CLS ตอนที่ 11 หมัดเดียว!
#11: หมัดเดียว!
จ้าวเฟิงกระโดดขึ้นไปยังเวทีประลอง หลังจากที่ตกถึงพื้น เสียงสั่นของพื้นก็ดังออกมา พลังกายที่มหาศาล ทำให้ผู้คนต่างมองมาอย่างสงสัย
สิ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจก็คือสิ่งที่จ้าวเฟิงห่อไว้ในผ้าสีดำที่สะพายไว้ข้างหลัง หลังจากนั้นจ้าวเฟิงก็ดึงเอาเจ้าสิ่งนั้นออกมา หลังจากเปิดห่อผ้าที่คลุมอยู่ ผู้คนก็ได้เห็นหอกยาวสีดำอยู่ข้างใน!
“ตึก!”
จ้าวเฟิงกวัดแกว่งหอกยาวอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็กระแทกมันกับพื้นเสียงดัง จนทำให้พื้นเกิดหลุมเล็กๆ ขึ้น!
ฉากที่เห็นนี้ทำให้ศิษย์หญิงของตำหนักเทียนเฉวียนต้องเอามือขึ้นมาปิดปากน้อยๆ ของพวกเธอ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจ้าวเฟิงถึงได้กระโดดขึ้นเวทีประลองในครั้งนี้ ฟังจากเสียงแหวกอากาศยามร่ายรำหอกยาวเมื่อครู่ ที่แท้เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้หอกเหล็กนี่เอง พลังโจมตีที่แสดงออกมา ถึงกับสามารถสร้างหลุมให้กับเวทีประลอง
“หอกยาวนี้อย่างน้อยก็ต้องหนัก 600-700 จิน(300-350 กิโลกรัม)......”
“พรสวรรค์ด้านพลังกายของเขาสูงขนาดนี้เชียวเหรอ ทั้งที่อยู่ในระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 7 แต่กลับกวัดแกว่งอาวุธที่หนักขนาดนั้นได้อย่างง่ายดาย?”
....................................
ภายใต้เสียงถกเถียงที่ส่งออกมาจากรอบๆ เวทีประลอง แม้ว่าพลังโจมตีของอี้เทียนหยุนจะน่าอัศจรรย์ แต่ด้านระยะของอาวุธถือว่าเสียเปรียบ ความยาวของหอกเล่มนั้นเกือบเทียบได้กับความสูงของคนสองคน แค่กวาดออกมาก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ อย่าว่าแต่โจมตีเลย
ชิเสวี่ยอวิ๋นสีหน้าเย็นชา พูดขึ้นว่า “ดูท่าผู้อาวุโสจ้าวจะวางแผนไว้หมดแล้ว ด้านพลังสู้ไม่ได้ ก็เลยคิดจะใช้อาวุธแทนอย่างนั้นสินะ!”
จ้าวฮัวหลงคนนี้ไม่มีเจตนาดีจริงๆ ถึงกับส่งจ้าวเฟิงที่มีพรสวรรค์ด้านพลังกายลงไป ดูจากการกวัดแกว่งหอกเล่มนั้นได้อย่างง่ายดาย เห็นได้ชัดว่าพลังกายของเขาไม่ใช่น้อยๆ เลย แถมในกฎก็ยังไม่ระบุว่าห้ามใช้อาวุธ การใช้อาวุธนั้น ถ้าเป็นอาวุธที่ดีล่ะก็ มันสามารถเพิ่มพลังให้กับคนใช้ได้หลายระดับเลยทีเดียว!
ตอนนี้มีอาวุธเข้ามาเกี่ยวข้อง อี้เทียนหยุนก็สามารถใช้อาวุธได้เช่นเดียวกัน อาวุธที่ตำหนักเทียนเฉวียนมีนั้นมีอยู่มากมาย แต่อาวุธที่อี้เทียนหยุนคุ้นเคยนั้น ชิเสวี่ยอวิ๋นไม่รู้เลยจริงๆ
จ้าวฮัวหลงพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ว่า “ในกฎก็ไม่ได้บอกว่าห้ามใช้อาวุธไม่ใช่เหรอ? ฝั่งท่านก็สามารถใช้อาวุธได้เช่นกัน”
พลังของอี้เทียนหยุนถือว่าดี แต่ถ้าเป็นการประลองที่ต้องใช้อาวุธล่ะ? ความต่างของทั้งสองนั้นไม่อาจเทียบกันได้ เขารู้ว่าการเคลื่อนไหวของอี้เทียนหยุนไม่ดี เมื่อเป็นอย่างนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วก่อนที่เขาจะถูกโจมตีจนพ่ายไป
เรื่องนี้นอกเหนือจากที่เขาคาดการณ์ไว้ ทำให้เขาสับสน แต่ที่นี่ไม่ใช่การประลองที่พิถีพิถันอะไร เป็นเพียงการประลองเพื่อสัมผัสกับชัยชนะหรือความพ่ายแพ้เท่นั้น!
“หอกนี้ดูท่าจะร้ายกาจน่าดู”
อี้เทียนหยุนมองสำรวจหอกยาวในมือจ้าวเฟิง เขาหรี่ตามองดูอย่างละเอียด ทำให้เขานึกถึงอาวุธที่เขาคุ้นเคย
“เทียนหยุน เจ้าจะใช้อาวุธอะไร?” ชิเสวี่ยอวิ๋นคิดจะหาอาวุธให้อี้เทียนหยุน ในหมู่อาวุธระดับเหล็กก็มีแบ่งระดับทั้งต่ำและสูง ระดับต่ำนั้นมีมาก แต่ระดับสูงกลับขาดแคลนอยู่บ้าง
อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มบาง “ข้ามีอาวุธแล้ว.....” หลังจากพูดจบก็เรียกหมัดเยือกแข็งออกมาสวมไว้ที่มือ ถุงมือสีฟ้าคลุมที่หมัดของเขา เปล่งแสงสีฟ้าอ่อนๆ กระจายออกมา ดูแล้วน่าดึงดูดอย่างมาก
เมื่อผู้คนได้เห็นถุงมือนี้ ก็เหมือนกับถูกหลอก นี่มันไม่เรียกว่าอาวุธด้วยซ้ำ? ฝั่งตรงข้ามมีความได้เปรียบด้านระยะของอาวุธที่ยาวกว่า ต่อให้ถุงมือนี้จะมีพลังที่แข็งแกร่งยังไง แต่ต่อหน้าระยะโจมตีที่แตกต่าง เขาก็ง่ายที่แพ้
“ฮ่าๆๆ..... อาวุธที่เขาเลือกต่างกับไม่ใช้อาวุธยังไง? ยิ่งกว่านั้น นั่นมันอะไร เหมือนจะไม่ใช่แค่ถุงมือธรรมดา มันมีพลังอะไรกันแน่!?” จ้าวฮัวหลงที่เห็นฉากตรงหน้าก็หัวเราะออกมา คิดว่าช่างตลกเสียจริง อาวุธอะไรไม่ใช้ ดันมาเลือกใช้ถุงมือเสียได้!
ศิษย์หญิงตำหนักเทียนเฉวียนต่างมองหน้ากันด้วยสีหน้าว่างเปล่า รอบนี้คงต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!
ชิเสวี่ยอวิ๋นพูดอย่างเป็นห่วงว่า “เทียนหยุน เจ้าเลือกอาวุธนี้เพื่อสู้กับเขาจริงๆ?”
จากที่เธอมองดูเมื่อครู่ การเคลื่อนไหวของอี้เทียนหยุนไม่ดีเท่าไหร่ การหลบหลีกของเขาใช้ไม่ได้ หรือว่าเขาคิดจะพุ่งเข้าไปตรงๆ?
“ไม่ลองก็ไม่รู้” อี้เทียนหยุนยิ้ม จากนั้นก็เดินขึ้นไปยังเวทีประลอง
คิดจะใช้หมัดรับอาวุธนี้จริงๆ?
อย่าว่าแต่ศิษย์นิกายเทียนหลิง แม้แต่ตำหนักเทียนเฉวียนเอง ส่วนมากก็ไม่มีใครชอบ ถ้าพลังของทั้งสองต่างกันมาก ต่อให้สู้ด้วยมือเปล่าก็สามารถจัดการจ้าวเฟิงได้ง่ายๆ แต่นี่พลังของทั้งสองกลับไม่ต่างกันเท่าไหร่ ภายใต้ระยะที่ยาวสุดกู่ของอาวุธ บางที อี้เทียนหยุนอาจมีโอกาสชนะเพียงครึ่งเท่านั้น!
นี่ไม่ได้พูดเกินจริง จ้าวเฟิงที่กวัดแกว่งหอกเหล็กราวกับกิ่งไม้อย่างนี้ ต่อให้โจมตีไม่โดน แล้วจะเข้าใกล้ได้ยังไง? เว้นแต่อี้เทียนหยุนจะเร็วกว่า
“เป็นเจ้าที่รนหาที่ตายเอง อย่ามาโทษข้าล่ะ” จ้าวเฟิงชี้หอกไปยังอี้เทียนหยุน ปลายหอกเปล่งแสงคมปลาบออกมา อีกไม่กี่อึดใจออกมา มันจะได้ลิ้มลองรสชาดเลือดของอี้เทียนหยุน
“เข้ามา”
อี้เทียนหยุนพูดบอกให้จ้าวเฟิงลงมือ เผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่แยแส
“ฮ่าห์!”
จ้าวเฟิงก็ไม่รีรอ คำรามเสียงต่ำ ถือหอกพุ่งเข้าไป แทงออกไปด้วยท่าทางดุดัน ลูกตาทั้งสองข้างเป็นสีเลือดโดยไม่คาดคิด! พลังของเขาพลันเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่พลังที่ระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 7 จะระเบิดออกมาได้
“ใช้เม็ดยาคลุ้มคลั่งอย่างงั้นเหรอ?” ทันใดนั้นก็มีคนตาดีเห็นจ้าวเฟิงใช้เม็ดยาคลุ้มคลั่งเพื่อแสดงพลังที่น่าสะพรึงออกมา ภายใต้หอกนี้ ถ้าถูกโจมตีเข้าล่ะก็ อี้เทียนหยุนจะต้องถูกบดจนเป็นเศษเนื้อไปจริงๆ แน่
“!”
เสียงทะลวงของหอกเสียดแทงเข้าไปยังหูของผู้คน พริบตานี้ พลังที่ป่าเถื่อนได้ล็อกเป้าไว้ยังอี้เทียนหยุน จ้าวเฟิงที่อยู่กลางอากาศถือหอกยาวฟาดลงมายังอี้เทียนหยุนด้วยแรงทั้งหมดที่มี
“หอกมังกรตามกระแส!”
วิชาระดับมนุษย์ของนิกายเทียนหลิงถูกใช้ออกมา เมื่อรวมกับผลของเม็ดยาคลุ้มคลั่ง ทำให้พลังที่แสดงออกมาถูกใช้ออกถึงขีดสุด! ภายใต้กลิ่นอายนี้ ต่อให้อี้เทียนหยุนอยากจะหลบก็หลบไม่ได้ นี่เป็นการโจมตีล็อกเป้าหมาย ไม่สามารถหลบได้
แต่ในอึดใจต่อมา ร่างของอี้เทียนหยุนอยู่ๆ ก็หายไปจากจุดที่ยืนอยู่ ฉากที่เห็นนี้ คล้ายกับตอนที่โม่เฉิงใช้ท่าเท้าเหยียบเมฆาออกมาเลย แล้วอี้เทียนหยุนใช้วิชานี้ได้ยังไง? ท่าเท้าเหยียบเมฆานี้เป็นวิชาลับวิชาหนึ่งของนิกายเทียนหลิง แล้วอี้เทียนหยุนไปเรียนรู้มันได้ยังไง?
“นี่ นี่คือท่าเท้าเหยียบเมฆา เป็นไปได้ยังไง!?”
จ้าวฮัวหลงสั่นสะท้าน แม้แต่ศิษย์นิกายเทียนหลิงทั่วไปยังไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เรียนมัน ตอนนี้อี้เทียนหยุนกลับแสดงมันออกมา มันทำให้พวกเขาตกใจยิ่งนัก
อย่าว่าแต่ศิษย์นิกายเทียนหลิง แม้แต่คนของตำหนักเทียนเฉวียนก็มองเซ่อไปเหมือนกัน ทำไมวิชาลับของนิกายเทียนหลิงถึงถูกอี้เทียนหยุนใช้ออกมากัน?
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกใจ อี้เทียนหยุนก็ได้พึ่งพาวิชาตัวเบาที่น่าตื่นตระหนกนี้หลบออกจากสภาพที่ถูกล็อกเป้าไว้อย่างรวดเร็ว ในอึดใจต่อมา เขาก็ไปปรากฏตัวที่ข้างหลังจ้าวเฟิง! พร้อมกับต่อยลงไปอย่างโหดเหี้ยม หมัดเยือกแข็งพลันส่งลำแสงสีฟ้าออกมา อากาศพลันเย็นลงอย่างรวดเร็ว คลุมลงบนร่างของจ้าวเฟิง
พริบตานี้การเคลื่อนไหวของเขากลายเป็นเชื่องช้าอย่างมาก อยากจะหันกลับไปตอบโต้ แต่ก็พบว่าความเร็วของตนถูกลดลงมหาศาล หันกลับไปทัน
“เปรี้ยง!”
ในที่สุด หมัดนี้ก็ต่อยใส่ร่างจ้าวเฟิงอย่างหนักหน่วง จ้าวเฟิงถูกต่อยจนปลิว ขณะที่ความเย็นสุดขีดได้ทะลวงเข้าไปในร่างของเขาไม่หยุด เขาที่ก่อนหน้าได้กินเม็ดยาคลุ้มคลั่งเข้าไป ความร้อนเย็นในร่างตีกันให้วุ่น ทำให้เขาเจ็บปวดจนแทบสลบไป
“ปัง!”
หลังจากปลิวมาตามทาง สุดท้ายเขาก็กระแทกลงกับพื้น ขณะที่ปากก็กระอักเลือดออกมาคำโต ก่อนที่จะคอพับแล้วตายไป! กินเม็ดยาคลุ้มคลั่งเข้าไป แค่ผลข้างเคียงของมันก็หนักพอแล้ว หลังจากนั้นยังมาถูกหมัดที่ทรงพลังของอี้เทียนหยุนเข้าไปอีก เส้นเลือดในร่างของเขาจึงแตกออก ต่อให้ไม่อยากตายก็ยาก!
“ติ๊ง! ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนสังหารศิษย์นิกายหลิง จ้าวเฟิงสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 700, ค่าความคลั่ง 30.....”
“ติ๊ง! ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนชนะการประลองทั้งหมด ได้รับค่าประสบการณ์ 10,000, เสื้อเกราะเทียนเสิ่น และ 120 ทอง.....”
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้เข้าสู่ระดับปรับแต่งวิญญาณขั้นที่ 1!”
เยี่ยม หลังจากออกล่าและสังหารสัตว์อสูรที่ข้างนอกมาครึ่งเดือน พลังของเขาก็ได้มาถึงระดับปรับแต่งกายาขั้นสูงสุดแล้ว หลังจากสำเร็จภารกิจนี้ เขาก็ได้เข้าสู่ระดับปรับแต่งวิญญาณในคราวเดียว!
ตั้งแต่เริ่มเขาก็จัดการด้วยพลังที่สะกดข่มมาตลอดทางด้วยระดับปรับแต่งกายาขั้นสูงสุด แล้วตอนนี้ใครจะมาสู้กับเขาได้?