ตอนที่ 49 การกลับมาของหัวหน้า
ค่าประสบการณ์180000 45000มาจากภารกิจแมงมุมดำ และส่วนอื่นก็มาจากความพยายามในการประดิษฐ์มีดพับและดินปืนระเบิดแรงสูง ปัจจุบัน พิมพ์เขียวทั้งสองอยู่ในระดับ2และ3ตามลำดับ ด้วยความที่พวกมันถูกและสร้างได้ง่าย พวกมันจึงเลื่อนระดับได้ง่าย ต่างกับพิมพ์เขียวอื่นๆอย่างแขนกลน้ำหนักเบาหรือโรเวอ
หนึ่งเดือนผ่านไปนับแต่หานเซี่ยวมาถึงเมืองหลวงตะวันตก ตั้งแต่นั้นมา หานเซี่ยวก็ได้รับค่าประสบการณ์ทั้งสิ้นสองแสนหน่วย ซึ่งเทียบได้กับหนึ่งในสามของสิ่งที่เขาได้รับตอนอยู่ในองค์กรต้นกำเนิดหกเดือน ตอนนี้ ด้วยเงินกว่า1.5ล้านเหรียญ การเงินจึงเป็นเรื่องที่หานเซี่ยวกังวลน้อยสุด
การเลื่อนคลาสแรกคือตัวเปลี่ยนเกมที่ใหญ่สุดเพราะมันมอบคุณสมบัติด้านพลังงานให้ผู้เล่น
หานเซี่ยวกดนิ้วโป้งเข้ากับนิ้วชี้เบาๆ ทันทีที่เขาทำเช่นนั้น นิ้วชี้เขาก็ถูกห่อหุ้มด้วยอากาศที่มองไม่เห็น มันให้ความรู้สึกคล้ายกระแสไฟฟ้าอ่อนๆและหานเซี่ยวก็มองเห็นว่ามันคือแม่เหล็ก แม่เหล็กคือหนึ่งในคุณสมบัติของช่างกล การต่อสู้-ความฉลาด มันไม่ได้ทรงพลังเท่าคุณสมบัติทำลายล้างของไฟหรือสายฟ้า เป้าหมายหลักมันคือการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับจักรกลของช่างกล สุดท้ายมันจะช่วยให้มีการสร้างอัตโนมัติขึ้น
ธาตุพลังงานไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ที่ธาตุธรรมชาติ พวกมันกลับถือเป็น’แนวคิด’ของการใช้พลังงาน ยกตัวอย่างเช่น ธาตุพลังงานของผู้บงการจิตก็คือ[วิญญาณ] นอกจากนี้ ธาตุพลังงานยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตัวอย่างเช่น นักสู้ที่บ่มเพาะเทคนิคอันหลากหลายสามารถรับรู้ความเร็วของลม พลังของไฟ หรือความแข็งของเหล็ก
[การคิดเชิงนามธรรม]และ[ความสัมพันธ์กับจักรกลขั้นกลาง]คือตัวอธิบาย ขณะที่[ยิงกราด]คือทักษะป้องกัน
หากหานเซี่ยวเลือกเส้นทางของปรมาจารย์ปืนใหญ่ เขาคงได้รับทักษะใหม่สามอัน แต่ทว่า เขาเพียงได้รับแค่หนึ่ง:[ยิงกราด] ซึ่งเป็นทักษะป้องกัน หานเซี่ยวไม่ใช่คนขี้ขลาดที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับศัตรู แต่เขาก็ชอบทักษะที่สามารถใช้ทั้งรุกและรับได้พร้อมกับสร้างความเสียหายรุนแรง นอกจากนี้ การได้รับกระสุนไร้ขีดจำกัด แม้จะเป็นชั่วคราว มันก็ยังถือว่ามีประโยชน์
[เทคนิคการฝึกฝนพลังงาน]คือทักษะทั่วไปที่ได้รับหลังเลื่อนสายอาชีพ
มันคือทักษะ’เติบโต’ประเภทพิเศษที่ไม่ต้องใช้ระบบวัดระดับ ผลของมันสามารถพัฒนาได้ผ่านการใช้งานและการฝึกซ้ำๆ และแต่ละครั้งที่ใช้ก็จะเพิ่มพลังงานของตัวละคร จนกระทั่งถึงขีดจำกัด ธาตุพลังงานของผู้ใช้จะมีส่วนสำคัญในการฝึกฝน
เทคนิคการฝึกฝนที่เกี่ยวข้องกับพลังงานส่วนใหญ่จะมีระบบเติบโตเช่นนี้
พลังงานคือส่วนสำคัญของยอดมนุษย์ มันเป็นส่วนตัดสินถึงระดับพลังและเกรดของตัวละคร ระดับขั้นพลังงานมีดังนี้
ระดับ 1 -10
ระดับ 2 - 50
ระดับ 3 - 100
ระดับ 4 - 200
ระดับ 5 - 400
ระดับ 6 - 1,000
...
ไม่เพียงแต่ระดับพลังงานขั้นต่อไปจะช่วยเพิ่มโบนัสสถานะ มันยังช่วยให้ปลดล็อคความสามารถเมื่อถึงระดับหนึ่ง
ระดับ1คือเกณฑ์มาตรฐาน และในขณะที่ฮีล่าอยู่ในระดับแค่30 ระดับพลังงานเธอก็ถึง500โอน่าแล้ว มันมากกว่าหานเซี่ยวถึง5เท่า หนึ่งในเหตุผลนี้คือระบบเทคนิคการฝึกฝนพลังงาน
โลหะผสมทองคำขาวคือพิมพ์เขียววัตถุประเภทใหม่ที่จำต้องใช้[องค์ประกอบวัสดุขั้นกลาง] ตัวโลหะผสมมีสีเขียว และมันก็เหมาะกับการทำชุดเกราะเพราะมันแข็งแกร่ง ข้อกำหนดการสร้างมันคือพื้นฐานการกลั่นระดับ5
จากค่าประสบการณ์180000ในมือ หานเซี่ยวตัดสินใจใช้25000หน่วยเพื่อเลื่อนสายลับเป็นระดับ10 นี่ทำให้เขาได้รับสถานะ(+2พละกำลัง +2ความเชี่ยวชาญ +3ความทนทาน +1เสน่ห์)รวมถึงแต้มพรสวรรค์และแต้มสถานะอย่างละหนึ่งหน่วย
ตรวจพบการเลื่อนขั้น!ต้องการลบสายอาชีพ[พลเรือน]หรือไม่?
ใช่/ไม่
[พลเรือน]เป็นเพียงคลาสเริ่มต้นสำหรับตัวละครใหม่ มันสามารถลบออกได้หลังการเลื่อนขั้นครั้งแรก ค่าประสบการณ์ที่ผู้เล่นใส่ลงคลาส[พลเรือน]จะได้รับคืนเมื่อถูกลบ เว้นแต่ผู้เล่นจะอยากเก็บเอาไว้
“ลบ”หานเซี่ยวพึมพำ ไม่มีอะไรสูญเสียจากการลบมัน
คลาส[พลเรือน]ได้หายไปจากหน้าต่างข้อมูล หลงเหลือบเพียง[สายลับ]ระดับสูงสุด รวมถึงตัวละครระดับ21ของหานเซี่ยว
ต่อไป หานเซี่ยวได้ใส่ค่าประสบการณ์45000กับการเพิ่ม[พื้นฐานการยิง]เป็นระดับ10 ซึ่งช่วยมอบความแม่นยำให้เขา10% +2ความเชี่ยวชาญและแต้มพรสวรรค์
เวลาไม่นาน หานเซี่ยวก็ได้ใช้ค่าประสบการณ์ไปถึง7หมื่นหน่วย แต่เขาก็ยังเก็บไว้64000หน่วยสำหรับ[เทคนิคการฝึกฝนพลังงาน] ทำให้เขาเหลือค่าประสบการณ์...ขอเวลาคำนวณแปป..
47000หน่วย!
“ฉันจะเก็บมันไว้ก่อน”หานเซี่ยวพึมพำ คร่ำครวญกับค่าประสบการณ์ที่หายไป
โชคดี มันยังมีดินปืนระเบิดแรงสูงที่เขาเก็บไว้ มันทำให้เขามั่นใจได้ว่าจะได้รับค่าประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง
...
เมื่อถึงเวลา กู่ หุ่ยก็มาพาตัวหานเซี่ยวกลับขึ้นไปชั้นบนที่ที่เฟิงจุนกำลังรออยู่
ทันใดนั้น หานเซี่ยวก็นึกได้ถึงบางอย่าง
“ใช่แล้ว ผมได้ยินว่าคนที่ชื่อโคแรทคือตัวกระตุ้นเหตุการณ์นี้ ช่วยกระจายคำพูดผมด้วยว่าผมจะไม่ขายอะไรให้กับคนๆนี้”
เฟิงจุนหน้าบึ้ง
“คิดว่าผมเป็นผู้ส่งสารหรือยังไง?”
หานเซี่ยวเลิกคิ้ว
“แล้วไม่ใช่หรอ?”
เฟิงจุนอ้าปาก แต่กลับไม่มีคำพูด
“ได้”เขาคำราม
...
“เขาบอกว่าฉันถูกขึ้นบัญชีดำ?”
โคแรทหัวเราะเสียงเย็น ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน
ตลอดเวลา เขาเพียงนึกถึงผลประโยชน์ส่วนตน และไม่เคยเห็นว่าหานเซี่ยวจะคุกคามเขายังไง
...
หลังเรื่องราวจบ หานเซี่ยวก็กลับโรงงาน และสามวันก็ผ่านไปอย่างสงบสุข
ด้วยการเลื่อนขั้น หานเซี่ยวจึงต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับร่างกายที่พัฒนาใหม่ ด้วยประสบการณ์ชีวิตก่อนหน้า เขาจึงปรับตัวได้รวดเร็วและเริ่มฝึกฝนด้วย[เทคนิคฝึกฝนพลังงาน] การฝึกแต่ละครั้งจะใช้ค่าประสบการณ์ รวมถึงค่าความแข็งแกร่ง อัตราการฟื้นความแข็งแกร่งถูกจำกัด และหานเซี่ยวก็ต้องทำการผลิต เขาจึงฝึกได้แค่สองครั้งต่อวัน
ท่านได้ฝึกฝนด้วย[เทคนิคฝึกฝนพลังงาน]หนึ่งครั้ง
การเรียนรู้ : 81%
ความแข็งแกร่ง+3
ประสิทธิภาพการฝึกขึ้นอยู่กับสถานะหลักของสายอาชีพ สถานะหลักสำหรับช่างกลคือสติปัญญา ดังนั้นเขาจึงทุ่มเทแต้มสถานะอีก4แต้มกับสติปัญญา ทำให้ตอนนี้เขามีสติปัญญา36หน่วย ก่อนหน้านี้ หานเซี่ยวต้องใส่แต้มสถานะกับพละกำลังและความทนทาน แต่นั่นก็เพื่อหลบหนีจากองค์กรต้นกำเนิด นับจากนี้ เขาจะทุ่มเททุกอย่างกับสติปัญญาเท่านั้น
ประสิทธิภาพของ[เทคนิคฝึกฝนพลังงาน]ถูกแบ่งเป็นสามขั้น:
+1ความแข็งแกร่งสำหรับการเรียนรู้ต่ำกว่า40%
+2ความแข็งแกร่งสำหรับการเรียนรู้40%-80%
+3ความแข็งแกร่งสำหรับการเรียนรู้80%ขึ้นไป
หานเซี่ยวอยู่ขั้นที่3
หานเซี่ยวไม่มีคนให้ปล่อยมีดพับสำหรับตอนนี้ และหลายวันก็ผ่านไป เขารู้สึกว่ามันถึงเวลาต้องปล่อยดินปืนแล้ว ตอนนี้ เขาได้ทำการผลิตกระสุนนับพัน
ขณะที่เขากำลังจะโทรหาหลี่ ย่าหลิน เธอก็โทรหาเขาเสียก่อน
“หัวหน้าเพิ่งออกจากโรงพยาบาล เขาเรียกรวมพวกเรา”
…
หานเซี่ยวพบว่าตัวเองเป็นคนสุดท้ายที่มาถึงห้องประชุมหน่วย ชายที่ไม่คุ้นเคยมีใบหน้ารูปสี่เหลี่ยม และเขาก็ดูทั้งยุติธรรมและเข้มงวด เขาดูน่าเชื่อถืออย่างมาก
“งั้น นายก็คือหานเซี่ยว?”
ดวงตาของหัวหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความระวังตัวขณะสำรวจหานเซี่ยว
หานเซี่ยวระวังตัวขึ้น แต่ทันใดนั้น หลินเหยาก็กระตุกแขนเสื้อเขาและพึมพำ“เขาเคยพูดว่าใครก็สามารถเข้าร่วมหน่วยลับได้ แต่เนื่องจากกรณีนายพิเศษ และนายก็ได้รับอนุมัติจากเบื้องบนโดยไม่ผ่านเขา เขาจึงไม่พอใจเล็กน้อย แต่ไม่ต้องห่วง แม้หัวหน้าจะเข้มงวด แต่เขาก็ไม่ใช่คนเลว”
นั่นอธิบายสิ่งต่างๆได้ดี
หานเซี่ยวตกใจเป็นครั้งที่สองเมื่อเขาหันไปมองหลิน เหยา ทั่วร่างหลินเหยาถูกห่อด้วยผ้าพันแผล และเขาก็ดูเหมือนมัมมี่อย่างมาก มีเพียงตาและปากเขาที่เผยออกมานอกผ้าพันแผล มันเป็นสภาพที่น่าสมเพชอย่างมาก
“ใครทุบตีนาย?”หานเซี่ยวถามอย่างสับสน
ทันใดนั้น หลี่ย่าหลินก็กระแอมออกมา
หลิน เหยามองเขาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เปลี่ยนคำพูด“ผะ-ผมหกล้ม”
หานเซี่ยวมีสีหน้าแปลก บาดแผลเขาดูสาหัสอย่างมาก หากเขาล้มจริงๆ เขาต้องล้มเป็นร้อยครั้ง
“ให้ฉันได้แนะนำตัวก่อน”หัวหน้ากล่าวแทรก
“ฉันคือหัวหน้าทีม จาง เหว่ย”เขาแนะนำตัว สร้างความตกใจให้หานเซี่ยวเป็นครั้งที่สาม (น่าจะแปลว่ายิ่งใหญ่สง่าผ่าเผย ฮ่าๆ)
“เซ้นส์ด้านการตั้งชื่อของพ่อแม่คุณมันอะไรกัน?!ผมคิดว่าคงมีแค่เย่ ฉิวหรือเย่ ฟ่านที่แย่ยิ่งกว่านี้!”
การตอบสนองของหานเซี่ยวกลับทำให้จาง เหว่ยดูสับสนขึ้น
“นายรู้จักเย่ ฟ่านจากกระทรวงกลาโหมไห่ เซี่ยด้วย?กลาง—อะแฮ่ม-ฉันหมายถึง ฉันเคยทำงานร่วมกับเขาหลายครั้ง”
สวรรค์!มีคนชื่อนั้นจริงๆ?อันดับของคนๆนั้นต้องเป็นS+!
“ช่างเถอะ”จาง เหว่นพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง“ด้วยการมาของนาย ทีมเราจึงกลับมาเป็น5คน แม้ตำแหน่งนายจะเป็นแนวหลัง ฉันก็ยังต้องบอกว่า : ด้วยความที่เบื้องหลังนายลึกลับ และฉันก็ยังไม่เชื่อใจในความสามารถของนาย ฉันจึงจะเฝ้าสังเกตนายไปก่อน ฉันไม่สนใจว่าจะเป็นสายลับระดับสูงที่ส่งนายมาที่นี่ แต่หากนายไม่อาจทำตามความคาดหวังฉัน ฉันจะเตะนายออกจากทีม”