DC บทที่ 31: ข้าต้องการแก่นพลังหยินของเจ้า
ภายในห้องผู้อาวุโสหลานที่กรุ่นด้วยกลิ่นของยาและสมุนไพร ซูหยางยืนอยู่ที่ทางเข้าด้วยท่าทางลึกล้ำ
“เจ้ารู้แล้วว่าข้าจักไปหาวันนี้ แต่เจ้ายังตัดสินใจมาที่นี่ด้วยตนเอง เจ้าต้องการอะไรอย่างเร่งด่วนจากข้า” ผู้อาวุโสหลานพูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวดคล้ายกับพยายามเตือนให้ซูหยางตระหนักถึงสถานะของเธอ
ซูหยางยังคงมีท่าทางใจเย็น เขาพูดว่า “ข้าจักพูดให้ตรงจุด ผู้อาวุโสหลาน ข้าต้องการแก่นพลังหยินของเจ้า”
ผู้อาวุโสหลานแรกรู้สึกงุนงง ต่อเมื่อเธอตระหนักถึงความหมายเธอก็สับสน
“เจ้าต้องการอะไรจากข้ากันนะ” ผู้อาวุโสหลานร้องอุทานเสียงดัง
ไม่เหมือนกับปราณหยินที่สามารถนำออกมาจากบรรดาหญิงได้แม้ว่าพวกเธอจะสูญเสียพรหมจรรย์ไปแล้ว แก่นพลังหยินจะสามารถนำออกมาได้ขณะที่เหล่าหญิงสูญเสียความบริสุทธิ์เท่านั้น
“ข้ากำลังจักดูดกลืนดอกหยางพิสุทธิ์และข้าต้องการคู่ฝึกเพื่อร่วมฝึกปราณหลังจากนั้น” ซูหยางกล่าวโดยไม่ปกปิดสิ่งใด
ผู้อาวุโสหลานตาเบิกกว้างด้วยความตกใจมากกว่าเดิม “เจ้าวางแผนดูดกลืนมันจริงรึ เจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าดอกหยางพิสุทธิ์เป็นยาประเภทไหน มีผลลัพธ์เดียวถ้าเจ้าดูดกลืนมัน ตายอย่างอนาถ” ผู้อาวุโสหลานโกรธเกรี้ยวกับเรื่องซูหยางคิดดูดกลืนดอกหยางพิสุทธิ์มากกว่าเรื่องที่เขาขอแก่นพลังหยินของเธอ
“ข้าเคยพูดเช่นนี้ไว้ก่อนแล้ว ผู้อาวุโสหลาน มองข้า ข้าเหมือนคนที่คิดฆ่าตัวตายหลังจากที่ใช้ความพยายามมากมายเพื่อให้ได้รับดอกหยางพิสุทธิ์รึ” ซูหยางตรงไปหาผู้อาวุโสหลานอย่างช้าๆ ปลดปล่อยรัศมีพลังที่เหนือจินตนาการ
เมื่อผู้อาวุโสหลานรู้สึกถึงการเข้ามาของซูหยาง เธอรู้สึกเหมือนว่าเธอยืนอยู่ต่อหน้าตัวตนที่ลึกล้ำที่กุมทั้งโลกไว้ในมือ
“ท..ทำไมต้องเป็นข้า ข้าเป็นถึงผู้อาวุโสนิกายและเจ้าเป็นเพียงศิษย์นอก เจ้าคิดไหมว่าจักเกิดอะไรขึ้นถ้าเราร่วมฝึกด้วยกัน นิกายต้องมิยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นแน่”
“ถ้าพวกเขามิรู้เรื่องนั้น ก็มิมีอะไรเกิดขึ้น”
“นั่นมิได้หมายความว่ามันทำได้ เช่นไรก็ตามข้าปฏิเสธ อย่าล้ำเส้น ศิษย์ซูหยาง ข้าเพียงหาเจ้าเพื่อรักษาความเจ็บ ใช่ว่าข้าจักมีความรู้สึกต่อเจ้า เมื่อการรักษาจบสิ้น ความสัมพันธ์ระหว่างเราก็จบแค่นั้น” ผู้อาวุโสหลานพูดกับเขาอย่างจริงจัง
ถึงที่สุดแล้วเธอเป็นผู้อาวุโสนิกายและเขาเป็นเพียงแค่ศิษย์นอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าผู้อาวุโสหลานเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ เธอไม่ได้พยายามที่จะรักษาความบริสุทธ์อย่างยากลำบากเพื่อที่จะเสียมันไปให้กับศิษย์นอกบางคนที่เพิ่งรู้จัก
ซูหยางหลับตาลงซ่อนความผิดหวังในแววตา ถอนหายใจ “น่าเสียดาย..” เขาพึมพัม
“ข้าต้องขอโทษที่มารบกวนเจ้าที่นี่ ผู้อาวุโสหลาน เจ้าพูดถูก ช่องว่างระหว่างฐานะของเรานั้นกว้างเกินไป ให้นึกเสียว่าการสนทนาครั้งนี้มิเคยเกิดขึ้น ข้ามาหาเจ้าเป็นคนแรกก็เพราะข้าคิดว่าแก่นพลังหยางของข้าจักมีประโยชน์กับการฝึกฝนของเจ้าบ้าง”
ซูหยางหันกายและเตรียมเดินจากไป
“เดี๋ยว” ผู้อาวุโสหลานพลันหยุดเขาไว้ ขมวดคิ้ว “เจ้าหมายความว่าเช่นไร”
“ดอกหยางพิสุทธิ์จักเพิ่มพูนพลังปราณหยางของข้าอย่างเห็นได้ชัดหลายเท่า และจักเพิ่มพลังแก่นหยางมากยิ่งกว่านั้น ข้าหวังว่าจะมอบให้เจ้าเพื่อเจ้าจักเข้าถึงระดับสี่ของเขตสัมมาวิญญาณ” ซูหยางอธิบายถึงวัตถุประสงค์แท้จริง เขาพูดต่อว่า “เจ้าใกล้จักทะลวงผ่านแล้ว มิใช่รึ”
ผู้อาวุโสหลานเบิกตากว้างเพราะคำพูดของเขา เธอจ้องมองเขาโดยไม่อาจกล่าววาจาใดได้
“ส่วนสำหรับการนัดหมายกับข้า..ข้าจักขอผัดไปก่อนในด้วยข้าจักวุ่นวายในการปิดตนฝึกฝนสักสองสามวัน”
ซูหยางก้าวเดินต่อไปยังประตู
“เดี๋ยว” ผู้อาวุโสหลานหยุดเขาไว้อีกครั้ง
“แม้ว่าดอกหยางพิสุทธิ์เพิ่มพลังแก่นหยางของเจ้าหลายเท่า แต่เจ้ายังอยู่ในเขตปฐมวิญญาณ แก่นวิญญาณหยางแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นคงมิมีประโยชน์กับคนเช่นข้าผู้ที่อยู่ถึงเขตสัมมาวิญญาณแม้แต่น้อย”
ซูหยางเพียงยิ้มกับข้อคิดเห็นของเธอ เขาไม่สามารถบอกเธอได้ว่าเขาฝึกวิชาหนึ่งในเจ็ดคัมภีร์สวรรค์สูงสุด ซึ่งจะเป็นเหตุของอีกหลายคำถามและตามมาด้วยปัญหานับไม่ถ้วน
ก่อนที่จะก้าวเท้าออกจากห้อง ซูหยางพูดกับผู้อาวุโสหลาย “ผู้อาวุโสหลาน ข้าจักขอยืมศิษย์ของเจ้าหลายคนวันนี้ ถ้าเจ้ามิติดขัด...”
ผู้อาวุโสหลานอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำพูดเขา
“เจ้าคงมิได้วางแผนที่จัก...”
“หรือข้ามีทางเลือกอื่น” ซูหยางยักไหล่
ผู้อาวุโสหลานกัดริมฝีปากมองซูหยางเดินออกจากห้อง คล้ายกำลังคิดหนัก
–
–
–
เมื่อซูหยางกลับถึงชั้นแรก บรรดาหญิงสาวที่นั่นพลันจ้องมองเขาด้วยสายตาเผ็ดร้อน ดูคล้ายกับฝูงหมาป่าหิวกระหาย
“อะแฮ่ม” ซูหยางทำคอโล่งเสียงดัง ดูเหมือนว่าเขากำลังเรียกร้องความสนใจ
โชคดีนักเขากลายเป็นจุดสนใจทันทีที่เดินลงมาข้างล่าง
“แม้ว่านี่จะกระทันหันไปหน่อย...ข้าไคร่..”
“เดี๋ยว”
ขณะที่ซูหยางกำลังจะขอให้บรรดาหญิงสาวร่วมเตียงกับเขา เสียงของผู้อาวุโสหลานพลันดังก้องมาจากชั้นบน
“ซูหยาง กลับขึ้นมาที่นี่ เรายังพูดกันมิจบ”
ซูหยางยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยปากอ้าค้างหลังจากได้ยินเสียงเธอ
หลังจากนั้นสักครู่เขาก็ยิ้ม และพูดว่า “คงต้องเก็บไว้โอกาสหน้า...”
บรรดาหญิงสาวมองเขาด้วยความงงงัน เขาต้องการอะไรจากพวกเธอ
ซูหยางหันกายและเริ่มมุ่งหน้าไปยังชั้นสองอีกครั้ง