DC บทที่ 26: ทำท่าเหมือนสุนัขติดสัด
เมื่ออยู่ในบ้าน ซูหยางพาเธอตรงไปที่ห้อง
หลี่เซียวโม่มองไปรอบๆ ด้วยความขยะแขยง “เจ้าทำธุรกิจในที่คับแคบเช่นนี้เสมอรึ แค่เข้ามาก็ทำให้ข้าเกือบอ๊วก..ช่างน่ารังเกียจนัก”
ก่อนที่จะมาที่นี่ หลี่เซียวโม่วางแผนไว้แล้วว่าจะให้ซูหยางเป็นคนรับใช้ของเธอ…เพียงแค่ได้ยินว่าเขารับลูกค้ามากมายเพียงใดเมื่อสองสามวันก่อนก็ทำให้เธอเกิดความโลภ ด้วยเชื่อว่าซูหยางทำเงินได้มาก
แม้กระทั่งศิษย์ในเช่นเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองซูหยางอย่างอิจฉาจากจำนวนของแต้มรางวัลได้รับในแต่ละวันที่แตกต่างกันอย่างมาก ถ้าเขาทำงานให้เธอ เงินทั้งหมดย่อมตกมาทำให้เธอร่ำรวยได้อย่างง่ายดาย
ด้วยฐานะและอำนาจของศิษย์ในเช่นเธอ หลี่เซียวโม่เชื่อมั่นอย่างมากว่าแผนเธอสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ จึงเป็นเหตุให้เธอมาหาซูหยางเพียงลำพัง
“นอนลง เราจะเริ่มในทันที” ซูหยางพูดกับเธอเสียงเรียบหลังจากปิดประตู
“นั่นคือคำพูดของขี้ข้าใช้กับเจ้านายรึ”
"..."
แม้ว่าซูหยางจะเห็นหญิงที่หยิ่งผยองและน่ารำคาญมาหลายคนในชีวิต หญิงคนนี้ก็ถือว่าเป็นสุดยอดในนั้น อย่างไรก็ตามเพราะเขามีประสบการณ์มากมายกับหญิงประเภทนี้ ซูหยางจึงรู้วิธีรับมือกับพวกเธอ
“นายหญิง โปรดนอนลงเพื่อผู้ต่ำต้อยคนนี้จะได้ทำให้ท่านรู้สึกดี” ซูหยางพูดแจ่มชัดจริงใจ ราวกับว่าเขาถือว่าเธอเป็นนายหญิงของเขา
แม้กระทั่งหลี่เซียวโม่ยังผงะจากการเปลี่ยนแปลงกระทันหันของเขา “ด..ดีมาก...”
เธอนอนคว่ำหน้าเผยส่วนหลังให้กับซูหยาง
“รีบหน่อย ข้ามีเวลามิมากนัก”
ซูหยางนั่งข้างเธอ เขาหลับตาลง
เมื่อเขาเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งในอึดใจต่อมา ก็เกิดประกายแสงวาบผ่านภายใน ปลายนิ้วเขาเปล่งแสงสีทองเรื่อเรือง
“นายหญิง...” ซูหยางพึมพัมขณะที่นิ้วเขาพุ่งตรงไปยังหลังของเธอ “ถ้าเจ้ายังสามารถหยิ่งผยองได้หลังจากนี้ ข้ายินดีเรียกเจ้าเป็นมารดา”
คำพูดของซูหยางทำให้หลี่เซียวโม่ผงะหงายตกตะลึง ขณะที่เธอกำลังจะอ้าปาก ความสุขเปี่ยมล้นก็ระเบิดขึ้นเป็นเหตุให้ความคิดเธอหยุดชะงักไปด้วยทัณฑ์สวรรค์
จิตใจหลี่เซียวโม่พลันว่างเปล่า ตาเหลือกค้างขึ้นข้างบน เสียงแหลมครางเล็ดลอดมาจากปากเธอ คล้ายเสียงสัตว์ร้ายหอนครวญ มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ด้วยคำพูด
ชั่วขณะที่นิ้วซูหยางสัมผัสกับหลังเธอ แสงสีทองพลันพุ่งหายเข้าไปในร่าง มันพุ่งทะลวงอยู่ภายในคล้ายกับมังกรท่องทะยานท่ามกลางฟากฟ้าดาราพราย เป็นเหตุให้ร่างของเธอเปล่งแสงสีทองอ่อนจางราวกับรัศมีเทพ
เคล็ดวิชานี้สร้างขึ้นมาโดยผู้นำลัทธิปีศาจแห่งหนึ่งในชีวิตก่อนของซูหยาง เพื่อใช้ผูกมัดร่างกายและจิตใจของผู้ที่ได้รับความหรรษา เคล็ดวิชานี้มีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือผูกมัดทาส ทาสแห่งความสุข และมันตกถึงมือซูหยางเมื่อเขากวาดล้างทำลายลัทธิหลังจากที่เขารับรู้ถึงการทดลองที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมที่ลัทธิทำต่อมนุษย์
หน้าผากซูหยางเกาะด้วยเหงื่อพราวเมื่อเขาสำแดงเคล็ดวิชาต้องห้าม เขาไม่คุ้นเคยกับเคล็ดวิชาชั่วร้ายนี้เพราะเขาใช้มันเพียงไม่กี่ครั้งในชีวิต
—
—
—
ซูหยางหยุดเพียงสองสามนาทีต่อจากนั้น เขามองไปยังหลี่เซียวโม่ผู้ที่บิดพล่านราวกับปลาที่ขาดน้ำ
“นี่คงเกินพอแล้ว..” ซูหยางปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก
“...หืม”
หลี่เซียวโม่พลันยึดชายเสื้อเขาไว้แน่น เธอจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความปรารถนา
“ข้าต้องการ…ทำให้ข้า...” หลี่เซียวโม่พึมพัมขณะที่เธอคืบคลานหาซูหยาง ใบหน้าแดงก่ำของเธอขยับเข้ามาใกล้เป้าของซูหยางอย่างช้าๆ พร้อมกับน้ำลายที่ไหลย้อยจากมุมปาก
ซูหยางเลิกคิ้วกับการกระทำของเธอ “เจ้าคิดว่าเจ้ากำลังทำอะไร” เขาพูดด้วยเสียงเรียบเฉยราวกับไม่หวั่นไหวไปกับท่าทางยั่วยวนบนใบหน้าของเธอซึ่งอาจทำให้ชายหลายคนคลั่งและกระโดดเข้าหาเธอโดยไม่ลังเล
“ได้โปรด...กับข้า.. ข้าต้องการ… ข้ายินดีทำทุกอย่างที่เจ้าต้องการ...”
ซูหยางดึงมือเธอออกจากชายเสื้อและแค่นเสียงเย็นชา “ฮึ่ม ช่างอุจาดนัยน์ตา มองดูเจ้าทำท่าเหมือนสุนัขติดสัด ใครกันแน่เป็นสุนัข”
“ข้า...ข้าเป็นสุนัข...ข้ายอมเป็นทุกอย่างที่เจ้าต้องการ เพียงแค่ให้ของเจ้า...”
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอจะอ้อนวอนอย่างไร ซูหยางเพียงยืนอยู่อย่างเงียบๆ ตรงนั้น
“ข้ามิสอดใส่น้องชายสูงค่าของข้าไปในที่สกปรกที่มิได้เป็นเจ้าของ”
ซูหยางส่ายหัวและหันกาย
“ร..รอก่อน… เจ้าจักไปไหน” หลี่เซียวโม่เริ่มตื่นตระหนกเมื่อสังเกตเห็นซูหยางเดินไปยังประตู
“ไปดูดาว เจ้าสามารถใช้เตียงข้าเพื่อสนองความต้องการของเจ้าได้ในเวลานี้ แต่ข้าต้องการให้เจ้าจากไปเมื่อข้ากลับมา”
“ม..ไม่ รอก่อน ได้โปรด อย่าปล่อยข้าไว้ที่นี่เช่นนี้ เจ้าไม่ควร ไม่ใช่หลังจากที่ทำให้ข้ารู้สึกเช่นนี้”
ซูหยางพลันแสดงให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาและยิ้มอ่อนโยน “ข้าเพิ่งทำ..” เขาพูดขณะที่เดินออกไปจากห้อง
ประตูปิด ทิ้งหลี่เซียวโม่ไว้เพียงลำพัง ตกตะลึงและเปียกแฉะ