ตอนที่แล้วGE86 ไป๋ลู่ผู้ติดกับ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE88 บรรลุขขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสูงสุด [ฟรี]

GE87 ชูชิงตกตะลึง [ฟรี]


รุ่งเช้าวันถัดมา หนิงฝานบิดยืดกายและลุกขึ้นจากที่นอน นำผ้าห่มผืนบางห่มคลุมร่างไป๋ลู่

ราตรีที่ผ่านมา ไป๋ลู่ดูดซับพลังของหนิงฝานอย่างเร่าร้อน แต่นางยังไม่อาจดูดซับพลังหนิงฝานได้หมด

สภาพของนางในยามนี้ ทั่วร่างเปรอะไปด้วยของเหลวสีขาว... ใบหน้า ริมฝีปาก หน้าอก และพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์

ไป๋ลู่ผู้เชื่อมั่นว่าสามารถดูดซับพลังของหนิงฝานได้หมด แต่แท้จริงกลับทำไม่ได้ นางไม่ทราบว่าเป็นสิ่งใด แต่นางรู้เพียงว่า การดูดซับพลังของหนิงฝานทำให้นางยกระดับพลัง!

แม้ระดับของทั้งสองจะต่างกัน หนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณขั้นต้น อีกหนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณขึ้นสูง แต่เมื่อหนิงฝานใช้วิชาขัดเกลาผสานที่ได้จากสร้อยหยินหยาง จึงช่วยให้ไป๋ลู่ยกระดับพลัง

“ข้าชนะ… เจ้าแพ้… นับจากนี้ไป เจ้าจะเป็นกระถางขัดเกลาของข้า และข้าจะเป็นผู้ดูดซับพลังของเจ้า!” ไป๋หลู่ยังคงหลับด้วยสีหน้าที่มีความสุข ราวกับราตรีที่ผ่านมา นางได้ร่วมรักกับหนิงฝานอย่างน่าพึงพอใจ

“เจ้าเป็นของข้า!”

หนิงฝานลูบสัมผัสขาเรียวงามของนางพลางยิ้มอย่างพึงพอใจ

เพราะนาง...เป็นสตรีคนแรกที่เขาหลอก

แต่นั่นก็ทำให้นาง… ไม่ต้องอยู่อย่างโด่ดเดี่ยว

เมื่ออาบน้ำและจัดแจงอาภรณ์ของตนเสร็จ หนิงฝานก็มุ่งหน้าไปยังตำหนักโอสถ ครั้งหนึ่งตำหนักแห่งนั้นเคยเป็นของอาจารย์ของตน แต่ยามนี้ มีนักปรุงโอสถอีกคนดูแล

เรื่องที่อาจารย์ของหนิงฝานสูญเสียพลังทั้งหมดไป นิกายกุ่ยเชว่รู้ดีแต่ไม่มีผู้ใดกล่าว

ตำหนักโอสถสร้างขึ้นจากหยกสีฟ้า มีข่ายอาคมระดับดวงจิตแรกเริ่มคุ้มกัน ซึ่งบรรพบุรุษของนิกายเป็นผู้สร้างไว้ นอกจากนี้ ตำหนักแห่งนี้ยังสามารถดูดซับปราณจากธรรมชาติ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการปรุงโอสถ

หนิงฝานนำแผ่ป้ายผู้อาวุโสของนิกายออกมา แล้วเดินผ่านข่ายอาคมเข้าไปภายในตำหนักโอสถ ภายในตำหนักชายชราชุดคลุมเทานั่งอยู่ใกล้ๆกับชั้นตำรา และอ่านตำราโอสถโบราณ

ตำราโอสถโบราณเล่มนี้ ศิษย์นิกายสามารถอ่านได้ แต่ต้องใช้แต้มแลกเท่านั้น

ภายในตำหนักโอสถมีห้องปรุงโอสถอยู่ 3 ระดับ... ระดับต่ำสำหรับปรุงโอสถด้วยเพลิงพิภพขั้น 1... ระดับกลางสำหรับปรุงโอสถด้วยเพลิงพิภพขั้น 2 และระดับสูงสำหรับปรุงโอสถด้วยเพลิงพิภพขั้น 3

ห้องปรุงโอสถแต่ละระดับนั้นเปรียบเสมือนระดับของนักปรุงยา โดยห้องระดับสูงจะมีไว้สำหรับนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 และผู้ที่ใช้ห้องนี้ได้ก็มีเพียงอาจารย์ของหนิงฝานและชายชราผู้นั่งอ่านตำราผู้นี้เท่านั้น

ชายชราผู้นี้มีนามว่า ‘ชูชิง’ เป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ระดับฝีมือด้อยกว่าอาจารย์ของหนิงฝาน แต่หากนับในแคว้นเยว่ ก็นับเป็นนักปรุงโอสถที่มีชื่อเสียง ที่มีผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำหลายคนมาขอให้ปรุงโอสถให้

ชายชราผู้นี้มีดวงตาแดงฉาน ผมเผ้ายุ่งเหยิง กลิ่นอายของปราณสมุนไพรแผ่ออกมาจากร่าง ดวงตาที่แดงฉานของชายชราคือ ‘เนตรเพลิง’ เนตรที่เกิดจากวิชาวิญญาณชนิดหนึ่ง ที่สามารถทำให้มองภาพลวงตาออก

เมื่อเห็นหนิงฝาน ชูชิงทำสีหน้าเฉยเมย สายตายังไม่ละจากตำราและกล่าวอย่างเรียบเฉย “ผู้อาวุโสหนิง… ฮึ่ม! ตำหนักโอสถของข้าไม่มีโอสถปลุกกำหนัด... เจ้ามาทำอะไร?”

ช่างเป็นคำกล่าวที่หยาบคาย และแสดงให้เห็นถึงความเกลียดชังที่มีต่อหนิงฝาน

หนิงฝานประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าตนทำให้ชายชราไม่พอใจตั้งแต่ตอนไหน

แต่จากคำกล่าวของชายชรา ดูราวกับว่าชายชราไม่พอใจที่หนิงฝานฝึกฝนวิชาขัดเกลาผสาน

เมื่อเห็นว่าหนิงฝานยังไม่ไป มันจึงวางตำราลงและหันมองหนิงฝานด้วยแววตาที่เย็นชา ทั้งแผ่แรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้น

แรงกดดันของชายชราทำให้หนิงฝานรู้สึกราวกับถูกสายลมเย็นพัดผ่าน แต่ดวงตาที่ลุกโหมด้วยเพลิงของชายชรานั้น ทำให้จิตใจของเขาสั่นสะท้าน

แม้ชายชราจะดูเย่อหยิ่งจองหอง แต่หากกล่าวถึงการปรุงโอสถและแววตา ชายชราดูราวกับทุ่มทั้งชีวิตให้กับการปรุงโอสถ บางที การจะสยบชายชราผู้นี้ได้ มีเพียงผู้ที่มีวิชาการปรุงยาที่เหนือกว่าเท่านั้น ถึงจะทำได้

ชายชรามองหนิงฝานเป็นเพียงผู้มักมากในกาม และรู้จักเพียงการขัดเกลาผสาน ชายชราจึงไม่พอใจมาก

หนิงฝานดูเหมือนจะเข้าใจความคิดชายชรา

หากจะให้สนิทสนมกับชายชราด้วยเพราะความสัมพันธ์ของหานหยวนจี๋ หนิงฝานไม่ต้องการ เขาอยากผูกมิตรกับชายชราก็ด้วยความสามารถของเขา

“ที่ข้าหนิงฝานมามิใช่เพราะโอสถปลุกกำหนัด ตัวข้าฝึกฝนวิชาขัดเกลาผสาน เหตุใดต้องใช้โอสถปลุกกำหนัด… ที่ข้ามาก็เพื่อปรุงโอสถ ผู้อาวุโสช่วยจัดเตรียมห้องปรุงโอสถขั้นกลางให้ข้าได้หรือไม่?”

คำกล่าวและสีหน้าที่สงบของหนิงฝาน ทำให้ชายชราสีหน้าแปรเปลี่ยน

“เด็กผู้นี้แข็งแกร่ง มันไม่ได้อ่อนแอดังข่าวลือ แม้ต้องเผชิญแรงกดดันขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้นของข้า สีหน้ามันยังไม่แปรเปลี่ยน… แต่… มันปรุงโอสถได้? ทั้งยังขอใช้ห้องปรุงโอสถขั้นกลางได้ หมายความว่ามันเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2 รึ?”

ชายชราจ้องมองหนิงฝานตั้งแต่หัวจรดเท้า ราวกับไม่เชื่อคำกล่าว

แม้ชายชราจะไม่เชื่อ แต่การที่หนิงฝานบรรลุระดับนี้ได้ย่อมเป็นไปได้เช่นกัน ที่สำคัญ หนิงฝานยังป้องกันแรงกดดันของชายชราได้… นับว่าเห็นแก่หน้าหานหยวนจี๋ ชายชราจะเปิดห้องปรุงโอสถให้

“เห็นแก่หน้าอาจารย์เจ้า ข้าจะเปิดห้องปรุงโอสถขั้นต้นให้...”

ชายชรากังวลว่า วิชาการปรุงโอสถที่ยังอ่อนด้อยของหนิงฝานนั้น จะทำให้ห้องปรุงโอสถของมันเสียหาย

หากเรื่องที่ชายชราเปิดห้องปรุงโอสถให้หนิงฝานแพร่กระจาย คนในนิกายคงตกตะลึง

เพราะที่ผ่านมาชายชรานั้น จะเปิดห้องปรุงโอสถให้กับผู้ที่มีป้ายนักปรุงโอสถเท่านั้น

ในโลกพิรุณ ป้ายสำหรับนักปรุงโอสถถือเป็นสิ่งยืนยันตัวตน แคว้นต่างๆในโลกใบนี้จะมีสถานที่ที่เรียกว่าวิหารพิรุณ เป็นสถานที่สำหรับทดสอบระดับของนักปรุงโอสถ นักวางข่ายอาคม และผู้หลอมสร้างอุปกรณ์อาวุธ หากผู้ใดผ่านการทดสอบ ผู้นั้นจะมีชื่อเสียง...

หากผู้ที่มาไม่มีป้ายนักปรุงโอสถ ชายชราจะไล่คนผู้นั้นกลับไป แม้เป็นห้องปรุงโอสถขั้นต้นก็ไม่เปิดให้ แต่วันนี้ชายชรากลับงดเว้นให้หนิงฝาน!

“ผู้อาวุโส… ข้าต้องการปรุงโอสถเสริมวิญญาณ เพลิงพิภพในห้องปรุงโอสถขั้นต้นรุนแรงไม่พอ ย่อมปรุงโอสถไม่ได้”

หนิงฝานขมวดคิ้วพลางอธิบาย

“ไร้สาระ! เจ้าอายุเพียง 17 ปี จะปรุงโอสถผันแปรที่ 2 ได้อย่างไร? เจ้าดูกถูกการปรุงโอสถที่ยิ่งใหญ่! แม้การปรุงโอสถจะไม่มีระดับขั้นเหมือนอย่างวิชาขัดเกลาผสาน แต่ต้องใช้ประสบการณ์ในการฝึกฝน ในอดีตตัวข้าฝึกการปรุงโอสถมาตั้งแต่เด็กกระทั่งอายุได้ 30 ปี ข้ายังปรุงได้เพียงโอสถผันแปรที่ 1… เมื่ออายุได้ 100 ปี จึงสกัดกลั่นโอสถผันแปรที่ 2 ได้ และเมื่ออายุได้ 200 ปี ข้าจึงปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ได้… ทักษะการปรุงโอสถนั้น ต้องก้าวเดินอย่างเชื่อช้าและแม่นยำ อย่าว่าแต่การปรุงโอสถเลย แม้เป็นการฝึกฝนก็ต้องเป็นไปตามลำดับขั้น… ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ของเจ้า ปู่ของเจ้า ทุกคนล้วนก้าวเดินตามลำดับขั้น กระทั่งบรรลุมาถึงวันนี้ได้”

ชายชรากล่าวราวกับผู้อาวุโสสั่งสอนผู้เยาว์ หนิงฝานทำได้เพียงยิ้มเมื่อชายชรากล่าวถึงปีศาจทมิฬหนิง

หากชายชรารู้ว่าปีศาจทมิฬหนิงที่มันเคารพเถิดทูนแท้จริงเป็นผู้ใด มันจะทำหน้าอย่างไร

“ผู้อาวุโส ท่านเปิดห้องปรุงโอสถขั้นกลางให้ข้าเถอะ” หนิงฝานกล่าว จะอย่างไรชายชราผู้นี้ก็เป็นสหายของอาจารย์ตน จึงเรียกขานอีกฝ่ายว่าผู้อาวุโสอย่างสุภาพ

และคำว่าผู้อาวุโสนั้นทำให้ชายชราใจอ่อน ชายชราหวนนึกถึงยามที่ตนยังเยาว์ ยามที่เรียนรู้การปรุงโอสถด้วยตนเอง เมื่อนั้น มันบากบั่นมานะไม่ย่อท้อ

ชายชราถอนหายใจยาวพลางส่ายหน้า

“เห้อ… เจ้าช่างดื้อรั้นเหมือนอาจารย์เจ้านัก ก็ได้ ข้าจะเปิดห้องปรุงโอสถขั้นกลางให้ เพลิงในห้องนั้นเป็นเพลิงพิภพระดับ 2 ยากที่จะควบคุม เจ้าต้องปรุงโอสถด้วยความระมัดระวัง อย่าให้ตนเองพลาดท่าถึงตาย… เจ้ายังเด็ก ยังต้องประสบกับความล้มเหลวอีกมาก หากถึงทางตันก็จงตั้งใจ เพราะหากเทียบความล้มแล้ว ข้าประสบมามากกว่าเจ้านัก”

ชายชราทำนิ้วเป็นท่าทาง กระตุ้นข่ายอาคมของห้องปรุงโอสถขั้นกลางให้เปิดออก จากนั้นให้สิ่งที่ใช้เข้าห้องกับหนิงฝาน

การปรุงโอสถนั้น ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ควรรบกวนนักปรุงโอสถ

“ขอบคุณผู้อาวุโสชูชิงที่ยอมโอนอ่อนให้ข้า...”

หนิงฝานนำสิ่งที่ชายชราให้มามุ่งเข้าสู่ห้องปรุงโอสถ

ในห้องปรุงโอสถขั้นต้นนั้น ทั้งห้องจะฉาบไล้ไปแสงสีเหลือง ซึ่งเกิดจากเพลิงพิภพระดับ 1… ห้องปรุงโอสถที่ 2 นั้น เพลิงพิภพจะเป็นสีแดง ซึ่งเป็นเพลิงพิภพระดับ 2 ส่วนห้องปรุงโอสถขั้นสูงนั้น เพลิงจะเป็นสีคราม ซึ่งเป็นเพลิงพิภพระดับ 3

เมื่อหนิงฝานเข้าไปในห้อง เขาสะบัดชายเสื้อเพื่อนำกระถางแยกโอสถออกมา จากนั้นชักในเพลิงพิภพเข้าสู่เตา พร้อมกับใส่สมุนไพรลงไป

ยามนี้ หนิงฝานจะปรุงโอสถยกระดับวิญญาณ เพื่อทะลวงไปยังขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสูงสุด จากนั้นจะปรุงโอสุเปิดเส้นชีพจร โอสถเสริมวิญญาณ และโอสถยกระดับวิญญาณ เพื่อนำกลับไปให้กองทัพปีศาจทมิฬของตน

ส่วนโอสถสำหรับหลานเหม่ยนั้น หนิงฝานต้องปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ซึ่งหลังจากแล้วเสร็จธุระของตนแล้ว จึงจะขอผู้อาวุโสชูชิงเปิดห้องปรุงโอสถขั้นสูงให้

หากปรุงโอสถให้ชูชิงได้เห็นและเลิกดูถูกตน การจะขอให้ชายชราเปิดห้องปรุงโอสถขั้นสูงให้นั้น ไม่ใช่เรื่องยาก

ชูชิงยามนี้เดินกลับไปกลับมาในตำหนักปรุงโอสถ

40 ปีที่มันได้พบหานหยวนจี๋ และยามนี้ศิษย์ของหานหยวนจี๋ก็มา

แม้จะดูเย้อหยิ่งด้วยวัยเพียง 17 ปี แต่หากปรุงโอสถผันแปรที่ 2 ได้จริง ผู้เยาว์เช่นนั้นก็น่าตื่นตะลึง

แต่หากไม่ได้อย่างที่กล่าวอ้าง เต๋าอันยิ่งใหญ่คงให้ความล้มเหลวเป็นบทเรียน

“หานหยวนจี๋… ข้าจะยกเว้นให้ศิษย์ของเจ้าเป็นพิเศษ ข้าจะช่วยขัดเกลามัน ให้หยกที่ยังมิได้เจียระไน กลายเป็ยหยกที่งดงาม”

ชายชรามั่นใจว่าหนิงฝานจะปรุงโอสถผันแปรที่ 2 ไม่สำเร็จ

แต่ในขณะนั้นเอง กลิ่นหอมของโอสถผันแปรที่สองกลับโชยออกมาจากห้องปรุงโอสถ จนทำให้ชายชราประหลาดใจ

หนิงฝานกลับปรุงโอสถผันแปรที่ 2 ได้จริง… และจากกลิ่นของโอสถแล้ว เป็นโอสถเสริมวิญญาณ!

โอสถเสริมวิญญาณเป็นโอสถที่ปรุงได้ยากที่สุดในระดับนั้น แต่ผู้เยาว์ผู้นี้กลับทำได้!

“ช้าก่อน...”

ชายชราดวงตาเบิกกว้าง

ชายชราได้ยินเสียงโอสกระทบกัน และเสียงกระทบเหล่านั้นมีกว่ากลายร้อยครั้ง

หนิงฝานปรุงโอสถครั้งละหลายร้อยเม็ด แม้เป็นชายชราก็ทำไม่ได้...

“นี่… หรือเด็กนี่จะเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4!” ชายชราตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด