ตอนที่ 51 ภารกิจช่วยเหลือ 2
ปืนคู่ของจาง เหว่ยคำรามราวกับมังกรพ่นไฟ พวกเขาปล่อยกระสุนขนาดใหญ่ใส่รถที่ใกล้สุดสองคันอย่างไม่หยุดหย่อน ภายในไม่กี่วินาที รถสองคันก็ระเบิดกลายเป็นลูกบอลไฟ
ในขณะเดียวกัน แลมเบิร์ตก็กำลังแสดงทักษะการยิงปืนไรเฟิลเขา เขาเล็งอย่างเฉยชาขณะยิงกระสุนทีละนัดด้วยความแม่นยำ100%เพื่อหยุดการเคลื่อนที่ของศัตรู
“กำลังเสริมมาแล้ว!”
บนรถที่กำลังหนี หม่า ฉิงหยางและทีมเขาส่งเสียงยินดี เกือบทั้งทีมได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังนอน
เมื่อพวกเขาเข้าใกล้เนินเขา หม่า ฉิงหยางก็โผล่หัวออกจากหน้าต่างคนขับและตะโกน“เฒ่าจาง พวกมันมีมากเกินไป!รีบหนี!”
ขณะนั้นเอง ลมพายุประหลาดก็เข้ามาในบริเวณของทีมช่วยเหลือ ทรายเริ่มก่อตัวกันเป็นภาพของใบหน้าสุดน่ากลัว สายตาของมันทำให้ทั้งตกใจและรู้สึกไม่ดี
“หมอบ!”จาง เหว่ยตะโกนขณะรีบหมอบเพื่อกลิ้งหนี ด้วยความที่ชุดเกราะเขาหนักเกินไป เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นในการเคลื่อนไหวมากนัก หลี่ย่าหลินและแลมเบิร์ตตอบสนองเร็วสุดและพวกเขาก็สามารถหลบไปด้านข้างได้
เมื่อลมแรงบดขยี้พื้น การระเบิดก็ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ภาพสนามบางส่วนลอยคว้าง
จาง เหว่ยรู้สึกเจ็บปวดผ่านจิตใจ และจมูกเขาก็เริ่มมีเลือดออก เมื่อเขากวาดตามองรอบๆ เขาก็เห็นภาพของเจ้าหน้าที่หลายคนในสภาพเลือดไหลออกจากปาก ร่างของพวกเขากำลังนอนกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้
“การโจมตีทางจิต!”จาง เหว่ยตกใจ“ศัตรูคือยอดมนุษย์!”
เมื่อเขามองไปทางรถของศัตรูเพื่อหาผู้โจมตี เขาก็สังเกตเห็นประทุนของรถยนต์คันหนึ่งที่เปิดขึ้นและหญิงสาวหุ่นเพรียวในชุดหนังดำก็กระโดดออกมาและวิ่งมาทางพวกเขาด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ เธอมีผมสีแดงสยายอยู่ด้านหลัง ทำให้เธอดูเหมือนสายฟ้าสีแดงผสมดำ
ดวงตาของฮีล่าไร้อารมณ์ ด้วยคลื่นบนมือ ใบหน้าปีศาจปรากกฏขึ้นอีกครั้งตรงหน้าจาง เหว่ย สายลมกรีดร้องอย่างน่าสะพรึงกลัว
ไม่ นั่นไม่ใช่ลม!
นั่นคือเสียงกรีดร้องของดวงวิญญาณ!
เนโครมาสเตอร์!นี่คือความสามารถของฮีล่า
สติของจาง เหว่ยเริ่มเลือนราง ส่งผลให้เขานอนหมอบกับพื้น หากมันไม่ใช่เพราะร่างกายอันแข็งแกร่ง เขาคงตายไปแล้ว
ย้อนกลับไปยังแผนก13 หานเซี่ยวกำลังขมวดคิ้วแน่น ผลักหลินเหยาออกไปเพื่อบัญชาการ เขาตะโกน“เธอคือผู้บัญชาการรบขององค์กรต้นกำเนิด!รีบหนีเร็วเข้า!”
จาง เหว่ยกำลังจะตำหนิหานเซี่ยวเรื่องออกคำสั่ง แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าหลี่ ย่าหลินและแลมเบิร์ตกำลังวิ่งหนีโดยไม่ลังเล ดูเหมือนพวกเขาจะเชื่อใจหานเซี่ยวสนิท!
‘เด็กใหม่เชื่อถือได้?’
หลังระงับความตกใจ จาง เหว่ยก็กัดฟันและยืนขึ้นเพื่อเปิดใช้งานแรงขับที่ขา ทำให้เขากระโดดได้ไกล5-6เมตร ขณะที่เขาวิ่งตามหลังทั้งคู่ เขาก็คอยยิงสนับสนุนด้านหลังเพื่อทำให้ฮีล่าช้าลง
ฮีล่ามาถึงยอดเขาในเวลาไม่นาน และด้วยการโบกมืออีกครั้ง แสงสีเทาก็ตัดผ่านทั่วทั้งพื้นที่ เจ้าหน้าที่ภาคสนามต่างทรุดตัวลงกับพื้นทันที ไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ แต่ทุกคนกลับหยุดหายใจ
สีหน้าของหานเซี่ยวกลายเป็นมืดสนิท เขารู้ถึงพลังของฮีล่าดี มันถือเป็นโชคชะตาที่เขาไม่ได้เผชิญหน้ากับเธอตอนหลบหนี ในกาแล็กซี่ พลังของเธอถูกจำแนกได้ว่าเหนือยิ่งกว่าคลาสS เหนือยิ่งกว่าระดับสวรรค์
ในปัจจุบัน พลังของฮีล่ายังคงด้อยอยู่ แต่ในท้ายที่สุดเธอก็จะมีพลังเช่นนั้น
“เธอเร็วเกินไป!หลี่ ย่าหลิน มันขึ้นอยู่กับเธอแล้ว!”
โดยไม่ลังเล หลี่ ย่าหลินหันกลับไปเผชิญหน้ากับฮีล่า ขณะที่เธอสะบัดขา คลื่นพลังงานสีเหลือง็ระเบิดออกมา ผลักฮีล่าให้ถอยหลังไปหลายก้าว
“นักสู้?”ฮีล่าหรี่ตามองย่าหลินขณะกุมมือทั้งสองข้าง ทำให้ใบหน้าปีศาจขนาดใหญ่บดขยี้ลงมาใส่หลี่ย่าหลิน
หลี่ ย่าหลินยังคงความเยือกเย็น เธอทรุดตัวลงภายใต้ใบหน้าปีศาจและสไลด์หลบการโจมตี เมื่อเธอเข้าใกล้ฮีล่า เธอก็ดึงมีดพับออกมาและสะบัดออกไป
ดวงตาของฮีล่าเบิกกว้างกับการโจมตีของเธอ และเธอก็หงายหลังลงกับพื้นเพื่อหลบ
หลังจากนั้น หลี่ย่าหลินก็โจมตีต่อด้วยขาอันทรงพลังของเธอ : กระทืบ ถีบ กวาด และเตะ –คลื่นพลังโจมตีหลั่งไหลออกมาราวกับการร่ายรำ มันเร็วพอจะทำให้เกิดภาพติดตา แต่นั่นก็เป็นแค่เรื่องของความเร็ว
รูปแบบกลืนกิน!
ในกระบวนท่าสุดท้าย ฮีล่าได้ปกคลุมแขนเธอด้วยคลื่นพลังสีเทา ทำให้เธอสามารถป้องกันการโจมตีได้ ในความเป็นจริง ฮีล่าดูเหมือนจะไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย มันดูเหมือนว่าเธอจะเหนือกว่าในแง่ของพลัง - หลี่ย่าหลินที่ถนัดการต่อสู้ระยะประชิดยังไม่อาจเอาชนะเธอได้
การต่อสู้กินเวลาไม่กี่วินาที แต่ทุกอย่างกลับสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลานี้
“ใช้แขนกล!มันจะช่วยเปิดโอกาสให้แลมเบิร์ต!”
หลี่ย่าหลินกัดริมฝีปาก รีบสอดแขนซ้ายเธอไปในกระเป๋าและดึงมันออกมาพร้อมกับติดตั้งแขนกลน้ำหนักเบา ด้วยพละกำลังที่ผสานกับแขนกล ในที่สุดเธอก็สามารถทำลายการป้องกันของฮีล่าได้ เผยให้เห็นช่องโหว่ตรงหน้าอกเธอ(ฮีล่าใช้มือไขว่ตรงหน้าอก)
และแขนกลก็ยังตามไปบดขยี้กับเนื้อเธอ!
โจมตีโดยตรง!
สีหน้าของฮีล่าเปลี่ยนไปชั่วขณะ เธอส่งเสียงต่ำ นำฝ่ามือมาประสานกันและถูพวกมันช้าๆ และทันทีที่เธอทำเช่นนั้น คลื่นพลังสีเทาที่ปกคลุมรอบแขนเธอก็เริ่มหมุนเร็วขึ้นและเร็วขึ้น ต่อมา เธอก็ทุบฝ่ามือทั้งสองข้างลงกับพื้น-และจากที่ที่เธอยืน ลมแรงกลับเริ่มพัด ฉีกกระชากทุกอย่างรอบตัวเธอ!
หลี่ ย่าหลินรีบกระโดดถอยหลัง แต่แม้เธอจะทำเช่นนั้น จิตใจเธอก็ยังถูกโจมตี ส่งผลให้วิญญารเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ความเจ็บปวดไม่อาจอธิบายได้ และเลือดสองสายก็ไหลลงจากจมูกของหลี่ ย่าหลิน วิสัยทัศน์เธอดูเหมือนจะกลับหัว ทำให้ร่างของเธอเกือบเสียสมดุลและล้มลง
เมื่อฮีล่าตรวจสอบรูปทรงอันคุ้นเคยของแขนกลน้ำหนักเบา เธอก็ตะโกนด้วยความโกรธและตกใจ“แกเกี่ยวข้องกับซีโร่ยังไง?!”
‘ซีโร่?ใครกัน?’หลี่ย่าหลินไม่เข้าใจ
ในขณะนั้นเอง แลมเบิร์ตก็เล็งเห็นโอกาสเขาและทำการยิง!สีหน้าของฮีล่าเปลี่ยนไปหลังได้ยินเสียงปืน และรีบพุ่งไปด้านข้างเพื่อหลบขณะปกคลุมทั่วร่างเธอด้วยพลังสีเทา กระสุนปืนไรเฟิลกระทบเข้ากับไหล่เธอ ส่งผลให้เธอหมุนคว้างในอากาศ-ไม่ต่างอะไรกับถูกรถไฟชน
“จาง เหว่ย รีบพาหลี่ย่าหลินหนีเร็ว!”
จาง เหว่ยไม่สนใจกับการถูกเรียกชื่อโดยตรง มันเป็นไปตามแผนของหานเซี่ยวที่หลี่ย่าหลินและแลมเบิร์ตสามารถสร้างบาดแผลให้ปีศาจสาวนั่นได้ และตอนนี้เขาก็เชื่อการตัดสินใจของหานเซี่ยว เขารีบยกร่างของหลี่ ย่าหลินขึ้นและออกวิ่งไปทางรถของหม่า ฉิงหยาง
เมื่อพวกเขาถอยหนี รถที่เหลือขององค์กรต้นกำเนิดก็มาถึงเนินเขา และพวกเขาก็เริ่มเปิดฉากยิง เกิดประกายไฟแล่บเมื่อกระสุนกระทบกับชุดเกราะของจาง เหว่ยและเบี่ยงออกไป ทิ้งไว้เพียงรอยบุบ จาง เหว่ยไม่แม้แต่จะหันไปมองด้านหลัง ทั้งหมดที่เขากำลังคิดในหัวคือการขอบคุณชุดเกราะเขา ในอดีต เขามักข้องใจเรื่องน้ำหนักมัน แต่ตอนนี้ มันกลับช่วยชีวิตเขาไว้
“ขึ้นมาเร็ว!”หม่า ฉิงหยางตะโกนอย่ากังวลขณะชะลอความเร็วลงเพื่อพวกเขา
ทั้งสามสามารถขึ้นไปบนรถได้ แต่มันก็เฉียดฉิว
ในที่สุดจาง เหว่ยก็มีเวลาประเมินสถานะของศัตรู : รถของอีกฝ่ายไม่เร็วพอจะจับพวกเขา และยอดมนุษย์ที่ทรงพลังนั่นก็ยังไม่ลุกขึ้น ตราบเท่าที่พวกเขาไปถึงเครื่องบินได้ ทุกอย่างก็จะปลอดภัย
“เราปลอดภัยแล้ว!”
จาง เหว่ยถอนหายใจ
น่าเสียดาน หานเซี่ยวกลับมาพร้อมกับข่าวร้าย
“มองไปข้างบน”
ข้างบน?
จาง เหว่ยชะเง้อคอออกไป
พวกมันยังมีเฮลิคอปเตอร์!
ในที่สุดนักล่าทมิฬก็ปรากฏตัวและกราดยิงใส่รถพวกเขา(ชื่อเฮลิคอปเตอร์)
“เราต้องสอยมันลงมา!”จาง เหว่ยประเมินทันที“หากทำไม่ได้ เครื่องบินเราก็จะตกอยู่ในอันตราย แลมเบิร์ต มันขึ้นอยู่กับนายแล้ว!”
แลมเบิร์ตส่ายหัว
“กระสุนเจาะเกราะฉันหมดแล้ว กระสุนทั่วไปไม่อาจเจาะเกราะหนาของนักล่าทมิฬได้ แม้ว่าฉันจะเหลือกระสุนเจาะเกราะ มันก็ต้องใช้กว่า7นัด”
“เรากำลังจะตายกันที่นี่?”
ความสิ้นหวังเขียนอยู่ทั่วใบหน้าของหม่า ฉิงหยาง พวกเขาอยู่ห่างจากจุดหลบหนีตามแผนแค่กิโลเมตรเดียว แต่มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะไร้หนทาง
ทันใดนั้น หานเซี่ยวก็พูดขึ้น“คุณลืมของขวัญของผมงั้นหรอ?”
หลี่ ย่าหลินได้สติและรีบหยิบกระสุนออกมา4แม็ก หนึ่งในนั้นเต็มไปด้วยกระสุนไรเฟิล
“มันใช้ทำอะไร?”
“ลองดูด้วยตัวคุณเอง”
แลมเบิร์ตรีบรับมันมาจากหลี่ย่าหลินและบรรจุกระสุน
ขณะที่เขาเล็งยิง ทุกคนก็เฝ้าจับตาดูอย่างคาดหวัง
กระสุนนัดนี้คือความหวังสุดท้ายของพวกเขา
ทันทีที่แลมเบิร์ตเหนี่ยวไก กระสุนดีดออกจากห้องและกระสุนสีแดงเข้มก็จุดประกายเมื่อมันถูกเร่งด้วยการหมุนของกระบอกปืน ราวกับจับวาง มันพุ่งใส่กระจกกันกระสุนของเฮลิคอปเตอร์โดยตรง
ทันใดนั้น กระสุนสีแดงเข้มก็เปิดออกราวกับดอกไม้เบ่งบาน
“ตูมมมม!”
เฮลิคอปเตอร์ทั้งลำถูกกลืนกินในบอลไฟยักษ์ หลังหรี่ตามอง พวกเขาก็เห็นว่าไฟกำลังเผาไหม้บนเกราะหนาด้วยตัวมันเอง-ราวกับมันถูกจุดประกาย!
เฮลิคอปเตอร์เริ่มหมุนอย่างสูญเสียการควบคุม นักบินร้องอย่างหวาดกลัว-และตัดสินใจดีดตัว
บนรถ ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาเพิ่งเห็น และความสนใจของพวกเขาก็เปลี่ยนไปยังซองกระสุนที่เต็มไปด้วยกระสุนเวทมนตร์
แม้กระทั่งเกราะกันกระสุนก็ยังติดไฟ!
กระสุนบ้าบออะไรกัน?!
“ใครคือเจ้าของสมบัติเหล่านี้กัน?”หม่า ฉิงหยางถามอย่างโง่งม
ดวงตาของหลี่ย่าหลินเริ่มทอประกาย“ของดี!”
เธอรีบบรรจุกระสุนปืนพกเธอและยิง รถของศัตรูที่ไล่ตามมาจมอยู่ในกองเพลิง และแม้กระทั่งนัดที่ยิงพลาดก็ยังทำให้พื้นทรุด
เมื่อเกราะของรถหุ้มเกราะติดไฟ ในไม่ช้าภายในรถก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นเตาหลอม และความร้อนก็ทำให้เครื่องยนต์และชั้นส่วนสำคัญอื่นๆร้อนจัด
เมื่อรถของหน่วยลับพุ่งเข้าไปในโรงเก็บรถของเครื่องบิน นักบินที่คอยสังเกตการณ์อยู่ก็รีบนำเครื่องบินขึ้นทันที และพวกเขาก็หายไป
ย้อนกลับไปบนพื้น สีหน้าของฮีล่าซีดเซียว จุดที่เธอถูกยิงเป็นแค่บาดแผลตื้น เธอกำลังใช้พลังสีเทาเธอเพื่อรักษามัน ขณะที่เธอมองตามเครื่องบินอย่างไม่พอใจ เธอก็ทำการโทรหาหัวหน้าและกล่าวรอดไรฟัน“เราพบร่องรอยของซีโร่แล้ว!”