ตอนที่ 29 เพลิงผลาญป่าเรฟ่อน
ตอนที่ 29 เพลิงผลาญป่าเรฟ่อน
ทัพของอคาซัสบุกตีค่ายของฟินเดล เหล่าทหารฟินเดลยิงธนูต่อต้าน แต่กองทัพอคาซัสเป็นอมนุษย์ไม่เกรงกลัวต่อความตาย แววตาของพวกมันดุร้าย หมาป่าเขี้ยวดาบก็เห่าร้องพร้อมวิ่งกระโจนอย่างรวดเร็ว เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วน้ำเดือด ทัพอคาซัสก็บุกสังหารทหารฟินเดลจนแตกพ่าย
ค่ายทัพของฟินเดลตั้งเรียงเป็นแถวยาวในป่า การป้องกันย่อมยากรัดกุมสมบูรณ์ ทหารฟินเดลเห็นศัตรูบุกเข้ามาดุจคลื่นที่ถาโถม ทั้งหมดทราบว่าไม่อาจต้านเหล่าอมนุษย์ได้ ต่างก็เก็บคันธนูถอยเข้าไปในใจกลางค่ายเพื่อคุ้มครององค์เหนือหัว ทัพของอคาซัสโห่ร้องไล่ฆ่าไม่หยุด หมาป่าเขี้ยวดาบเห่าคำรามวิ่งไล่ล่าศัตรู
อคาซัสต้องการจับฟินเดลด้วยตนเองจึงขี่หมาป่าเขี้ยวดาบเข้าค่าย เห็นกระโจมใหญ่แสดงว่าต้องเป็นของบุคคลสำคัญ อคาซัสสั่งทหารอมนุษย์สิบคนเข้าไปตรวจดู
ตูม !!
กระโจมใหญ่นั้นระเบิดขึ้นไฟลุกท่วมเผาทหารหลายสิบตนของอคาซัสไหม้เป็นจุล อคาซัสทราบว่าผิดปกติ
ตูม ตูม ตูม !!
กระโจมหลายแห่งและที่เก็บเสบียงต่างระเบิดขึ้น เพลิงลุกไหม้พร้อมกัน
ธังวอร์มกล่าวอย่างตื่นตระหนกว่า “พวกมันลวงเราเข้าค่ายและจุดระเบิดหวังเผาพวกเราทั้งเป็น”
อคาซัสไม่ต้องรอให้ธังวอร์มอธิบายเขาก็ทราบ แต่เขายังรักษาความเยือกเย็นไว้ อคาซัสสั่งว่า “สั่งถอยทัพ”
ชั่วพริบตาเพลิงไหม้ค่ายทหารฟินเดล บริเวณนี้เป็นป่าไฟยิ่งจุดติดง่าย เหล่าทหารอมนุษย์วิ่งหนีเพลิงที่ลุกโหมดุจไฟของปีศาจในนรก ทหารอคาซัสหลายพันตนถูกเพลิงผลาญไม่อาจรอดชีวิตได้
คิดใช้เพลิงเผาผู้อื่นกลับถูกเผาเสียเอง
บริเวณตะวันออกมีไฟลุกท่วมแต่ไม่มากนัก อคาซัสสีหน้าเคร่งเครียดสั่งทหารเขาให้ไปยังทิศตะวันออก
ทัพอาคาซัสออกจากค่ายฟินเดลไปทางทิศตะวันออกของป่าเรฟ่อน ทันใดนั้นเกิดดวงไฟเจิดจ้าท่ามกลางความมืดมิดนับพันนับหมื่น ประหนึ่งดวงตาของเทพแห่งไฟที่จ้องมองมา
เป็นทหารโกลด์เด้นกราวด์ใช้ธนูไฟ !!
“ยิง” เสียงสตรีหนึ่งดังขึ้น ธนูไฟถูกยิงออกดุจอุกาบาตนับหมื่นตกจากฟากฟ้า เหล่าอมนุษย์ถูกธนูไฟยิงร่างกายพวกมันลุกไหม้อย่างรวดเร็ว พวกมันแผดร้องโหยหวนดุจเสียงของปีศาจกำลังร้องขอชีวิตต่อพญามัจจุราชในนรก ชั่วพริบตาป่าเรฟ่อนอันมืดมิดก็เกิดแสงสีแดงสว่างจ้าจากลูกศรไฟนับพันนับหมื่น
อคาซัสตะโกนเสียงดังน้ำเสียงถ่ายทอดไปไกลแทบทั่วป่า “ไวเวิร์น”
ขณะนั้นท้องฟ้ายามราตรีปรากฏเมฆดำครึ้มก้อนหนึ่ง เหล่ามังกรไวเวิร์นหลายร้อยตัวบินมาหมายเผาผลาญศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่
ทัพโกลด์เด้นกราวด์มีธนูไฟ แต่พวกอคาซัสมีมังกรไฟ !!
ทันใดนั้นก้อนเมฆสีขาวใหญ่ก้อนหนึ่งเคลื่อนตัวมาอย่างรวดเร็ว พวกมันยังเร็วกว่ามังกรไวเวิร์น
เพกาซัส !!
ม้าสีขาวมีปีกหลายร้อยตัวบินมา พวกมันส่งเสียงร้องกึกก้องฟ้า บนม้ายังมีทหารเกราะเงินถือหอกยาว พวกเขาบุกจู่โจมใส่มังกรไวเวิร์นอย่างรวดเร็ว
คาโอตั้งอาณาจักรมาร้อยปียังมีมังกรไวเวิร์นไว้รับใช้ โกลด์เด้นกราวด์ตั้งอาณาจักรมาถึงเจ็ดร้อยปีเหตุใดจะมีสัตว์วิเศษบ้างไม่ได้ !
เพกาซัส
เหล่าทัพเพกาซัสบุกโจมตีทัพของมังกรไวเวิร์น เสียงโห่ร้องฆ่าฟันกลางอากาศดังขึ้นไม่หยุด พวกมังกรดำพ่นไฟเผาผลาญเพกาซัส แต่เหล่าม้าศักดิ์สิทธิ์หลบหลีกได้อย่างว่องไวราวกับเป็นเจ้าแห่งนภา ทหารที่ขี่เพกาซัสก็ชำนาญการสู้รบทางอากาศ พวกเขาแทงหอกยาวก็สังหารเหล่ามังกรดำไปได้หลายสิบตัว !
อคาซัสสีหน้าซีดเผือดราวซากศพ ครั้งนี้เขาประมาทเกินไปคิดว่าตนเกาะกุมความได้เปรียบไว้ทุกจุด ที่จริงเขาไม่เคยได้เปรียบเลย
อคาซัสตวาดดังลั่นสั่งทหารอมนุษย์บุกฝ่าทัพธนูเพลิงไป เหล่าอมนุษย์ไม่กลัวตายพวกมันวิ่งไปยังจุดที่ทหารธนูซ่อนอยู่
“อินเฟอโน่ เฟรม” (Inferno Frame – เพลิงแห่งนรก) ทันใดนั้นเพลิงสีน้ำเงินเจิดจ้าระเบิดออกด้วยรัศมียาวหลายสิบเมตร เผาผลาญเหล่าอมนุษย์นับร้อยตนในคราเดียว!
เหล่าอมนุษย์ต่างหยุดนิ่ง ไม่มีผู้ใดกล้ารุกคืบอีก
สตรีนางหนึ่งเดินออกจากพุ่มไม้ นางสวมชุดเกราะแดงขลิบทอง ระหว่างเอวเหน็บดาบที่มีโกร่งสลักเป็นกุหลาบสีแดง
นางคือกุหลาบศักดิ์สิทธิ์ ฟินโอร่า !
“เจ้า..เจ้าไม่ได้ถอยทัพไปทางตะวันตก?” ธังวอร์มถามฟินโอร่าเสียงสั่น
ฟินโอร่ากล่าวเสียงเฉียบคมว่า “ข้าไม่เคยคิดทิ้งกษัตริย์ของข้า!”
เหล่าอมนุษย์หายตื่นตระหนกก็วิ่งจู่โจมใส่ฟินโอร่านับร้อยตน ฟินโอร่ายกมือขึ้นใช้เวท “โซ่แห่งคำพิพากษา”
ทันใดนั้นโซ่เพลิงยาวสิบเมตรปรากฏขึ้นที่มือฟินโอร่า นางเหวี่ยงฟาดโซ่ครั้งใดเหล่าทหารอมนุษย์ก็ถูกโซ่แห่งเพลิงฟาดจนร่างกายถูกเผาไหม้หรือไม่ก็กระเด็นไป ทำให้เหล่าอมนุษย์ไม่กล้าเข้าใกล้ฟินโอร่า
อคาซัสจ้องมองฟินโอร่าอย่างเจ็บแค้นดุจดั่งจะกลืนกินนางให้จงได้ อคาซัสพยายามระงับสติกล่าวว่า “ธังวอร์มเจ้าพาทหารฝ่าออกไป ข้าจะสกัดนางไว้”
ธังวอร์มรีบรับคำ มันไม่อยากตายด้วยเวทเพลิงของฟินโอร่าจึงรีบพาเหล่าอมนุษย์อีกหลายพันนายหนีฝ่าดงธนูเพลิงออกไปอีกทิศทางหนึ่ง
อคาซัสขี่หมาป่าเขี้ยวดาบพุ่งเข้าหาโจมตีฟินโอร่า นางฟาดโซ่เพลิงใส่หัวของหมาป่าเขี้ยวดาบสังหารมันได้ในโซ่เดียว
หมาป่าเขี้ยวดาบล้มลง อคาซัสกระโดดขึ้นลอยตัวดุจสายลม ชักดาบอสรพิษเงินออกจากฝักจู่โจมใส่ฟินโอร่า
ฟินโอร่าคลายโซ่เพลิงออก นางชักดาบโกร่งกุหลาบของนางออกมา ได้ยินเสียงดาบปะทะกันหลายสิบครั้งในชั่วพริบตา เพลงดาบทั้งสองรวดเร็วดุจพายุดุจแสงอัสนี
ธังวอร์มขี่หมาป่าเขี้ยวดาบพาทหารเขาหลายพันตนหนีออกจากดงธนูไฟได้ พวกมันเร่งรีบหวังออกจากป่าเพลิงนรกแห่งนี้
ขณะเร่งรีบออกจากป่า ทันใดนั้นธนูเพลิงนับพัน ๆ ดอก ยิงใส่ทัพธังวอร์มไม่หยุด ทหารธังวอร์มถูกธนูเผาผลาญจนเหลือแค่พันเศษ
“ธังวอร์ม หนอนสกปรกยังไม่คุกเข่าให้ข้า”
สตรีนางหนึ่งสวมเกราะสีเงิน ขี่ม้าขาวออกมา นางแววตาอำมหิตจ้องมองธังวอร์มจนมันขนลุก
นางคือราชินีแห่งโกลด์เด้นกราวด์ เซน่า !
ธังวอร์มพอเห็นเซน่าก็ไม่ต่างจากหนูพบเจอแมว มันแทบอยากหลีกหนีไปให้ไกล
“เวฟออฟดูม” ธังวอร์มร้องขึ้นพร้อมซัดพลังเวทความมืดใส่เซน่า แต่เซน่าไม่ทราบเคยเห็นเวทนี้กี่ร้อยครั้ง นางเบี่ยงตัวก็หลบเวทนี้ได้อย่างง่ายดาย
ทันใดนั้นแสงสีขาวเจิดจ้าปรากฏขึ้นด้านหลังธังวอร์ม
นกฟีนิกซ์สีขาวตัวใหญ่มหึมาดุจพญาคชสารโจมตีใส่ทัพอมนุษย์ของธังวอร์ม พวกอมนุษย์อย่างน้อยเจ็ดแปดสิบตนถูกพลังแสงสีขาวเจิดจ้าพุ่งใส่ พลังแสงกวาดทำลายร่างพวกมันแหลกสลาย
เป็นนักบุญเจฟใช้เวท “ฟินิกซ์ออฟพาราไดซ์” (Phoenix of Paradise- นกฟินิกซ์แห่งสรวงสวรรค์)
นักบุญเจฟในมือถือคทาทองแดงบนคทามีแร่ผลึกสีอำพันเปล่งแสง สีหน้าของเขานิ่งสงบราวกับบาทหลวงกำลังสวดศพให้วิญญาณขึ้นสวรรค์
พวกอมนุษย์คือมนุษย์ที่ถูกพ่อมดหมอผีใช้เวทมนตร์อันชั่วร้ายสร้างมา ดังนั้นเวทศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นสิ่งที่พวกมันทั้งรังเกียจทั้งหวั่นเกรง
ธังวอร์มไม่อยากต่อสู้กับเซน่า มันไสหมาป่าเขี้ยวดาบพุ่งกระโจนเข้าโจมตีใส่นักบุญเจฟ
“กำแพงพุสธา” นักบุญเจฟร้องขึ้นพร้อมยกสองมือขึ้น
กำแพงดินสูงถึงสี่เมตรปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว หมาป่าเขี้ยวดาบพุ่งกายโจมตีมาไม่สามารถหยุดทัน ศีรษะมันกระแทกกับกำแพงดินอย่างรุนแรงจนร่างกายกลิ้งล้มสลบไป
เซน่าแปลกใจเล็กน้อย นางจำได้ว่าปกติเวทกำแพงดินนักบุญเจฟพุ่งขึ้นได้เพียงสองเมตร แต่ดูเหมือนคทาทองแดงที่มีแร่สีอำพันจะทำให้พลังเขาเพิ่มขึ้น
ธังวอร์มรีบกระโดดออกจากตัวหมาป่าเขี้ยวดาบ เมื่อร่างกายมันตกถึงพื้นมันรีบยืดมือตรงและร้องขึ้น “หอกแห่งความมืด”
แสงสีดำพุ่งออกจากปลายมือธังวอร์ม ตอนนั้นกำแพงดินนักบุญเจฟสลายไปแล้ว นักบุญเจฟใช้ส่วนของแร่ที่ติดบนคทารับเวทหอกแห่งความมืดไว้ แร่สีอำพันนี้คล้ายดูดซับพลังเวทได้ พลังหอกแห่งความมืดพอกระทบถูกแร่ก็ค่อย ๆ สลายไป
ธังวอร์มตื่นตระหนกยิ่ง นักบุญเจฟใช้เวทนกฟินิกซ์แห่งสรวงสวรรค์ขึ้นอีกครั้ง นกฟินิกซ์สีขาวขนาดใหญ่กว่าเดิมพุ่งตรงเข้าหาธังวอร์ม มือของธังวอร์มทั้งสองข้างปรากฏไอสีดำพวยพุ่ง มันใช้สองมือรับพลังแห่งนกฟินิกซ์ศักดิ์สิทธิ์
พลังนกฟินิกซ์กดดันธังวอร์มไว้ มันพลันตวาดก้องและใช้พลังเวทความมืดที่ฝึกมาตลอดชีวิตสลายพลังของนักบุญเจฟ นกฟินิกซ์ศักดิ์สิทธิ์ค่อย ๆ สลายตัวออก
ทันใดนั้นนักบุญเจฟพุ่งตรงเข้าหามันและตวาดว่า “แสงนิรันดร์” เวทแสงศักดิ์สิทธิ์พื้นฐานถูกใช้ออกแต่ทรงอานุภาพ เวทนี้กระแทกร่างกายธังวอร์มจนปลิวไปเกือบสิบเมตร มันพยายามยืนขึ้นแต่ก็กระอักโลหิตออกมาด้วยอาการบาดเจ็บภายใน
นักบุญเจฟเดินเข้าไปหามันกล่าวว่า “ทำไมคาโอต้องสั่งฆ่าล้างเมืองซิลเวอเนีย? เผาทำลายวิหารเพสเธียร์”
นี่เป็นคำถามที่เจฟอยากรู้ที่สุด
ธังวอร์มไม่คาดคิดว่าเจฟจะถามคำถามเช่นนี้ออกมา มันจึงถามว่า
“เจ้าเป็นคนของวิหารเพสเธียร์?”
เจฟพยักหน้า
ธังวอร์มกล่าวว่า “เพราะที่นั่นมีสิ่งที่ฝ่าบาทคาโอต้องการ เป็นสิ่งที่ทำให้พระองค์สามารถบรรลุความฝันรวบรวมดินแดนเหนือใต้ได้”
เจฟรีบถามว่า “ของสิ่งนั้นคืออะไร?”
ธังวอร์มกล่าวว่า “สิ่งนั้นคือ..”
ธังวอร์มกระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง ร่างกายมันล้มฟุบไป
เจฟรีบเข้าไปตรวจดูมันว่ามันตายหรือไม่ ขณะนั้นธังวอร์มรีบยกแขนขึ้น ลำแสงสีดำเตรียมพุ่งออกจากมือมันหมายสังหารเจฟ!
“อั่ก!” เป็นเซน่าชักดาบมูนสตรองออกและซัดใส่หลังธังวอร์มอย่างรวดเร็วจนมันสิ้นใจตายจริง ๆ
เจฟกล่าวว่า “ขอบคุณที่ช่วยข้าพระองค์ไว้”
เซน่ากล่าวว่า “อย่าให้ความเมตตาของพระเจ้าเป็นเหตุให้เจ้าต้องไปพบพญามัจจุราช” ดูเหมือนเซน่าจะชอบประชดเจฟเรื่องพระเจ้าทุกถ้อยคำ..
ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังขึ้นไม่หยุด เซน่าทราบว่าเป็นพลังเวทไฟของฟินโอร่า
เจฟถามเซน่าว่า “จะทำอย่างไรกับพวกนี้ดี?”
เจฟหมายถึงทหารที่เหลือของธังวอร์ม
เซน่ากล่าวว่า “ฆ่า”
เซน่าและเจฟวิ่งเข้าดงไม้ไป ธนูไฟถูกยิงออกอีกนับพันดอก เหล่าอมนุษย์สูญเสียผู้นำก็แตกทัพไม่มีแก่ใจสู้กับศัตรูอีก
ฟินโอร่าต่อสู้กับอคาซัสอย่างดุเดือด เพลงดาบของทั้งสองรวดเร็วรุนแรงดุจฝนฟ้าคะนอง
อคาซัสแทงดาบใส่ทรวงอกฟินโอร่า ฟินโอร่าตวัดดาบไปรับไว้ ทั้นใดนั้นดาบของอคาซัสพลันเลี้ยวโค้งได้ดุจอสรพิษมีชีวิต เปลี่ยนจากแทงใส่อกฟินโอร่าเป็นท้องน้อยแทน
ฟินโอร่ารั้งดาบกลับ ใช้โกร่งดาบสลักรูปดอกกุหลาบไปรับปลายดาบอสรพิษเงินไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ
เพลงดาบของฟินโอร่าฝึกได้ถึงขั้นสุดยอดแล้ว!
อคาซัสขมวดคิ้วแน่นมันไม่เคยเจอสตรีน่ากลัวเช่นนี้มาก่อน ใบหน้าสวยซึ้งของมันฉายแววดุร้าย มันตวาดว่า “ดราวด์นิ่ง” (Drowning- จมสู่ห้วงลึก)
ทันใดนั้นอากาศรอบกายฟินโอร่าพลันเย็นขึ้น ทั้งที่ตอนนี้เพลิงผลาญป่าเรฟ่อนจนอากาศร้อนผิวแทบไหม้ ฟินโอร่าทราบว่าผิดปกติรีบถอยกายไป
น้ำพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศล้อมกายฟินโอร่าไว้ ชั่วพริบตาน้ำทั้งหมดพุ่งจู่โจมใส่ฟินโอร่า มวลน้ำขนาดใหญ่เข้าครอบคลุมร่างฟินโอร่าไว้อย่างรวดเร็ว นางรู้สึกหายใจไม่ออก แรงกดดันของน้ำทำให้น้ำไหลทะลักเข้าช่องทางต่าง ๆ ในร่างกายนาง
อคาซัสไม่เพียงเป็นจอมดาบ ยังเป็นผู้ใช้เวทแห่งน้ำขั้นสูง !
อคาซัสยิ้มอยางเหี้ยมเกรียม เพียงอีกไม่นานฟินโอร่าต้องถูกน้ำไหลทะลักท่วมปอดจนเสียชีวิต
แต่มวลน้ำที่ท่วมใส่ฟินโอร่าพลันค่อย ๆ ลดลงและสลายเป็นไอ ฟินโอร่าเร่งเวทแห่งไฟตนจึงขั้นสูงสุด ร่างกายนางเต็มไปด้วยไอแห่งเปลวไฟ ดาบโกร่งกุหลาบของนางก็ลุกท่วมด้วยเปลวไฟ นางแทงดาบใส่อคาซัส พลังเวทแห่งไฟกระแทกมันจนถอยไปหลายก้าว สะเก็ดไฟกระเด็นใส่ใบหน้าอันสวยซึ้งของอคาซัสหลายจุด
อคาซัสบันดาลโทสะ ชั่วชีวิตมันเกิดมาใบหน้าคือสิ่งที่หวงแหนที่สุด
“ทวิตซ์ ไท” (Twist Tide-เกลียวคลื่นจู่โจม) มือซ้ายของอคาซัสยื่นออก เกลียวคลื่นแห่งสายน้ำนับสิบสายพุ่งโจมตีใส่ฟินโอร่า สายน้ำแยกจู่โจมนางจากทั้งสี่ทิศแปดทาง ฟินโอร่าไม่มีทางหลบรอดได้
ฟินโอร่ากวาดมือซ้ายออกรอบด้านด้วยพลังเพลิงสีน้ำเงินเข้ม เวท “เพลิงแห่งนรก” ของนางแสดงพลังถึงขั้นสูงสุด เพลิงสีน้ำเงินระเบิดออกสลายพลังแห่งสายน้ำที่พุ่งจู่โจมมา
แรงระเบิดของเวทเพลิงแห่งนรกยังขยายไม่หยุด พลังแรงระเบิดอันรุนแรงกระแทกใส่กายอคาซัสจนมันได้รับบาดเจ็บ
หากไม่ใช่อคาซัสมีท่าร่างปราดเปรียว มันคงโดนเวทเพลิงแห่งนรกเผาไหม้เป็นจุลแล้ว
“ม่านหมอก” อคาซัสท่องคาถาเบา ๆ ทันใดนั้น ไอน้ำในอากาศรวมกันจนเกิดม่านหมอกปกคลุมฟินโอร่า นางรีบตวาดว่า “จะหนีไปไหน?”
มังกรไวเวิร์นสามตัวบินลงมารับอคาซัส มันขึ้นไวเวิร์น์ตัวหนึ่ง มังกรรีบบินขึ้นฟ้าไปยังทิศทางที่มีทหารเพกาซัสน้อยที่สุด
มังกรไวเวิร์นสองตัวพ่นไฟใส่ฟินโอร่า นางแม้จะอยู่กลางหมอกควันแต่ก็สัมผัสพลังไฟที่จู่โจมมาได้
“เสาแห่งเปลวเพลิง” ฟินโอร่าปักดาบลงกับพื้น พร้อมใช้เสาเพลิงจากสองมือ เพลิงของนางเผาไวเวิร์นทั้งสองตัวจนไหม้เกรียม
ไฟของไวเวิร์นเปรียบกับไฟของฟินโอร่าก็ไม่ต่างจากทารกกับผู้ใหญ่
อคาซัสใช้ไวเวิร์นบินกลับเมืองเดเซียสที่มันเพิ่งยึดครองได้ แต่ที่มันเห็นคือทัพโกลด์เด้นกราวด์ที่บุกโจมตีจนเมืองเดเซียสดุจคลื่นถาโถม มันทราบว่าทหารอมนุษย์ของมันคงป้องกันเมืองไว้ได้ไม่นาน
เห็นแสงดาบสีขาวสว่างเจิดจ้าอยู่บริเวณบนกำแพงเมืองเดเซียส สมรภูมิยามราตรีเจิดจ้าดุจกลางวัน
“ดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอส” อคาซัสครุ่นคิดขึ้นด้วยความตื่นตระหนก ต้องเป็นฟินเดลแน่ที่ยกทัพตีเมืองเดเซียสระหว่างที่มันไม่อยู่
ที่แท้ฟินโอร่าจะแยกทัพออกไปเป็นแค่แผนลวง นางให้ฟินเดลยกทัพยกออกมาตีเมืองเดเซียสระหว่างที่มันไม่อยู่ ละครทะเลาะกันของฟินโอร่ากับฟินเดลก็เป็นเพียงการตบตา
ตราบใดกุหลาบศักดิ์สิทธิ์นางนี้ยังคงอยู่ โกลด์เด้นกราวด์ไม่มีวันแตกพ่าย!
อคาซัสรู้สึกเจ็บปวดที่พ่ายแพ้ มันตัดสินใจหันหัวไวเวิร์นบินไปยังทิศตะวันออกเพื่อไปหาคาโอองค์เหนือหัวที่มันเทิดทูน
-----------------
สนุกไหมครับตอนนี้ ตอนหน้าจักรพรรดิคาโอออกแล้ว รับรองยิ่งใหญ่สมราคา