ตอนที่แล้วบทที่ 5 ขอโทษฉันมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 7 หน้าแดงอย่างไม่เอาไหนอีกแล้ว

บทที่ 6 ฉางฉิง เธอจะดูถูกฉันหรือเปล่า


บทที่ 6 ฉางฉิง เธอจะดูถูกฉันหรือเปล่า

 

ฉางฉิงรู้สึกร้อนที่มือจนเกือบจะโยนโทรศัพท์มือถือทิ้ง

 

เธอดื่มน้ำหนึ่งอึกเพื่อคลายความตกใจ แล้วกดรับสายด้วยความร้อนตัวเล็กน้อย

 

ที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องรู้สึกร้อนตัว กว่านอิงเป็นฝ่ายนอกใจก่อน ส่วนเธอเองก็แค่ให้แฟนเก่าของกว่านอิงตรวจดูน้องสาวของตัวเองเท่านั้น...

 

ไม่ได้นะ เลิกคิดฟุ้งซ่านได้แล้ว

 

ฉางฉิงตบอกที่เต้นไม่เป็นส่ำเบาๆ แล้วเสียงอ่อนหวานของกว่านอิงก็ลอยมา “ฉางฉิง เธอกำลังทำอะไรอยู่เหรอ”

 

“ไม่ได้ทำอะไร ฉันกำลังพักผ่อนอยู่น่ะ” ฉางฉิงพยายามถามให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด “จู่ๆ เธอก็โทรมาหาฉัน มีอะไรเหรอ”

 

“ฉัน...เรื่องเมื่อคืนน่ะ...” กว่านอิงพูดอึกอัก “ฉางฉิง เธอคงรู้หมดแล้วสินะ แล้วเธอจะดูถูกฉันหรือเปล่า”

 

“จะดูถูกได้ยังไงกัน ที่จริงพวกเราก็อยู่ในสายอาชีพเดียวกัน ฉันเข้าใจ แล้วก็เข้าใจตัวเธอด้วย” ฉางฉิงไม่อยากให้เพื่อนไม่สบายใจ จึงพูดปลอบประโลม แต่เข้าใจก็ส่วนเข้าใจ อย่างไรเสียเธอก็ทำแบบนั้นไม่ลงอยู่ดี

 

ฉางฉิงคิดว่าหากจะเริ่มต้นคบหากับอีกคน อย่างน้อยที่สุดก็ควรที่จะจบความสัมพันธ์ครั้งเก่าก่อนแล้วค่อยเริ่มต้นใหม่ ถึงแม้คนๆ นั้นจะไม่ได้เรื่องเรื่องอย่างว่า แต่ก็ไม่ควรทำแบบนี้

 

“ฉางฉิง ฉันไม่ได้หน้าตาสะสวยเหมือนหร่วนยั่ง แล้วก็ไม่ได้โชคดีเหมือนกับเธอ มีคุณพ่อที่รู้จักสนิทสนมกับผู้อำนวยการสถานี ส่วนฉันได้แต่พึ่งตัวฉันเอง แต่ฉันก็ทุ่มเทพยายามมาหลายปีแล้ว ไม่เห็นจะมีใครมาดึงฉันขึ้นไปเลย การจะได้เงยหน้าอ้าปากนี่มันยากจริงๆ...”

 

“อืม...” ฉางฉิงถอนหายใจอยู่ในใจ กว่านอิงไม่เข้าใจหรอกว่าสถานการณ์ของเธอในตอนนี้ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย

 

การที่เบื้องหน้านั้นเธอดูราบรื่นดี นั่นเป็นเพราะคุณพ่อได้มอบเงินช่วยเหลือสนับสนุนก้อนใหญ่ให้กับทางสถานีโทรทัศน์เป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้บริษัทตระกูลเยี่ยนซบเซา ทำให้ไม่มีเงินมาช่วยเหลือสนับสนุน ตอนนี้ผู้อำนวยการสถานีจึงไม่สนใจใยดีเธอแล้ว รายการฟอร์มใหญ่สามสี่รายการที่วางแพลนไว้เรียบร้อยเมื่อต้นปีก็ตัดเธอออกจากรายชื่อทั้งหมด แล้วเธอก็มีลางสังหรณ์ว่าตำแหน่งพิธีกรรายการ ’ท้าทายสุดขั้ว’ ที่ตอนนี้เธอทำร่วมกับจั่วเชียนก็ดูท่าว่าใกล้จะรักษาไว้ไม่อยู่แล้ว

 

พอกว่านอิงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด จู่ๆ ฉางฉิงก็รู้สึกว่าเธอเกิดอาการเซ็งหนักยิ่งกว่าเดิม

 

_ _ _ _ _ _ _ _

 

ประมาณเที่ยงกว่าๆ ฉางซินก็มาช่วยถอดสายน้ำเกลือให้ฉางฉิง

 

ฉางฉิงปวดฉี่จนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว จึงรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ พอทำธุระเสร็จและออกมาล้างมือ ทันใดนั้นก็มีเงาร่างสีขาวเดินออกมาจากห้องน้ำชายที่อยู่ด้านข้าง

 

ฉางฉิงมองเห็นคราบเลือดสีแดงสดบนชุดกาวน์ของเขาก่อนเป็นอย่างแรก เธอกลัวจนก้าวถอยหลังไปสามสี่ก้าว จึงได้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชาของซ่งฉู่อี๋อย่างชัดเจน

 

“คุณ...คุณหมอซ่ง...” เธอเป็นคนกลัวเลือดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เสียงพูดก็พลอยสั่นเครือไปด้วย

 

ตอนที่เห็นเธอ ซ่งฉู่อี๋ก็ตะลึงงันไปเล็กน้อย

 

ก่อนหน้านี้เธอสวมผ้าปิดปากมาหาหมอ ดวงตากลมโตที่โผล่ออกมาเผยให้เห็นความสวยงามที่มีเสน่ห์อย่างหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่ากำลังหว่านเสน่ห์ใส่ผู้ชายอยู่ตลอดเวลา ซ่งฉู่อี๋จึงรู้สึกไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไร ตอนนี้เธอไม่ได้สวมผ้าปิดปาก ทั้งจมูกและริมฝีปากให้ความรู้สึกเหมือนภาพวาด ใบหน้าที่แก้มยุ้ยป่องไม่ได้แต่งหน้า ดูสะอาดหมดจด

 

รูปร่างหน้าตาจะพูดว่าใสบริสุทธิ์ก็ใช่ แต่ก็มีเสน่ห์ด้วย จะพูดว่ามีเสน่ห์ก็ใช่ แต่ก็ดูเหมือนใสบริสุทธิ์ด้วย

 

แล้วตอนนี้เองฉางฉิงถึงนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้สวมผ้าปิดปาก เขาคงจำไม่ได้หรอกมั้งว่าเธอเป็นเพื่อนของกว่านอิง

 

หลังจากนั้นสองวินาที เธอก็พบว่าตัวเองคิดมากเกินไป เพราะในดวงตาของอีกฝ่ายไม่มีเค้าแววว่าเจอคนที่รู้จักเลยสักนิด จริงสินะ เมื่อวานเธอไปตอนดึกแล้ว แล้วตอนที่เขากระฟัดกระเฟียดเดินจากไป ก็ไม่ได้มองหน้าเธอตรงๆ ด้วย

 

แต่ตอนนี้เขาจ้องมองเธอเขม็ง จู่ๆ ฉางฉิงก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาและเบือนหน้าหนี แล้วเธอก็เหลือบไปเห็นคัฟลิงค์ราคาแพงในแขนเสื้อที่โผล่ออกมาตอนที่เขาล้างมือ

 

ฉางฉิงนึกขึ้นได้ว่านักธุรกิจชื่อดังท่านหนึ่งที่มาให้สัมภาษณ์ที่สถานีโทรทัศน์เมื่อสามสี่วันก่อนก็ใส่คัฟลิงค์แบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้นได้ยินเพื่อนร่วมงานพูดว่าคัฟลิงค์แบบนี้เป็นคอลเล็คชั่นใหม่ของแบรนด์ดังแถบยุโรป ชิ้นหนึ่งราคาสูงถึงเจ็ดแปดหมื่นหยวน

 

หมอสมัยนี้เขารวยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

 

ท่าทางเรื่องอย่างว่าจะมีปัญหาจริงๆ ไม่อย่างนั้นกว่านอิงจะทิ้งคุณหมอผู้ร่ำรวย แล้วไปเสี่ยงเลือกฟู่อวี้ ผู้ชายที่ควบคุมยากแบบนั้นทำไมกัน

 

ฉางฉิงคิดว่าบางครั้งชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่เมื่อเทียบกับคนที่รักด้วยใจจริงแล้ว เธอขอเลือกอย่างหลังดีกว่า

 

“เพิ่งช่วยชีวิตคนไข้มา พอดีตอนผ่าตัดเลือดของคนไข้กระเซ็นใส่ผม ยังไม่ทันได้ไปล้างออก” ซ่งฉู่อี๋ได้สติกลับมาและพูดอธิบายเสียงเรียบ “ร่างกายรู้สึกดีขึ้นแล้วหรือยังครับ”

 

...........................................................

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด