Money Monster Episode XXIX [ล่ากรีดครั้งแรก]
Money Monster Episode XXIX [ล่ากรีดครั้งแรก]
เมื่อเวลาผ่านล่วงถึงยามพกค่ำ หนุ่มสาวทั้งสี่ต่างพากันเคลื่อนที่อย่างเงียบเฉียบในความมืดมิด ใช้MMCเปลี่ยนเครื่องแบบและอุปกรณ์ให้เข้าสู่โหมดต่อสู้ ออกกระจายตระเวนไปมั่วเมืองแต่ห่างกันไม่เกินรัศมีจุดศูนย์กลางสองร้อยเมตร พร้อมเสียงหูฟังติดต่อกันแทบตลอดเวลา
ระยะห่างสองร้อยเมตรคือรัศมีที่ไม่ใกล้และไกลจนเกินไป เพราะหากเกิดกรณีฉุกเฉินก็จะสามารถเข้ารีบรุดเข้าไปช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ เพราะถึงอย่างไรคนที่สามารถสู้จริงก็มีเพียงแค่สองคนเท่านั้น คือไลท์และครอสซ์
กรีดจะถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดก็ได้ มันไม่ใช่แวมไพร์หรือสัตว์หากินตอนกลางคืนที่จะออกล่าได้เฉพาะยามดึก มันโลดโผนและไล่ล่าเหยื่อได้ในตอนกลางวัน แต่มันไม่ทำ มันเลือกที่จะใช้ชีวิตท่ามกลางความมืดมากกว่าและนั่นทำให้โบรกเกอร์ทุกคนต้องเจอกับปัญหาหลายอย่าง
ปัญหาข้อแรกคือหาตัวพวกมันลำบากมาก กรีดไม่มีกลิ่นอาย รอยเท้าก็เหมือนมนุษย์ จะผิดแปลกก็แค่สัดส่วนเท่านั้น แถมยังนิยมออกมาตอนกลางคืนส่งผลให้การแกะรอยเป็นไปด้วยความยากลำบาก วิธีการที่โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แก้ปัญหาก็คือ ล่อมันออกมา ซึ่งต้องอาศัยชิพเตอร์ที่เป็นเหยื่อล่อชั้นดี
ปัญหาต่อมาคือชิพเตอร์ก็ไม่ได้หาง่ายๆ มีเพียงกรีดเท่านั้นที่สามารถจับกลิ่นอายและตามไปพบ แต่โบรกเกอร์ไม่ได้มีความสามารถนี้ ต้องอาศัยโชคอยู่พอสมควร ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่มี
ทางเดียวที่สามารถทำได้คือการพึ่งพาให้การ์ดคู่หูจับสัมผัสมันให้ได้
การ์ดคู่หูเป็นการ์ดพิเศษ ไม่ใช่แค่มีความสามารถสูงมากกว่าการ์ดทั่วไป แต่ยังสามารถจับสัมผัสกิเลสในตัวกรีดได้อีกด้วย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เมซูลใช้ตอนอยู่มหาลัยส่งผลให้สามารถช่วยไลท์และหลีกเลี่ยงการปะทะกลางห้องเรียนได้สำเร็จ
ยิ่งระดับของการ์ดคู่หูแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งสัมผัสได้เป็นบริเวณกว้างเท่านั้น แต่พอนับดูกันแล้วในสี่คนนี้ มีเพียงสามคนที่ใช้ความสามารถนี้ได้
“ทุกคนเป็นยังไงบ้าง” ไลท์ถามอย่างแผ่วเบาผ่านไมค์ขนาดจิ๋ว
“ไม่รู้เหมือนกัน! ฉันทำตามที่พวกนายบอกแล้วแต่ไม่รู้อะไรเลย” ครอสซ์กล่าวออกมาอย่างเอ๋อๆ หมอนี่ยังใช้การ์ดไม่คล่องไม่พอ ยังไม่รู้สีรู้สาอะไรเลย ทำได้เพียงทำตามที่เพื่อนบอกเท่านั้น
“อืม ฉันใช้การ์ดเพิ่มจำนวนพวกคู่หูให้มีหลายตัวและออกกำลังหากัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้อะไรเลย”
“ฮือ กลัวความมืดมากเลยค่ะ” เสียงงอแงของลูน่าดังออกมาผ่านหูฟังของทุกคน สามหนุ่มได้แต่ทำหน้าเอือมระอาให้แก่น้องเล็กของกลุ่ม โดยเฉพาะแจ๊สเปอร์ที่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดว่า
“ชินเถอะลูน่า เดี๋ยวเราก็ต้องอยู่แบบนี้กันอีกไม่รู้กี่ปี”
“แต่มันรู้สึกวังเวงนี่คะ! แบบว่า..จะยังไงฉันก็เป็นผู้หญิง พอคิดว่ามาอยู่ที่มืดๆ และเปลี่ยวแบบนี้ เกิดมีคนโรคจิตเดินมาตีหัวลากฉันไปข่มขืน แค่คิดก็ขนลุกแล้วค่า!”
“โอ๊ส! ลูน่าใช้คฑาตีหัวมันคืนไปเลย และสอนมวยให้มันรู้ว่าผู้หญิงก็หมัดแรงนะ” ครอสซ์ให้กำลังใจ
“คุณครอสซ์บ้าค่ะ! คนโดนตีหัวสลบแล้วจะมีสติไปตีหัวเค้ากลับได้ยังไงล่ะคะ”
“เอาน่า ตั้งใจหน่อยๆ ไลท์ต้องพึ่งพวกเรานะ พยายามให้เต็มที่เถอะ” แจ๊สเปอร์เอ่ยออกมาเพื่อไม่ให้บทสนทนาเลยเถิดไปมากกว่านี้ เพราะไลท์ไม่สามารถอัญเชิญการ์ดคู่หูของตนเองออกมาได้ เลยต้องพึ่งพาคนที่สู้กรีดยังไม่ได้อย่างพวกตน ก็ต้องพยายามและจดจ่อให้มากขึ้น
ทั้งสี่หาอยู่นาน พยายามเคลื่อนที่ให้เป็นธรรมชาติและไม่สะดุดตาที่สุด แต่ยังไงบริเวณนี้ก็เป็นย่านชุมชน การเดินแบบเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมายอาจมีพิรุธจนถูกจับสังเกตได้
“โถ่เอ้ย! เมื่อไหร่จะเจอพวกมันฟะ”
“ครอสซ์ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็หาเจอน่า”
“ฉันขอแวะซาเว่นก่อนนะคะ คอแห้งแล้ว” ลูน่าเอ่ยขึ้นก่อนที่จะได้ยินเสียงร้านสะดวกซื้อลอยผ่านไมค์มา
“เดี๋ยวก่อนเถอะ! ฉันเองก็หิวน้ำนะ ลูน่า! ซื้อน้ำกล้วยมาฝากฉันหน่อย”
“มันมีน้ำแบบนั้นจริงเหรอคะ..อย่างคุณครอสซ์เดินหยอดตู้ขายน้ำอัตโนมัติไปเถอะค่ะ ฉันขี้เกียจเดินแล้ว”
“ว่าไงนะยัยเด็กนี่! ไม่สำนึกบุญคุณที่ให้ยืมเงินไปซื้อการ์ดซะแล้ว!”
“ขะ..ขี้โกงนี่คะ ทวงบุญคุณเก่าแบบนี้”
“ซื้อมาซะ! วิ่งมาแค่สองร้อยเมตรเอง ไม่ขาหักตายหรอกน่า”
“ใจดำที่สุดเลยค่ะ! ใช้งานสาวน้อยแสนบอบบางแบบนี้ เลวที่สุด”
“หน๊อย! ว่าไงนะ!”
“ทั้งสองคนเลิกสักทีได้ไหม ฉันเจอแล้ว”
“ว่าไงนะ!” ทั้งสามคนโพล่งเสียงขึ้นพร้อมกันก่อนที่แจ๊สเปอร์จะส่งพิกัดมาให้ได้รับรู้
การ์ดของแจ๊สเปอร์คือ[ตัวตุ่น แก๊งค์คาโม] เป็นมอนสเตอร์เลเวลสอง ความแข็งแกร่งนับว่าอ่อนระดับใช้จู่โจมไม่ได้ แต่มีความสามารถหลายอย่างโดยเฉพาะการสอดแหนมและแทรกแซง บวกกับการ์ดAbility เฉพาะส่งผลให้เพิ่มจำนวนได้มาก จึงเพิ่มรัศมีการค้นหาได้กว้างมากกว่าอีกสามคนชนิดทาบไม่ติด
ไลท์และทุกคนพากันเคลื่อนที่เข้าไปยังตำแหน่งที่แจ๊สเปอร์แจ้งมาอย่างเงียบเฉียบและระมัดระวังที่สุด จนกระทั่งพบอมนุษย์ร่างสีดำกำลังคุ้ยขยะหาสิ่งของบางอย่างใกล้ตู้ขายน้ำอัตโนมัติบริเวณสี่แยก
“ดูเหมือนจะเป็นกรีดระดับหนึ่งเองนะคะ”
“อ่อนแอโคตร! ว่าแต่แจ๊สเปอร์ หมอนี่ให้เงินเท่าไหร่นะ”
“ระดับหนึ่งน่าจะประมาณหนึ่งร้อยถึงห้าพันเหรียญ”
“น้อยชิบ! แบ่งกันก็ได้แค่คนละพันเหรียญเองนี่หว่า”
“ไม่ใช่ค่ะ แบ่งกันก็ได้คนละ1250เหรียญ”
“นั่นแหละ! น้อยไปอยู่ดี”
“ระดับหนึ่งฉันคงใช้ปลอกกระสุนเก็บเสียงไม่ได้ ฝากพวกนายด้วยละกัน” ไลท์เอ่ยพลางถอนหายใจออกมา รวมค่ากระสุนปืนกับปลอกเก็บกระสุนแค่พันกว่าเหรียญไม่พอจ่าย ขาดทุนอย่างแน่นอน เพราะบริเวณนี้ผู้คนเยอะ การใช้ปืนจะส่งเสียงดันจนผู้คนแตกตื่น เผลอๆ ได้เข้าคุกนอนตารางอีกด้วย แต่ปลอกเก็บกระสุนก็มีหมดอายุการใช้งานได้เหมือนกัน จึงต้องพิจารณาไว้ให้ดี
“ไลท์! อย่างน้อยสักนัดเดียวก็ยังดีล่ะน่า แบบนี้ฉันไม่กล้าเปิดนะ”
“อย่าปอดแหกสิคะคุณครอสซ์! ออกไปซัดมันเลยค่ะ!”
“ไม่ได้นะ ถ้ามันหนีขึ้นมาเราก็ไม่ได้สักเหรียญเลย ต้องคิดหาวิธีไล่ต้อนมันอย่างรอบคอบ” แจ๊สเปอร์เอย
“แต่ถ้าไม่รีบแล้วเราแตกตื่นขึ้นมาล่ะคะ! ปกติตอนในห้องจำลองหรือตอนสอบฉันใช้มอนสเตอร์สู้แทนตลอดเลย แต่ครั้งนี้ใช้การ์ดไม่ได้ด้วยเพราะใช้ไปก็ขาดทุนนี่สิ ที่จริงแค่เรียกคู่หูออกมาก็ขาดทุนแล้วค่ะ”
“ใจเย็นก่อนสิ ทุกคนเลย โถ่..ไลท์ เอายังไงดี เข้าจู่โจมพร้อมกันเลยดีไหม”
“ก็ดีเหมือนกัน พอให้สัญญาแล้วบุกเข้าไปพร้อมกันเลยนะ” ไลท์เอ่ยอย่างแผ่วเบาก่อนที่ทั้งสี่จะค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าใกล้จุดหมายโดยไม่ให้มันได้รู้ตัว ทว่า ในระหว่างที่กำลังเปลี่ยนจุดหมายไปยังอีกที่หนึ่ง เท้าของไลท์กลับหลงไปเตะเข้ากับกระป๋องน้ำอัดลมที่ถูกทิ้งค้างเอาไว้ ส่งเสียงออกไปให้ทุกคนได้ยิน
“ชิบละ” ไลท์อุทานออกมาพลางหันสายตาไปมองยังกรีด อมนุษย์ร่างสีดำสังเกตเห็นไลท์เต็มตา ด้วยเครื่องแบบและรัศมีที่แผ่ออกมาจากพลังของโบรกเกอร์ มันจึงสัมผัสได้ในทันทีว่านี่คือศัตรู
“หนี..ต้องหนีแล้ว” มันเอ่ยออกมาก่อนจะทิ้งถังขยะวิ่งไปอีกทางหนึ่งอย่างรวดเร็วราวกับสัตว์ป่า ไลท์เริ่มมีสีหน้าแตกตื่นหันไปตะโกนผ่านไมโครโฟนในทันที
“ครอสซ์ มันหนีไปทางนายแล้ว”
“โอ้ เชื่อใจฉันได้เลย” ครอสซ์กล่าวรับคำพูดของไลท์ก่อนจะเตรียมสนับมือขึ้นสวม พร้อมกระแทกหมัดใส่ใครสักคนเต็มทีแล้ว
“อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้นะคะคุณครอสซ์”
“แน่นอน! เอาล่ะนะ” ครอสซ์วิ่งพรวดออกมาขวางทางหนีของกรีดอย่างรวดเร็ว หมัดทั้งสองกระแทกเข้าหากันส่งเสียงกังวาน ชายหนุ่มแยกเขี้ยวออกมาด้วยความยินดีปรีดาง้างหมัดรอพุ่งเข้าใส่ร่างสีดำที่ใกล้เข้ามาอย่างทันท่วงที
“เอาไปกินซะ! หมัดอัลต้าครอสซ์สเปเชี่ยล” ครอสซ์ตะโกนชื่อท่าสุดพิสดารออกมาพร้อมซัดหมัดออกไป แต่ยังไม่ทันได้ถึงตัวอมนุษย์สีดำพลันเอนร่างหลบกำปั้นในวินาทีสุดท้าย ลอดใต้วงแขนผ่านเข้าไปทางด้านหลัง
“อะ..อ่าว” ครอสซ์ทำสีหน้างงจัด เครื่องหมายคำถามเต็มหัวก่อนจะเหลียวไปมองด้านหลังพบเจ้ากรีดมันวิ่งหนีไปได้แล้ว
“โอ้วโน้ว!!!”
“โถ่! เวลาแบบนี้ยังมามัวเล่นอะไรอยู่คะเนี่ย” ลูน่าร้องบ่นออกมาก่อนจะวิ่งผ่านร่างครอสซ์ไปพร้อมกับไลท์
“เอ๋! นี่ฉันจริงจังแล้วนะ”
“เลิกพูดไร้สาระกันก่อน! กรีดมันหนีไปแล้วเห็นไหม” ไลท์ตะโกนเรียกสติ มองแผ่นหลังของอมนุษย์สีดำที่ค่อยๆ จางหายไปในความมืด
“ลาว่า!” ครอสซ์ตะโกนเรียก ก่อนที่ร่างของอสุกายสีแดงที่เปลือยเปล่าสวมนวมสีเพลิงส้มจะปรากฏขึ้น มันสับขาวิ่งมาหาผู้เป็นนายอย่างรวดเร็ว
“วิ่งไล่จับแบบดับเครื่องชนไปเลย!! อย่าให้มันหนีไปได้” ครอสซ์ออกคำสั่งมอนสเตอร์คู่หูของตน
“ดับเครื่องชนไปเลย!” ลาว่าเอ่ยขานก่อนที่ตาของมันจะลุกโชนไปด้วยเพลิงแห่งความเร่าร้อน ตั้งท่าวิ่งดีดตัวออกไปไล่ตามเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
ลาว่าเป็นมอนสเตอร์ระดับR- เป็นนักมวยที่มีรร่างกายร้อนแรงดังนกฟินิกซ์ ศีรษะเป็นนกเหยี่ยวแต่ร่างกายเป็นมนุษย์ เด่นด้านพละกำลังและความรวดเร็ว แต่อ่อนด้านพลังเกราะที่สุด มันเร่งสปีดไล่ตามเป้าหมายอย่างสุดชีวิตตามคำสั่งของเจ้านายมัน แต่พอใกล้แล้วกลับมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น
เปี้ยด
“แอะ” เท้าอันเปลือยเปล่าไร้พื้นรองเหยียบใส่เปลือกกล้วยที่ไม่รู้ไอ้งั่งคนไหนมันเหลือทิ้งเอาไว้ ลาว่าเสียงการลงตัวหัวกระแทกพื้นเข้าอย่างแรง ทั้งสี่ทำหน้าเหวอสุดขีดเมื่อมันแน่นิ่งไม่ได้สติหมดสภาพต่อสู้
“ไอ้นกโง่ แกทำให้ฉันดูแย่!” ครอสซ์ถึงกับตะโกนด่าออกมา ในเมื่อนั้นไลท์ แจ๊สเปอร์ ลูน่าได้ข้อสรุปแล้วว่า ระหว่างเจ้านายกับลูกน้องแทบไม่มีอะไรแตกต่างกันจริงๆ โดยเฉพาะระดับสติปัญญา
“โถ่เว้ย บัดซบ!!!” ครอสซ์ร้องตะโกนวิ่งต่อไป
“ต่อมาตาฉันเอง!” แจ๊สเปอร์เอ่ยขึ้นอย่างกล้าหาญ เร่งฝีเท้าวิ่งสุดชีวิตเพื่อตามหลังไป มือหนึ่งหยิบการ์ดสีทองขึ้นมาในมือและเพ่งกระแสจิตออกคำสั่ง กระจายความคิดของเขาไปให้พวกคู่หูได้รับรู้
“มาเลยพวกคาโมทั้งหลาย! สร้างปราการดันมาขวางเอาไว้”
“คาโม” เสียงใสเล็กๆ ดังขึ้น ที่เบื้องหน้าของกรีดพลันปรากฏร่างของตัวตุ่นสูงราว30เซนติเมตรขึ้นราวหลายสิบตัว พวกมันต่างสวมหมวกสีเหลืองของพนักงานก่อสร้างและแว่นกันแดดที่ดูโก้เสียเหลือเกิน แม้ว่าตอนนี้จะเป็นตอนกลางคืนก็ตาม
“เจ้านายออกคำสั่งแล้วเว้ยเฮ้ยคาโม!”
“สร้างป้อมปราการ!”
“สร้างป้อมปราการ!!” ตุ่นตัวอื่นๆ เริ่มทยอยกันเรียกขาน ร่างกายอันเล็กสั้นแต่กลับรวดเร็วปานลิงวอก เพียงพริบตาเดียวพวกมันก็ก่อตัวก่อร่างกันเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ที่มีดินและหินเป็นส่วนประกอบ ไม่ต่างจากป้องปราการที่มีไว้ขวางกั้นไม่ให้ถูกทำลายได้โดยง่าย
“ดีล่ะ! การ์ดของฉันถึงจะไม่ใช่สายต่อสู้ แต่ก็ไมได้ไร้ประโยชน์เฟ้ย ถ้าคิดว่าจะผ่านไปได้ง่ายๆ ล่ะก็ลองดูสิ!” แจ๊สเปอร์ยิ้มกล่าวออกมาอย่างภาคภูมิใจ เพราะเป็นท่าที่หาโอกาสใช้ได้จริงยากมากจึงพอใจเป็นอย่างยิ่งที่มันมีประโยชน์ในเวลานี้
ตัวตุ่นคาโมเป็นการ์ดสีทองระดับN+ มีความพิเศษอย่างเดียวคือมันเป็นการ์ดเพียงไม่กี่ใบที่มียูนิตสูง อัญเชิญได้หลายตัวพร้อมกัน ซึ่งปกติแล้วการ์ดสีทองจะเป็นประเภทหนึ่งยูนิตเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีความรวดเร็วสูงมาก แต่ก็ทำอะไรไมได้เลยนอกจากนี้
แต่ว่า แจ๊สเปอร์ก็พยายามจะหาข้อดีของมันและได้สร้างท่านี้ขึ้นมาโดยบังเอิญ
“เอาเลยสิ ความภาคภูมิใจหนึ่งเดียวของฉัน หยุดการเคลื่อนไหวมันให้ได้”
“ต้องหนีแล้ว..” กรีดมันเอ่ยออกมาจากนั้นก็ได้ทำสิ่งที่ทำให้ความภาคภูมิใจของแจ๊สเปอร์ต้องพังทลาย มันไม่ได้ทำลายป้อมปราการตัวตุ่นทิ้ง แต่กลับปีนขึ้นไป ใช่! ปีนขึ้นไปเท่านั้น
แม้จะมีความแข็งแรงทนทานสูงจนทำลายได้ลำบาก แต่ความสูงมันก็แค่สิบถึงสิบเมตรนิดๆ เองเท่านั้น ถ้าแค่ปีนก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงเลย!
แจ๊สเปอร์ช็อกตาค้าง ไม่คิดไม่ฝันว่าความภาคภูมิใจจะถูกกรีดเลเวลหนึ่งที่มีสติปัญญาต่ำต้อยบดขยี้ไปกับมือเช่นนี้
“ไม่จริง!!”
“ลูน่า! ตาเธอแล้ว”
“ขา!!” ลูน่าร้องเสียงหลงเมื่อไลท์เอ่ยถึงชื่อเธอ
“คฑาของเธอก็เป็นอาวุธระยะไกลเหมือนกับฉัน ลองโจมตีมันจากระยะเท่านี้ดูสิ เล็งที่ขามัน ถ้าบาดเจ็บที่ขาได้มันน่าจะชะลอการเคลื่อนไหวลง มัวแต่วิ่งไล่จับแบบนี้ไม่ทันกินมันแน่” ไลท์กล่าว พละกำลังของมนุษย์มีน้อยมาก แต่พวกกรีดไม่ใช่ มันมีความอึดสูงกว่าหลายเท่า ก่อนที่จับมันได้มีหวังได้หมดแรงตายก่อน
“ค่ะ” ลูน่าพยักหน้า
ไม้เท้า คฑา เป็นหนึ่งในอาวุธระยะไกลแต่มีความแตกต่างจากปืนก็คือ มีระยะการยิงที่สั้นกว่าและเชื่องช้ากว่า อาศัยการจ่ายเงินเพื่อเติมมานาในการยิงเวทแต่ละครั้ง
“โปรูโป้!” ลูน่าเรียกขาน ก่อนที่สิ่งมีชีวิตทรงกลมสีขาวปุยจะลอยเข้ามาหากลางอากาศ มันคือมอนสเตอร์คู่หูของลูน่า มีความสามารถในการทำให้การโจมตีรุนแรงขึ้นเล็กน้อยหนึ่งครั้งฟรีๆ มันบินรอบร่างของนายหญิงก่อนที่คฑาจะเปล่งแสงจางๆ ออกมา
“ไปเลย ย้าก!” ลูน่ากู่ร้องออกมาพร้อมเหวี่ยงคฑาออกไปอย่างแรง สามหนุ่มรู้สึกเหมือนเห็นภาพสโลว์โมชั่นพร้อมกับคำถามว่า ‘ทำไมแม่คุณถึงไม่ยิงเวทล่ะโว้ย!’
คฑาหมุนด้วยความเร็วสูงแล่นเข้าไปกระแทกที่ขาของกรีดอย่างแม่นยำ มันสะดุดล้มดังโครมกลิ้นเป็นลูกขนุนไปชนกับเสาไฟฟ้าอย่างน่าอนาถ
“เยี่ยม!”
“ลูน่า ทำไมเธอไม่ยิงเวทล่ะ ถ้าพลาดขึ้นมาก็ชวดเลยนะ” ไลท์ถามด้วยความสงสัย
“ฉันก็เหมือนคุณไลท์นี่คะ! เติมมานาหนึ่งครั้งก็หนึ่งพันเหรียญ แบบนี้ฉันก็ไม่มีกำไรน่ะสิ”
“เออ..แฮะ” ไลท์กล่าวเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นได้
เจ้ากรีดที่ศีรษะกระแทกเสาไฟฟ้าใหม่ๆ ยังคงมึนงง มันส่ายหัวไปมาก่อนวิสัยโดยรอบจะเริ่มกระจ่างขึ้น พบว่าโบรกเกอร์ทั้งสี่คนจ้องมองมาที่มันเป็นตาเดียวกันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“สนใจจะลิ้มรสหมัดฉันหน่อยไหม หรือจะเอาบาทาของฉันดี”
“ความภาคภูมิใจของฉัน..แกต้องชดใช้”
“ยอมมอบเงินให้เราดีๆ เถอะค่ะ..ไม่สิ ขอไปคงไม่ได้ งั้นช่วยตายทีเถอะค่ะ”
“ฉันไม่อยากเปลืองกระสุน ถ้าใช้สันปืนกระแทกแกจะตายไหม..”
“มะ..ไม่” อมนุษย์สีดำกรีดร้องโหยหวน ไม่ทราบว่านั่นคือเสียงร้องขอความเมตตาหรือมันกำลังตอบคำถามไลท์กันแน่ เงาสี่ร่างเคลือบใกล้เข้ามาหามันเรื่อยๆ ก่อนที่การวางมวยจะเกิดขึ้น
ผัววะ!ตับ!ตุบ!ผัววะ!ฉึก!ผัววะ!ตับ!ตุบ!ผัววะ!ฉึก!ผัววะ!ตับ!ตุบ!ผัววะ!ฉึก!
ร่างกายของอมนุษย์สีดำถูกอัดจนร่างกายสะบักสะบอม ทั้งสี่คนได้รู้สึกตัวเองเหมือนอันธพาลข้างถนนที่มารังแรงคนไม่มีทางสู้ เสมือนกับได้ระบายความเก็บกดภายในใจ ทุกคนซัดกำปั้นและลูกถีบจนมันแน่นิ่งไปในที่สุด จากนั้นร่างของมันก็สูญสลายไป ค่าตอบแทนจึงปรากฏขึ้น
[Dividend (เงินปันผล) 500Coin]
“......”
“.....”
“...”
“ไม่ใช่5000นี่นา? นี่มัน500เองอ่ะ” ครอสซ์ชี้ไปที่ตัวเลขเงินที่ได้รับ มีใบธนบัตรร้อยเหรียญลอยออกมาเพียงห้าใบเท่านั้น ไลท์เห็นเช่นนั้นด้วยขยี้ตาหนึ่งที เมื่อพบว่าเป็นจริงจึงตบหน้าตัวเองแรงๆ หนึ่งฉาด
“บัดซบ”
“แบบนี้เอง..ในรายละเอียดเขียนเอาไว้ว่ากรีดเลเวลหนึ่งให้ค่าตอบแทน1-5000เหรียญ แสดงว่า1-5000เหรียญนี่คือสุ่มเอาสินะ” แจ๊สเปอร์อธิบายพลางหัวเราะแห้ง
“เอ๋! แล้วแบบนี้ชาติหน้าจะส่งเงินมาม่อนได้ไหมคะเนี่ย”
“ก็..คงต้องล่าตัวที่เก่งกว่านี้ล่ะมั้ง ในนี้เขียนไว้ว่ายิ่งเก่งเท่าไหร่โอกาสได้เงินเยอะๆ ก็ยิ่งสูง”
“เหอะๆ” ไลท์เริ่มหัวเราะไม่ออก เดินจากไปอย่างอารมณ์เสีย
“เสียเวลาชิบ” ครอสซ์ทำหน้าบูด ตามไลท์ไป
ลูน่ายิ้มแหย แจ๊สเปอร์ยักไหล่ก่อนจะตามทั้งสองไป พวกเขาหากันอีกจนถึงตอนเช้าแต่ก็ได้เพิ่มมาสองตัวเองเท่านั้น ผลประกอบการล่าวันแรกก็คือ 5000เหรียญ แบ่งกันได้เพียงแค่1250เหรียญเท่านั้น
ไลท์กลับมาถึงบ้านช่วงใกล้สว่างพอดี และพบว่าพ่อกับแม่มาเฝ้ารอเขาถึงหน้าประตูแล้ว
ไลท์สบตากับพวกท่านด้วยแววตาห่วงใย มือกำแน่นด้วยความเจ็บปวด
“ยินดีต้อนรับครับ” พ่อและแม่ของไลท์เอ่ยขึ้นพร้อมกัน ผู้เป็นลูกจึงผงกศีรษะเบาๆ หนึ่งที
“วันนี้อารมณ์ไหนถึงมารอต้อนรับผมล่ะ”
“แซมเพื่อนลูกโทรมาหาพ่อว่าแกคิดจะออกมหาลัย”
“เจ้าบ้านั่น” ไลท์ยิ้มจางๆ และทำเป็นกุมหน้าผาก
‘เป็นเพื่อนที่ประเสริฐไปหน่อยล่ะมั้ง’
“ลูกมีปัญหาอะไรรึเปล่า พ่อกับแม่จะรับฟังปัญหาของลูกเองนะ” แม่ของไลท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงห่วงใยอย่างสุดขั้วหัวใจ มันยิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดมากไปยิ่งขึ้น เขาค่อยๆ เคลื่อนร่างของตัวเองเข้าไปสวมกอดพวกท่านอย่างเชื่องช้า
ไร้ซึ่งคำพูดใดๆ เมื่อได้สวมกอดกับผู้ให้กำเนิดก็เสมือนกับได้รับความอบอุ่นไปทั่วร่าง
“ไลท์” ผู้เป็นพ่อกับแม่เริ่มทำตาสั่นคลอน
“ผมมีเรื่องจะพูดด้วย น้องยังไม่ตื่นใช่ไหม”
“อืม”
“เรื่องมันยาว ไปหาที่นั่งคุยดีๆ กันเถอะ” ไลท์กล่าว
สามพ่อแม่ลูกย้ายไปคุยกันที่ประตูสวนหลังบ้านที่ห่างจากบริเวณห้องนอนของน้องๆ อยู่พอสมควร ไลท์เล่าเรื่องทั้งหมดให้พวกท่านฟัง ตั้งแต่จดหมายของมาม่อน เหรียญตราอสูร ได้รับความช่วยเหลือจากเมซูล การตายของครอบครัว การทำสัญญา จนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่ในวอลตรีท จรดถึงวันนี้ ไม่มีการบิดเบือนหรือลดทอนเนื้อหาลงแต่อย่างใด
เมื่อได้ฟังสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกทั้งสองคนเริ่มมีสีหน้าและดวงตาที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนเป็นแม่ที่เริ่มมีน้ำตาไหลออกมา
“เหนื่อยมามากสินะ..ไลท์” ผู้เป็นพ่อกล่าว
“เกิดเรื่องที่ลูกต้องลำบากขนาดนี้แต่แม่กลับไม่รู้เรื่องอะไร แม่ต้องขอโทษจริงๆ นะลูก”
“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นสิ่งที่ผมเลือกเอง”
“ไลท์...ใจจริงพ่ออยากให้แกเอาชีวิตของพ่อไปคืนให้คนที่ชื่อว่ามาม่อนและเอาชะตากรรมแกคืนมา แต่เหมือนจะไม่ได้สินะ..” พ่อเอ่ยก่อนจะหันไปมองที่ห้องนอน ซึ่งมีลูกอีกสามคนกำลังหลับใหลอยู่
“ถึงเอาคืนได้จริง แต่น้องๆ แกก็ต้องหายไปด้วย...ในฐานะพ่อแล้วควรทำยังไงดี”
“แม่สับสน..แม่ควรทำยังไงดี ลูกไลท์ บอกแม่สิ อยากให้แม่ทำอะไรให้บ้าง”
“ไม่มีหรอก..ขอแค่ยอมรับเรื่องผมออกจากมหาวิทยาลัยก็พอ” ไลท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ผมไม่ต้องการเสี่ยงอีกแล้ว..ทั้งพ่อแม่ น้องๆ ผมจะปกป้องและรักษาเอาไว้เอง”
“....”
“....”
น้ำเสียงและความหนักแน่นที่แฝงมาผ่านคำพูดนั้นเต็มไปด้วยจิตวิญญาณและการเตรียมใจอย่างแรงกล้า ผู้เป็นมารดาน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย เริ่มเกิดเสียงสะอึ้นขึ้นเล็กน้อยจนสามีข้างๆ ต้องลูบหลังปลอบ
“โตขึ้นเยอะเลยนะ ว่าแต่..การ์ดลงทุนที่แกว่า มันดูคุ้ยๆ นะ” พ่อของไลท์เพ่งตามองมันอีกที มันคือการ์ดที่ไลท์เอาออกมาโชว์ตอนอธิบายเรื่องในศูนย์อบรมให้ฟัง
“ขอตัวแป๊บนะ”
“จะไปไหนน่ะพ่อ”
“หาของ” พ่อของไลท์เดินหายไปสักพักก่อนจะกลับมาพร้อมสายตาที่งุมงงของภรรยาและลูก ชายวัยกลางคนถือกล่องโลหะเก่าๆ ขึ้นสนิมมาเปิดดู พบภายในเต็มไปด้วยแผ่นธนบัตรและการ์ดสีทองใบหนึ่งที่อยู่ภายใน
เป็นแผ่นธนบัตรของMoney Monster และการ์ดลงทุนสีทอง
Summon Card : (R) Rabbit Gunner 12,000 Coin
คุณสมบัติ:[ผลพิเศษ/สติปัญญา] Level:4 พลังจู่โจม:B+ พลังเกราะ:D พลังงาน:C+ พลังความเร็ว:A+ [ONE UNIT]
“มันคือสมบัติของปู่แก..พ่อคิดว่ามันคือเงินของเล่นตามตลาดสมัยก่อน แต่เหมือนจะไม่ใช่ล่ะนะ”
“.....”
ปู่ของเราเคยเป็นโบรกเกอร์อย่างนั้นเหรอ