บทที่ 10 แกะน้อยเข้าฝูงหมาป่า
บทที่ 10 แกะน้อยเข้าฝูงหมาป่า
ชายหนึ่งหญิงหนึ่งโผล่อกมาจากดงไม้
เฉินเสี่ยวเลี่ยนจำผู้หญิงคนนั้นได้ทันที... นั่นคือหัวหน้าลูกเรือบนเครื่องบิน! อายุคงประมาณสามสิบ เป็นคนหน้าตาสะสวย หากให้บรรยายความสวยแบบนี้คือความสวยแบบสาวใหญ่แท้ๆ
เธอไม่ได้สวมชุดเครื่องแบบลูกเรืออีกแล้ว บนตัวสวมใส่ชุดที่คล้ายเกราะหนังที่ดูเว่อร์หน่อยๆ บริเวณหน้าอกถูกดันขึ้นสูง กระโปรงก็สั้นกุด พร้อมใส่รองเท้าไฮบูตคู่หนึ่ง... เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงใส่รองเท้าส้นสูงวิ่งไปมาบนภูเขาได้?
เขาสังเกตเห็นว่าในมือของเธอมีธนูแบบโบราณอยู่คันหนึ่ง ขาซ้ายขวาทั้งสองข้างมีถุงลูกธนูแขวนไว้อยู่
ส่วนผู้ชายที่อยู่ข้างๆ หัวหน้าลูกเรือ ก็มีรูปร่างที่สุดยอด
แขนที่โผล่ออกมาให้เห็นใหญ่ประมาณต้นขาของเฉินเสี่ยวเลี่ยน พอรวมกับทรงผมแบบไถเปิดข้างแล้ว...
แต่ที่เฉินเสี่ยวเลี่ยนติดใจที่สุดคือดาบในมือของอีกฝ่าย!
ดาบนั้นยาวประมาณเมตรกว่า ดูยังไงก็ไม่เหมือนดาบ แต่เหมือนกับบานประตูขนาดย่อมๆ มากกว่า
“ทำไมที่นี่ยังมีผู้เล่นอยู่อีก?” หญิงสาวเดินเข้ามา สะโพกบิดไปมาเล็กน้อย ขาสวยๆ ที่สวมไฮบูตยิ่งทำให้ช่วงขาดูยาวอย่างชัดเจน
เฉินเสี่ยวเลี่ยนยังเห็นว่า ผู้หญิงคนนี้วางแขนข้างหนึ่งบนไหล่ของผู้ชายคนนั้น หน้าอกเกือบครึ่งถูกดันขึ้นมา... แม่เอ๊ย แค่เห็นขาที่สามก็จะงอกออกมาแล้ว
“จะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ตอนที่มาถึงดาเมจแรงกระแทกคำนวณได้ไม่ดีพอ กัปตันยังบอกว่ากลับไปจะไปเอาเรื่องกับทีมพัฒนาอยู่เลย” เสียงชายหนุ่มทุ้มต่ำตอบกลับ
“เขาจะไปรู้อะไรล่ะ” หญิงสาวทำปากเบ้อย่างดูถูก “หรือว่าพวกที่เหลือบนเครื่อง ฟื้นขึ้นมาตอนพวกเราออกมากันแล้ว?”
“ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ ตอนนั้นก็ตรวจดูแล้วว่าตายกันหมดทั้งสี่คน ชายสองหญิงสอง”
หญิงสาวเดินบิดสะโพกมาหยุดหน้าเฉินเสี่ยวเลี่ยน แล้วค้อมตัวลงสบตาเขา “เธอเป็นใคร?”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนได้กลิ่นน้ำหอมฉุนกึกบนตัวหญิงสาว พลางย่อยข้อมูลที่ได้ยินมาเมื่อครู่อย่างรวดเร็ว
ค่าดาเมจแรงกระแทก?
กัปตัน?
ทีมพัฒนา?
ข้อมูลนี้มันมากเกินไปหรือเปล่า!
และเขายังพบจุดสำคัญอีกอย่าง: ผู้หญิงคนนี้จำเขาไม่ได้!
เป็นไปได้ยังไง?
เธอเป็นหัวหน้าลูกเรือคอยดูแลรับผิดชอบชั้นเฟริส์คลาสโดยเฉพาะ ตัวเขาหลังจากขึ้นเครื่องก็ขอเบียร์ แถมยังเป็นคนส่งสลิปเปอร์ให้เขากับมืออีกต่างหาก!
แต่ว่าตอนนี้ดูจากสายตาเธอกลับจำเขาไม่ได้สักนิด...
นี่มันคนทั้งคนเชียวนะเฮ้ย!
นิสัยรอบคอบที่บ่มเพาะมาหลายปีช่วยเฉินเสี่ยวเลี่ยนไว้ได้อีกครั้ง
เขาตีสีหน้า พยายามไม่ให้ตัวเองแสดงความรู้สึกหวั่นไหวออกมา ใช้เสียงเย็นๆ ตอบเธอว่า “ตอนที่ตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นใครแล้ว กลับไปคราวนี้จะต้องด่าทีมพัฒนาให้ตายไปเลย”
เหมือนกับว่าประโยค ‘ด่าทีมพัฒนาให้ตายไปเลย’ จะทำให้เกิดความรู้สึกร่วมกันขึ้นมา
“ฮ่าๆๆๆ...”
หญิงสาวหัวเราะออกมาทันที เฉินเสี่ยวเลี่ยนสังเกตเห็นว่าตอนที่เธอหัวเราะ เนื้อหน้าอกที่โผล่ออกมานั้นสั่นกระเพื่อมด้วย..
(อืม อย่างน้อยก็คงประมาณคัพดี)
“เอ๋? นี่สัตว์เลี้ยงของเธอเหรอ?” สายตาดึงดูดของหญิงสาวไปหยุดอยู่ที่การ์ฟีลด์ เธอดูประหลาดใจ รอยยิ้มบนหน้าหายไป “มีคนเอาแมวคลั่งสี่ตาเป็นสัตว์เลี้ยงด้วยเหรอเนี่ย?”
เธอหันกลับมามองเฉินเสี่ยวเลี่ยน “เธอเป็นเด็กใหม่ใช่ไหม? มาครั้งแรกใช่หรือเปล่า?”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนนึกหาคำตอบอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไร จึงทำเสียงเย็นชาร้องหึออกมาคำหนึ่ง
“เอาเถอะๆ น้องชาย ดูไปดูมาก็รูปหล่อไม่เบานะเรา ฉันละชอบเด็กหนุ่มแบบนี้จริงๆ”
หญิงสาวยื่นนิ้วออกมาสองนิ้วแตะปลายคางเฉินเสี่ยวเลี่ยน “เป็นเด็กใหม่ก็ไม่เป็นไร พี่จะดูแลเธอเอง ฮ่าๆ... น่าสนุกจริงๆ คราวนี้มีเด็กใหม่มาตั้งหลายคน แต่เธอดูแล้วไม่ขัดหูขัดตาแบบเด็กใหม่ของทีมเราเลย เจ้าเด็กนั่นทื่ออย่างกับท่อนไม้ น่าเบื่อสุดๆ”
พอเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้ายังคิดจะยื่นมืออกไปแต๊ะอั๋งต่อ ชายหนุ่มหุ่นล่ำที่อยู่ด้านหลังก็ทนดูไม่ไหวอีกต่อไป เขากระแอมเสียงดังทีหนึ่ง สายตาดูไม่พอใจอย่างชัดเจน
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรีบหดคอกลับ กระถดตัวไปด้านหลังแล้วลุกขึ้นยืน
ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกอย่างหนึ่งว่า:
ห้ามเปิดเผยตัวเด็ดขาด!
อีกอย่าง... สองคนนี้เหมือนว่าจะ... เป็นคู่รัก?
เขาจงใจหยิบเลือดบำรุงขั้นต้นอันสุดท้ายออกจากกระเป๋าไอเทมและยังจงใจกินเข้าไปให้คนทั้งสองเห็น
เฉินเสี่ยวเลี่ยนสังเกตได้ว่าสายตาทั้งสองยังดูไม่วางใจอยู่บ้าง
ไม่นานปากบาดแผลก็ปิดสนิท เลือดหยุดไหล และรู้สึกได้ว่าพละกำลังเริ่มฟื้นฟูแล้ว
“น้องชาย ทิ้งแมวเธอไปดีกว่าไหม มีสัตว์เลี้ยงแบบนี้คงมีแต่คนหัวเราะเยาะแน่ๆ เจ้านี่ได้ชื่อว่าเป็นความล้มเหลวที่สุดของทีมพัฒนาเชียวนะรู้ไหม? ฮ่าๆๆๆ ถ้าเธอไม่อยากลงมือเอง เดี๋ยวฉันฆ่าให้ก็ได้นะ?”
ตอนที่หล่อนพูดก็แทบจะเอาปากแตะเข้ากับใบหน้าของเฉินเสี่ยวเลี่ยนอยู่แล้ว
แต่ว่าในสายตาของเธอปรากฏแววสังหารขึ้นแวบหนึ่งอย่างชัดเจน ทำให้เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกหวั่นอยู่ในใจ
“ไม่ละ!” เฉินเสี่ยวเลี่ยนปฏิเสธทันควัน “สัตว์ของผม ผมจัดการเองได้”
“ซารอสพอแล้ว! ยั่วเด็กใหม่มันสนุกมากหรือไง?”
ชายหนุ่มหุ่นล่ำคนนั้นทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเดินเข้ามา มองเฉินเสี่ยวเลี่ยนด้วยสายตาเย็นชา “ไอ้หนู ไปกับพวกเราเถอะ อย่าปากมาก อย่าสอดไม่เข้าเรื่อง พอทำภารกิจสำเร็จแล้วจะแบ่งของรางวัลให้นายส่วนหนึ่ง”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนส่งเสียงเฮอะออกมาคำหนึ่ง
“สัตว์เลี้ยงของเธอดูไม่ค่อยดีเลยนะ ไม่ได้ให้อาหารมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย?”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนลังเลเล็กน้อย “วันนึง”
“หา?” หญิงสาวที่ชื่อซารอสดูประหลาดใจ พลางอธิบายว่า “ลืมไปว่าเธอเป็นเด็กใหม่เพิ่งมาครั้งแรก ทำไมไม่เอาอาหารสัตว์มาด้วย? แล้วทำไมไม่แลกเปลี่ยนเอาละ?”
แลกเปลี่ยน!
ได้ข้อมูลสำคัญอีกแล้ว!
นี่หมายความว่ามีระบบแลกเปลี่ยนอยู่ด้วย!!
ทว่าเฉินเสี่ยวเลี่ยนกลับไม่รู้ว่าควรตอบคำถามของซารอสยังไง ตอนที่ลังเลอยู่นั้น ชายหนุ่มคนนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ยังจะถามอีก หมอนี่ต้องเอาเงินที่มีให้นิดหน่อยตอนเริ่มต้นไปใช้ซื้อของอย่างอื่นหมดแน่ๆ เด็กใหม่แบบนี้ฉันเคยเห็นมาหลายคน มีอยู่ครั้งหนึ่งระหว่างทำภารกิจ ฉันเห็นว่ามีคนหนึ่งที่พอเข้ามาก็เอาเงินไปแลกเป็นยาอัพเกรดจนเกลี้ยง สุดท้ายก็สู้ไม่ไหว ขนาดยาเพิ่มเลือดก็ไม่มี เหนื่อยแทบตาย”
“ฮ่าๆๆ... ตลกจัง เดม่อน เธอเคยเจอคนซื่อบื้อขนาดนั้นจริงๆ เหรอ?” ซารอสมองดูเฉินเสี่ยวเลี่ยน “แต่ฉันว่าเขาดูไม่โง่ขนาดนั้นซะหน่อย”
หญิงสาวยิ้มอย่างมีเสน่ห์ จู่ๆ ก็ยื่นมือออกมาจับไหล่เฉินเสี่ยวเลี่ยนเอาไว้ “ไปเถอะ กลับไปแล้วเดี๋ยวฉันจะไปหายืมอาหารสัตว์ให้ สัตว์เลี้ยงของฉันเพิ่งอีโว[1]ไประหว่างการต่อสู้คราวก่อน ต้องหลับไปอย่างน้อยอีกสองดันเจี้ยน คราวนี้ฉันเลยไม่ได้พกอาหารสัตว์มา ไม่งั้นก็คงเอาให้เธอยืมใช้แล้วละ? เดม่อน? เธอพกมาบ้างหรือเปล่า?”
เดม่อนแบมือยักไหล่ “เธอก็รู้ว่าสัตว์เลี้ยงฉันไม่กินอาหารสัตว์”
“ฮึ คนขี้งก” ซารอสเดินเข้าไปใกล้ใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากเดม่อน พลางยิ้มหวานหยาดเยิ้ม “อะไรกัน เธอหึงงั้นเหรอ? กระทั่งกับเด็กเธอก็หึงเหรอเนี่ย?”
“ฮึ!” เดม่อนมองเฉินเสี่ยวเลี่ยน “ไปกันเถอะ เธอฟื้นฟูได้พอประมาณแล้วละมั้ง? หึ ดูแลเด็กใหม่นี่น่ารำคาญจริงๆ”
เขาหรี่ตาสำรวจเฉินเสี่ยวเลี่ยนทีหนึ่ง แล้วพึมพำว่า “โจมตีระยะใกล้ ความสามารถระดับ C หึ เหนื่อยตายแหงแบบนี้”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรีบหรี่ตามองบ้าง!
เขามองเห็นค่าสเตตัสเราได้!
ดูผ่านหน้าจองั้นเหรอ?
เฉินเสี่ยวเลี่ยนตีหน้านิ่งพลางสำรวจดู ทว่าน่าเสียดาย เขามองเห็นแค่ภาพประจำตัวของอีกฝ่ายเป็นสีเทา ไม่สามารถตรวจดูอะไรได้เลย
“ไม่ต้องดูแล้ว พวกเรามีการ์ดซ่อนกันทั้งนั้น ถ้าอยากรู้ความสามารถของเราก็บอกความสามารถของเธอมาก่อนสิ มาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันดีไหม?”
ซารอสเข้ามาใกล้อีกครั้ง
เฉินเสี่ยวเลี่ยนจงใจทำท่าถอดใจ แต่ในใจกลับรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง
นี่มันสาวนมโตไร้สมองชัดๆ เฉินเสี่ยวเลี่ยนวิจารณ์ในใจ
ตั้งแต่ต้นจนจบ เฉินเสี่ยวเลี่ยนได้ข้อมูลจากคำพูดของหญิงสาวที่ชื่อซารอสมากที่สุด ดูเหมือนว่าเธอเป็นคนร่าเริง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มที่ชื่อเดม่อนคนนั้นต่างหากที่รับมือยาก
อืม เมื่อกี้ยัยผู้หญิงซื่อบื้อนี่หลุดข้อมูลใหม่ออกมาอีกแล้ว
ถึงแม้พวกเขาจะมองเห็นระดับความสามารถโดยรวมของฉันได้ แต่กลับมองไม่เห็นว่ามีสกิลอะไรอยู่!
สกิล ‘เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ’ รอดพ้นสายตาพวกเขาไปได้ชั่วคราว
นี่นับเป็นข่าวดี ไม่ว่ายังไงมีไพ่ซ่อนไว้ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ก็ดีกว่าวันยังค่ำ
.....
ไม่ว่าเต็มใจหรือไม่ เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ได้แต่ตามสองคนนั้นไป
อืม คล้ายๆ กับเป็น... ปาร์ตี้ทีมเลยแฮะ?
ระหว่างทางคนที่ชื่อเดม่อนก็ถามเฉินเสี่ยวเลี่ยนอีกหลายอย่าง เฉินเสี่ยวเลี่ยนเล่าว่า ตอนที่ตัวเองตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นใครแล้ว ก็เลยออกมาดูลาดเลาคนเดียว เกี่ยวกับคนอื่นๆ เขาล้วนไม่รู้เรื่องทั้งสิ้น
“บนเครื่องบินยังมีใครอีกไหม?”
“มีอีก 3 คน คงตายหมดแล้ว” เฉินเสี่ยวเลี่ยนตอบไปแบบคลุมเครือ
“แล้วทำไมไม่รีบตามหาพวกเรา?”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนตอบทันควัน “ฉันต้องล่ามอนส์เตอร์ให้ได้ตัวหนึ่งก่อนถึงจะมีสิทธิ์เข้าดันเจี้ยน... ระบบมันว่าอย่างนั้นนี่นา”
“ฮ่าๆๆๆ เธอก็เลยเอาแมวคลั่งสี่ตาเป็นสัตว์เลี้ยงงั้นสิ?” ซารอสพูดแทรก
คำพูดคราวนี้ทำให้เฉินเสี่ยวเลี่ยนรอดตัวไปได้ เดม่อนหมดความสนใจที่จะตั้งคำถามขุดคุ้ยเขาอีก
ความเร็วในการเดินของทั้งสองคนไวมาก เฉินเสี่ยวเลี่ยนวิ่งตามสุดแรงก็ไล่ตามแทบไม่ทันหลายหน ขนาดว่าตัวเขาผ่านการอัพเกรดมาแล้วนะ ถึงจะอ่อนไปหน่อย แต่แค่ระดับ C ก็ทำให้เขาต่อยผนังเครื่องบินจนทะลุได้แล้ว พลังที่มีทิ้งช่องว่างต่างจากคนธรรมดามาก แต่กระนั้นการความเร็วในการวิ่งระยะสั้นกลับโดนสองคนนี้ทิ้งห่างไปอีกไกลโข
สองคนนี้ต้องแข็งแกร่งกว่ามากแน่นอน
โดยเฉพาะหญิงสาวที่ชื่อซารอสคนนั้น... ตัวนิ่มที่เล่นงานเขากับการ์ฟิลด์เกือบตาย ถูกธนูของหล่อนฆ่าตายในพริบตาเดียว
ส่วนนายเดม่อนคนนั้นดูไม่พอใจความเร็วการเดินของเฉินเสี่ยวเลี่ยนอย่างโจ่งแจ้ง เขาหยุดรอหลายครั้ง ยิ่งนานยิ่งหงุดหงิด ถึงขนาดที่ว่ายกขามาขัดเท้าเฉินเสี่ยวเลี่ยนถึงสองครั้งสองครา
จู่ๆ เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็รู้สึกว่านี่มันเหมือนผู้เล่นมือใหม่ซิงๆ เจอกับเทพทรู[2]ในเกมชัดๆ
......
เดินกันมาครึ่งค่อนวันก็ผ่านป่าผืนนั้นไปได้ แล้วต้องข้ามเขาด้านหน้าอีกลูกหนึ่ง
พอข้ามภูเขามาได้ เมื่อยืนอยู่บนยอดเขาก็เห็นหมู่บ้านที่อยู่ด้านล่าง เฉินเสี่ยวเลี่ยนพบเหล่าผู้โดยสารบนเครื่องบินที่หายสาบสูญในที่สุด!
ในหมู่บ้านมีบางอย่างที่คล้ายกระโจมเล็กๆ ใหญ่ๆ ปะปนแตกต่างกันไป
ด้านหนึ่งยังมีคนตั้งเตาไฟอยู่ด้วย
คนน่าจะมีราวๆ ร้อยกว่าคนได้ ทุกคนล้วนสวมชุดแปลกประหลาดที่คล้ายกับเดม่อนและซารอส เขาจึงไม่แปลกใจแล้ว
ทว่าเฉินเสี่ยวเลี่ยนกลับสวมแจ็คเก็ตธรรมดาๆ เหมือนกับเป็นแกะดำของกลุ่ม
เฉินเสี่ยวเลี่ยนมองสำรวจโดยละเอียดก็พบกับบางอย่าง กระโจมในหมู่บ้านพวกนั้นไม่ได้เชื่อมต่อกันทั้งหมด แต่เบ่งเป็นตะวันออกกลุ่มหนึ่ง ตะวันตกกลุ่มหนึ่ง แบ่งแยกกันไปหลายจุด ดูคล้ายว่าจงใจเว้นระยะห่างออกจากกัน
ซ้ำแต่ละคนก็อยู่ในบริเวณกระโจมของตน ไม่ได้มีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกับกลุ่มอื่นๆ
หืม?
แบ่งเขตค่ายเหรอ?
“เดี๋ยวพอลงไปแล้ว เธอก็ทำตัวฉลาดๆ หน่อยล่ะ” จู่ๆ ซารอสก็หัวเราะคิกอย่างมีเสน่ห์ พลางยื่นนิ้วมาเชยปลายคางของเฉินเสี่ยวเลี่ยน “ถ้ามีคนลากเธอเข้าทีม เธอรู้ใช่ไหมว่าควรตอบว่าไง?”
“...” เฉินเสี่ยวเลี่ยนพยักหน้าอย่างตั้งใจ “ผมจะบอกว่า ผมอยู่กับพี่ซารอสแล้ว”
“ฮ่าๆ ฉลาดจริงๆ ฉันหมั่นเขี้ยวอยากจะกัดแก้มเธอสักทีจริงๆ” ซารอสหัวเราะคิกคักขึ้นมาอีก “แต่ว่าไม่ใช่ฉันหรอกนะ ต้องเป็นกัปตันทีมของเราต่างหาก จำไว้ว่าทีมของเราชื่อสมาพันธ์ตัดวายุ คนที่ดูแลพวกเราคราวนี้คือรองหัวหน้าสมาพันธ์นิวตัน”
นิวตัน?
เอาเถอะ ถึงชื่อจะแปลกๆ แต่ถ้าว่ากันตามแบบเกมออนไลน์แล้ว... ถึงจะมีชื่อแปลกแค่ไหนก็ไม่แปลกสักนิด
ต่อให้มีชื่อว่า ‘หัวกรวย’ เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ไม่ประหลาดใจ
“ใช่สิ ยังไม่ได้ถามชื่อเธอเลย”
“ผมชื่อ... เสียวเหลี่ยน (หน้าเล็ก)” เฉินเสี่ยวเลี่ยนแอบโล่งใจ จู่ๆ ในหัวก็นึกถึงสาวน้อยโลลิที่ชื่อซูซูขึ้นมาแวบหนึ่ง
“เสียวเหลี่ยน? อืม หน้าเธอก็เล็กจริงๆ นะ” ซารอสดึงมือเฉินเสี่ยวเลี่ยนพาเขาลงเขา มีเดม่อนเดินตามอยู่ด้านหลัง
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกว่าสายตาที่เจ้าหมอนี่มองเขาดูเหมือน...มีบางอย่างเคลือบแคลงอยู่
…………………………
[1] Evolution มักเรียกโดยย่อกันว่า อีโว เป็นระบบวิวัฒนาการเพื่อเพิ่มหรือยกขีดความสามารถให้สูงกว่าเดิมตามลำดับขั้น
[2] เทพทรู เป็นคำใช้เรียกผู้เล่นที่เติมเงินซื้อไอเทมต่างๆ ภายในเกมเป็นจำนวนมาก เพื่อช่วยให้เก่งกาจเร็วขึ้น