บทที่ 11 เสี่ยงถูกเปิดโปง
บทที่ 11 เสี่ยงถูกเปิดโปง
พื้นที่ในหมู่บ้านครึกครื้นมาก
สมาพันธ์ตัดวายุที่ซารอสสังกัดตั้งอยู่บริเวณปีกเขาด้านซ้าย เฉินเสี่ยวเลี่ยนพบว่าทำเลตรงนี้ดีมาก ปีกเขาด้านซ้ายสูงชันที่สุด ด้านหลังชิดภูเขา ตัดปัญหาเรื่องการป้องกันด้านหลังไปได้ แถมยังอยู่ใต้ลม เทียบกันแล้วดีกว่าอยู่ปากภูเขาที่มีลมพัดเป็นไหนๆ
ที่สำคัญที่สุดก็คือ เห็นได้ชัดว่าพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างอยู่สูงกว่าพื้นที่ส่วนอื่นอยู่เล็กน้อย
หลังกวาดตามองรอบๆ เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็มั่นใจว่าพื้นที่ตรงนี้ต้องเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของหมู่บ้านในหุบเขานี้แน่นอน หรือพูดอีกอย่างได้ว่าการยึดครองพื้นที่ที่ดีที่สุดตรงนี้ท่ามกลางสมาพันธ์มากมายไว้ได้ แสดงว่า ‘สมาพันธ์ตัดวายุ’ จะต้องแข็งแกร่งไม่เลวเลยทีเดียว
ระหว่างทางไปค่าย เฉินเสี่ยวเลี่ยนลอบสังเกตไปตลอดทาง ถึงแม้เขาแน่ใจว่าไม่ได้ทำตัวผิดสังเกตให้เดม่อนหรือซารอสเห็น แต่ว่า... เขารู้ดีว่าคนที่อยู่ในระดับผู้นำของสมาพันธ์ใดๆ จะต้องมีความเยี่ยมยอดในด้านใดด้านหนึ่งอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในด้านความฉลาดเฉลียว เขากังวลมากว่าตอนที่พบกับกัปตันนิวตันคนนั้น อีกฝ่ายจะจับพิรุธเขาได้
ตอนที่ได้พบนิวตันเข้าจริงๆ เฉินเสี่ยวเลี่ยนถึงกับเหงื่อซึม
นิวตัน... ก็คือนักบินคนนั้น!
ไอ้คน ‘ขอให้คุณโชคดี’ คนนั้น!
นิวตันค่อนข้างผอม สวมชุดที่ดูคล้ายกับชุดออกรบของทหารในภาพยนตร์ไซไฟอวกาศ เฉินเสี่ยวเลี่ยนสังเกตเห็นว่าตรงเอวของอีกฝ่ายมีเข็มขัดทองที่ดูเว่อร์วังสุดๆ อยู่เส้นหนึ่ง บนนั้นยังมีสลอตการ์ดอยู่หลายอัน
ซารอสเป็นฝ่ายเดินไปหาก่อน เฉินเสี่ยวเลี่ยนเห็นว่า อ้อมกอดที่สาวใหญ่สุดสวยคนนี้กอดนิวตันดูยังไงก็ไม่ใช่การกอดแบบเพื่อน นั่นเพราะว่าเฉินเสี่ยวเลี่ยนที่อยู่ด้านข้างมองเห็นซารอสลูบเอวนิวตันเบาๆ การกระทำนี้ดูลึกซึ้งกำกวมอย่างมาก
ซารอสพูดกับนิวตันด้วยเสียงเบาๆ หลายคำ แล้วชี้มาที่เฉินเสี่ยวเลี่ยน
นิวตันเดินเข้ามาหา
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกได้ว่ามีเหงื่อออกซึมไปทั่วแผ่นหลัง เขาพยายามรักษาท่าทีสงบและเยือกเย็นเอาไว้สุดความสามารถ พลางค่อยๆ ซ่อนมือที่สั่นอย่างควบคุมไม่ได้ไว้ข้างหลังอย่างระมัดระวัง
“นายคือเด็กใหม่ที่ซารอสเก็บมาระหว่างทางงั้นเหรอ?”
สีหน้านิวตันเรียบเฉย แต่เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกได้ถึงความระแวดระวังในสายตาของอีกฝ่าย
“ใช่”
“พวกเราเหมือนรู้จักกันมาก่อนนะ? ที่ประตูห้องน้ำ ในสนามบิน”
พอนิวตันพูดประโยคนี้ออกมา เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็เกือบจะตอบออกไปโดยอัตโนมัติ ทว่าเขากลับนึกขึ้นมาได้ในฉับพลัน
“นายพูดอะไรน่ะ ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย” เฉินเสี่ยวเลี่ยนส่ายหน้าอย่างงงๆ
เกือบไปแล้ว!
เกือบลืมไปแล้วว่าซารอสจำเขาไม่ได้... นั่นหมายความว่า พอเธอเปลี่ยนจากแอร์โฮสเตจกลายมาเป็นซารอสก็จำเขาไม่ได้แล้ว!
ถ้าหากเขาเป็น ‘ผู้เล่นทั่วไป’ ก็คงจำเรื่องก่อนเครื่องบินตกไม่ได้เหมือนกัน
แต่ว่า...ไม่ใช่สิ... ถ้าทุกคนสูญเสียความทรงจำกันหมด ทำไมนิวตันถึงจำเรื่องที่หน้าประตูห้องน้ำสนามบินได้?
ซารอสที่ยืนอยู่ข้างๆ ยิ้ม “นิวตัน เธอเคยเจอเด็กนี่จริงๆ เหรอ?”
“อืม เจอที่ห้องน้ำสนามบินน่ะ” นิวตันพูดเรียบๆ “เขาทำบอร์ดดิ้งพาสตก เกือบไม่ได้ขึ้นเครื่องแล้ว”
“ฮ่าๆๆๆ... เฟอะฟะจริงๆ เลย เสียวเหลี่ยน ร่างโฮสที่จัดสรรให้นายนี่ดูใช้ไม่ได้เลยนะ...” ซารอสหัวเราะคิกคัก หน้าอกตูมๆ กระเพื่อมเบาๆ
ซารอสเดินมาหยิกแก้มเขา (ให้ตายเถอะ ทำไมถึงชอบทำแบบนี้นักนะ!) ยิ้มพลางพูดว่า “กัปตันเป็นเจ้าหน้าที่นำทางในครั้งนี้ เขามาถึงนี่ตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องแล้ว เขาจำเรื่องบนพื้นได้ทั้งหมด ตอนนั้นเธอยังมาไม่ถึงก็ต้องจำไม่ได้แน่นอน”
เจ้าหน้าที่นำทาง...·มาถึง...
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรีบจำคีย์เวิร์ดสำคัญพวกนี้ไว้ในใจ
นิวตันคล้ายกับจะหมดความสนใจที่จะสอบปากคำเฉินเสี่ยวเลี่ยนต่อ เขาโบกมือไปมา “ช่างเถอะ ให้เขาไปอยู่กับเด็กใหม่คนอื่นๆ แล้วกัน”
......
เดม่อนพาเฉินเสี่ยวเลี่ยนเดินมาถึงด้านข้างกระโจมที่เล็กที่สุด ใช้เท้าเตะหน้าแข้งเขาทีหนึ่ง “พักที่นี่แหละ ทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมทีมก่อนแล้วกัน จำไว้ว่าสมาพันธ์ตัดวายุคาดหวังกับเด็กใหม่แค่สองเรื่อง เวลามีคำสั่งห้ามอู้ เวลาไม่มีอะไรทำก็อย่าก่อเรื่องวุ่นวาย”
ทีมเด็กใหม่ที่นี่มีกันสี่คน มีชายผิวเหลืองตัวอ้วนเตี้ยวัยกลางคนที่ศีรษะล้านตรงกลางคนหนึ่ง มีหญิงสาววัยรุ่นผิวเหลืองที่ดูผอมเก้งก้าง สายตาและอารมณ์ดูเย็นชาคนหนึ่ง มีชายผิวขาว รูปร่างกำยำบึกบึนอย่างกับหมีคนหนึ่ง... ดูแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นนักสู้แห่งรัสเซีย
คนสุดท้าย ดูแล้วน่าจะอยู่วัยเดียวกันกับเฉินเสี่ยวเลี่ยน อายุคงราวๆ สิบเจ็ดสิบแปด หน้าตาพื้นๆ แต่ว่ามีคิ้วคมเข้มเหมือนกับวาดออกมาก
ชายหัวล้านลืมตามองเฉินเสี่ยวเลี่ยนแวบหนึ่งก็หลับตาไม่สนใจต่อ สาวผอมแห้งนั่งอยู่ข้างเตาไฟ ตั้งอกตั้งใจทำอาหารบางอย่าง
ชายนักสู้คนนั้นที่กำลังวิดพื้นอยู่ เงยหน้าขึ้นมองเฉินเสี่ยวเลี่ยนแวบเดียวก็ก้มหน้าวิดพื้นต่อไป
ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นกลับมองประเมินเฉินเสี่ยวเลี่ยนอยู่หลายวินาที สายตาดูแปลกๆ นิดหน่อย แต่เด็กหนุ่มกลับเขยิบไปข้างๆ ให้มีที่ว่างนั่งได้พอดี
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเข้าใจทันที รีบไปนั่งข้างเขา
“ฉันชื่อเสียวเหลี่ยน นายล่ะ?”
“หานปี้”
เสียงของหานปี้แหบเล็กน้อย เขาก้มหน้าลงไปไม่กี่วินาทีก็เงยหน้าแอบมองดูเฉินเสี่ยวเลี่ยนอีกอย่างอดไม่ได้
คนทั้งสี่สวมชุดแบบเดียวกันทั้งหมด เป็นชุดป้องกันสีดำแบบกองทหาร ดูเหมือนทำมาจากวัสดุผสมบางอย่าง
“เสียวเหลี่ยน ชุดมาแล้ว”
ห่างออกไปไม่ไกล ซารอสโยนชุดป้องกันเข้ามาให้ชุดหนึ่ง เฉินเสี่ยวเลี่ยนรีบลุกไปรับไว้
“สวมซะ ตกกลางคืนจะพาพวกเธอไปทำภารกิจนะ”
ซารอสพูดจบก็จากไป
เฉินเสี่ยวเลี่ยนดูชุดป้องกันในมือ... พูดตามตรง ลักษณะมันดูคล้ายชุดไม่มีแขนที่หน่วยรบพิเศษกีนิวในเรื่องดราก้อนบอลใส่อยู่หน่อยๆ แต่ว่า...
ใส่ยังไงล่ะ?
มันดูเหมือนของแข็งๆ จับดูก็คล้ายว่าทำมาจากวัสดุของแข็ง มีลักษณะเป็นทรงกระบอก... หรือว่าต้องสวมเข้าไปทางหัว?
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกถึงอันตราย ถ้าเขาไม่รู้กระทั่งว่าจะใส่เสื้อผ้ายังไงก็อาจเผยตัวจริงออกไปได้?
พอเงยหน้าขึ้นมอง ค่อยยังชั่ว ทีมเด็กใหม่หลายคนที่อยู่รอบๆ ไม่ได้มองดูเขา...
หือ?
เด็กหนุ่มที่ชื่อหานปี้คนนั้นกำลังใช้สายตามีลับลมคมนัยมองเขาอยู่
ใจของเฉินเสี่ยวเลี่ยนหนักอึ้งขึ้นมาทันที เขารู้สึกได้ว่าหานปี้มองออกว่าเขาจับต้นชนปลายไม่ถูก
ทันใดนั้น หานปี้ก็ทำท่าทางหนึ่งให้เฉินเสี่ยวเลี่ยนพบทางสว่าง
หานปี้หันหน้าไปทางอื่น แล้วทำท่าทางเหมือนกำลังเกาแก้คัน มือซ้ายอ้อมไปด้านหลังของไหล่ขวาทำท่ากดแรงๆ
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรีบคลำด้านหลังเสื้อป้องกันของตนทันที มันมีปุ่มที่ยุบซ่อนลงไปปุ่มหนึ่ง
ฟู่...
คล้ายกับว่าถูกปล่อยลมออก เสื้อป้องกันที่ดูแข็งๆ กลับกลายเป็นอ่อนนุ่ม เฉินเสี่ยวเลี่ยนรีบสวมมันอย่างรวดเร็ว พอมองดูหานปี้อีกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าหานปี้หันหน้ากลับมาเมื่อไหร่ และกำลังมองเขาด้วยสายตาที่แอบ...ขบขันอยู่ลึกๆ
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกเครียดขึ้นมาทันที
......
ช่วงค่ำ เดม่อนเดินมาหาทีมเด็กใหม่ ยืนชี้นิ้วส่งๆ “เธอ เธอ แล้วก็เธอ ไปกับฉัน ส่วนคนที่เหลือไปจับกบหิ่งห้อยมายี่สิบตัว แล้วกลับมาก่อนฟ้าสาง”
ที่เขาเลือกก็คือชายหัวล้าน สาวผอมแห้ง แล้วก็หนุ่มนักสู้
ส่วนหานปี้กับเฉินเสี่ยวเลี่ยนถูกใช้ให้ไปทำภารกิจจับ ‘กบหิ่งห้อย’
มองดูเดม่อนพาทั้งสามคนไปแล้ว หานปี้ก็มองเฉินเสี่ยวเลี่ยน “ไปกันเถอะ ถ้าทำภารกิจไม่เสร็จจะโดนลงโทษนะ”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนสังเกตเห็นหานปี้ขยิบตาให้ตนก็สะกิดใจขึ้นมาทันที
ทั้งสองเดินออกจากเขตค่ายในหมู่บ้าน ตอนที่พวกเขาเดินผ่านเขตของสมาพันธ์อื่นๆ ก็รู้สึกได้ถึงสายตาไม่เป็นมิตรที่แฝงความเป็นศัตรูเอาไว้กลายๆ ส่งมาจากโดยรอบ
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเดินไปกับหานปี้อย่างเงียบๆ จนออกมาจากหุบเขาเข้าไปในป่า เดินไปเรื่อยๆ จนถึงข้างลำห้วยสายหนึ่ง ข้างหูได้ยินเสียงแมลงร้องอยู่ใกล้ๆ...
ทันใดนั้นหานปี้ก็หยุดเดินแล้วหันขวับกลับมา ไม่รอให้เฉินเสี่ยวเลี่ยนได้ขยับตัวก็ดีดตัวพุ่งเข้าใส่เฉินเสี่ยวเลี่ยน!
เฉินเสี่ยวเลี่ยนตกใจ เขาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แต่ในมือหานปี้กลับมีมีดสั้นแวววาวเพิ่มขึ้นมา มีดนั้นพุ่งเข้าใส่ลำคอของเฉินเสี่ยวเลี่ยน!
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรีบเอาดาบเลเซอร์ออกมากันไว้ ดันให้หานปี้ถอย พลางคำรามเสียงต่ำ “ทำอะไรของนาย!”
หานปี้กุมมีดไว้ ยิ้มเหมือนไม่ยิ้มมองดูเฉินเสี่ยวเลี่ยน จู่ๆ เขาก็ดึงมือซ้ายออกมา ในมือนั้นมีบางอย่างสีดำเล็กๆ ที่ดูคล้ายกับฝาขวดอยู่
ฟู่...
เหมือนกับมีอะไรบางอย่างรั่ว เสื้อป้องกันบนตัวเฉินเสี่ยวเลี่ยนอ่อนปวกเปียกขึ้นมาทันที ลักษณะเดิมที่เหมือนเป็นวัสดุแข็งแรง กลายเป็นเหมือนกองน้ำมูกเหลวๆ ติดอยู่บนตัวเขา
“นี่มัน...” เฉินเสี่ยวเลี่ยนหน้าเปลี่ยนสี
สายตาหานปี้ยิ่งวาววับขึ้น “ที่แท้นายก็เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้! กระทั่งเรื่องง่ายๆ อย่างชุดป้องกันพื้นฐานยังใช้ไม่เป็น ใส่เข้าไปแล้วกลับไม่เปิดเซฟตี้! นี่มันความรู้พื้นฐานนะ นายไม่รู้เรื่องเลยหรือไง?”
หานปี้เดินขึ้นหน้าอีกหนึ่งก้าว สายตาบีบเค้นเฉินเสี่ยวเลี่ยน “นาย... ไม่ใช่... ‘ผู้เล่น’ สักหน่อย!!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนตกตะลึง!
ในหัวของเขามีความคิดหลายอย่างผุดขึ้นมาเต็มไปหมด... ความแตกแล้ว? ทำไงดีล่ะ? หนี? ฆ่าคนปิดปาก?
ตอนนั้นเอง ก็คล้ายกับว่ามีเสียงฝีเท้าดังมาจากที่ไกลๆ และยังมีเสียงคนพูด ซ้ำยังไม่ใช่คนเดียวอีกด้วย!
เฉินเสี่ยวเลี่ยนฟังดูก็รู้ว่าเป็นเดม่อนกับเด็กใหม่อีกสามคนนั่นเอง
คราวนี้เขาหมดหวังจริงๆ แล้ว!
ไม่ต้องพูดถึงฆ่าคนปิดปาก แค่จะหนียังหนีไม่พ้น หากตอนนี้หานปี้ตะโกนออกไป...
ทุกอย่างก็จบสิ้นกัน
มือที่กุมด้ามดาบเลเซอร์ไว้มีเหงื่อซึมออกมาจนลื่นมือ
ขณะที่เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกสิ้นหวังอยู่นั้น...
หานปี้กลับทำท่าทางแปลกๆ เขารีบเก็บมีดกลับไป โบกมือใส่เฉินเสี่ยวเลี่ยน คล้ายกับว่าส่งสัญญาณไม่ให้เขาพูด แล้วก็ชี้ไม้ชี้มือไปที่ดาบในมือเฉินเสี่ยวเลี่ยน!
เฉินเสี่ยวเลี่ยนอึ้งไป หานปี้ถลึงตาใส่เขา แววตาดูร้อนรน
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเข้าใจทันที เขารีบเก็บดาบเลเซอร์กลับไป
“พวกนายมาทำอะไรกันที่นี่?”
เดม่อนเดินนำเด็กใหม่ทั้งสามคนเข้ามาใกล้ เลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจ “ทำไมไม่ไปทำงานทำการ? แอบอู้หรือไง?”
หานปี้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแข็งๆ อย่างช้าๆ “เมื่อกี้ได้ยินเสียงกบร้องอยู่เลย พอนายมา มันก็ตกใจหายไปหมด”
“...อย่ามาแก้ตัว ทำภารกิจไม่สำเร็จ ฉันจะเป็นคนลงโทษพวกนายเอง”
เดม่อนถลึงตาใส่ทั้งคู่อย่างวางอำนาจ พาเด็กใหม่ทั้งสามคนเดินจากไปอีกทาง
รอจนพวกนั้นเดินไกลออกไปแล้ว เฉินเสี่ยวเลี่ยนถึงคลายใจลงได้ แต่ก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาอีก เขามองหานปี้ด้วยสายตาสับสน “นาย... นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่?”
หานปี้แบมือออก เดินเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ ทว่าคำพูดของเขาทำให้หัวใจเฉินเสี่ยวเลี่ยนแทบกระดอนออกมาจากอก!
“ถ้าฉันบอกว่า ฉันกับนายเป็นพวกเดียวกันล่ะ? ฉันก็ไม่ใช่ ‘ผู้เล่น’ จริงๆ เหมือนกัน”
…………………………