บทที่ 29 แรกพบสบตาเมื่อเจอหน้าเธอ
บทที่ 29 แรกพบสบตาเมื่อเจอหน้าเธอ
ผมนอนวิตกจริตมาทั้งเช้า จนทำให้มาซ้อมมวยด้วยขอบตาดำเป็นหมีแพนด้า แต่ถึงสภาพผมจะโทรมแค่ไหนครูทศแกก็ไม่ปรานีเลยสักนิด มาถึงก็จัดหนักจัดเต็มจนผมฟกช้ำดำเขียวไปทั้งตัว นึกว่าจะต้องขย่อนของเก่าที่กินไปตอนเที่ยงออกมาซะแล้ว
พอฝึกโหดเสร็จ ก่อนจะปั่นจักรยานไปทำงานผมก็ซดโพชั่นไปขวดหนึ่ง ผมเข้างานกะหกโมงเย็นจนถึงห้าทุ่ม วิ่งวุ่นตลอดเวลาเพราะวันนี้ของลง มีโปรโมชั่นใหม่มา ต้องอยู่ยาวติดโปรโมชั่นจนเกือบเที่ยงคืนเพราะใกล้วันคริสต์มาส
เป็นอีกปีที่คริสต์มาสไร้ซึ่งความหนาวโดยสิ้นเชิง และอีกสามชั่วโมงข้างหน้าผมก็จะถูกส่งไปเป็นมนุษย์ปิ้งที่ต่างโลก แค่คิดก็จิตตกแล้ว เป็นครั้งแรกที่ไม่อยากไปไลฟ์สตรีมต่างโลกเลยให้ตายสิ...ถ้าคราวหน้าจะเป็นแบบนี้อีกละก็ผมจะชิงฆ่าตัวตายกลับก่อนโดนลากมาปล่อยเกาะคอยดู! เออะ...ไม่เอาดีกว่า ถึงจะไม่ตายจริงผมก็ไม่อยากสัมผัสรสชาติความตายในเร็ววัน
พอแปะโปสเตอร์โปรโมชั่นเสร็จ ผมก็หอบหิ้วถุงน้ำแข็งกลับหอไปด้วยเกือบสิบถุง ไม่รู้ว่าน้ำแข็งจนทนความร้อนในรังมังกรได้สักกี่วิ แต่มีไว้ก็ทำให้อุ่นใจขึ้น เหมือนมีพระเครื่องแขวนขอ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าช่วยอะไรไม่ได้แต่มีไว้ก็อุ่นใจดี
กลับมาถึงห้อง ผมก็อาบน้ำให้ชื่นใจเปลี่ยนไปใส่ชุดหมีที่แวะไปยืมมาจากสถานีดับเพลิง วันนี้ผมขอไม่ใส่ชุดชาวโลกแฟนตาซีที่ 112 สักวัน ชุดหมีที่ผมใส่เป็นเครื่องแบบพนักงานดับเพลิง มันเป็นชุดกันไฟกันความร้อน และมันน่าจะทำให้ผมทนกับความร้อนนรกแตกที่ต้องเผชิญในรังมังกรได้...มั้งนะ
น้ำแข็งพร้อม ชุดดับเพลิงพร้อม พัดลมพกพาพร้อม โทรศัพท์...ไม่พร้อม
อ่า เมื่อวานเครื่องร้อนจี๋จนนึกว่าถ้าอยู่ในรังมังกรนานกว่านั้นเครื่องได้ระเบิดแน่ ๆ คราวนี้คงเป็นครั้งแรกที่ผมต้องวางโทรศัพท์ไว้ที่ห้องอย่างจำใจ และหันไปพึ่งพาไฟฉายของจริงแทน
นั่งเล่นนอนเล่นรอไม่นาน ตัวผมก็ถูกส่งไปต่างโลก ไอร้อนพวยพุ่งขึ้นมาจนผมเหงื่อแตกพลัก ๆ ทั้ง ๆ ที่กอดน้ำแข็งอยู่เกือบสิบถุงแต่มันไม่ทำให้เขารู้สึกเย็นขึ้นมาได้เลย มันร้อนเหมือนตัวผมกำลังโดนต้มอยู่ในหม้อน้ำเดือด เนื่องจากความร้อนที่เผชิญอยู่เข้าขั้นนรก พอโดนวาร์ปมาต่างโลกผมก็วิ่งหน้าตั้งออกมาจากริมหน้าผาทันที ไม่การมีหยุดแวะทักทายสวัสดีผู้ชมเลยสักคำ ก่อนที่น้ำแข็งจะละลายหมดผมต้องออกห่างจากแมกมาให้ไกลที่สุด
แต่ทว่าในตอนที่วิ่งออกมาจากริมผาผมก็พึ่งนึกเรื่องสำคัญขึ้นได้ เมื่อผมเห็นงูยักษ์ที่ลำตัวมีรอยแตกร้าวคล้ายแมกมากำลังโผล่ขึ้นมาจากพื้นทางเบื้องหน้าผม ว่าที่แห่งนี้นอกจากความร้อนแล้วก็ยังมีสัตว์ประหลาดโคตรโหดอยู่เต็มไปหมด ด้วยความตกใจ ผมถึงขั้นระเบิดความไวในพริบตา ดริฟหักศอกเลี้ยวหนีไปอีกฟากหนึ่งด้วยพลังหนีตายยามไฟไหม้ ที่ปกติไม่มีทางงัดออกมาใช้ได้ ทำให้งูยักษ์ที่พุ่งเข้ามาฉกโจมตีหวืดเอาหัวจิ้มพื้นจนเศษหินในจุดที่ผมอยู่เมื่อครู่ระเบิดกระจาย บรึ้ม!
โอ้พระเจ้า ถ้าโดนเข้าไปสักทีคงมีฉากโหด ตับไตไส้พุงปลิวว่อนฟ้าแน่ ๆ คราวที่แล้ววิ่งตามปาร์ตี้หัวกิลอย่างเดียวเลยลืมไปซะสนิทว่าแถวนี้สัตว์ประหลาดหยุบหยับแค่ไหน ไอ้ภาเอ๊ยหวิดเกือบโดนแดกไปแล้วไหมล่ะ
เวร ร้อนก็ร้อน นี้ตูยังต้องมาวิ่งหนีงูอีกเหรอวะ ตอนนี้น้ำแข็งที่หิ้วมาด้วยละลายกลายเป็นน้ำไปหมดแล้ว ทำให้ผมต้องหยิบพัดลมพกพาขึ้นมาเปิด งูตัวเดิมก็ยังคงเลื้อยตามผมมาอย่างไม่ลดละ ไอ้ผมวิ่งไปก็ระแวงหลังไป ระยะห่างของผมกับงูยักษ์ถูกร่นเข้ามาใกล้กันมากขึ้นทุกที ๆ
ทีมงาน : ทางนี้ ๆ อย่างวิ่งมั่วสิ
“ระ...รู้แล้วน่า! ก็เมื่อกี้มันมีงูขวางอยู่อ่ะ” พอวิ่งหนีแบบสุ่มสี่สุ่มห้าก็ลากงูมาเพิ่มอีกสองตัว แถมยังวนกลับมาแถว ๆ ริมหน้าผาที่เก่า ถึงทีมงานจะมีระบบจดจำเส้นทาง แต่เมื่อเจอสัตว์ประหลาดขวางอยู่ผมก็ผ่านไปไม่ได้อยู่ดี ชีวิตแม่งจะซวยไปไหนวะ
ไม่นานแรงที่มีก็เริ่มตก ฝีเท้าผ่อนลงจนเกือบโดนฉกตายอยู่หลายที “แฮ่ก ๆ ๆ ตาย ตายแน่ ตายชัวร์ อ๊ากกกกกกกกก” เพราะอากาศที่ร้อนมาก ทำให้ความอึดผมลดลงมากกว่าปกติ ตอนนี้รู้สึกเหมือนแม้แต่สมองก็ใกล้จะไหม้เป็นเถ้าถ่านแล้ว ถ้ายังวนอยู่แถวนี้ต่อเกรงว่าไม่ต้องรอให้งูสามตัวรุมฆ่า ตัวผมก็กลายเป็นมนุษย์อบแบบเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำชัวร์ ๆ มันร้อนขนาดที่ว่าแม้แต่เหงื่อที่ไหลออกมาก็ระเหยเป็นไอทันทีที่ ถ้าไม่ได้คิดไปเองผมว่าตอนนี้มันร้อนขึ้นนะเนี่ย ถึงขนาดเหงื่อระเหย
หรือเขาจะมาตายที่นี่จริง ๆ ตายแบบไม่ใช่ตายธรรมดา ตายแบบตายซ้ำตายซาก กระดืบออกจากภูเขาได้วันละ 10 เมตรอะไรแบบนี้ พลังพิเศษจ๋า พี่ลาก่อน...
ทีมงาน : วิ่งมาทางนี้เร็ว อย่างพึ่งหมดแรง
ผมก็อยากจะคุยโต้ตอบกับทีมงานซังอยู่หรอกนะ แต่ว่าคอแห้งจนพูดอะไรไม่ออกสักคำแล้ว ได้แต่วิ่งตามทางที่ทีมงานบินนำอยู่เบื้องหน้า
ผมยกกระติกน้ำขึ้นซดเป็นระยะ ดวงตาแดงก่ำเพราะความร้อน เดิมทีถ้าปฏิเสธไปอย่างรุนแรงก็ไม่ต้องมาทรมานแบบนี้แล้ว บ้าจริง เมื่อความตายคืบคลานเข้ามาใกล้ ผมก็เริ่มร้องไห้ แต่บิ้วเท่าไหร่น้ำตามันก็ไม่ไหลออกมาสักที มีแต่ไอน้ำที่ระเหยขึ้นตาจนต้องหลับตาวิ่ง โอเค ผมจะไม่ร้องไห้แถวแมกมา แม่งเอ๊ย! จะดราม่าก็ไม่ได้ดร่าม่า
ในระหว่างที่กำลังขยี้ตาที่บอดไปชั่วขณะผมก็โดนโจมตีเขาในระยะประชิดแบบถาก ๆ จนร่างลอยกระเด็นขึ้นฟ้า ชุดหมีที่ใส่อยู่ถึงกับฉีกขาด “อ๊ากกกกก” ความเจ็บปวดทำให้ผมร้องออกมาดังลั่น เลือดสีแดงเข้มกระอักออกจากปาก ว่าแล้วมันต้องโดนเข้าสักที นี่ขนาดโดนแค่เฉียด ๆ นะเนี่ย
ตัวผมโดนฟาดกระเด็นลอยไปทางริมหน้าผา ระหว่างตัวลอยอยู่กลางอากาศผมเบิกตาที่เจ็บขึ้นได้เล็กน้อยจนพอมองเห็นราง ๆ ว่ามีงูตัวหนึ่งกำลังพุ่งมางับตัวผม แต่แล้วมันกลับโดนงูอีกตัวสะบัดหางโจมตีขัด ทำให้ผมรอดจากการเป็นอาหารงูมาได้หวุดหวิดในวินาทีนั้น และกำลังคูลดาว์นรอเวลาที่ตัวเองร่วงลงมากระแทกพื้น 1 2 3
โครม! อั๊ก…ความรู้สึกตอนที่ร่างร่วงลงมากระแทกพื้น ไม่รู้ว่าเจ็บหรือร้อนเหมือนโดนนาบลงบนกระทะมากกว่ากัน ขณะกำลังมึนงงจากแรงกระแทก เบื้องหน้าก็พลันเกิดเหตุการณ์น่าตกตะลึงพรึงเพริด ทะเลแมกมาที่อยู่ไม่ไกลได้ระเบิดออกมา ไอ้ร้อนพวยพุ่งเข้มข้นจนทำให้สะเก็ตไฟปลิวกระจายในอากาศ ออกซิเจนที่มีในถ้ำเริ่มถูกเผาไหม้
แค่ก ๆ ผมไอ้ออกมาเป็นเลือด เอื้อมมือที่สั่นระริกหยิบโพชั่นในกระเป๋าขึ้นกระดกอย่างรวดเร็วเพื่อคงระดับอาการบาดเจ็บ และคลานออกมาจากบริเวณหน้าผาให้ไกลที่สุด ด้วยความกลัวตายแม้จะไม่ได้ตายจริง ทำให้ผมปิดโพชั่นเพิ่มเลือดขึ้นมาดื่มขวดแล้วขวดเล่าอย่างไม่เสียดายเงิน เมื่อความร้อนทำผมตัวไหม้ผมก็ดื่มลงไปขวดหนึ่ง เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ในที่สุดไอร้อนก็เบาบางลง
ผมนั่งหอบแฮ่ก ๆ อยู่ท่ามกลางความร้อนและขวดเปล่าของโพชั่นนับสิบ และเอ่ยปากพูดออกมาคำหนึ่งอย่างอยากเย็น “นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น”
ผมไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่างูยักษ์สามตัวนั่นหายไปตอนไหน และยิ่งไม่กล้าเข้าไปใกล้ริมหน้าผา ผมไม่ได้คิดไปเองแน่ ๆ หลังจากที่แมกมาระเบิดเขารู้สึกได้เลยว่าความร้อนรอบ ๆ เบาบางลง เบายิ่งกว่าในตอนที่มาเหยียบที่นี่ครั้งแรกพร้อมกับปาร์ตี้กิลมาสเตอร์ซะอีก
ทีมงาน : รีบออกไปกันเถอะ สัตว์ประหลาดคงหนีไปหลบซ่อนเพราะเรื่องเมื่อกี้ นี่เป็นโอกาสหนี ถ้าพลาดตอนนี้เราก็ตายทุก EP.แน่
ผมพยักหน้าให้กับบับเบิ้ลข้อความของทีมงานซัง ก่อนจะยันตัวลุกขึ้น ทว่าจู่ ๆ แมกม่าก็ปะทุขึ้นมาอีกทีหนึ่ง มันหมุนบิดเกลียวลอยสูงเกือบถึงปากปล่องภูเขาก่อนจะถูกสูบหายไปใต้หน้าผาตามเดิมอย่างรวดเร็ว แต่เรื่องแมกม่าไม่ใช่ประเด็นใหญ่ในตอนนี้แล้ว เพราะมีเรื่องที่ใหญ่กว่า สิ่งที่ลอยอยู่ในอากาศจุดที่แมกม่าพึ่งถูกสูบลงไป ทำให้ผมตะลึงงัน ดวงตาเบิกโพลง นะ...นั่นมัน...
มังกร!
มีมังกรยุโรปสีแดงตัวเท่าลูกหมา กำลังบินอยู่กลางอากาศเหนือทะเลแมกมาอันร้อนระอุ ผมมองมัน มันก็มองผม ถึงมังกรตรงหน้าจะตัวเล็กแลดูน่ารักน่าฟัดพอ ๆ กับตุ๊กตาเขี้ยวกุดปานใด แต่ผมยังไม่ลืมว่าแมกม่าที่ระเบิดตูมตามสองรอบเมื่อกี้เป็นฝีมือมันแน่ ๆ เพราะงั้นผมจึงตัวแข็งทื่อไม่กล้ากระดิกตัวแม้สักหนึ่งมิล แถมยังไม่กล้าหายใจแรงอีก
คุณว่า ถ้าผมแกล้งตายมันจะเชื่อผมไหม? ทำไมเมื่อวานไอ้พวกนั้นมันบอกว่าไม่มีมังกรแล้วฟะ ถ้าไม่มีแล้วไอ้มังกรตัวกะเปี๊ยกนี้มันคืออะไร แล้วทำไมต้องมีแค่ตูเดียวที่เจอมังกรวะ!
ผมว่าอาทิตย์ก่อนมังกรที่บินข้ามหัวผมไปต้องเป็นตัวแม่แน่ ๆ แต่แล้วทำไมเอ็งไม่ไปเที่ยวกับแม่เอ็งละโว้ยจะอยู่ทำไมในนี้ ในตอนที่ผมเผลอสบถด่าอยู่ในใจ เจ้ามังกรตัวน้อยที่บินอยู่เหนือทะเลแมกม่าก็เริ่มขยับ มันอ้าปากออกกว้างก่อนจะพ่นลูกไฟอันเท่าลูกบาสมาทางผม
บรึ้ม!
ไอ้ฉิบหายยยย ผมกรีดร้องในใจแต่ปฏิกิริยาของร่างกายยังคงยอดเยี่ยม ขยับม้วนหน้ากลิ้งหลบได้ทันท่วงที ทว่านั่นก็ไม่ใช่บอลไฟลูกเดียว ไอ้ตัวเล็กนั่นพ่นไฟออกมารัว ๆ
“มนุษย์สกปรก โสโครก ตัวเหม็น อัปลักษณ์ โง่ งี่เง่า ตายซ้าาาา” น้ำเสียงเอาแต่ใจของเด็กที่ฟังไม่ออกว่าเป็นเพศอะไรดังขึ้นเป็นคำ ๆ หนึ่งคำด่าต่อหนึ่งลูกไฟที่ตกใส่ตัวผม
“อ๊ากกก หยุด ๆ ตูอาบน้ำแล้ว และก็ไม่ได้โง่ด้วย” ผมหลบอย่างทุลักทุเล สะเก็ดไฟที่โดนในระยะประชิดทำให้เสื้อผ้าที่ขาดอยู่แล้ว ขาดเพิ่มขึ้นไปอีก นี่ไม่ใช่ช่องไลฟ์สตรีมเรท 18+ ไม่มีใครอยากเห็นผมแก้ผ้าหรอกน่า “พอ ๆ จะตายแล้ววว” ”
“ไม่หยุด อ๊าาาฮ่า ๆ ๆ”
บรึ้ม ๆ ๆ
และแล้วในไม่กี่วินาทีต่อมาเสื้อผ้าผมก็ถูกเผาไหม้จนหมดตัว...
“ว๊ากกกกก” โคตรอาย! ยังดีที่การโจมตีของลูกมังกรแดงทำให้มีควันศีลธรรมพวยพุ่งอยู่เต็มจอ ผมหยิบกระเป๋าสุดยอดแห่งความทนทานมาปิดจุดซุ่มเสี่ยงทันทีที่หายช็อก แม่งเสื้อผ้าหายกระเป๋ายังอยู่ มันเป็นไปได้วะเฮ้ย ที่จริงผมมีเสื้อผ้าสำรองเตรียมไว้ในกระเป๋าอยู่แล้วแต่กลับไม่มีเวลาหยิบมันออกมาใส่ ในเมื่อไอ้มังกรบ้าตรงหน้ายังไม่หยุดยิงลูกไฟใส่ผมสักที
จนกระทั่งมีบอลไฟลูกหนึ่งโดนใส่ผมเต็ม ๆ ตัวผมพลันลอยกระเด็นออกจากกลุ่มควันศีลธรรม ทุกอย่างกลายเป็นภาพสโลว์โมชั่น “อย่าาา ถ่ายยย นาา โว้ยยย” ในวินาทีแห่งความเป็นความตาย ผมกลับนึกถึงทีมงานซังเป็นอย่างแรก อนาคตซุปตาร์อย่างผมจะป่นปี้กับภาพฉาวสุดอนาถครั้งนี้ไม่ได้ จะตายทั้งทีขอตายแบบเท่ ๆ หน่อยเซ่ มันต้องไม่ใช่แบบนี้!
ทีมงาน : [อีโมติคอนปิดตา] จบสิ้นแล้ว...
มังกรแดงน้อยผู้ก่อเหตุฆาตกรรม ตาเบิกโพลงกับภาพมนุษย์เปลือยบินได้ มันเอานิ้วจิ้มตาตัวเองเพื่อล้างภาพอุจาดออกจากตา แล้วกรีดร้องออกมาราวพ่องตาย “อ๊าาาา ตาข้าาาาจะบอดแล้ว”
ตัวมันที่พึ่งเกิดสด ๆ ร้อน ๆ กลับได้รับภาพฝังใจชนิดที่ยากลืมเลือน มันแน่ใจ มันต้องกลายเป็นมังกรซวยไปตลอดชาติแน่ เมื่อร่างมนุษย์ที่นอนตายหายไปอย่างไร้ร่องรอย มังกรน้อยก็บินโซเซลงมาแตะขอบหน้าผาทั้ง ๆ ที่น้ำตานองหน้าและนอนหมอบคุดคู้เป็นก้อนกลม “ฮึก ๆ แม่จ๋ามนุษย์แย่จริง ๆ ด้วย”
ผู้ชมเกือบร้อยชีวิตที่จู่ ๆ คอมก็จอดับ
“เฮ้ย เชี่ยไรวะเนี่ย คอมตูเป็นไรเนี่ย”
“อ่าว ตายง่าย ๆ งี้เลยเหรอ”
“จบแล้ว? จบได้ส้นตรีนมาก” และอื่น ๆ อีกมากมาย
............
[ภารกิจช่วยเหลือเจ้าเมืองคนใหม่]
ระดับความยาก S
เจ้าเมืองคนใหม่นามว่า 'ชาล็อต' เธอเป็นหญิงสาวสายเลือดชนชั้นสูงผู้น่านับถือ เธองดงามและถือพรหมจรรย์ จากเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนเธอมองเห็นศักยภาพภายในตัวท่านและสหาย เธอได้ขอร้องให้ท่านตามหาและกำจัดวิหารแห่งความมืดทั้งหมดภายในเมืองลิบบอนแลนด์
เงื่อนไขสำเร็จภารกิจ : ช่วยเหลือชาล็อตกำจัดวิหารแห่งความมืดให้หมดไปจากเมืองลิบบอนแลนด์ ระยะเวลา 30 วัน
ของรางวัลภารกิจ : พลังพิเศษ , ของขวัญปริศนาจากเจ้าเมืองคนใหม่
บทลงโทษหากภารกิจล้มเหลว : ระยะเวลาไลฟ์สตรีมลดเหลือ 3 ชั่วโมง
หมายเหตุ : ระหว่างทำภารกิจท่านสามารถตายได้เพียง 3 ครั้ง ถ้าเสียชีวิตเกิน 3 ครั้งจะถือว่าภารกิจล้มเหลวทันที
ระยะเวลาที่เหลือในการทำภารกิจ 25 วัน
จำนวนครั้งที่ตาย 1/3
***เมื่อตายครบสามครั้งภารกิจจะล้มเหลวโดยอัตโนมัติ
สามารถติดตามอ่านตอนต่อไปได้ที่ fictionlog