CLS ตอนที่ 10 ของเดิมพัน
#10: ของเดิมพัน
ภายใต้สายตาเป็นกังวลของผู้คน อี้เทียนหยุนได้เผยรอยยิ้มบางและพูดออกมา “รอบสุดท้ายทุกคนให้ข้าจัดการเอง ให้ข้าสั่งสอนพวกเขา ว่าตำหนักเทียนเฉวียนของพวกเราร้ายกาจแค่ไหน!”
น้ำเสียงของเขาทั้งทุ้มต่ำและลึกซึ้ง เขาไม่ต้องการปล่อยนิกายเทียนหลิงไป!
“นายน้อย ท่านจะเอาแบบนี้จริงๆ?”
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้เขายังเป็นเหมือนขยะ แต่ไม่คิดเลยว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ท่านเจ้าตำหนัก ท่านช่างซ่อนความจริงจากพวกเราได้ดีจริงๆ!”
...........................
พลังที่อี้เทียนหยุนแสดงออกมาทำให้ศิษย์หญิงนับไม่ถ้วนแสดงความนับถืออย่างสูงให้กับเขา แม้ไม่กล้าพูดว่าศิษย์หญิงพวกนั้นจะไม่ขับไล่อี้เทียนหยุน แต่อย่างน้อยสายตาที่มองมายังอี้เทียนหยุนของพวกเธอก็เปลี่ยนไปมาก
เจ้าตำหนักคนก่อนไร้ความรับผิดชอบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตำหนักเทียนเฉวียนเสียหาย ยิ่งกว่านั้น เมื่อเขาเป็นคนของตำหนักเทียนเฉวียน เขาก็ควรจะทำอะไรเพื่อตำหนักเทียนเฉวียนบ้าง
แน่นอนว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับการแสดงออกของเขา เพราะว่าเขานำชัยชนะมาให้กับตำหนักเทียนเฉวียน ถ้าปราศจากผลลัพธ์นี้ ต่อให้ไม่ใช่ขยะ เขาก็ยังคงถูกดูถูก สุดท้ายแล้ว ถ้าไม่มีพลัง ก็ไม่สามารถเปลี่ยนมุมมองของผู้คนได้
ชิเสวี่ยอวิ๋นเห็นสถานการณ์รอบๆ ก็อดไม่ได้ต้องส่ายหัว คิดว่าอี้เทียนหยุนคงจงใจปกปิด กระทั่งเธอที่เป็นคนในครอบครัวที่ดูแลอี้เทียนหยุนก็ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จริงๆ นั้นเป็นยังไง? ต่อให้ไม่ใช่ขยะ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังสูงขนาดนี้
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอก็ไม่สามารถเข้าใจได้ เสี่ยวเหลียนก็เช่นกัน
“เจ้าจะเอาอย่างนี้จริงๆ?” ชิเสวี่ยอวิ๋นพูดออย่างกังวล “อย่าได้อวดเก่งอีก รีบลงมาได้แล้ว”
อี้เทียนหยุนอยากจะพูดอะไร แต่จ้าวฮัวหลงที่อยู่ข้างล่างเวทีได้พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “เขาตอบรับที่จะประลองรอบสุดท้ายแล้ว ต้องแข่งต่อ!”
ผู้คนมองตามเสียงไป เห็นเพียงจ้าวฮัวหลงที่ตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ท่าทางเต็มไปด้วยจิตสังหารที่แพร่กระจายออกจากร่าง กระทั่งลูกศิษย์ของนิกายเทียนหลิงก็ยังมองมายังอี้เทียนหยุนอย่างโกรธแค้น สังหารพี่น้องของพวกเขาไปต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่จะทำให้พวกเขารู้สึกอับอายเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเขาสูญเสียศิษย์มากพรสวรรค์ไปถึง 2 คน!
ในเวลานี้ ความโกรธแค้นในใจของจ้าวฮัวหลงได้พุ่งขึ้นถึงขีดสุด ด้วยพรสวรรค์ของโม่เฉิง ในอนาคตเขาจะต้องสามารถเข้าเป็นศิษย์สายในได้อย่างแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ได้ตายไปแล้ว! หลังจากกลับไป เขาไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายยังไง
ตอนนี้เขาต้องการเพียงสังหารอี้เทียนหยุนเท่านั้น เพื่อแก้แค้นให้กับโม่เฉิง และก็เพื่อกู้หน้าให้กับนิกายเทียนหลิง
“ผู้อาวุโสจ้าว เทียนหยุนได้ประลองไป 2 รอบแล้ว ถ้ายังให้ประลองอีก นี่ไม่เท่ากับว่าขัดกับธรรมเนียมหรอกเหรอ!” ชิเสวี่ยอวิ๋นเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่แยแส พลังสะกดข่มถูกส่งออกมาจากร่างของเธอ กวาดเอาจิตสังหารที่จ้าวฮัวหลงเปล่งออกมาทิ้งไปในคราวเดียว
“เขาเป็นคนพูดเองว่าจะประลองต่อ พวกเราก็แค่ยอมรับคำขอของเขา!” จ้าวฮัวหลงแน่นอนว่าไม่เต็มใจที่จะให้อี้เทียนหยุนจากไป ถ้าเขาจากไป โอกาสที่จะแก้แค้นก็จะไม่มีเหลืออีก
“ตอนนี้ข้าพูดแทนเขา การประลองถัดไปให้เปลี่ยนคน ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสจ้าวคิดว่ายังไง?” ชิเสวี่ยอวิ๋นแน่นอนว่ารู้ความคิดที่ต้องการแก้แค้นของจ้าวฮัวหลงดี
ผู้คนอดไม่ได้ให้ดูหมิ่นจ้าวฮัวหลง อี้เทียนหยุนพูดโดยไม่คิด ไม่นับเป็นจริงเป็นจังได้
“เจ้าตำหนักชิ นี่เป็นเขาเลือกเอง!” จ้าวฮัวหลงชูนิ้วขึ้นมา 2 นิ้ว แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ถ้าเขาประลองต่อในรอบสุดท้ายนี้ ถ้าเขาชนะ ข้าจะมอบเม็ดยาทะลวงวิญญาณเพิ่มให้เป็นของรางวัล!”
เพียงเมื่อคำนี้เอ่ยออกมา ก็พลันทำให้ทุกคนพากันโห่ร้องออกมา เม็ดยาทะลวงวิญญาณ มันเป็นเม็ดยาที่ใช้เพื่อทะลวงเข้าสู่ระดับปรับแต่งวิญญาณสมดั่งชื่อของมัน ตราบเท่าที่คนๆ นั้นอยู่ในจุดสูงสุดของระดับปรับแต่งกายา เมื่อใช้ยานี้ก็สามารถช่วยให้ผ่านเข้าสู่ระดับปรับแต่งวิญญาณได้อย่างมั่นคง
จ้าวฮัวหลงเพิ่มของเดิมพันเข้าไป แน่นอนว่าเม็ดยาทะลวงวิญญาณนี้ไม่ใช่ของราคาต่ำ ถ้าแพ้ ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถชดเชยให้กับศิษย์สองคนที่ตายไปแล้ว ยังสูญเสียเม็ดยาทะลวงวิญญาณนี้ด้วย
ใจจริงเขาไม่อยากหยิบออกมา แต่เพื่อให้อี้เทียนหยุนประลองต่อ เขาได้แต่ใช้มันออกมา นี่คือเม็ดยาที่เตรียมไว้ให้โม่เฉิง
แต่ใครจะรู้ว่าชิเสวี่ยอวิ๋นกลับพูดเหน็บแนมขึ้นมา “เม็ดยาทะลวงวิญญาณนี้ล้ำค่ามาก ข้าว่าท่านผู้อาวุโสเก็บไว้กินเองเถอะ!”
เม็ดยาทะลวงวิญญาณนี้ ตำหนักเทียนเฉวียนของเธอก็สามารถหาได้ แม้ว่าของสิ่งนี้จะถือว่าล้ำค่า แต่สำหรับเธอแล้ว อี้เทียนหยุนกลับสำคัญกว่า ดูจากท่าทางของฝั่งตรงข้าม เขาจะต้องมีแผนร้ายแน่ๆ อี้เทียนหยุนจะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน!
ในใจจ้าวฮัวหลงจมลง เม็ดยาทะลวงวิญญาณนี้ สำหรับศิษย์ระดับปรับแต่งกายาถือว่าล้ำค่าอย่างมาก แต่กับระดับปรับแต่งวิญญาณขึ้นไป ไม่นับว่ามีประโยชน์อะไร
“แล้วท่านต้องการอะไร!” จ้าวฮัวหลงพูดออกมาอย่างกัดฟัน
“ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ! ข้าบอกว่าอย่าเอาของไร้ค่าชิ้นนี้มาเทียบกับคนของข้า!”
ชิเสวี่ยอวิ๋นพ่นลมออกจมูก แทบจะไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย ในคำพูดของเธอ เห็นได้ชัดว่าอี้เทียนหยุนสำคัญกว่า!
สีหน้าของจ้าวฮัวหลงกลายเป็นน่าเกลียด หรือว่าจะไม่สามารถแก้แค้นได้จริงๆ?
“เม็ดยาทะลวงวิญญาณนี้ ข้ายอมรับ!” อี้เทียนหยุนส่งรอยยิ้มสงบ เขาวางแผนว่าจะยอมรับแต่แรกแล้ว แต่ไม่คิดว่าพวกจะมีการเพิ่มของเดิมพันด้วย แล้วแบบนี้เขาจะไม่รับได้ยังไง
ตอนแรกที่เขาเลือกจะสู้ เขาไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะทะเลาะกันจนกระทั่งมีของเดิมพันเพิ่มขึ้นมา เมื่อเป็นอย่างนี้แน่นอนว่ามันต้องดีกว่าอยู่แล้ว ทำให้เขารอคอยที่จะประลองยิ่งขึ้น!
เหมือนเช่นก่อนหน้า เขาเลือกที่จะประลอง นี่ไม่มีใครกล้าดูถูกเขา พลังที่เขาแสดงออกมาก่อนหน้า ได้ทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน
ในสายตาของจ้าวฮัวหลงเผยประกายแห่งความสุขออกมา รีบพูดว่า “เมื่อเป็นอย่างนี้ เราก็มาเริ่มการประลองรอบต่อไปเร็วขึ้นหน่อย!” เขาไม่อยากจะพลาดโอกาสนี้ไป ในหัวใจของเขาทั้งเบิกบานและเย็นชา ตราบเท่าที่อี้เทียนหยุนยอมรับ พวกเขาก็ยังมีโอกาส!
ในหัวใจของชิเสวี่ยอวิ๋นให้รู้สึกกังวล ขณะที่เธออยากจะพูดอะไรอยู่นั้น เธอก็เห็นสายตาที่อี้เทียนหยุนมองมา มันมีความรู้สึกมั่นใจที่แข็งแกร่งอยู่ในตาของเขา ทำให้ปากที่จะเปิดขึ้นของเธอต้องปิดลง ไม่พูดปฏิเสธออกไปอีก
“รอบสุดท้าย จ้าวเฟิงขึ้นไป!”
จ้าวฮัวหลงส่งลูกศิษย์ที่มีพลังระดับปรับแต่งกายาขั้นที่ 7 ขึ้นไป พลังของเขาอยู่ระดับเดียวกับฟางหยุน แล้วอย่างนี้เขาจะเอาชนะได้อย่างงั้นเหรอ?
ยังไงก็ตาม ในเมื่อจ้าวฮัวหลงส่งเขาขึ้นมา แน่นอนว่าเขาต้องมั่นใจ จ้าวฮัวหลงที่มานั่งในตำแหน่งนี้ได้ เขาจะต้องไม่ใช่คนโง่อย่างแน่นอน
หลังจากที่ส่งจ้าวเฟิงขึ้นไป เขาก็พูดเสียงต่ำว่า “ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม สังหารมันให้ได้! ตราบเท่าที่เจ้าชนะ ปัญหาของเจ้าข้าจะช่วยแก้ให้เอง!”
“ไม่มีปัญหา!” จ้าวเฟิงมองไปที่อี้เทียนหยุนด้วยสายตาที่เบิกบานและเย็นชา สายตาที่เบิกบานและเย็นชานี้ ราวกับงูพิษที่จับจ้องเหยื่อ
หลังจากนั้น จ้าวฮัวหลงที่มีสีหน้าเบิกบานและเย็นชา ในหัวใจยังคงรู้สึกโกรธสุดๆ “อยากจะได้เม็ดยาทะลวงวิญญาณของข้า? ไม่เพียงแต่สิทธิ์จะตกเป็นของเรา เม็ดยาทะลวงวิญญาณก็เป็นของเรา คนที่สังหารคนของเรา ข้าจะทำให้มันได้ชดใช้!”
ความรู้สึกโกรธแค้นในใจเขาได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้า นี่ไม่เพียงแต่จะเป็นการตบหน้าเขาเท่านั้น แม้แต่ศิษย์ที่โดดเด่นสองคนที่เขานำมาก็ได้ตายไป ถ้าไม่ได้เอาคืนซะบ้าง เขาคงไม่อาจกล้ำกลืนไว้ได้ไหว
ในใจของอี้เทียนหยุนกลับคิดอีกอย่าง เมื่อจัดการเจ้าคนสุดท้ายนี้ได้ เขาก็จะได้รับรางวัลแล้ว!