ตอนที่ 30: คีห์ในยานของเผ่าพันธุ์ซิริน่า
ตอนที่ 30: คีห์ในยานของเผ่าพันธุ์ซิริน่า
เฮเซคียาห์กำลังนั่งจิบเบียร์ไร้แอลกอฮอล์เย็นๆ ตอนที่เมเดียนโผล่เข้ามาในร้านอาหารซึ่งเป็นจุดนัดพบของพวกเขา หน้าตาของเมเดียนถมึงทึง เห็นได้ชัดว่าคงได้ข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่เฮเซคียาห์ทำกับโซเฟียแล้ว ทางเฮเซคียาห์วางแก้วเบียร์ลงอย่างเชื่องช้า ผิดกับเมเดียนซึ่งพุ่งตัวเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกับหมัดที่ใส่พลังทั้งหมดไว้
กึ้ง!!!
ชายหนุ่มคว้าสายสร้อยเพนดูลัมจากคอ สะบัดให้ยาวออกเพื่อตั้งรับกำปั้นของเมเดียนได้ตรงจังหวะ
“แก! ไอ้ใจทมิฬหินชาติ ไอ้เด็กสารเลว!” เมเดียนกำลังโกรธจัด เขากระหนำหวดกำปั้นเข้าใส่เฮเซคียาห์อย่างต่อเนื่อง
กำปั้นทั้งหมดไม่ได้เข้าถึงตัวของเฮเซคียาห์ ชายหนุ่มยังคงใช้สายสร้อยเพนดูลัมตั้งรับเอาไว้ได้
“ทำไมไปทำโซเฟียแบบนั้น เธอไม่เคยต้องเจ็บหนักมาก่อน” เมเดียนตวาดลั่น จากนั้นเสียงเขาแปรเปลี่ยนเป็นเสียงหวีดแหลมขณะที่เขายังอ้าปากค้างไว้ ฉับพลันพลังบางอย่างเหมือนกับสายลมเคลื่อนรุนแรงพุ่งออกมาจากร่างของเมเดียน แล้วพัดพาโต๊ะ เก้าอี้ ทุกอย่าง และทุกคน กระเด็นไปกระแทกเข้ากับผนัง ไม่เว้นแม้กระทั่งเฮเซคียาห์
“ไอ้เด็กเนรคุณ!” เมเดียนโผล่มาอยู่ต่อหน้าเฮเซคียาห์แล้วกระชากคอเสื้อของเขาขึ้นมา
“ผมก็แค่เตือนให้เธอรู้ว่าโลกข้างนอกอันตรายขนาดไหน” เฮเซคียาห์ยังฝืนยิ้มได้อยู่ แม้เขารู้ว่าตัวเองหนีการเจ็บตัวไปไม่พ้น
“เตือน? ก็เตือนดีๆ สิวะ” เมเดียนง้างหมัดจะอัดใส่หน้าเฮเซคียาห์
เฮเซคียาห์โน้มตัวเขาไปด้านหน้า ให้ตัวเขาเคลื่อนไปตามแรงรั้งของมือเมเดียนซึ่งกระชากคอเสื้อไว้ แล้วออกแรงดีดตัวอย่างรวดเร็วทำให้หน้าทิ่มลงเหมือนเขาจะตีลังกา พร้อมกันนั้นเขายกมือขึ้นจับหมัดของเมเดียนที่กำลังเข้ามาที่หน้า และตวัดเท้าสูงพร้อมกับกดสะโพกไปทางด้านหลัง ให้เท้าของเขาฟาดเข้าใส่บนหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างจัง
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เฮเซคียาห์มั่นใจว่าคนทั่วไปไม่สามารถมองตามการเคลื่อนไหวของเขาได้ทัน
“แก!” เมเดียนไม่ยอมปล่อยคอเสื้อของเขา แต่กลับกระชากมันสูงขึ้น และฉับพลันก็ทุ่มเขาไปยังอีกด้านหนึ่งของร้านซึ่งเป็นเคาเตอร์บาร์ และก่อนที่เฮเซคียาห์จะกลับมายืนได้อย่างมั่นคง เมเดียนก็หายตัวมาอยู่เหนือศีรษะของเขา ตวัดเท้าเข้ามากะจะอัดเข้าที่ก้านคอหรือใบหน้าของเฮเซคียาห์
เฮเซคียาห์ยกแขนข้างหนึ่งกันไว้ แรงกระแทกจากขาของเมเดียนทำให้ร่างของเขาลอยกระเด็นไปอัดกับกำแพงอีกด้านใกล้กับทางออก และกำแพงแตกออก เขาลงไปนอนบนพื้นด้านนอกร้าน ของเหลวหนืดๆ บนหน้าทำให้เขารับรู้ว่าตัวเองมีเลือดออก ขณะเดียวกันแขนข้างหนึ่งถึงกับเปลี่ยนสีเป็นเขียวกึ่งม่วง ดูเหมือนมีอาการช้ำรุนแรงและกระดูกภายในหักเป็นหลายท่อน
“ฉันจะหักกระดูกแขน กระดูกขา แล้วตามด้วยหักคอเธอด้วย” เมเดียนโกรธเกรี้ยวอย่างที่เฮเซคียาห์ไม่เคยเห็นมาก่อน
“ผมแค่พยายามเตือนโซเฟียว่าเธอต้องเจออะไรบ้าง ถ้าเธอออกไปข้างนอกนั่น คุณน่าจะขอบคุณผม” เฮเซคียาห์ยังลุกขึ้นมาได้และหัวเราะ
ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง เขาสบตากับเมเดียนที่หายตัวเข้ามาใกล้ ดวงตาของอีกฝ่ายทำให้หวนนึกถึงห้วงอวกาศ และแน่นอนว่าอาการปวดจิ๊ดแล่นขึ้นมาในสมอง แต่เฮเซคียาห์ไม่ยอมให้อาการปวดศีรษะมาหยุดยั้งเขาให้ลองใช้วิธีการซึ่งเตรียมเอาไว้หยุดอีกฝ่าย
มือของเฮเซคียาห์รวดเร็วเทียบเท่าความคิด ตวัดแรงไปที่เพนดูลัมและหมุนกายออกห่างเมเดียน เฉียดการถูกจับตัวได้ไปเส้นยาแดงผ่าแปด สายสร้อยเพนดูลัมพลิ้วตามการเคลื่อนไหวของเขาราวกับริบบิ้น เฮเซคียาห์กดข้อศอกลงกระแทกหลังของเมเดียน เตะข้อพับของอีกฝ่ายจนเซเกือบคุกเข่า และเหวี่ยงเพนดูลัมที่ตอนนี้สะบัดไปทางด้านหลังของเขากลับไปหาเมเดียนที่อยู่ทางด้านหน้า สายสร้อยเพนดูลัมพุ่งตรงไปม้วนเข้าที่คอขอเมเดียน มือของเฮเซคียาห์อีกข้างที่ว่างอยู่จับที่ลูกตุ้มเพนดูลัมซึ่งยังลอยเหวี่ยงไปในอากาศไว้ทัน
“แก!” เมเดียนพยายามสะบัดสายสร้อยเพนดูลัมออก ก่อนที่อยู่ๆ จะหายวับไปจากการถูกจับกุม
เฮเซคียาห์หมุนกายไปทางด้านหลัง ควงเพนดูลัมเพื่อคลายมันออกให้พร้อมตั้งรับ แต่ต้องอุทานเสียงดังเพราะศีรษะของเขาถูกจับไว้จากด้านบน
เมเดียนคงกำลังใช้ปีก ร่างจึงลอยอยู่ในอากาศ มือของเมเดียนออกแรงมาที่ศีรษะของเฮเซคียาห์ คงต้องการบิดมันให้หัดสะบั้นจากกระดูกต้นคอ
“บรอธ...” เฮเซคียาห์เรียกย้ำ หลังจากเขาออกคำสั่งให้ช็อตไฟฟ้าแต่บรอธไม่ได้ตอบสนองทันที
เปรี๊ยะ!
บรอธช็อตไฟฟ้าใส่เมเดียน แต่มันไม่ได้ช็อตที่ตัวเมเดียน แต่ช็อตลงไปในอากาศด้านหลังของเมเดียนในบริเวณที่เฮเซคียาห์เห็นบางอย่างเหมือนปีกนกปรากฏเป็นภาพซ้อนขึ้นมาในอากาศ แล้วตัวของเมเดียนก็ร่วงลงมาบนพื้นโดยที่ตัวเขาเองคงไม่ทันตั้งตัว ไม่มีการแสดงทีท่าว่าพร้อมตั้งรับ ซึ่งเฮเซคียาห์รีบฉวยจังหวะนี้เตะซ้อนอีกฝ่ายจนกระเด็นไปกองอยู่ห่างออกไป
เมเดียนพยุงกายลุกขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ปากคงถูกหินหรือบางสิ่งกระแทกเข้าตอนร่างตกลงไปหน้าคว่ำกับพื้น ริมฝีปากด้านหนึ่งจึงบวมเจ่อห้อเลือด
“แกทำให้ฉันโมโห!” เมเดียนตวาด
ฟึบ…
เฮเซคียาห์กะพริบตาหนึ่งหนและยกมือขึ้นกุมรอบคอของเขา ในชั่วพริบตา รอบข้างของเขาตอนนี้กลายเป็นความมืดมิด และเขารู้สึกถึงความหนาวปลาบแบบที่ไม่เคยสัมผัสได้บนทุกตารางนิ้วบนร่างกายเขา ผิวของเขาเริ่มแห้งและเหี่ยวลงราวกับกายถูกดูดของเหลวออกไป
เฮเซคียาห์กลอกสายตามองไปรอบด้าน ตาเหลือกลาน เมเดียนเทเลพอร์ตเขามาไว้ในกลางห้วงอวกาศซึ่งไม่มีอากาศหายใจ มีอุณหภูมิติดลบมหาศาล และมีแรงดันในความมืดจำนวนมากซึ่งกำลังจะฉีกร่างของเขาออกเป็นเสี่ยงๆ
บรอธ…
เฮเซคียาห์ส่งเสียงในใจอย่างรีบเร่ง บรอธเปล่งแสงขึ้นท่ามกลางความมืดมิด และมันขยายตัวออกจนมีขนาดใหญ่กว่าเขาและพาตัวมันลอยช้อนร่างของเขาเข้าไปไว้ด้านใน
“อั้ก!!!”
เฮเซคียาห์ยังยกมือกุมรอบคอของเขา และดิ้นรนไปมา ตาเบิกโพลง และหลังจากนั้นเขาเริ่มตะกุยตะกายด้านในของบรอธอย่างบ้าคลั่งจนบางเล็บถึงกับฉีกขาดจนมีเลือดไหลซิบ เพราะตอนนี้สภาพของเขาไม่ต่างจากคนถูกฝังทั้งเป็น ด้านในของบรอธมีออกซิเจนเหลือน้อย และดูเหมือนออกซิเจนกำลังจะหมดลง
เฮเซคียาห์หมดลมในที่สุด ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือมืององุ้มของเขาซึ่งมีเลือดเปรอะตามซอกเล็บ
เสียงบางอย่างเหมือนเสียงของเครื่องวัดชีพจรดังแว่วเข้ามาในหูของเฮเซคียาห์ พร้อมกันเขาเริ่มรับรู้กลิ่นที่คล้ายกับแอลกอฮอล์ลอยโชยมาแตะจมูก เฮเซคียาห์รู้ได้เองว่าร่างกายของเขายังไม่ฟื้นฟูดีเพราะเขาขยับไม่ได้ แต่เมื่อเขาตื่นแล้ว แปลว่าอีกไม่นาน เขาจะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้นเขาจึงพยายามขยับนิ้วของเขาอย่างไม่ท้อใจ
ในที่สุดนิ้วมือขวาของเขาเริ่มขยับได้ เสียงเคาะนิ้วและสัมผัสนุ่มๆ ของผ้า ทำให้เขารับรู้ได้ว่าเขากำลังนอนอยู่บนเตียงซึ่งปูผ้าบางๆ ไว้ด้านบน เขาขยับเปลือกตาขยุกขยิก ทำอย่างไม่ท้อถอยจนในที่สุด เขาสามารถเปิดเปลือกตาขึ้นได้ และพบว่าตนเองอยู่ในห้องซึ่งมีเพียงแสงสลัวส่องมาจากบริเวณผนังหัวเตียง
“บรอธ...” เฮเซคียาห์เรียกเศวตศาสตราของเขา ตามด้วยการไอคอกเพราะคอแห้ง
“น้ำไหมคะ” เสียงผู้หญิงทื่อๆ ดังมาจากด้านข้าง ทำเอาเฮเซคียาห์สะดุ้งสุดตัว
เขาในชุดตัวยาวสีฟ้าปราศจากกางเกงตั้งสติ เบือนใบหน้าไปมองทางที่ได้ยินเสียง ก่อนจะเริ่มสบายใจขึ้นเมื่อเข้าใจกระจ่างว่าเสียงนั้นดังมาจากเครื่องกดน้ำซึ่งมันกำลังใส่น้ำลงในแก้วโดยอัตโนมัติ หลังจากนั้นแท่นที่วางแก้วค่อยๆ เคลื่อนยื่นยาวออกมาจากตัวเครื่องมาจบข้างเตียงในระยะที่เฮเซคียาห์สามารถหยิบแก้วน้ำออกจากที่วางแก้วได้
“คำเตือน: น้ำดื่มนี้เหมาะสำหรับเผ่าพันธุ์ซิริน่าเท่านั้น ตรวจพบสารประกอบเดียวกับที่ใช้ให้กับนกที่กำลังป่วย” เสียงของบรอธทำให้เฮเซคียาห์ชะงักแก้วที่เพิ่งจรดปาก
“ให้ตายสิ เกือบไป...” เขาวางแก้วน้ำลง “เลือกออฟชั่นน้ำแร่”
หน้าจอของเครื่องกดน้ำมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แสดงตัวเลือกที่เขาบอก และแท่นวางแก้วเคลื่อนกลับไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งน้ำแร่มาในแก้วน้ำแทนตามที่เฮเซคียาห์เรียกร้อง
“รายงาน: เราอยู่ในยานชื่อเคพีเทส-02 ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางจากซิริส เมนแลนด์ของเผ่าพันธุ์ซิริน่า ไปยัง เดลีเมทัส เมนแลนด์ของเผ่าพันธุ์ดิงกี้บ็อกกี้ ยานลำนี้ใช้ในทางการค้าระหว่างรัฐบาลซิริน่าและรัฐบาลดิงกี้บ็อกกี้ ตรวจพบปลาสดจำนวนหลายพันตันในโกดังเก็บของ รวมถึงธัญพืชอบแห้ง ผู้บังคับบัญชายานตามที่บันทึกในระบบ คินเดรต ไซปีรัส เจ้าหญิงลำดับสามแห่งเผ่าพันธุ์ซิริน่า”
“คินเดรต?” เฮเซคียาห์นึกถึงเจ้าหญิงองค์น้อยซึ่งเขาเคยพบเมื่อสิบกว่าปีก่อน
“นายรู้จักเธอสินะ” บรอธคงจับคลื่นเสียงของเขาและทำการวิเคราะห์ออกมา
“นานมาแล้ว ตอนที่ฉันเดินทางไปที่ซิริสเพื่อซื้อขายแร่บางอย่าง ตอนนั้นฉันได้รับเชิญให้ร่วมงานเลี้ยงฤดูเก็บเกี่ยวของพวกซิริน่า คินเดรตอายุ 15 ปี ตอนนี้เธอน่าจะ 25 ปีล่ะมั้ง” เฮเซคียาห์จำเจ้าหญิงองค์สุดท้องของเผ่าพันธุ์สมาชิกสหพันธ์อวกาศได้เพียงเลือนราง เผ่าพันธุ์นี้มีอายุไขประมาณร้อยปีเศษๆ และมีช่วงชีวิตที่เติบโตคล้ายคลึงกับมนุษย์
“เธอจำนายไม่ได้ แต่ไม่คัดค้านการช่วยเหลือนาย” บรอธทำให้เฮเซคียาห์เดาได้ว่ามันเจอกับคินเดรตมาแล้ว
“จริงๆ ดีแล้วที่จำไม่ได้ ไม่อย่างนั้นฉันถูกส่งกลับไปที่โลกเพื่อประหารชีวิตแน่” เฮเซคียาห์รีบลุกออกจากเตียง เขาลอกสติกเกอร์สำหรับตรวจวัดชีพจรออก และมองสำรวจไปทั่วเพื่อหาบางอย่างที่อาจเป็นประโยชน์กับเขาในการหาที่หลบซ่อนตัว
ถ้าไม่ใช้อุปกรณ์สำหรับการเทเลพอร์ต เฮเซคียาห์ไม่สามารถหนีจากยานอวกาศลำนี้ได้หากมันไม่ได้ลงจอดเสียก่อน
“คำเตือน: มีคนกำลังมา นายแพทย์ที่ดูแลอาการนาย เขารีบร้อนมาทางนี้พร้อมกับทหารอีกสามคน สาเหตุเพราะเครื่องวัดชีพจรส่งข้อมูลไปว่านายไม่มีการตอบสนองของการมีชีวิต”
“ฉันควรทำยังไง จัดการกับพวกเขาดีไหม”
“ออกจากที่นี่ก่อน เรื่องการผ่านประตูหรือระบบต่างๆ แค่มีฉันอยู่ นายผ่านได้ทุกประตูโดยไม่ต้องใช้บัตรผ่าน รหัส หรือชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิตอื่น”
เฮเซคียาห์สบายใจที่เขามีบรอธอยู่ด้วย เขาตรงไปยังประตู แต่พบว่ามันถูกล็อคเอาไว้พร้อมกับมีเสียงเตือนในภาษาซิริน่าซึ่งเฮเซคียาห์มีทักษะในการฟังและพูด เขารับรู้ว่าเขาไม่มีอำนาจเปิดประตูบานดังกล่าว ดังนั้นเฮเซคียาห์ตะคอกใส่บรอธให้รีบจัดการกับประตูให้กับเขา มันเพียงเอาตัวแนบกับแผงบังคับด้านข้าง ประตูก็เปิดออกให้กับเฮเซคียาห์
พิมพ์เขียวของยานอวกาศทั้งลำถูกส่งเข้ามาในสมองของเฮเซคียาห์ พร้อมกับแผนการหลบซ่อนตัวที่ไม่ยากเย็น เฮเซคียาห์มุ่งตรงไปยังห้องพักสำหรับนายทหารระดับสูงซึ่งว่างอยู่ ทางสะดวก และเขาเข้าไปในห้องดังกล่าวได้ด้วยการเปิดประตูของบรอธ
ภายในห้องระดับวีไอพี มีเตียงนอนขนาดกว้างพอจะนอนได้สี่คนซึ่งตกแต่งอย่างงดงาม โซฟาสำหรับนั่งเล่นหรูหรา และตู้เก็บของกินเล่นประเภทธัญพืช เนื้อสัตว์อบแห้ง รวมถึงเครื่องดื่มราคาแพงตลอดความยาวของแนวกำแพง ทั้งนี้ยังมีพื้นที่ว่างซึ่งสามารถเดินเข้าไปและเรียกจำลองสถานที่ต่างๆ มาอยู่ตรงหน้า เพื่อจะได้นั่งพักผ่อนดื่มด่ำกับบรรยากาศของสถานที่ในภาพจำลอง หรือเรียกดูข้อมูลต่างๆ และต่อสายสั่งการไปยังห้องต่างๆ ในยานลำนี้
“พอดีเลย ฉันต้องการค้นหาข้อมูล” เฮเซคียาห์เข้าไปยืนในพื้นที่วงกลมใหญ่
มีวงแหวนสีน้ำเงินเข้มวิ่งขึ้นมาจากพื้น วงแหวนที่ปรากฏขึ้นมาครั้งแรกมีขนาดใหญ่ หลังจากนั้นเส้นผ่าศูนย์กลางของวงแหวนค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ขณะที่มันเคลื่อนจากบนลงล่าง และล่างขึ้นบนหลายต่อหลายครั้ง จนในที่สุด วงแหวนมาหยุดในรัศมีห่างจากตัวเฮเซคียาห์ประมาณหนึ่งช่วงแขน
ตัวอักษรในภาษาอื่นวิ่งวนรอบตัวของเขา ภายในกรอบของวงแหวนที่ลอยอยู่กลางอากาศ
“ตรวจหาภาษามัสติน และเปลี่ยนภาษาเพื่อใช้งาน”
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น ปรากฏตัวอักษรสีแดงในวงแหวน
“ตรวจหาภาษาของมนุษย์ และเปลี่ยนภาษาเพื่อใช้งาน” เฮเซคียาห์คิดว่าต้องมีภาษานี้ให้เลือก เพราะมนุษย์จำนวนไม่น้อยอาศัยอยู่ในลีฟวิ่งแลนด์ของเผ่าพันธุ์ซิริน่า มนุษย์บางคนจัดเป็นบุคคลสำคัญเนื่องจากพวกเขาสมรสกับหญิงชาวซิริน่าผู้ดำรงตำแหน่งในระดับสูง
เผ่าพันธุ์ซิริน่าไม่มีผู้ชาย พวกเธอทั้งหมดสามารถปฏิสนธิในตัวเองเพื่อให้กำเนิดทารกอีกด้วย แต่เมื่อเผ่าพันธุ์มัสตินติดต่อกับเผ่าพันธุ์ซิริน่า มีการค้นคว้าและค้นพบว่าการผสมข้ามเผ่าพันธุ์ระหว่างชาวซิริน่ากับมนุษย์สามารถให้กำเนิดทารกชาวซิริน่าที่มีลักษณะไม่ผิดเพี้ยนไปจากมารดาผู้ให้กำเนิด ชาวซิริน่าจึงยินดีรับมนุษย์ผู้ชายมาเป็นสามี แต่แน่นอนว่าพวกมนุษย์สามีจะไม่มีบทบาทในการติดต่อกับชาวมัสติน
“ฮะๆๆ เป็นอย่างที่คิด” เฮเซคียาห์หัวเราะออก ตัวอักษรในภาษาต่างๆ ของมนุษย์ปรากฏในวงแหวน “เลือกภาษาอังกฤษ”
กรุณาใส่คีย์เวิร์ดเพื่อเริ่มการค้นหาข้อมูลสิ่งที่ท่านต้องการ
ข้อความในภาษาอังกฤษปรากฏขึ้นมาแทนที่ภาษาซึ่งเฮเซคียาห์ไม่สามารถเข้าใจได้ภายในวงแหวน
“รอยสัก มนุษย์ ปลา นก” สิ่งที่เฮเซคียาห์อยากค้นหาคือน้องชายของมูนนี่ เขาจำได้ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นถูกส่งไปเป็นบรรณาการให้กับหญิงชาวซิริน่าผู้เป็นต้นห้องของเจ้าหญิงคนโตของเผ่าพันธุ์ซิริน่า ถ้าหากโชคดี เขาอาจสามารถหาข้อมูลของน้องชายของมูนนี่ได้
ช่างแย่จริงๆ เขาไม่ได้ถามชื่อน้องชายของมูนนี่เอาไว้ก่อน การค้นหาตัวจากชื่อน่าจะง่ายกว่า
“ฉันนี่นะ ทำไมพอมาเป็นมนุษย์แล้วถึงได้โง่ งี่เง่า ไม่รอบคอบ” เฮเซคียาห์ก่นด่าตัวเอง
“เพราะแบบนั้นนายถึงต้องการฉันไง แล้วจริงๆ นายก็น่าจะโง่อยู่แล้วตั้งแต่ตอนเป็นมัสตินนั่นแหละ เพียงแต่มีไลฟ์ควอตซ์ก็เลยดูเหมือนฉลาด”
“หุบปากนะบรอธ รบกวนการใช้ความคิดของฉัน” เฮเซคียาห์เหวใส่บรอธอย่างเคืองๆ
ในวงแหวนแสดงข้อความว่าไม่พบข้อมูลที่เขาค้นหา
“ช่วยยืนยันแหล่งข้อมูลในการค้นหาหน่อย เฉพาะข้อมูลของยานลำนี้หรือเปล่า”
ฐานข้อมูลเบื้องต้นในการค้นหา เฉพาะข้อมูลทั้งหมดในยานลำนี้
เฮเซคียาห์ตริตรองอยู่ชั่วครู่ แล้วเขาออกปากอย่างมั่นใจเพื่อลองพยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวน้องชายของมูนนี่ดูอีกครั้ง
“เชื่อมต่อสู่ฐานข้อมูลประชากรในอารักขาของเผ่าซิริน่า ค้นหารูปถ่ายมนุษย์ทั้งหมดพร้อมชื่อและหมายเลขประจำตัว”
วงแหวนปรากฏข้อความให้ยืนยันรหัสผ่าน พร้อมทั้งบังคับให้แจ้งชื่อกับตำแหน่งในยาน
“จัดการ...” เฮเซคียาห์ขยับศีรษะส่งสัญญาณให้บรอธ
บรอธลอยวนไปมาในอากาศ แล้วค่อยๆ ลดตัวลงต่ำบนพื้น จากนั้นแสงสีขาวปรากฏเป็นเส้นๆ แล่นออกมาจากบรอธและลงไปตามพื้น แล้วแสงสีขาวก็ปรากฏบนพื้นอีกครั้งและวิ่งไปมาอย่างรวดเร็วก่อนจะหายวูบไปเฉยๆ เฮเซคียาห์เข้าใจว่าภายใต้พื้นที่เขายืนอยู่คงมีเครื่องควบคุมวงแหวนซึ่งเขากำลังใช้งานเพื่อหาข้อมูลอยู่
วงแหวนขยายตัวออกให้มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างขึ้น และค่อยๆ ขยายในแนวตั้งจนทำให้รอบด้านของเฮเซคียาห์ถูกล้อมด้วยแสงจางๆ สีน้ำเงินทำหน้าที่เหมือนกับหน้าจอ ถ้ามองจากภายนอกวงแหวน เขาคงดูเหมือนยืนอยู่ในแก้วที่กำลังคว่ำอยู่
หน้าจอแสดงชื่อและภาพขององค์หญิงลำดับสามของเผ่าพันธุ์ซิริน่า คินเดรต ไซปีรัส พร้อมกับรหัสผ่านที่ถูกกรอกแล้ว และทันใดนั้นหน้าจอแปรเปลี่ยนไปแสดงรูปนกบินไปมาแสดงถึงการเชื่อมต่อข้อมูล ก่อนจะมีรูปไมโครโฟนปรากฏขึ้นบนหน้าจอด้านหน้าของเฮเซคียาห์
โปรดใช้เสียงเพื่อระบุตัวตนอีกครั้ง
“เฮ้อ...” เฮเซคียาห์คิดว่าเขาควรยอมแพ้
บรอธลอยมาอยู่ตรงหน้าเขา
“คินเดรต ไซปีรัส ยืนยันตัวตน” บรอธส่งเสียงผู้หญิงที่ออกห้าวนิดๆ ออกมา
เฮเซคียาห์เลิกคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อหูและสายตา
เฮเซคียาห์เข้าถึงฐานข้อมูลซึ่งเขาต้องการได้สำเร็จ หน้าจอกำลังแสดงรูปของมนุษย์ผู้ชายจำนวนมากเรียงรายหลายบรรทัด พร้อมกับชื่อของพวกเขาแต่ละคนใต้ภาพ