่ไปได้อย่างไร นางสั่งให้บ่าวรับใช้พานางขึ้นเก้าอี้นุ่ม ๆ ไปที่สวนดอกไม้
เมื่อมาถึงสวนดอกไม้ตรงหน้า ฮูหยินผู้เฒ่าดูสดใสชีวิตชีวา นักแสดงจบลงด้วยการอาศัยอยู่ในคฤหาสน์และจะทำการแสดงที่ฮูหยินผู้เฒ่าชื่นชอบ ซึ่งทำให้ผู้คนในตระกูลเฟิงดูสามัคคีปรองดองกัน
ในวันที่สี่มีหิมะตกเล็กน้อย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะแสดงบนเวทีกลางแจ้ง พวกเขาใช้เวลาทั้งวันทำการซ่อมแซม
เฟิงเฟินไดนำซุปหวานมาให้ฮันชิ แต่ฮันชิกังวลและพยายามเกลี้ยกล่อมเฟินได “เราจะหยุดเล่นในวันพรุ่งนี้ เราสนุกมาหลายวันแล้ว เราจะทำอย่างไรถ้าท่านพ่อของเจ้าโกรธเมื่อเขากลับมา ?”
เฟิงเฟินไดยิ้มอย่างไร้ความปราณี “เจ้าสนุกกับการดูการแสดงไม่ใช่หรือ ?”
ฮันชิผงกศีรษะ “ข้าชอบ แต่ข้าไม่เคยมีสิทธิ์พูดอะไรในคฤหาสน์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าจะได้รับอนุญาตให้ดูการแสดงได้อย่างไร”
“นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าต้องมีความมุ่งมั่น !” เฟิงเฟินไดบอกนาง “เจ้าต้องกลัวอะไร ? ท่านย่ากำลังดูการแสดงเช่นกัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นท่านย่าจะจัดการเอง เจ้าจะไม่เดือดร้อนอย่างแน่นอน เพียงแค่สนุกกับพวกเขาอย่างมีความสุข หลังจากนั้นไม่นานเราจะเชิญแพทย์มาตรวจเจ้า”
เมื่อได้ยินนางพูดถึงการเชิญหมอ ฮันชิก็ยิ่งกังวลมากขึ้น “ถ้าข้ายังไม่ตั้งครรภ์ล่ะ ?”
“จะไม่ตั้งครรภ์ได้อย่างไร !” ดวงตาของเฟิงเฟินไดเปิดเผยความดุร้าย “เจ้าต้องตั้งครรภ์ และมันจะต้องเป็นลูกชาย !”
ฮันชิเห็นว่าเฟิงเฟินไดเข้าตาจน นางไม่รู้ว่านางควรปลอบโยนเฟิงเฟินไดอย่างไรดี ในความเป็นจริงวันที่นางใช้เวลาอยู่ร่วมกับเฟิงจินหยวนนั้น มีหมอบอกว่ามันเป็นการยากที่นางจะตั้งครรภ์ในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตามนางจะพูดเรื่องนี้กับเฟิงเฟินไดอย่างไรดี
ในขณะที่ทั้งสองกำลังไตร่ตรองกับตัวเอง หญิงสาวคนหนึ่งรีบเข้ามาและคำนับเฟินได นางกระซิบบอกว่า “รายงานคุณหนูสี่ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเรือนตงเซิงปิดประตูไม่ต้อนรับแขกทุกคน แม้แต่บุตรสาวของฮูหยินใหญ่ตระกูลเป่ย เป่ยฟู่หรงก็ถูกปฏิเสธเจ้าค่ะ”
“ปิดประตูหรือ” เฟินไดรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง “นางจะปิดประตูเพื่ออะไร นางจะไม่ออกไปดูแลร้านค้ามากมายของนางหรือ ?” สองสามวันที่ผ่านมานี้นางไม่เคยเห็นเฟิงหยูเฮงมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นนางจึงอดไม่ได้ที่จะถาม “นอกเหนือจากสิ่งนี้แล้วเจ้าพบอะไรอีก?”
บ่าวรับใช้ตอบ “บุตรสาวของฮูหยินใหญ่ตระกูลเป่ยถูกหยุดข้างนอก แต่เช้านี้องค์ชายเจ็ดเข้าไปในคฤหาสน์ขององค์หญิงแห่งมณฑลเจ้าค่ะ”
“องค์ชายเจ็ดหรือ ?” ดวงตาของเฟินไดนิ่งและประกายความคิดก็ผุดขึ้นมาในใจของนาง
-------
**ลา 3 วันนะคะ กลับมาลงต่อ 26 มี.ค. ค่ะ**