CLS ตอนที่ 18 ถีบ
#18: ถีบ
เมื่ออาจารย์ขงเห็นสถานการณ์ของอี้เทียนหยุน เขาก็ให้รู้สึกหวาดกลัว เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจในการหลอมของอี้เทียนหยุน เขาก็พลันร้อนใจขึ้นมา ความรู้สึกข้างในทำได้เพียงกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง หวังให้อี้เทียนหยุนทำไม่สำเร็จ ขอให้สิ่งที่เขาทำล้มเหลว!
ไม่อย่างนั้น ไม่เพียงแต่เขาจะต้องเสียหน้าเท่านั้น ยังต้องเสียศาสตราวิญญาณอีก
ในตอนนี้ อาจารย์ขงไม่ได้พูดอะไร ผู้อาวุโสทั้งสามก็เงียบปาก แม้ว่าพวกเธอจะไม่เข้าใจเรื่องการหลอมศาสตรา แต่อย่างน้อยก็เห็นรูปร่างที่เริ่มก่อตัว ท่าทางที่มั่นคงของอี้เทียนหยุน ไม่มีสัญญาณว่าจะล้มเหลวแม้แต่น้อย
“จะสำเร็จจริงๆ เหรอ?”
พวกเธอตกใจ ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ อี้เทียนหยุนก็เป็นสุดยอดอัจฉริยะแล้ว ยังเยาว์แถมมากความสามารถ แล้วจากนี้ไปเขาจะเป็นยังไง? ไม่เพียงแต่พลังจะไม่ต่ำ แต่กระทั่งมีความสามารถในการหลอมศาสตรา! เขาไปเรียนมันมาจากไหน?
พวกเธออดไม่ได้ให้มองไปที่ชิเสวี่ยอวิ๋น หรือว่าชิเสวี่ยอวิ๋นจะให้อี้เทียนหยุนแอบฝึกอย่างลับๆ? ไม่อย่างนั้นพวกเธอก็ไม่รู้แล้วว่าอี้เทียนหยุนทำอย่างนี้ได้ยังไง
ที่จริงแล้วไม่ใช่เพียงพวกเธอเท่านั้นที่ตกใจ กระทั่งชิเสวี่ยอวิ๋นก็ตกใจเช่นกัน การหลอมศาสตราไม่ใช่ง่ายๆ การฝึกนั้นยากมาก ผู้เชี่ยวชาญลึกลับที่สอนเขานั้น ช่างร้ายกาจจริงๆ เขาทำได้ยังไงถึงทำให้อี้เทียนหยุนเข้าใจในการหลอมศาสตราในเวลาอันรวดเร็วขนาดนี้?
ไม่ว่าพวกเธอจะคิดยังไง อี้เทียนหยุนก็ยังคงควบคุมเตาหลอมไม่หยุด ทำการขึ้นรูปกระบี่ยาวในเตาหลอม ด้วยเวลาที่ผ่านไป กระบวนการขึ้นรูปที่เหลือก็เสร็จสมบูรณ์ กระบี่ยาวที่ขึ้นรูปสำเร็จก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าทุกคน
“ออกมา!”
อี้เทียนหยุนตะโกนเสียงดัง พร้อมกับเอาฝ่ามือทาบไปยังเตาหลอม “ตึก” กระบี่ยาวลอยออกมา หลังจากหมุนอยู่ไม่กี่รอบ ก็ปักลงพื้นอย่างแรง กลิ่นอายเย็นเยียบถูกปล่อยออกมาจากตัวกระบี่ เป็นกระบี่ที่มีพลังของน้ำแข็ง
ในห้องหลอมศาสตราเริ่มเย็นลง เป็นผลจากกระบี่ตรงหน้า ช่างน่าตกใจจริงๆ
“ติ๊ง! ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้ทำภารกิจสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 5,000, เปลวเพลิงที่ไม่มีวันดับ!”
ได้รับค่าประสบการณ์ 5,000 แต่เลเวลก็ยังไม่เพิ่มขึ้น จากนั้นเปลวเพลิงที่ไม่มีวันดับก็ถูกเพิ่มเข้าไปในช่องความสามารถของเขา กลายเป็นความสามารถเฉพาะ!
ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น เขายังได้รับค่าความชำนาญเพิ่มขึ้นมาอีก 10 แต้ม แต้มที่ได้นับว่าดี แต่เขาจำเป็นต้องหลอมศาสตราถึง 100 ชิ้นเพื่อที่จะเพิ่มระดับของมัน ยังไงก็ตาม การหลอมศาสตราวิญญาณนี้ ค่าประสบการณ์ที่ได้สูงมากจริงๆ มันจะยังเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะล้มเหลวก็ตาม
เขาหลอมศาสตราวิญญาณระดับต่ำ แน่นอนว่าไม่มีคำว่าล้มเหลว เพราะว่าถ้ามองดูในระบบ อัตราความสำเร็จของเขาจะอยู่ที่ 100% ดังนั้นเขาจึงกล้าพูดว่าจะไม่มีวันผิดพลาด!
“อาจารย์ขง เชิญเจ้าตรวจสอบดู ว่านี่ใช้ศาสตราวิญญาณหรือไม่?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างเย็นชา
นี่ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ ตราบเท่าที่ตาไม่บอด แค่มองดูก็บอกได้ว่านี่คือกระบี่วิญญาณ! แม้ว่าจะเป็นระดับต่ำ แต่อย่างน้อยก็ทำสำเร็จ
สีหน้าของอาจารย์ขงในตอนนี้กลายเป็นน่าเกลียด สามผู้อาวุโสก็ตกตะลึง! เมื่อเรื่องออกมาแบบนี้ พวกเธอก็อดหันไปมองใบหน้าของอาจารย์ขงไม่ได้ สำนักของพวกเธอสามารถหลอมศาสตราได้เอง สามารถลดค่าใช้จ่ายลงไปได้มาก ดังนั้น ตำหนักเทียนเฉวียนจึงไม่จำเป็นต้องยุ่งยากในการหาอาจารย์หลอมศาสตราอีก
ชิเสวี่ยอวิ๋นหยิบกระบี่วิญญาณขึ้นมา “เคล้ง” เมื่อกระบี่ถูกดึงขึ้นมา แสงเย็นเยียบก็ส่องประกายออกมา หลังจากกวัดแกว่งอยู่หลายครั้ง ชิเสวี่ยอวิ๋นก็มองไปที่อาจารย์ขงแล้วพูดขึ้นว่า “นี่คือกระบี่วิญญาณจริงๆ อาจารย์ขงอยากจะลองไหม?”
“ไม่จำเป็น!” อาจารย์ขงมีสีหน้าน่าเกลียด มองไปที่อี้เทียนหยุนอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นนักหลอมศาสตรา เจ้าจงใจหลอกข้า!”
“ข้าบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าข้าหลอมศาสตราไม่ได้?” อี้เทียนหยุนพูดเหน็บ “ในเมื่อการเดิมพันจบแล้ว ก็ส่งศาสตราวิญญาณมา แล้วอย่าลืมเดินกลับหัวด้วย!”
ท่าทางของอาจารย์ขงก่อนหน้า ทำให้เขาเกลียดชังจนไม่คิดที่จะให้อภัยอาจารย์ขงคนนี้ง่ายๆ
“อย่าให้มันเกินไปนัก! ครั้งนี้ข้าแพ้ แต่ก็เป็นเพราะเจ้าวางกับดักข้า เจ้าไม่ได้จริงใจที่จะให้ข้ามาหลอมศาสตราให้!” อาจารย์ขงหาเรื่องปฏิเสธ
“น่าขัน เพราะเจ้ามันอวดดีอย่างนี้ แล้วข้าจะไปทนได้ยังไง?” อี้เทียนหยุนหัวเราะเยาะ “ตำหนักเทียนเฉวียนของพวกเราไม่ใช่ที่ที่จะรังแกกันได้ง่าย! แม้ว่าที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง แต่ที่นี่ผู้หญิงเป็นใหญ่ ไม่ใช่เจ้า!”
ในโลกนี้ ไม่เพียงแต่จะเคารพในผู้แข็งแกร่งเท่านั้น แต่เพราะผู้มีอำนาจส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ดังนั้นจึงดูถูกผู้ฝึกตนที่เป็นผู้หญิง
ตอนนี้ คำพูดนี้ของอี้เทียนหยุนได้ทำให้ผู้อาวุโสทั้งสามได้หน้าขึ้นมาใหม่ ทำให้มองเขาเปลี่ยนไป คำพูดนี้ ไม่ได้พูดกับเขาเพียงเท่านั้น แต่ยังพูดให้ทุกคนฟัง เพราะคำพูดที่เขาพูดออกมานี้ไม่ใช่เบาๆ
“พี่สาวเสี่ยวเหลียนมีสิทธิ์เลือกด้วยตัวเอง เธอไม่ใช่สิ่งของ ข้าหวังว่าเจ้าจะให้เกียรติในจุดนี้” อี้เทียนหยุนพูดเสริมขึ้น “ตอนนี้เจ้าแพ้แล้ว เชิญไสหัวออกไปซะ แน่นอนว่าเดินกลับหัวด้วย!”
“จะให้ข้าเดินกลับหัวอย่างงั้นเหรอ เจ้ายังไม่มีสิทธิ์!” อาจารย์ขงพูดอย่างเย็นชา
“แล้วข้าล่ะมีสิทธิ์ไหม?” ชิเสวี่ยอวิ๋นเดินออกมา มองไปที่เขาอย่างเย็นชา “ไม่ทราบว่าเรื่องที่อาจารย์ขงรับปากไว้ จะทำไหม?”
เมื่อกี้นี้อี้เทียนหยุนเดิมพันโดยการตัดแขน ส่วนอาจารย์ขงต้องทิ้งศาสตราวิญญาณไว้
“ดี ดี!” อาจารย์ขงกัดฟันกรอด พร้อมกับหมุนตัว แต่ยังไม่จากไป “ข้าจะจำไว้ เรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ แน่!”
“ไสหัวไปซะ!”
อี้เทียนหยุนวิ่งเข้าไป กระโดดถีบใส่อาจารย์ขง จนอาจารย์ต้องร้องออกมา โชคดีที่พลังของเขาค่อนข้างดี จึงไม่ได้บาดเจ็บ แต่ไม่คิดว่าเขาจะใจกล้ากระโดดถีบอาจารย์ขงแบบนี้
เขาแน่นอนว่าไม่อาจข่มความโกรธได้ง่ายๆ ตอแยเขา เขาแน่นอนว่าจะเอาคืนเป็น 10 เท่า! อาจารย์ขงไม่เพียงแต่จะเรียกร้องแต่งงาน แต่ยังดูถูกพวกเขาอีก แล้วแบบนี้จะให้ปล่อยเขาไปง่ายๆ ได้ยังไง
“เจ้าหนู เจ้าล้างคอรอไว้ได้เลย!” อาจารย์ขงตะโกนออกมาอย่างโมโห “ถ้าเก่งจริง ชีวิตนี้ก็อย่าได้ออกไปจากตำหนักเทียนเฉวียนแล้วกัน!”
เมื่อพูดจบเขาก็รีบวิ่งทันที คนๆ นี้ อี้เทียนหยุนมีชิเสวี่ยอวิ๋นคอยสนับสนุนอยู่ ดังนั้นเขาจะกล้าเหลวไหลได้ยังไง ทำได้เพียงหนีไปให้เร็วที่สุด
“เจ้าตำหนัก เรื่องนี้ออกจะเกินไปจริงๆ ถึงยังไง ฐานะของอาจารย์ขงในเมืองเทียนเยี่ยก็ไม่ต่ำ ถ้าเขาให้คนข้างนอกมากดดันจะทำยังไง?” ผู้อาวุโสรองคิดว่าอี้เทียนหยุนทำไม่ถูกอย่างมาก
“เรื่องนี้ข้าจะรับไว้เอง เรื่องที่ศิษย์สายนอกอย่างข้าทำ ไม่เกี่ยวอะไรกับตำหนักเทียนเฉวียน!” อี้เทียนหยุนออกหน้ารับเต็มที่ เรื่องนี้เขาเป็นคนทำ ถ้าหลังจากนี้อาจารย์ขงจะมาเอาเรื่อง ก็ให้มาเอาที่เขา ไม่เกี่ยวกับตำหนักเทียนเฉวียน
สามผู้อาวุโสเปลี่ยนสีหน้าอีกครั้ง อี้เทียนหยุนคนนี้ช่างมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งจริงๆ
“เรื่องนี้เป็นเรื่องของตำหนักเทียนเฉวียนของพวกเราทุกคน อาจารย์ขงคนนี้ดูถูกตำหนักเทียนเฉวียนของเรา เรื่องนี้ผู้อาวุโสทั้งหลายต่างเห็นกับตา! ตำหนักเทียนเฉวียนของพวกเราแม้ไม่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ใช่ที่ที่ใครจะมารังแกได้ง่ายๆ ถ้าพวกเขามา พวกเราจะตอบโต้กลับไป!” ชิเสวี่ยอวิ๋นออกหน้าอีกครั้ง ท่าทางกราดเกรี้ยวเมื่อก่อนหน้าปรากฎออกมาอีกครั้ง!
