CLS ตอนที่ 13 ความสามารถศักดิ์สิทธิ์อีกอัน!
#13: ความสามารถศักดิ์สิทธิ์อีกอัน!
“เจ้าเข้าสู่ระดับปรับแต่งวิญญาณได้อย่างไร เจ้าฝึกพลังได้อย่างไร..... เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้เจ้าไม่สามารถฝึกพลังได้ เจ้าบอกข้ามา!” ชิเสวี่ยอวิ๋นดึงอี้เทียนหยุนที่ได้เดินลงมาจากเวทีประลองแล้วไว้
เพราะเรื่องได้จบลงแล้ว อี้เทียนหยุนก็ไม่มีอะไรให้ทำ ดังนั้นต้องลากเขามาคุยให้รู้เรื่อง
อี้เทียนหยุนคิดเล็กน้อย จากนั้นก็ใช้สามัญสำนึกหาข้ออ้างมาอธิบายว่า “ที่จริงแล้วไม่กี่วันก่อน ได้มีผู้เชี่ยวชาญลึกลับมาช่วยเหลือข้า ทำให้ข้าฝึกพลังได้ ทั้งยังช่วยให้ข้าทะลวงระดับอีกด้วย......”
คำอธิบายนี้แน่นอนว่าห่วยอย่างมาก แต่คำอธิบายห่วยๆ นี้กลับสามารถใช้เป็นข้ออ้างได้อย่างดี ที่จริงแล้วออกจะเป็นคำอธิบายที่ดีมากในปัจจุบัน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะบอกว่าตัวเองข้ามโลกมา จากนั้นก็ได้รับระบบนี้จึงสามารถเพิ่มเลเวลได้ใช่ไหมล่ะ?
“ผู้เชี่ยวชาญลึกลับ?” ชิเสวี่ยอวิ๋นตาเป็นประกาย ทันใดนั้นก็เชื่ออย่างถึงที่สุด นี่เป็นไปได้ ในโลกนี้ไม่ว่าอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น “หรือว่าคนๆ นั้นจะเป็นคนที่บิดาเจ้าส่งมา?”
พ่อแม่ของอี้เทียนหยุนหนีไป แต่ไม่ได้ตาย แต่จะเป็นที่ไหนนั้นยังไม่แน่ชัด เหตุผลนั้นมีเพียงชิเสวี่ยอวิ๋นที่รู้ว่าทำไมเจ้าตำหนักคนก่อนถึงหนีไป แน่นอนว่าคนที่หนีตามไปต้องเป็นอัจฉริยะที่สุดยอดคนหนึ่ง ถ้าไม่ใช่สุดยอดอัจฉริยะ ด้วยตำแหน่งเจ้าตำหนักคงเป็นไปไม่ได้ที่จะชอบเขา
อี้เทียนหยุนยิ้ม จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างมาก ข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญลึกลับคนนั้นไม่ได้เปิดเผย เขาบอกว่าจะช่วยเพิ่มพลังบ่มเพาะให้กับเขา ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่มีพลังพอที่จะชนะการประลองนี้”
ชิเสวี่ยอวิ๋นคิด จากนั้นก็พูดว่า “นี่เป็นคำที่ผู้เชี่ยวชาญลึกลับคนนั้นพูดเหรอ?”
อี้เทียนหยุนส่ายหัวแล้วพูดขึ้น “นี่เขาไม่ได้พูด สารภาพตามจริง มีเพียงแค่คำบอกที่ว่าจะช่วยเพิ่มพลังบ่มเพาะให้ข้าเท่านั้น นอกนั้นเขาไม่ได้พูด”
“ที่แท้เรื่องก็เป็นอย่างนี้นี่เอง..... ถึงว่าทำไมเจ้าที่มีเลือดฉีไม่เพียงพอถึงสามารถแสดงพลังออกมาได้ถึงขนาดนี้ กระทั่งข้ายังถูกเจ้าหลอก” ชิเสวี่ยอวิ๋นมองดูท่าทางเหมือนโกรธ แต่ใบหน้าของเธอกลับไม่มีอาการโกรธอยู่เลย
อี้เทียนหยุนเอามือลูบหัว พูดอย่างอายๆ ว่า “ข้าแค่อยากทำให้ท่านน้าตกใจ......”
ในใจให้แอบถอนหายใจ เรื่องนี้แท้จริงล้วนเป็นเพราะเลือดฉีไม่เพียงพอ
“นี่แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก!” ชิเสวี่ยอวิ๋นเขกกะโหลกเขา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงฮึดฮัดเล็กน้อย “ครั้งนี้ถือว่าสั่งสอนเจ้า จากนี้ข้ายังมีเรื่องต้องจัดการอีก เจ้ากลับไปพักก่อน”
อี้เทียนหยุนยิ้ม จากนั้นก็กลับบ้านของเขา ส่วนชิเสวี่ยอวิ๋นก็ไปจัดการเรื่องของตน เรื่องนี้ถือเพิ่งจะจบ พี่สาวเสี่ยวเหลียนก็รีบตามมา แล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “นายน้อย การแสดงของท่านเมื่อกี้นี้น่าทึ่งมาก!”
อี้เทียนหยุนได้รับสายตาดูถูก เธอได้เห็นมันมา แล้วก็รู้สึกเสียใจกับเขาอย่างเงียบๆ มาตอนนี้อี้เทียนหยุนได้ผงาดขึ้น แสดงพลังของตนออกมา แล้วแบบนี้จะไม่ให้เธอรู้สึกตื่นเต้นได้ยังไง?
“วางใจเถอะ หลังจากนี้จะต้องดีกว่านี้อีก” อี้เทียนหยุนหรี่ตาลง คิดถึงความสำเร็จในอนาคต แน่นอนว่าเขาต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้!
หลังจากกลับมาถึงห้อง อี้เทียนหยุนก็รีบเปิดกล่องของขวัญเลเวล 11 โดยไม่เสียเวลา
“เปิดกล่องของขวัญ!” อี้เทียนหยุนคาดหวัง ไม่รู้ว่าของขวัญกล่องนี้จะให้ของที่น่าตกใจอะไรออกมา
“ติ๊ง ยินดีด้วย ท่านได้รับความชำนาญระดับพื้นฐาน: ได้รับเทคนิคกลั่นโอสถระดับพื้นฐาน, สลักอาคมระดับพื้นฐาน และหลอมศาสตราระดับพื้นฐาน! ท่านได้รับสิทธิ์ในการหมุนลอตเตอรี่ 1 ครั้ง, กล่องของขวัญเลเวล 15”
เมื่ออี้เทียนหยุนอ่านรายละเอียด เขาก็ได้ดีใจสุดๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้ความชำนาญระดับพื้นฐานมา นี่จะเป็นตัวช่วยเขาได้อย่างมาก การที่อยู่ๆ ก็ได้รับความชำนาญทั้งหมดนี้มา นี่หมายความว่าเขาจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ ทันที!
แม้ว่าจะเป็นระดับพื้นฐาน แต่ในโลกนี้ถือว่าอยู่ในชั้นที่ 3 แล้ว ในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรก็ล้วนแต่แบ่งเป็น ชั้นที่ 1, ชั้นที่ 2, ชั้นที่ 3, ชั้นที่ 4, ชั้นที่ 5, อาจารย์, ปรมาจารย์ และผู้สร้าง
การมีอยู่ของผู้เชี่ยวชาญชั้นที่ 3 ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหน ก็ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ดี อย่างน้อยก็ไม่ใช่ระดับผู้เริ่มต้น
ตัวอย่างเช่นนักกลั่นโอสถชั้นที่ 3 ก็เพียงพอที่จะกลั่นยาชั้นดีได้หลายชนิดแล้ว ทั่วทั้งตำหนักเทียนเฉวียนยังไม่มีนักกลั่นโอสถแม้แต่คนเดียว เห็นได้ถึงความหายากและขาดแคลน เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพื้นที่อยู่อาศัย เพราะว่าที่นี่เป็นดินแดนแห่งน้ำแข็ง ดังนั้นจึงมีผลต่อการกลั่นโอสถ
ดังนั้น ตำหนักเทียนเฉวียนจึงต้องหาคนกลั่นโอสถจากข้างนอก หรือนักหลอมศาสตราและอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือเจ้าตำหนัก
เขาซึ่งตอนนี้มีความสามารถเหล่านี้แล้ว นั้นหมายความว่าเขาสามารถหลอมศาสตราหรือว่ากลั่นโอสถด้วยตัวเองได้แล้ว
“แม้ว่าจะเป็นเพียงระดับพื้นฐาน แต่ก็สอดคล้องกับระดับบ่มเพาะอย่างมาก”
ความสามารถเหล่านี้แน่นอนว่าสามารถเพิ่มระดับได้ ค่าความชำนาญในตอนนี้คือ (0/1,000) เขาจำเป็นต้องใช้เวลาและวัตถุดิบหลายอย่างเพื่อเพิ่มค่าความชำนาญพวกนี้ ยังไงก็ตาม ตราบเท่าที่เขาสร้างมันเรื่อยๆ ก็จะสามารถเพิ่มระดับของมันได้ ไม่เหมือนคนอื่นที่จำเป็นต้องฝึกฝนมากมาย
“ตอนนี้มีสิทธิ์สุ่มลอตเตอรี่แล้ว ไม่ควรให้มันเสียเปล่า”
อี้เทียนหยุนในตอนนี้ค่อนข้างสนใจอย่างมากเกี่ยวกับสิทธิ์ในการสุ่มลอตเตอรี่ครั้งนี้ ครั้งก่อนเขาได้รับหมัดเยือกแข็งมา ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะได้อะไร!
“เปิดระบบสุ่มลอตเตอรี่!”
และในพริบตานี้เอง ภาพกงล้อลอตเตอรี่ก็ได้ปรากฏขึ้น คนรอบๆ คนอื่นแน่นอนว่ามองไม่เห็น มีเพียงเขาเท่านั้นที่เห็นมัน จากนั้นเขาก็ทำการดึงคันโยกลงอย่างแรง จากนั้นวงล้อก็เริ่มหมุนอย่างเร็ว เข็มก็เริ่มชี้ไปยังหมวดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
“หยุดตรงหมวดความสามารถศักดิ์สิทธิ์, หยุดตรงหมวดความสามารถศักดิ์สิทธิ์!”
เขาร้องออกมาอย่างกับคนบ้า ที่ล้ำค่าที่สุดคือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ นี่สัมผัสได้จากโหมดคลั่งที่สามารถเพิ่มพลังให้กับอะไรก็ได้ 2 เท่า แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว
เสียงวงล้อที่เขาได้ยินเริ่มช้าลงเรื่อยๆ ก่อนที่จะหยุด ในที่สุดเข็มก็ชี้ไปยังหมวดความสามารถศักดิ์สิทธิ์!
“ได้หมวดความสามารถศักดิ์สิทธิ์จริงๆ!”
อี้เทียนหยุนร้องออกมาด้วยความตกใจจนแทบกระโดด จากนั้นกล่องของขวัญก็ถูกเพิ่มเข้ามาในช่องเก็บของของเขา เขาหามันเจออย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดออก รายละเอียดของความสามารถศักดิ์สิทธิ์ก็ได้เผยออกตรงหน้าของเขา
โชคดี: เพิ่มค่าโชคขึ้น 5 เท่า ผลาญแต้มความคลั่งทุกวินาที
“โชคดีอย่างงั้นเหรอ?”
อี้เทียนหยุนแน่นอนว่ารู้ถึงคุณค่าของสิ่งนี้ แต่เมื่อเห็นว่ามันต้องผลาญแต้มทุกวินาที ก็ทำให้เขาแทบกระอักเลือดออกมา นี่เทียบได้กับโหมดคลั่งเลยทีเดียว! การล้างผลาญของความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ช่างสะท้านขวัญจริงๆ
“การล้างผลาญนี้ช่างน่าสะพรึงจริงๆ แต่ผลลัพธ์ของมันก็น่าทึ่ง เพิ่มค่าโชคขึ้น 5 เท่า หลังจากเปิดใช้งาน ไม่ใช่ว่าเดินๆ ไปก็เจอเงินตกอยู่หรอกนะ?”
เขาขมวดคิ้วมุ่น และเมื่อเดินออกมายังสวนข้างนอก เขาก็เปิดใช้งานโชคดี แต้มความคลั่งก็ถูกผลาญไปอย่างรวดเร็ว วินาทีละ 1 แต้ม! นี่ทำให้อี้เทียนหยุนรู้สึกเสียดายอย่างมาก แต่ว่าเขาก็อยากจะเห็นว่าค่าโชคของตัวเองที่เพิ่มขึ้นจะให้ผลยังไง!
เขาสำรวจพื้นที่รอบๆ มองดูว่าจะมีสมบัติอะไรตกอยู่ไหม หรือไม่ก็มองขึ้นไปบนฟ้า เผื่อว่าจะมีสมบัติตกลงมา
“นายน้อย ท่านกำลังทำอะไร?” ในตอนนี้เอง พี่สาวเสี่ยวเหลียนก็ได้เดินเข้ามา พร้อมกับมองมาที่อี้เทียนหยุนอย่างสงสัย
ขณะที่เดินมา ทันใดนั้นเท้าของเธอก็ลื่น ถลาเข้ามาสู่อ้อมกอดของอี้เทียนหยุน อี้เทียนหยุนที่หูตาว่องไวก็เอื้อมมือไปรับเธอ ขณะที่อยากจะพูดอะไรอยู่นั้น พี่สาวเสี่ยวเหลียนก็ได้เงยขึ้นมา หอมเข้าที่แก้มของเขาในทันใด
“......อ่า นายน้อย ข้าไม่ได้ตั้งใจ......”
พี่สาวเสี่ยวเหลียนกระโดดออกจากอ้อมแขนของอี้เทียนหยุนอย่างเอียงอาย ใบหน้าที่งดงามแดงก่ำ ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ เมื่อพูดจบเธอก็วิ่งออกไปทันที แม้ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ว่าเธอก็รู้สึกเสียหน้าจริงๆ!
“นี่คงไม่ใช่เพราะค่าโชคดีที่เพิ่มขึ้นหรอกนะ......” อี้เทียนหยุนเอามือลูบแก้มของตน จากนั้นก็หยุดใช้งานโชคดี พร้อมกับเอามือแตะที่ริมฝีปาก “ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะเยี่ยมทีเดียว......”