ภาค 1 ตอนที่ 10 เปิดคลิป
ตอนที่ 10 เปิดคลิป
ขณะที่ปีศาจโกโก้กำลังกินสุกี้อยู่นั้น ที่หน่วยอาชญากรรมก็กำลังมีฉากเด็ดแสดงอยู่
ต้าเจิ้งยิ้มเยาะใส่หวังอี้เฟิง พลันประตูก็ถูกเปิดกระชากออก ไป๋หลิงพุ่งเข้ามาอย่างกับพายุ พุ่งมาจนถึงหน้าหวังอี้เฟิง มีคำพูดหลุดออกมาคำหนึ่ง
สัตว์!
คนทั้งห้องไม่รู้ว่าไป๋หลิงเกิดบ้าอะไรขึ้นมา เห็นเพียงเขาพูดคำนี้จบก็รีบพุ่งออกไป อีกสักพัก เขาก็อุ้มคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสีดำปรากฏตัวที่ห้องสอบสวนใหม่ กดปุ่มไปหลายปุ่ม หน้าจอมีหน้าต่างฉายคลิปออกมา
"อ๊า!... ฮือๆ!"
เสียงกรีดร้องและร้องไห้ที่ขาดเป็นห้วงๆ ของผู้หญิง
ผู้หญิงในคลิปถูกผู้ชายหลายคนรุมซ้อม ดึงผมยาวแล้วลากไปที่ส่วนลึกของพงไม้ข้างทาง เสียงหัวเราะของผู้ชายผสานกับการดิ้นรนของหญิงสาว มือเท้าที่ขยับถูกกดไว้...ชายคนหนึ่งอุดปากของเธอ แล้วกดมือทั้งสองไว้ อีกคนนั่งยองๆ อยู่ข้างตัวเธอฟาดใส่หน้าอกและต้นขา ส่วนคนที่สามคอยปรับมุมกล้อง บันทึกภาพทรมานและดิ้นรนของหญิงสาวทั้งหมดไว้ในคลิป...
เขาตบหน้าหญิงสาวอย่างแรงไปสองที คนที่ถูกตบกลัวจนตะลึงงันไม่ขยับอีก
เขาใช้ไม้ทิ่มส่วนล่างของหญิงสาว ทิ่มพลางหัวเราะมองดูหญิงสาวตะโกนร้องไห้
เขาลากใบมีดเล็กแล้วจิ้มไปที่หน้าอกของหญิงสาว บีบบังคับจนหญิงสาวร้องไห้อย่างแสนเศร้าพร้อมกับขยับตัวหลีกหนี...
เขาบีบคอหญิงสาว บังคับเธออ้าปากกว้าง ดิ้นรนจนหน้าออกสีม่วง ปล่อยมือ แล้วบีบใหม่...
ภาพนิ่งจากคลิปของหญิงสาวเหมือนกับรูปถ่ายสวีลี่ตอนมีชีวิตอยู่ไม่ผิดเพี้ยน
น้ำตาแห้งขอดไปแล้ว เหลือแต่เสียงหัวเราะเฮฮาของเหล่าผู้ชาย...
ภาพสุดท้ายคือพวกผู้ชายดึงผมของเธอลากถูอยู่บนสนามหญ้า หยุดอยู่จุดที่ห่างจากทางเท้าไม่ไกล ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น ผู้ชายอีกคนเข้าไปเตะแล้วพูดว่า "ยังมีชีวิตอยู่"
ท่ามกลางเสียงหัวเราะโห่ร้องของพวกผู้ชาย กล้องยิ่งเดินยิ่งไกล คนหนึ่งคุดคู้อยู่ในพงหญ้าที่รกร้าง เสื้อผ้าขาดจนเหมือนเป็นเศษผ้า ไม่ขยับเขยื้อน นอนคว่ำอยู่ตรงนั้น...
ภาพหยุดนิ่งไปแล้ว ในห้องสอบสวนเงียบกริบ
ต้าเจิ้งพูดโดยไม่แสดงอารมณ์ว่า "ไป๋หลิง พาหวังอี้เฟิงไป ขังเขาไว้กับศพของสวีลี่”
สายตาของหวังอี้เฟิงมีความตระหนกเกิดขึ้น มีเสียงติดขัดดังจากลำคอ...
ต้าเจิ้งไม่มองเขาแม้แต่หางตา พูดต่อว่า “เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะอยู่กับศพของสวีลี่ไม่ใช่เหรอ ให้เขาไปอยู่ ใส่กุญแจมือล็อคไว้ที่ข้างโต๊ะวางศพ มีอะไรยังพูดกันไม่จบ ปล่อยแกค่อยๆ พูดกับสวีลี่ไป”
พูดจบก็หันหลังเตรียมออกจากห้องสอบสวน ไป๋หลิงทำหน้าเหี้ยมไปจับมือของหวังอี้เฟิง หวังอี้เฟิงตะโกนขึ้นมาทันที "ผมสารภาพทั้งหมด ผมพูดทั้งหมด อย่า...อย่า..."
ต้าเจิ้งยืนอยู่ที่ประตู ค่อยๆ หันหน้ามายิ้มเยาะ "แกอยากพูดเหรอ ข้าไม่อยากฟัง มีคลิปนี้ หลักฐานอะไรก็มัดตัวแกได้อยู่แล้ว"
ไป๋หลิงลากตัวหวังอี้เฟิงออกไป ตลอดทางที่ลากไป หวังอี้เฟิงขอร้องไม่หยุด เมื่อเห็นตัวหนังสือห้องเก็บศพแต่ไกล หวังอี้เฟิงใช้พลังทั้งหมดในตัวยื้ออยู่ที่พื้น น้ำตาขี้มูกเต็มหน้า พูดอยู่อย่างเดียวว่าจะสารภาพ
ทุเรศน่าเกลียดยังไงอย่างนั้น
หวังอี้เฟิงพูดว่า คนที่ลงมือทั้งหมดมีผู้ชายสามคน พวกเขารู้จักกันจากเว็บที่คุยเรื่อง SM ปกติสามคนนี้ก็จะคุยหนังซาดิสม์ที่ดาวน์โหลดมาในยามว่าง วันหนึ่งมีคนเสนอขึ้นมาว่าน่าจะทำเลียนแบบหนังสักครั้งหนึ่ง วางแผนร่วมกันไประยะหนึ่ง หาเวลาสักวันมาเจอกันแล้วสุ่มจับหญิงสาวตัวคนเดียวที่อยู่ข้างถนนมาทำการทรมานและข่มขืนหมู่ในพงหญ้า
หวังอี้เฟิงพูดว่า อีกสองคนชื่อเจิงเจี้ยนหมิงกับอวี๋เทา คนเสนอเรื่องนี้กับถ่ายคลิปจะเป็นอวี๋เทาเป็นหลัก ทีแรกหวังอี้เฟิงกับเจิงเจี้ยนหมิงยังกลัวที่จะถูกจับได้ในภายหลัง หวังอี้เฟิงยังไปหาข้อมูลในเว็บไซด์ว่าคดีอย่างนี้จะตัดสินลงโทษยังไง แต่อวี๋เทารับประกันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"สบายใจได้ พ่อฉันใหญ่มาก"
"ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไร ก็จะจัดการให้พวกเราอย่างเรียบร้อย"
"อย่างมากก็แค่เสียเงินนิดหน่อย"
"ถึงเวลานั้น แค่ช่วยเอาพวกเราไปตรวจสุขภาพจิต แล้วบอกว่าพวกเราสามคนเป็นโรคจิตในบางเวลาก็พอ"
"จริงนะ ฉันเมาแล้วขับชนตำรวจจราจรตายไปคนหนึ่งเมื่อปีที่แล้วยังไม่เป็นไรเลย พวกนายเข้าใจแล้วใช่ไหม"
อวี๋เทายังหาเอกสารตอนคดีเมาแล้วขับมาให้ทั้งสองคนดู ในที่สุด ความเป็นมนุษย์ก็พ่ายแพ้ต่อความบ้าคลั่งต่อกิเลสตัณหา บวกกับรู้สึกว่าเล่นไม่ถึงขั้นตาย แล้วผู้หญิงก็อายที่จะไปแจ้งความอย่างแน่นอน ในที่สุดทั้งสามคนก็มีความคิดตรงกัน ลงมือปฏิบัติตามแผนการอย่างกระตือรือร้น
อวี๋เทา ชาย อายุ 26 ปี จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชั้นสาม เป็นรองผู้จัดการของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง
สำคัญอยู่ที่ว่า พ่อของอวี๋เทาชื่อว่าอวี๋ไหลเหอ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ของรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง สมาชิกสภาที่ปรึกษาการเมืองของประเทศ ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย แค่ตำแหน่งก็เยอะจนไม่พอที่จะใส่ลงในนามบัตรใบเดียวแล้ว
“อวี๋ไหลเหอเหรอ ถึงเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ก็จะเป็นไรไป” ต้าเจิ้งอ่านข้อมูลของสองคนนี้ “ไป๋หลิง นายไปหาอวี๋เทา เซวียหยาง นายไปหาเจิงเจี้ยนหมิง จำไว้อย่างหนึ่ง เลือกจับในเวลาที่มีคนเยอะๆ ปฏิบัติการถูกต้องตามระเบียบ อธิบายเสียงดังชัดเจนว่า ขอให้พวกเขาร่วมมือสืบสวนคดีอุกฉกรรจ์ที่มีการทารุณข่มขื่นหมู่ผู้หญิงจนตาย”
“ครับ!”
ต้าเจิ้งพูดอีกว่า “หวังอ้ายกั๋ว นายไปเอาหวังอี้เฟิงไปขังรวมกับนักโทษอุกฉกรรจ์”
หวังอ้ายกั๋วกะพริบตา ห้องที่ขังนักโทษอุกฉกรรจ์เขาเคยเห็น แต่ละคนรูปร่างกำยำอย่างกับมัจจุราช แค่ใช้สายตาที่เหมือนมัจจุราชจ้องมองนายโดยที่ไม่ทำอะไรก็ทนไม่ไหวแล้ว
แต่หวังอ้ายกั๋วไม่สามารถบังเกิดความรู้สึกสงสารต่อหวังอี้เฟิงได้
——————————————
โกโก้ยืนอยู่ที่ริมหน้าต่าง มองดูรถของหน่วยอาชญากรรมเปิดไซเรนขับออกไปทีละคัน
“พี่สวิน!...” เสี่ยวเจ๋อวิ่งมาหา “พวกเสี่ยวไป๋ไปจับไอ้ลูกหมาอีกสองคนแล้ว”
“ก๊อปปี้คลิปมาหรือยัง” โกโก้สีหน้าไร้อารมณ์
“เอ่อ...ก๊อปมาแล้ว...พี่สวิน พี่ไม่ดีใจเหรอ”
“นายได้ดูคลิปนี้หรือยัง”
เสี่ยวเจ๋อพยักหน้าช้าๆ
“นายคิดว่าฉันจะดีใจได้เหรอ” โกโก้หันไปมองนอกหน้าต่างอีก เมฆลอยเป็นก้อนๆ วันใหม่มาถึงทุกๆ วัน แต่ก็มีบางคนที่ไม่ได้เห็นอีก เพียงเพราะพวกเธอปรากฏตัวในสถานที่และเวลาที่ผิด
เห็นๆ อยู่ว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
สีหน้าของเสี่ยวเจ๋อก็สลดลง
โกโก้หันมาเห็นเสี่ยวเจ๋อทำหน้ามุ่ย ตบบ่าเขาอย่างแรงแล้วยิ้ม “ฉันจะออกไปข้างนอกหน่อย มีงานใหม่ให้ทำ” โกโก้ชี้ไปที่ตู้เก็บศพ “บาดแผลทุกที่ที่ฉันได้ระบุไว้ในรายงานที่แก้ให้นาย เก็บตัวอย่างขึ้นมา พร้อมกับระบุหมายเลขแล้วเก็บเอาไว้”
“เก็บตัวอย่าง จากบนตัวสวีลี่เหรอ”
“ใช่ จากบนตัวเธอ เก็บตัวอย่างผิวหนังทุกที่เปรียบเทียบกับรูปถ่ายที่พวกเราถ่ายไว้ก่อนหน้านี้ รอยจุดเล็กๆ ก็อย่าให้หลุดไป เดี๋ยวฉันกลับมาเช็คพร้อมกับนายอีกที”
เสี่ยวเจ๋อพยักหน้า
——————————————
ตอนที่โกโก้กลับจากข้างนอกเป็นเวลาหลังเลิกงานแล้ว ได้ข่าวว่าไป๋หลิงนำคนไปทำให้เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นมา ต่อหน้าคนทั้งบริษัท แจ้งว่า “ขอเชิญรองผู้จัดการของพวกเขามาให้ปากคำคดีข่มขืนผู้หญิง” แล้วบังคับพาคนไป อวี๋เทาด่าทอไปตลอดทาง จนกระทั่งถึงห้องสอบสวนก็ยังปฏิเสธให้ความร่วมมือ ตะโกนตลอดเวลาว่า “ตำรวจไม่ได้เรื่องอย่างพวกแก ตายแน่เลย! ตาย! แน่! แน่!”
ต้าเจิ้งปวดหัว พ่อของอวี๋เทา อวี๋ไหลเหอต้องได้ข่าวแล้วอย่างแน่นอน อีกไม่นานเบื้องบนก็ต้องกดดันลงมา ทนายและคนประกันจำนวนมากก็จะมาปรากฏตัวให้ความช่วยเหลือ อย่าว่าแต่กลัวเลย อวี๋เทาออกแรงโวยวายมากมายอย่างนั้น ก็เพื่อรอคณะช่วยเหลือมาถึง แล้วก็ร้องห่มร้องไห้แสดงว่า “ตัวเองได้รับความทุกข์มากมาย พวกตำรวจทรมานฉัน” ทนายมีวิธีมากมายที่จะให้เขาพ้นคดีไปอย่างเฉียดฉิว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอเรื่องอย่างนี้
ทำยังไงให้อวี๋เทาสารภาพในเวลาที่สั้นที่สุดกลายเป็นปัญหาหนักของหน่วยอาชญากรรมทั้งทีม
โกโก้ยิ้มน้อยๆ “สำหรับสัตว์แล้ว ก็ต้องใช้วิธีสัตว์ พาเขามาเที่ยวแผนกนิติเวชสิ”