ภาค 1 ตอนที่ 14 ซูเสี่ยวเจ๋อก่อกบฎ
ตอนที่ 14 ซูเสี่ยวเจ๋อก่อกบฎ
"ผมไม่กลับ คดีของสวีลี่ยังสืบอยู่ ผมไม่อยากวางมือ" เสี่ยวเจ๋อพูดอย่างน้อยใจต่อหน้าอาจารย์ที่ปรึกษาและสวินเข่อหรัน
"เป็นเด็กดีนะลูก ตามแม่กลับบ้านไปกินข้าวเถอะ" คุณอาหลุดโลกเล่นเป็นแม่ไก่แก่กล่อมเสี่ยวเจ๋อ
เสี่ยวเจ๋อเงยหน้าค้อนอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างขัดหูขัดตา เบนหน้าไปอีกด้าน
"ซูเสี่ยวเจ๋อ" เสียงของโกโก้อ่อนโยน แต่บนหน้าไม่มีรอยยิ้มสักนิดเดียว "ระหว่างฝึกงาน นายมีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่นซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมสำหรับหมอนิติเวชฝึกหัด ทำงานหุนหันพลันแล่น พูดจาหุนหันพลันแล่น ฉันเข้าใจว่าอารมณ์อาจเกิดจากตัวคดีเอง แต่ถ้าอารมณ์มีผลกระทบต่อการวินิจฉัยของนายอย่างมีนัยสำคัญ นายคิดว่าฉันไม่มีเหตุผลที่จะพักการฝึกงานของนายงั้นเหรอ นายดูเอาเอง การชกต่อยเพื่อนร่วมงาน ปะทะกับหน่วยสืบคดีที่เบื้องบนส่งมา ไม่มีใครทำอะไรนายในฐานะนักศึกษาฝึกงานหรอก แต่ถ้านายเป็นตำรวจจริง ถูกผู้การสั่งพักงานกักบริเวณไปตั้งนานแล้ว กลับไปเขียนรายงานความผิดของตัวเองที่มหาวิทยาลัยดีกว่า มิฉะนั้นจะได้ศูนย์คะแนนสำหรับการฝึกงานปีนี้"
สีหน้าเสี่ยวเจ๋อเขียวแล้วแดงอีก สุดท้ายพูดออกมาประโยคหนึ่งเบาๆ "พี่สวิน ผมขอถามเป็นประโยคสุดท้าย คดีสวีลี่ พี่คิดจะทำยังไงต่อ"
โกโก้มองนักศึกษาที่มีเลือดร้อนระอุตรงหน้า รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเสี่ยวเจ๋อไม่ยอมรับสภาพ เป็นใครก็ไม่ยอมรับสภาพเช่นนี้ ความโกรธแค้นที่รู้สึกแทนผู้ตาย แล้วหมายมั่นปั้นมือที่จะผดุงคุณธรรมแต่กลับถูกกดดัน แต่ถึงจะต้องมาสู้สักตั้ง คนคนนั้นก็ไม่ควรเป็นซูเสี่ยวเจ๋อ เขายังเด็กและอ่อนไหวเกินไป ทนความกดดันไม่ไหว
"เสี่ยวเจ๋อ อายุนายยังน้อย..."
เสี่ยวเจ๋อมองสวินเข่อหรันอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หางตากระตุกไปสองที สุดท้ายไม่ได้พูดอะไรสักคำแล้วพุ่งไปทางเดินอย่างคับแค้นใจ
คุณอาเห็นเสี่ยวเจ๋อวิ่งไปไกลแล้ว จ้องโกโก้ด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง "เด็กที่ผมสอนมาแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ"
โกโก้หลุดขำออกมา "เขาขยันมาก แล้วก็ใฝ่รู้ด้วย ยอมคัดหนังสือทั้งเล่มเพื่อจะรู้ให้ได้ว่ารายงานที่ตัวเองทำกับมือมีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง เพียงแต่เลือดร้อนเกินไป คนที่เป็นหมอนิติเวชจะเห็นความเป็นความตายที่ไม่ยุติธรรมอยู่มาก เขาหุนหันพลันแล่นเกินไป...สรุปก็คือ อาจารย์ที่ปรึกษาอย่างคุณต้องเฝ้าตามติดอย่างใกล้ชิดหน่อย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ฉันไม่รับผิดชอบไปเก็บศพด้วย"
คุณอายิ้มอย่างอ่อนโยน "ผมได้ยินว่าเธอไปได้คดีจาก...ซย่าเหอหยวน"
โกโก้พยักหน้า คุณอาเหมือนกับศิษย์พี่ซย่า เคยเรียนนิติเวชศาสตร์กับท่านผู้เฒ่าฉาง หลังจากผ่านอะไรไปหลายอย่าง สุดท้ายคุณอาก็ไปเรียนแพทย์แผนจีน ศิษย์พี่ซย่าไปอยู่ตำรวจจราจร เรื่องในโลกนี้ก็เป็นเช่นนี้แหละ อยู่นอกเหนือความคาดหมายเสมอ
คุณอาพยักหน้าเงียบๆ หันไปมองห้องนิติเวชที่ค่อนข้างเงียบเหงา "เป็นยังไง ยอมปล่อยมือจากคดีนี้แล้วเหรอ"
สีหน้าโกโก้รีบเปลี่ยนเป็นยิ้มอย่างมีเลศนัย "ท่านผู้เฒ่าของพวกเราพูดเสมอในเวลาเมาว่า ไม่สามารถล้างมลทินให้วิญญาณที่ไม่ได้รับความยุติธรรม เป็นหมอนิติเวชประสาอะไร"
——————————————
คุณอาอาจารย์ที่ปรึกษาเกลี้ยกล่อมหว่านล้อมเสี่ยวเจ๋อให้เขียนรายงานแต่โดยดีบนรถของมหาวิทยาลัยระหว่างทางที่แล่นกลับไปยังชานเมือง แต่หนุ่มน้อยที่แบกอาถรรพ์สาปแช่งของแผนกนิติเวชไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ ทั้งสิ้น คุณอาใจเย็นก็ไม่ถือสา
ซูเสี่ยวเจ๋อเหวี่ยงกระเป๋าทิ้งเมื่อกลับถึงหอพัก คิดยังไงก็ไม่เข้าใจ ถ้าอะไรก็ทำไม่ได้ ถ้าถูกรังแกแล้วยังต่อต้านไม่ได้อีก การมีชีวิตอยู่ การพยายามดิ้นรน จะทำไปเพื่ออะไร อีกทั้งพี่สวินที่ตนเองศรัทธา ทำไมถึงเหมือนกับหมอนั่นของหน่วยอาชญากรรม ได้แต่เกลี้ยกล่อมให้ตัวเองอดทน
มือถือดังขึ้น เสี่ยวเจ๋อก้มมอง หน้าจอแสดงชื่อไป๋หลิง ซูเสี่ยวเจ๋อกดทิ้งอย่างโมโห
คิดไปคิดมา ซูเสี่ยวเจ๋อถีบใส่ฝาผนังของห้องนอน ทำให้เพื่อนร่วมหอตกใจ
"ไปกัน! ไปเล่นเกมส์โต้รุ่งที่ร้านเน็ต! ข้าจ่ายเอง!" ซูเสี่ยวเจ๋อร้องตะโกนไป
กลางคืน อาจารย์ที่ปรึกษาโทรไปที่ห้องนอนของเสี่ยวเจ๋ออีกครั้ง กลัวไอ้หนุ่มนั่นรั้นขนาดแอบหนีกลับเข้าเมือง ชายหนุ่มในหอพักรู้ว่าคุณอาใจดี เลยบอกตรงๆ ไปว่า เสี่ยวเจ๋อกับพี่น้องไปอยู่ร้านเน็ตแล้ว คุณอาพยักหน้า อืม พอได้เล่นเกมส์ อารมณ์คงผ่อนคลายลงได้ เป็นคนหนุ่มนี่ อย่างมากค่อยไปสอนอีกทีพรุ่งนี้เช้า คืนนี้ปล่อยเขาไปก่อนแล้วกัน
ความจริงก็คือ คนหนุ่มเต็มไปด้วยพละกำลังกับความคิดชั่ว ปล่อยปละละเลยไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
——————————————
เมื่อคืนตอนที่ต้าเจิ้งบอกว่าเบื้องบนกดดันลงมา โกโก้ก็ได้ทำงานทั้งคืนเพื่อสำเนาหลักฐานร่องรอยที่อาจมาจากผู้ต้องสงสัยทั้งสามคนของคดีข่มขืน ตัวอย่างผิวหนังที่เก็บได้ก็แยกเอาไว้ต่างหาก พอวันนี้คนของมณฑลมาถึงปุ๊บโกโก้ก็จัดการเผาศพของสวีลี่ มองอีกด้านหนึ่งก็เพื่อปกปิดเรื่องที่ว่าตัวอย่างผิวหนังบนตัวสวีลี่ได้ถูกเก็บเอาไว้ มิฉะนั้นคงมีคนเห็นผิวหนังที่หายไปบนร่างของสวีลี่ อีกทั้งเสื้อเปื้อนเลือดที่เอามาจากซย่าเหอหยวนแห่งตำรวจจราจร ก็ถูกโกโก้ ‘ลืมส่งไปอย่างไม่ทันระวัง’
ดังนั้น หลังจากคนของมณฑลกับซูเสี่ยวเจ๋อไปแล้ว โกโก้ก็ได้ล็อกห้องของแผนกนิติเวชจากด้านใน แบหลักฐานทั้งหมดที่งุบงิบไว้ออกมา แยกประเภทของบาดแผล เอาไปตรวจกับเครื่องมืออุลตร้าไวโอเล็ตทีละชิ้น ในนั้นมีอยู่สี่ที่ที่พบว่าเปล่งประกายสีเงิน รอบนอกเป็นสีม่วงคราม เหมือนเป็นคราบของอสุจิที่หลงเหลือไว้หลังจากการร่วมเพศ โกโก้อดทนกับอาการคลื่นไส้เช็คดูคลิปวีดีโอที่ถ่ายในวันนั้นอีกครั้งอย่างละเอียด จากคลิปสามารถตัดสินได้ว่าเจิงเจี้ยนหมิงได้ลงมือข่มขืนอย่างเห็นได้ชัด ร่องรอยที่เก็บได้ภายใต้ผิวหนังของสวีลี่ก็สามารถยืนยันได้ว่ามีอสุจิของเจิงเจี้ยนหมิง แต่คลิปหลังจากเกิดเหตุได้ถูกตัดทิ้งไป ดังนั้นคราบที่ดูเหมือนอสุจิอีกหลายแห่งไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นรอยของอสุจิหรือเป็นอสุจิของใคร โกโก้หยิบ Phenyl disodium phosphate ที่ไวต่อการทดสอบอสุจิออกมา ตัดตัวอย่างชิ้นเล็กๆ ไปทดสอบ ถ้าความเข้มข้นของอสุจิสูง สีก็จะเป็นแดงเข้ม ถ้าไม่มีอสุจิเลยก็จะเป็นสีเหลืองส้ม เวลาผ่านไปสักพัก หลอดทดลอง 3 หลอดจากหลายหลอดเปลี่ยนเป็นสีแดงสด โกโก้เปิดบันทึกเพื่อนเปรียบเทียบร่องรอยทั้งสามแห่ง รอยที่หนึ่งมาจากผิวหนังที่ท้องของสวีลี่ อีกสองรอยมาจากชายและอกเสื้อของเสื้อเปื้อนเลือดที่สวีลี่ใส่ในเวลานั้น ภายใต้รอยเลือดลายพร้อยของสวีลี่ รอยสีเหลืองคล้ำแห้งกรังอยู่บนสิ่งทอนั้น
โกโก้ยิ้มเยาะ ในใจคิดไปว่า ตั้งตารอว่า คราบอสุจิสามที่นี้จะเอาไอ้ระยำพวกนั้นไปลงนรกได้หรือไม่
แต่ทำยังไงถึงหาเหตุผลที่เหมาะสมไปตรวจดีเอ็นเอของทั้งสามชิ้นนี้โดยไม่มีใครเห็นได้ล่ะ...สวินเข่อหรันเงยหน้าขึ้น ในห้องทำงานที่เงียบงัน มีเพียงโครงกระดูกจริงที่ใส่ชุดรปภ.เป็นเพื่อน ตาโบ๋จ้องมองที่เธอ...
——————————————
ขณะที่โกโก้ทำงานไม่หลับไม่นอนในแผนกนิติเวชอยู่นั้น โจวต้าเจิ้งก็ได้ทำ ‘งานที่เกินมา’ โดยผิดระเบียบเช่นกัน เขากระจายคำสั่งติดตามไปยังสายตำรวจกับสายลับที่สนิท ยังไม่ทันถึงรุ่งสาง เขาก็ได้รับรายงานที่เชื่อถือได้กลับมา ยิ่งกว่าเซอร์ไพรส์ เขาได้รูปถ่ายมาเป็นหลักฐานด้วย
"จะว่าไปแล้ว แกมันก็โชคดีจริงๆ ฉันจะบอกให้นะ อวี๋เหอไหลก็ไม่ใช่คนดี คนเบื้องบนที่ต้องการให้เขาตกเก้าอี้มีอยู่ไม่น้อย ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่สามารถช่วยแกหาหลักฐานมาได้รวดเร็วขนาดนี้หรอก" สายที่หลบอยู่ในความมืดพูดกับต้าเจิ้ง
ใครเป็นคนเปิดเผยโดยตั้งใจนั้น หัวหน้าหน่วยอาชญากรรมไม่สนใจสักนิด สิ่งที่เขาต้องการก็คือหลักฐาน ยิงคนต้องยิงม้าก่อน จับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน หลักฐานแน่นหนา
——————————————
เสียงเตือนข้อความเข้าในมือถือปลุกโกโก้ที่ฟุบหลับบนโต๊ะทำงานค่อนคืนตื่นขึ้นมา เธอขยี้ตาอย่างสะลืมสะลือ เหลือบมองข้อความ เป็นข้อความโฆษณาของข่าวประเด็นร้อนในอินเตอร์เน็ต แต่หัวข้อกลับทำให้เธอตาสว่างอย่างสิ้นเชิงในทันใด
"มีรูป มีคลิป มีความจริง! ปลุกปล้ำขืนใจหญิงสาวบริสุทธิ์จนตาย ยังถ่ายคลิปวีดีโอเพื่อความบันเทิง เสื่อมเยี่ยงสัตว์นรกหลุดพ้นจากการลงโทษของกฎหมาย"
โกโก้จ้องมอง รีบเลื่อนเม้าส์ลงทันที ใช้คอมพิวเตอร์ค้นหาหัวข้อถัดไป เนื้อหาที่โพสต์นั้นทำให้เธอเหงื่อแตกพลั่ก
เนื้อหาที่โพสต์ออกมานั้นมีคดีสวีลี่ทั้งหมดโดยสรุป โปรไฟล์ของอวี๋เทา ยังมีรูปถ่ายบางส่วนจากคลิปวิดีโอที่ซ้อมทารุณสวีลี่ในที่เกิดเหตุ ทีเด็ดสุดท้ายคือคลิปตัดต่ออย่างย่อที่อวี๋เทากรี๊ดอย่างเสียสติกับการสารภาพผิดต่อหน้าศพของสวีลี่ เวลาโพสต์คือรุ่งเช้าของวันก่อน โกโก้ลองค้นหาหัวข้อเดียวกันอีก ผลปรากฏว่าเว็บโซเชียลใหญ่ๆ หลายที่ก็ได้นำไปโพสต์ต่อแล้ว
เสียงมือถือดังขึ้น โกโก้เห็นเป็นต้าเจิ้งที่โทรเข้ามา "ฉันเอง...อืม ฉันเห็นแล้ว ฉันรู้ บอกเขาว่าห้ามปรากฏตัวช่วงนี้..."
วางสายโทรศัพท์ โกโก้นวดขมับอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ซูเสี่ยวเจ๋อเอ้ยซูเสี่ยวเจ๋อ