บทที่ 10 ยังไม่ลืมกว่านอิงที่เป็นแฟนเก่า
บทที่ 10 ยังไม่ลืมกว่านอิงที่เป็นแฟนเก่า
“คุณเยี่ยน ลูกสาวคนโตของคุณอยู่แผนกไหนของโรงพยาบาลล่ะ” ซ่งไฮว๋เซิงถาม
“แผนกฉุกเฉินครับ”
“ดี เป็นคนมีความสามารถ” ซ่งไฮว๋เซิงพยักหน้า
“แต่งานยุ่งเหลือเกิน” เยี่ยนเหล่ยถอนหายใจ “ยุ่งจนไม่มีแม้แต่เวลาที่จะมีลูก”
ซ่งไฮว๋เซิงยิ้ม “ถ้าเด็กสองคนนี้เข้ากันได้ดี ต่อไปผมจะฝากให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช่วยเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ที่ดีหน่อยให้กับลูกสาวคุณ สบายขึ้นแล้วก็เงินเดือนสูง”
“คงต้องดูว่าฉางฉิงจะมีโชคนี้หรือเปล่า” เยี่ยนเหล่ยหัวเราะ เขารู้ว่าซ่งไฮว๋เซิงไม่ได้คุยโว ด้วยความสามารถของตระกูลซ่งแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมาก
ฉางฉิงก้มหน้าก้มตาและพูดคุยน้อยมากตั้งแต่ต้นจนจบ ซ่งฉู่อี๋ก็พูดน้อยเช่นกัน ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่สองคนจะคุยกันมากกว่า
เมื่อมาถึงช่วงท้าย จู่ๆ ซ่งฉู่อี๋ก็เอ่ยปากชวนฉางฉิง “ยังเช้าอยู่เลย คุณอยากไปดื่มกาแฟด้วยกันสักแก้วมั้ยครับ”
ฉางฉิงที่นิ่งเงียบอยู่คนเดียวมาตลอดสะดุ้ง เธอยังไม่ทันตอบ เยี่ยนเหล่ยก็ชิงตอบแทนเธอเสียแล้ว “ไปเถอะ พวกหนุ่มสาวชอบดื่มกาแฟกัน พวกลูกก็คุยกันให้สนุกนะ พ่อกับคุณลุงซ่งต้องขอตัวก่อนล่ะ”
ฉางฉิงไม่มีหนทางที่จะปฏิเสธเลย ผู้อาวุโสสองท่านเดินกันเร็วมาก เพียงพริบตาเดียวก็เหลือแค่ฉางฉิงกับซ่งฉู่อี๋แล้ว
ดวงตากลมโตที่ใสแป๋วและมีเสน่ห์น่าดึงดูดของเธอมองเขาอย่างเหม่อลอย ซ่งฉู่อี๋โยนกุญแจรถไปมา “ไปกันเถอะ”
เขาขับรถยนต์ออดี้ รุ่น A7 สีดำ
เมื่อฉางฉิงเข้าไปนั่ง การติดตั้งต่างๆ ภายในรถยนต์ดูคุ้นตาเป็นพิเศษ ช่างบังเอิญจริงๆ รถของเธอก็ A7 เหมือนกัน แต่เป็นสีขาว ด้านในรถของเธอทั้งสกปรกทั้งรก ทว่ารถของเขาสะอาดเอี่ยมอ่องมาก
สองมือของฉางฉิงบิดพันกันไปมา ทั้งอึดอัดใจทั้งประหม่า
วันก่อนยังคิดอยู่เลยว่าไม่อยากเจอหน้าคนคนนี้อีกต่อไปแล้ว วันนี้กลับเจอกันในการดูตัวจนได้ เธอล่ะอยากจะร้องไห้ ซ่งฉู่อี๋ที่นั่งอยู่ด้านข้างก็เอาแต่จ้องมองเธออยู่ได้
“มี...มีอะไรเหรอ” เธอตื่นเต้นประหม่า
“เข็มขัดนิรภัย” ซ่งฉู่อี๋เอ่ยเตือน
ฉางฉิงรีบคาดเข็มขัดนิรภัยทันที
“คุณมีร้านกาแฟที่ชอบหรือเปล่า” ซ่งฉู่อี๋ถาม เสียงเขายังคงชัดใสเหมือนเดิม
“...ไม่มีค่ะ”
“งั้นผมเลือกร้านกาแฟที่บรรยากาศดีหน่อยแล้วกัน”
ร้านกาแฟร้านนี้อยู่ไม่ไกลมาก เป็นสไตล์ตะวันตกโบราณ ภายในร้านดูโรแมนติกมาก
เมื่อก่อนฉางฉิงเคยมากับพวกกว่านอิงและหร่วนยั่ง กว่านอิงบอกว่าร้านนี้เค้กอร่อยมาก เธอเดาว่าที่ซ่งฉู่อี๋รู้จักร้านนี้ คงจะเป็นเพราะกว่านอิงบอก
แล้วก็เป็นดังที่คาดไว้ พอนั่งลง ซ่งฉู่อี๋ก็พูดขึ้นมาว่า “อยากทานเค้กมั้ย ได้ยินว่าเค้กที่นี่รสชาติไม่เลว”
“...คุณหมอซ่งรู้ได้ยังไงคะว่าร้านนี้เค้กอร่อย” ฉางฉิงจงใจถาม
ซ่งฉู่อี๋คิ้วขมวดมุ่นและนิ่งเงียบ แสงไฟตกกระทบลงบนใบหน้าที่เย็นยะเยือกของเขา ดูเหมือนเจือแววเศร้าใจเล็กน้อย
ฉางฉิงก็รู้สึกแย่ไม่แพ้กัน เพื่อนสมัยเด็กที่เธอแอบชอบมานานกลายเป็นแฟนของกว่านอิง ตอนนี้คู่ดูตัวคนนี้ที่พยายามผูกมิตรด้วยก็ดูเหมือนว่ายังไม่ลืมกว่านอิงที่เป็นแฟนเก่า ถ้าเป็นไปได้ เธออยากออกไปจากที่นี่จริงๆ
“เรื่องแต่งงานกับผม คุณเยี่ยนคิดว่ายังไงบ้าง”
กลิ่นหอมของกาแฟเพิ่งลอยโชยมา คำถามที่เขาถามขึ้นมาอย่างกะทันหันทำให้ฉางฉิงตะลึงงันจนพูดไม่ออก
“หา?”
“เท่าที่ผมรู้ สถานการณ์ของตระกูลเยี่ยนไม่ค่อยสู้ดีนัก” รูปร่างที่สมบูรณ์แบบของซ่งฉู่อี๋พิงที่โซฟา ท่าทางเป็นคุณชายสุดๆ “ทันทีที่ตระกูลเยี่ยนประกาศล้มละลาย แล้วไม่มีกำลังชดใช้หนี้สินสามสี่ร้อยล้านได้ คุณพ่อคุณอาจจะต้องไปเข้าคุก บ้านกับรถที่คุณมีอยู่ในตอนนี้ก็จะไม่เหลือเลยสักอย่าง แม้แต่ที่สถานีโทรทัศน์ คุณก็อาจทำงานอยู่ที่นั่นไม่ได้อีก แล้วยังพี่สาวคุณ...ผมรู้มาว่าถึงแม้พี่เขยคุณจะเป็นวิศวกร เงินเดือนก็นับว่าไม่เลว แต่นานวันเข้า การที่ต้องประสบกับภาระหนี้สินขนาดนี้ ผมว่าเขาอาจจะไม่สามารถประคับประคองชีวิตแต่งงานนี้ได้”
...........................................................