CLS ตอนที่ 8 3 กระบวนท่า
#8: 3 กระบวนท่า
การสวนกลับอย่างเผด็จการแม้ว่าจะบกพร่องเล็กน้อย แต่ก็ค่อนข้างเรียบร้อยดี มันสามารถจัดการกับการลอบโจมตีของฝั่งตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนพากันตกตะลึง ถ้าเรื่องที่อี้เทียนหยุนไม่ใช่คนโง่ทำให้คนนอกตกใจแล้ว การแสดงออกของเขาในวันนี้ได้ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่า!
ขยะในตำนานกลับสวนกลับการลอบโจมตีของฟางหยุนได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าพลังของฟางหยุนจะไม่สูงนัก แต่อย่างน้อยก็อยู่ในระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 7 ซึ่งเป็นมาตรฐาน มันไม่ได้ต่ำ ออกจะไปทางระดับกลางค่อนสูง
นี่หมายความว่าพลังของอี้เทียนหยุนต้องมีมาตรฐานอย่างน้อยระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 8 แม้พลังระดับนี้จะไม่อาจพูดได้ว่ามีพรสวรรค์ แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่ขยะ
ไม่มีใครสามารถดูออกว่าพลังของอี้เทียนหยุนอยู่ในขั้นไหน แต่พวกเขาก็พากันคาดเดาว่า ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป สิ่งที่ซ่อนอยู่จะค่อยๆ เผยออกมา
“นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน.....” ชิเสวี่ยอวิ๋นตกใจจนพูดติดอ่าง ไม่เพียงแต่จะตกใจเท่านั้น แต่พลังที่แสดงออกมาตอนนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 8 เลย
นี่คือสภาพของคนที่เส้นลมปราณพิการอย่างงั้นเหรอ?
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนสับสน ใครสามารถบอกได้กันว่านี่มันเรื่องอะไร?
อี้เทียนหยุนสัมผัสได้ถึงสายตาตกตะลึงของทุกคน ไม่ผิดไปจากที่เขาคาด ขยะในข่าวลือ อยู่ๆ ก็มีความสามารถขึ้นมา มันทำให้ทุกคนตกใจ
ฟางหยุนตายอยู่ในอ้อมแขนของจ้าวฮัวหลง ความโกรธของจ้าวฮัวหลงพลันปะทุขึ้นมาทันที ท่าทางของเขาโกรธเกรี้ยวจนถึงที่สุด จิตสังหารพุ่งขึ้นเทียมฟ้า!
“ลงมือได้โหดเหี้ยมนัก ที่แท้เจ้าก็มีพลังสูงขนาดนี้ ไม่แปลกที่จะสามารถสังหารฟางเฉินได้!” จ้าวฮัวหลงมองไปยังอี้เทียนหยุนอย่างเกลียดชัง แล้วพูดว่า “ไม่แปลกที่เจ้าจะออกมา ที่แท้เจ้าก็มีพลังอยู่ในระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 8 เมื่อเทียบกับฟางหยุนแล้วเหนือกว่า! เจ้าแค่ลงมือสั่งสอนฟางหยุนก็ได้ ทำไมต้องสังหารเขาด้วย!”
อี้เทียนหยุนตอบกลับอย่างเหน็บแนมว่า “มันใช้มีดสั้นลอบสังหารข้า ถ้าข้าไม่สวนกลับก็โง่สิ! ยิ่งกว่านั้น นี่ยังเป็นการประลองเป็นตาย เจ้าคิดจะโทษใคร?”
ความจริงเรื่องนี้เขาเข้าใจดี ก่อนจะสู้ ถ้าคนอื่นไม่ตอแยเขา เขาก็จะไม่ตอแยคนอื่น หยิบมีดออกมาลอบสังหารข้า โชคดีที่พลังของข้าสูงกว่าทำให้ตอบสนองได้ทันท่วงที ไม่อย่างงั้นคนที่จะนอนตายอยู่ที่พื้นคงเป็นเขาไม่ใช่ฟางหยุน!
ดังนั้น สิ่งที่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบเขาจะไม่ทำมัน การใจอ่อนเหมือนผู้หญิงมีแต่จะนำความตายมาสู่ตัวเอง! ไอ้เรื่องความเห็นใจต่อศัตรูนั้น เป็นดั่งผายลมสำหรับเขา ในเมื่อมันตั้งใจจะ “ฆ่า” เขา เขาก็ไม่มีทางปล่อยฟางหยุนไปอย่างแน่นอน!
ในสายตาของจ้าวฮัวหลงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง คำพูดนี้ถูกต้อง เขาทำได้เพียงกัดฟันกรอด แล้วกลืนความโกรธลงท้องไป
หลังจากอี้เทียนหยุนชนะ ตำหนักเทียนเฉวียนก็ได้เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ด้วยชัยชนะ
“นี่น่ะเหรอขยะ? ขยะทำไมถึงได้มีพลังสูงขนาดนี้ แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?”
“ดูท่าที่ได้ยินมาจะผิด เจ้าหนูนี้แน่นอนว่าไม่ใช่ขยะ แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีพรสวรรค์ใช้ได้ทีเดียว!”
“นี่เป็นสมาชิกในครอบครัวของท่านเจ้าตำหนัก ดูท่าจะมีหลายเรื่องที่พวกเราไม่รู้......”
.................................
การแสดงพลังของอี้เทียนหยุนทำให้คนของตำหนักเทียนเฉวียนตกตะลึง ความรู้สึกข้างในยุ่งเหยิงเหมือนกับสถานการณ์ตรงหน้า ภาพประทับของอี้เทียนหยุนในหัวใจพวกเธอ ได้เปลี่ยนไปขนานใหญ่
โลกนี้ชื่นชมคนที่ความแข็งแกร่ง มีเพียงแสดงพลังออกมาเท่านั้น ถึงจะได้รับความเคารพจากคนอื่น!
“เทียนหยุน เจ้าทำได้แล้ว” ชิเสวี่ยอวิ๋นโล่งอก เธอไม่สนว่าทำไมเรื่องถึงเป็นแบบนี้ แต่ตราบเท่าที่อี้เทียนหยุนปลอดภัย เท่านั้นก็พอแล้ว
“ท่านเจ้าตำหนัก ไม่ทราบว่าข้าสามารถประลองต่อได้หรือไม่?” อี้เทียนหยุนหรี่ตา พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าบางเบา ก่อนหน้านี้มีศิษย์นิกายเทียนหลิงนับไม่ถ้วน รวมทั้งผู้อาวุโส จ้าวฮัวหลงพูดจาดูถูกเขาว่าเป็นขยะ
“เป็นท่าทางที่น่าประทับใจมาก ดี! ข้ายอมรับคำขอของเจ้า ให้เจ้าประลองต่อได้!” จ้าวฮัวหลงหรี่ตามองไปยังอี้เทียนหยุน ในสายตาเผยให้เห็นจิตสังหารจำนวนมากที่อัดแน่นอยู่ข้างใน ความโกรธที่ปะทุอยู่ในใจ ถ้าที่นี่ไม่ใช่อยู่ในตำหนักเทียนเฉวียน เขาคงจะลงมือตบอี้เทียนหยุนจนตายคามือไปนานแล้ว
“เทียนหยุน รีบลงมารักษาตัวก่อน อย่าได้หักโหม.....” ชิเสวี่ยอวิ๋นมีสีหน้ากังวล เธอคิดว่าอี้เทียนหยุนไม่สามารถทนได้ กลัวว่าเขาจะบาดเจ็บ
“ท่านเจ้าตำหนัก ข้าไม่เป็นไร ท่านไม่อยากให้ข้าเป็นขยะเหมือนที่พวกเขาคิดหรอกใช่ไหม?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ความรู้สึกข้างในของชิเสวี่ยอวิ๋นก็ให้สั่นสะท้าน พลังอะไรกันที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้? หรือว่าจะไปเจอผู้อาวุโสบางคนรับเขาเป็นศิษย์?
เขาอยากจะแสดงพลังเพื่อบอกว่าตัวเองไม่ใช่ขยะ เขาอยากจะแสดงศักดิ์ศรีของเขาออกมา! คำพูดนี้เขาพูดให้ชิเสวี่ยอวิ๋นมั่นใจในตัวเขา และไม่ขัดขวางเขา
จ้าวฮัวหลงพูดเยาะเย้ย “เจ้าจะประลองต่อเนื่องเพื่อบอกว่าตัวเองไม่ใช่ขยะอย่างงั้นสินะ โม่เฉิง ตานี้เป็นของเจ้า!”
“ครับ ผู้อาวุโสจ้าว!”
เสียงรับคำเพิ่งจบ วัยรุ่นคนหนึ่งก็บินขึ้นไปยังเวทีประลอง ร่อนลงบนเวทีอย่างอ่อนโยน ท่าทางสุภาพถูกส่งออกมาจากในร่างของเขา รูปลักษณ์ที่หล่อเหลาสง่างาม เขาจะต้องเป็นนักฆ่าผู้หญิงตัวยงแน่ๆ แต่ศิษย์หญิงตำหนักเทียนเฉวียนแห่งนี้ไม่ได้มองเขาด้วยสายตาแบบนั้น
กับศัตรูแล้ว มีเพียงแต่ความเป็นปรปักษ์ ไม่อาจมอบความรักให้!
เมื่อเทียบกับฟางหยุน เขาขึ้นบนเวทีได้อย่างเป็นธรรมชาติกว่า ยิ่งกว่านั้น พลังของเขาก็สูงกว่าฟางหยุน อยู่ในระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 9! พลังระดับนี้ถือว่าเป็นที่น่าตื่นตะลึง ในหมู่ลูกศิษย์ที่นำมา นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
“โม่เฉิง ไม่คิดว่าจะเป็นเขา ครั้งนี้คงโชคร้ายมากกว่าโชคดี”
“นี่เป็นศิษย์หลักที่นิกายเทียนหลิงฝึกมาอย่างดี ด้วยอายุเท่าพวกเรา แต่เขากลับมีพลังถึงระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 9”
“แล้วแบบนี้อี้เทียนหยุนจะชนะได้เหรอ? นี่คือระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 9 เชียวนะ!”
...............................
ตำหนักเทียนเฉวียนสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็น จ้าวฮัวหลงพูดได้ว่าโมโหสุดขีด เขาได้ส่งศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดลงไป ในฝั่งพวกเขา ที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือโม่เฉิง ถ้าอี้เทียนหยุนมีพลังแค่ระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 8 งั้นการประลองรอบนี้เขาคงต้องแพ้โดยไม่ต้องสงสัย
“ข้าจะจัดการเจ้าใน 3 กระบวนท่า” โม่เฉิงพูดเบาๆ สายตาที่มองไปยังอี้เทียนหยุนเหมือนกับมองไปยังคนพิการ
อี้เทียนหยุนตอบกลับด้วยรอยยิ้มบางเบา “3 กระบวนท่า ไม่คิดว่ามันโอ้อวดเกินไปหรอกเหรอ?” ศิษย์นิกายเทียนหลิงนี้ช่างอวดดีจริงๆ
โม่เฉิงพูดอย่างไม่แยแส “การเคลื่อนไหวของเจ้าแข็งเกินไป ไม่คล่องแคล่ว การระเบิดพลังอ่อนด้อย ความเร็วเชื่องช้า”
อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง “ดูเหมือนว่าข้าจะบกพร่องมากจริงๆ ต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยชี้แนะ แต่คิดจะจัดการข้าใน 3 กระบวนท่า นี่ดูถูกกันมากจริงๆ”
“ตราบเท่าที่เจ้ารับมือข้าได้ 3 กระบวนท่า ข้าจะเป็นฝ่ายยอมแพ้เอง!” โม่เฉิงพูดอย่างภาคภูมิ 3 กระบวนท่าพูดไปแล้วไม่นับว่ามาก แต่ถ้าพลังต่างกัน แค่กระบวนท่าเดียวก็ตัดสินกันได้แล้ว
“เมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นข้าจะจัดการเจ้าในกระบวนท่าเดียว!” อี้เทียนหยุนมีสีหน้าไม่แยแส คำพูดคำจายังอวดดียิ่งกว่า!
นี่ไม่ใช่เพราะเขาอวดดี แต่เป็นเพราะว่าเขามั่นใจ!