ตอนที่ 53 คลื่นใต้น้ำ
กริ้งง..!
เสียงสัญญาณเตือนไฟดังขึ้นทั่วทางเดิน และควันดำหนาก็ปกคลุมทั่วแผนกวิจัย
หัวฉีดพ่นน้ำออกมาเพื่อหยุดการลุกลามของไฟ แต่เอกสารมากมายก็ยังถูกทำลายและประกายไฟก็พุ่งออกจากคอมพิวเตอร์และเครื่องจักรบางเครื่อง กำแพงและเพดานเต็มไปด้วยรอยไหม้สีดำ
“เกิดอะไรขึ้น?”ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยถามขณะมองดูเศษซาก
ในไม่ช้า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็เริ่มตรวจสอบ
“ไฟเริ่มมาจากโรงงาน!”
ลั่วซวน-ในสภาพเปียกชุ่ม ใบหน้าดำคล้ำถูกเจ้าหน้าที่พยุงออกมา ผมของเขาถูกเผาจนหมด รวมถึงคิ้ว
ด้วยการตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขารีบคว้าเครื่องดับเพลิงในบริเวณใกล้เคียง ทำให้เขาไม่เสียโฉมไปมากกว่านี้
เขาไม่คิดว่าสารตัวนำจะเป็นก๊าซ มันเผาไหม้ทันทีที่สัมผัสกับอากาศ
ลั่วซวนประเมินตัวเองสูงเกินไป
“ฉันแพ้..”หลิน ฮวงยอมรับอย่างไม่เต็มใจ
“แกทำอะไรลงไป”ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตะโกน
หนึ่งในเจ้าหน้าที่เปิดมือเขา เผยให้เห็นปลอกกระสุน แม้พวกมันจะดำคล้ำ พวกมันก็ยังเคยเป็นสีแดงเข้มมาก่อน
“นี่คือปลอกกระสุนของดินปืนระเบิดแรงสูง คนของคุณพยายามวิเคราะห์มัน”
ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหน้าเขียวปั้ด เขาทำได้เพียงชี้นิ้วใส่ลั่วซวนด้วยความโกรธ
‘คำสั่งฉันมันหละหลวมเกินไป?!’
‘เมื่อเบื้องบนสอบสวน นี่จะตกเป็นความผิดของฉันอีกครั้ง!’
‘ไอสารเลว!’
กู่ หุ่ยมาถึงที่เกิดเหตุ สีหน้าเขาดำคล้ำเมื่อเห็นซากปรักหักพัง
“อธิบายมา”
ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยกระชากลั่วซวนมาตรงหน้าเขาและพูดผ่านไรฟัน“เขาทำทั้งหมดด้วยตัวเอง!”
กู่ หุ่ยมองลั่วซวนอย่างหมดความอดทน
“คุณมีอะไรจะพูดแก้ตัวไหม?”
ลั่วซวนลดหัวลง เขาคิดว่าเขาจะประสบความสำเร็จและได้รับความดีความชอบ แต่การขัดคำสั่งเขากลับก่อให้เกิดความเสียหายกับสำนักงานใหญ่ นี่อาจเป็นจุดสิ้นสุดของอาชีพเขา
“คุณจะกลับไปแผนกโลจิสติกส์”กู่ หุ่ยกล่าวอย่างใจเย็นก่อนหันหลังกลับ
ลั่วซวนตัวสั่นสะท้าน ก่อนหน้านี้ เขาออกแผนกโลจิสติกส์มาแบบไม่ดรนัก การกลับไปไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเขา
จริงๆแล้ว เมื่อเขามาถึงแผนกโลจิสติกส์ อดีตเพื่อนร่วมงานทั้งหมดล้วนเมินเฉยเขา แม้กระทั่งผู้อำนวยการแผนก ที่เคยหวังเขาไว้สูงก็ยังไม่อยากเห็นหน้าเขา เขาแค่ส่งเลขามาแจ้งลั่วซวนถึงตำแหน่งใหม่เขาในทีมเล็กๆ
หากเขาไม่มีจิตใจคับแคบ เขาคงไม่สูญเสียเส้นทางเขาและจบลงเช่นนี้
แม้เขาจะเสียใจกับการกระทำ มันก็สายเกินไปแล้ว
“ฉันยังเด็กเกินไป...”ลั่วซวนกล่าวอย่างขมขื่น
...
หานเซี่ยวตกใจที่ได้ยินเรื่องของลั่วซวนจากเฟิงจุน-แม้กระทั่งเขา ผู้ที่สร้างมันขึ้นมาก็ยังไม่กล้ายุ่งกับกระสุนที่เขาสร้างขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่สำคัญกับเขา ตลอดเวลา ลั่ว ซวนเป็นแค่ชื่อที่ไม่สลักสำคัญอะไรต่อเขา
ไม่นาน ชุดเกราะของจาง เหว่ยก็ถูกส่งมายังห้องทำงานเขา จากการสังเกต มันเป็นต้นแบบที่ผลิตขึ้นมาหยาบๆ
ชุดเกราะทหารเหล็ก(ต้นแบบ)
ประเภท : ชุดจักรกลขนาดเล็ก
เกรด : ขาว
สถานะ : ความทนทาน682/1400 พลังป้องกัน35
ระดับพลัง : 86
ระดับพลังงาน : 250/250
โบนัสสถานะ : -10ความเชี่ยวชาญ(คล่องตัว)
ความสูง : 1.95เมตร
น้ำหนัก : 370กิโลกรัม
วิธีควบคุม : บังคับมือ
แหล่งพลังงาน : ไฟฟ้า
อัตราการผลาญพลังงาน : 5พลังงาน/นาที
แกนพลัง : 125/130
โมดูลองค์ประกอบ :
สปริงลูกสูบ(ลดน้ำหนัก65%)
พลัง : 20
โมดูลแขนขวา : ปืนกลลำกล้องขนาดใหญ่3ลำกล้อง
ความเสียหาย : 105-125
อัตราการยิง : 5นัด/วินาที(ต่อลำกล้อง)
อัตราการยิงสูงสุด : 8นัด/วินาที เป็นเวลา5วินาที(ต่อลำกล้อง)
ความจุซองกระสุน : 30(+120ในเข็มขัดกระสุน)
ระดับพลัง : 75
พลัง : 35
โมดูลแขนซ้าย : ปืนกลลำกล้องขนาดใหญ่สามลำกล้อง
โมดูลข้อมือขวา : มีด
ความเสียหาย: 12-15
ระดับพลัง : 9
พลัง : 5
โมดูลขา : ตัวเพิ่มแรงถีบ
+15ความเร็ว
ผลาญพลังงาน 1/นาทีเมื่อใช้งาน
พลัง : 30
ตัวแนบ : แว่นอินฟาเรท
พลัง : N/A
ตัวแนบ : โล่หกเหลี่ยม(ลดความเสียหายที่ได้รับ12%)
พลังงาน : N/A
คำแนะนำ : สิ่งที่น่ารังเกียจนี้นับเป็นความเสื่อมเสียต่อชุดเกราะทั้งหมดในโลก!
หานเซี่ยวต้องยอมรับ มันเป็นผลงานที่น่าเกลียดจริงๆ-มันดูเหมือนการเอาเศษโลหะมาเชื่อมกัน
นอกจากจะพลังงานต่ำ มันยังไม่ได้ทำงานบนวงจรรวม!ไม่แปลกใจว่าทำไมจาง เหว่ยถึงกราดยิงแทนที่จะเล็งยิง-เพราะมันไม่มีระบบเล็งยิงนั่นเอง!ชุดเกราะที่มีวงจรรวมจะสามารถรับและส่งข้อมูลสำคัญได้ในระหว่างการต่อสู้
นอกจากนี้ ชิ้นส่วนอัตโนมัติของชุดยังเป็นขามัน!นอกจากขา โครงสร้างทั้งชุดคือระบบมือ ซึ่งทำให้จาง เหว่ยไม่เคยใช้โล่-เพราะเขาไม่อาจใช้มันได้!
“โธ่เอ้ย แม้มันจะเป็นรุ่นต้นแบบ อย่างน้อยก็ควรแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่หน่อยสิ!”
เมื่อหานเซี่ยวตรวจสอบชุดด้วยแขนไขว้ ความคิดมากมายก็เริ่มผุดขึ้น อย่างไรก็ตาม การอัปเกรดมันยังเร็วเกินไป การปรับแต่งบางอย่างที่เขาต้องการทำจำต้องใช้ความรู้ที่เขายังไม่มี ดังนั้น หลังทำการบำรุงรักษาง่ายๆ หานเซี่ยวก็ให้เฟิง จุนช่วยนำกลับไปให้จาง เหว่ย
ปัจจุบัน ความกังวลหลักของหานเซี่ยวอยู่ที่การทำลายฐานขององค์กรต้นกำเนิดทั้งสาม และข้อมูลที่ควรเปิดเผยแก่มังกรดารา
ฐานทั้งสามที่ถูกยึดเป็นแค่ฐานที่ตั้งอยู่ในมังกรดารา หากมังกรดาราอยากโจมตีองค์กรต้นกำเนิดต่อ พวกเขาจะต้องทำการต่อสู้ในประเทศอื่น ด้วยความที่ความสัมพันธ์ระหว่าง6ประเทศไม่ค่อยลงรอยนัก แต่ก็ไม่มีใครอยากสู้กันเพราะทรัพยากรจำนวนมากได้หมดลงในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ แต่ละประเทศยังคงนับความสูญเสียของพวกเขาอยู่
ดังนั้น มังกรดาราจึงต้องแสวงหาความร่วมมือจากประเทศอื่น และนั่นจะเกิดความซับซ้อนขึ้น ตัวหานเซี่ยวเองก็ต้องเข้าร่วมเพราะเขาถือเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ
คำถามก็คือเบื้องบนจะปล่อยให้หานเซี่ยวออกเมืองหลวงตะวันตกไหม
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น มันคือเฟิงจุน“หานเซี่ยว หน่วยปฏิบัติการขององค์กรต้นกำเนิดเคลื่อนไหวแล้ว พวกเขาดูเหมือนจะรู้ว่าคุณอยู่กับเราและกำลังแกะรอย”
“ผมรู้”
หานเซี่ยวคาดการณ์ไว้แล้ว เขาสั่งให้หลี่ ย่าหลินใช้แขนกลเพราะรู้ว่าฮีล่าจะจำได้
“มั่นใจได้ จะมีคนคอยจับตาดูคุณอยู่ตลอด24ชั่วโมง”
เมืองหลวงตะวันตกคืออาณาเขตของแผนก13 แม้องค์กรต้นกำเนิดจะรู้ตำแหน่งของหานเซี่ยว พวกเขาก็ไม่อาจแตะต้องหานเซี่ยวได้-อย่างน้อยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ถึงกระนั้น มันก็ยังมีนักฆ่ายอดมนุษย์หลายคน หานเซี่ยวรู้ว่าเขาไม่อาจประมาทได้
‘ดูเหมือนว่าฉันควรเตรียมมาตรการป้องกันบางอย่าง’
“ช่วยขอปืนพกอินทรีคลั่ง(Eagle Berserk)สองกระบอกจากคลังมาให้ผมหน่อย”
มันคือปืนพกลำกล้องใหญ่ระยะใกล้ มันมีผลในระยะ30เมตร และพลังมันก็เทียบได้กับปืนไรเฟิล
มันจะทำงานได้ดีกับทักษะ[กราดยิง]
อย่างไรก็ตาม หานเซี่ยวต้องการมากกว่านี้
ตลอดสามวันที่ผ่านมา หานเซี่ยวได้รับค่าประสบการณ์1แสนหน่วยจากการสร้างดินปืน เขาตัดสินใจใช้40000หน่วยกับ[พื้นฐานการกลั่น]เป็นระดับ5 เติมเต็มข้อกำหนดสำหรับการสร้าง[โลหะผสมทองคำขาว]
“มันถึงเวลาอัปเกรดแล้ว”
…
ไม่กี่วันก่อน เมื่อรู้ถึงปรากฏของแขนกลในมือเจ้าหน้าที่มังกรดารา หัวหน้าก็ได้ข้อสรุปว่ามันต้องเป็นซีโร่ที่ปล่อยข้อมูลฐานทั้งสามของพวกเขาให้มังกรดารา
“เขาคือผู้บงการจิต?”
หัวหน้าพบว่ามันยากจะอธิบายได้ว่าหานเซี่ยวรับรู้ถึงข้อมูลลับได้ยังไง ในความเป็นจริง เขาไม่เคยสงสัยซีโร่เลย เขากลับสันนิษฐานว่ามีคนทรยศในหมู่พวกเขา ด้วยเหตุนั้น เขาจึงแม้กระทั่งฆ่าผู้บัญชาการคนหนึ่งไปอย่างผิดๆ
ความคิดเขาย้อนกลับไปเดือนก่อน ที่ซีโร่ประกาศเจตนาที่จะทำลายพวกเขา
หัวหน้ากำหมัดแน่น
“ฉันประเมินแกต่ำไป แต่แกยังตัวคนเดียว-ฉันไม่เชื่อว่าแกจะครอบครองข้อมูลไปมากกว่านี้”
“ถ่ายทอดคำสั่งลงไป : รับสมัครคนเร่ร่อนเพื่อตรวจสอบร่องรอยของซีโร่ในมังกรดารา องค์กรต้นกำเนิดจะมอบรางวัลให้คนที่หาตัวเขาพบ!”
“หากพบตัว ส่งโรซ่าไปจัดการเขาซะ”
โรซ่าก็เหมือนฮีล่า เป็นผู้บัญชาการขององค์กร เธอคือนักฆ่า
ผู้บัญชาการแต่ละคนจะมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัว แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามีผู้บัญชาการกี่คน-ไม่แม้แต่เจ้าหน้าที่ในองค์กรส่วนใหญ่
หัวหน้าเหม่อมองไปไกล
‘คิดว่ามังกรดาราจะสามารถคุ้มหัวแกได้?’
‘แกคิดตื้นเกินไป!’