ตอนที่ 40 ป่าแห่งความมืด
ในป่าแห่งความมืดเต็มไปด้วยสัตว์ลมปราณ มันเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างมากหากเจียงวู่เฉิงต้องการไปที่แคว้นเทียนหนาน
วันแรกสำหรับการเดินทางไปที่ป่าแห่งความมืด
ในส่วนลึกของป่า
"โฮก!"
หลักจากเสียงคำราม เงาสีน้ำเงินก็พุ่งออกมาราวกับภูตผีไปที่เจียงวู่เฉิงและซื่อหม่าปู้ ทั้งคู่นั้นมีการตอบสนองรวดเร็วอย่างมาก พวกเขาสามารถหลบมันได้อย่างง่ายดาย
"มันคือเสือดาวโลหิต ไม่น่าแปลกใจเลยว่ามันรวดเร็วถึงเพียงนี้"ซื่อหม่าปู้กล่าวเสียงต่ำพลางมองสัตว์ร้ายที่โจมตีพวกเขา
"ท่านหลบไป ให้ข้าจัดการเอง"เจียงวู่เฉิงกล่าวพร้อมกับจ้องมองไปที่มัน เขาดึงดาบสะบั้นชีพออกมาจากฝักดาบที่หลังของเขา ทันใดนั้นก็ปรากฏแสงดาบมุ่งตรงไปที่เสือดาวโลหิต
"ระวังให้ดี เสือดาวโลหิตตัวนี้ได้ไปถึงอาณาทะเลลมปราณอันลึกซึ้งแล้ว..."ซื่อหม่าปู้กล่าวเตือนเขา
แสงของดาบนั้นเหมือนกับเขตแดนหิมะที่ไร้ครอบเขต
"เคร้ง!เคร้ง!เคร้ง!"
หลังจากนั้นแสงดาบก็แยกออกเป็นสามสาย แสงดาบนั้นดูสวยงามอย่างมาก ในเวลานั้นเสือดาบโลหิตก็พุ่งออกมาข้างหน้า สี่เท้าของมันเหยียบลงพื้นอย่างหนักแน่นจากนั้นร่างของมันก็เปลี่ยนเป็นสายฟ้าและพุ่งเข้าไปหาเจียงวู่เฉิงอย่างรวดเร็ว
"จิ๊!"
ในขณะนั้นแสงดาบอันเฉียบคมก็ทะลุร่างของเสือดาวโลหิต ท้องของมันเริ่มมีเลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอวัยวะภายในทั้งหมดเริ่มตกลงมา ทำให้มันถึงแก่ความตายในทันที
"อ่อนแอเกินไป"เจียงวู่เฉิงเหลือบมองไปที่ศพของมันและส่ายหัวออกมา
เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้ว สัตว์ลมปราณในระดับเดียวกันนั้นจะมีพลังมากกว่า อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่ในการต่อสู้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับสัญชาตญาณของสัตว์ร้าย แต่ยังไงก็ตาม มันก็อาจจะยังห่างไกลกว่านักรบที่ฝึกศิลปะการต่อสู้
"ข้ามาถึงขั้นที่9ของวิถีลมปราณ พลังลมปราณของข้าสามารถนำไปเปรียบเทียบได้กับระดับสูงสุดอาณาทะเลลมปราณอันลึกซึ้งได้ แต่ด้วยการอาศัยความสามารถทางเชิงดาบ สัตว์ลมปราณที่อยู่ในขั้นอาณาทะเลลมปราณลึกซึ้งนั้นไม่ได้คุกคามข้าแม้แต่น้อย ถ้าพวกมันอยู่ในขั้นสูงสดของอาณาทะเลลมปราณอาจจะพอคุกคามข้าได้บ้าง"เจียงวู่เฉิงกล่าวพร้อมกับความคาดหวังที่ปรากฏในสายตาของเขา
มันอาจจะมีไม่กี่สิ่งในป่าแห่งความมืด แต่มันมีสัตว์ลมปราณอยู่มาก
ที่นี่มีสัตว์ลมปราณจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในขั้นอาณาทะเลลมปราณ แต่มีเพียงสัตว์ไม่กี่ตัวเท่านั้นที่มีพลังอาณาแก่นทองคำ มันเป็นสถานที่บ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมแต่ก็เต็มไปด้วยอันตรายเช่นกัน
"อ่า! ความสามารถทางเชิงดาบของเจ้านั้นยอดเยี่ยมจริงๆ!"ซื่อหม่าปู้เดินเข้ามาหาเจียงวู่เฉิงด้วยความประหลาดใจ"นอกจากนี้การบ่มเพาะของเจ้าก็ไม่เลว เจ้าสามารถที่จะฆ่าเสือดาวโลหิตในทันทีได้อย่างไร? นอกจากนี้ตอนนี้เจ้าอายุเท่าไหร่?"
"สิบหก"เจียงวู่บอกอายุของเขา
ซื่อหม่าปู้จ้องมาที่เขา
"พี่ชายปู้ ต่อไปนี้ถ้าหากไม่จำเป็นจริงๆท่านไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ ข้าสามารถที่จะจัดการสัตว์ป่าเหล่านี้ได้"เจียงวู่เฉิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
"ได้เลย นั่นฟังดูเยี่ยมไปเลย"ซื่อหม่าปู้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม โดยไม่จำเป็นต้องถามเพราะเขารู้จุดประสงค์ของเจียงวู่เฉิงดีอยู่แล้ว
ครึ่งวันต่อมา..
“หนุ่มน้อย..สิ่งที่เจ้ากำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้คือหนูจอมพุ่งในขั้นสูงสุดอาณาทะเลลมปราณ มันไม่เพียงแค่รวดเร็ว ทุกส่วนบนร่างกายของมันนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากยกเว้นดวงตาของมัน แต่วิธีการฆ่ามันคือโจมตีที่ดวงตาของมัน เจ้าต้องระวังฟันของมันซึ่งมีความแข็งแรงอย่างมาก ดังนั้นเจ้าควรป้องกันตัวเองจากการถูกกัด”ซื่อหม่าปู้เตือนเขา
เจียงวู่เฉิงจ้องไปที่หนูจอมพุ่ง มันตัวเล็กเป็นอย่างมากแต่กลับมีดวงตาที่ดุร้าย
"ฟุบ!"
หนูจอมพุ่งส่งเสียงจากนั้นก็พุ่งร่างของมันออกมา
"เพลงดาบเพลิงม่วง!"
เจียงวู่เฉิงพลันเปลี่ยนเป็นร้อนแรง เขาใช้ดาบสะบั้นพิฆาตที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงและฆ่าหนูจอมพุ่งในทันที
การต่อสู้นั้นดุเดือดเป็นอย่างมาก
เนื่องจากร่างกายของหนูจอมพุ่งนั้นแข็งแกร่งมาก เจียงวู่เฉิงจึงไม่สามารถโจมตีมันได้ จุดอ่อนเดียวของหนูจอมพุ่งคือดวงตาของมัน อย่างไรก็ตามมันเป็นที่ที่โจมตีได้ยากเป็นอย่างมากเนื่องจากความเร็วของมัน ในที่สุดเจียงวู่เฉิงก็ถูกบังคับให้ใช้เพลงดาบนิรนามย่างก้าวโลหิต เขาตวัดดาบของเขาไปทางมันอย่างรวดเร็ว ด้วยกระบวนท่านี้เขาจึงฆ่ามันสำเร็จ
โชคไม่ดีที่เขาได้รับบาดแผลจากการกัดที่ไหล่ของเขา มันเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
"เดินทางต่อไป!"
เพียงแค่ทำแผลบนไหล่ของเขา เจียงวู่เฉิงก็ฟื้นฟูพลังลมปราณและเดินทางต่อในทันที
ในคืนนี้แสงจันทร์ส่องสว่างอย่างมาก แต่แสงนั้นส่องไม่ถึงภายในป่า ความมืดมิดที่เกิดขึ้นในป่านั้นน่ากลัวอย่างมาก
บนต้นไม้ที่สูงใหญ่ ซื่อหม่าปู้มองไปที่เจียงวู่เฉิงซึ่งกำลังฝึกฝนตนเองอยู่เป็นครั้งคราว
"หนุ่มน้อยคนนี้ฝึกฝนหนักอย่างมาก เขาเข้มงวดกับตัวเองจริงๆ"ซื่อหม่าปู้หัวเราะ
ถึงแม้ว่าเขาจะพึ่งเข้ามาในป่าแห่งความมืด แต่ซื่อหม่าปู้ก็สัมผัสได้ถึงความบ้าคลั่งของเจียงวู่เฉิง
ในเวลาเพียงวันเดียว เจียงวู่เฉินผ่านการต่อสู้ถึง8ครั้ง โดยมี6ครั้งที่คู่ต่อสู้อยู่ในขั้นอาณาทะเลลมปราณอันลึกซึ้ง ส่วนอีก2ครั้งอยู่ที่จุดสูงสุดของอาณาทะเลลมปราณ
ด้วยความแข็งแกร่งของเจียงวู่เฉิงในปัจจุบัน มันเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากที่จะสู้กับสัตว์ร้ายที่อยู่ในขั้นสูงสุดของอาณาทะเลลมปราณโดยไม่ใช้วิชาลับผลาญวิญญาณ เช่นวันนี้เมื่อเขาต่อสู้กับสัตว์ร้ายที่อยู่จุดสูงสุดอาณาทะเลลมปราณแม้ว่าเขาจะสามารถฆ่ามันได้ แต่เขาก็ต้องบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
ก้อนเนื้อขนาดใหญ่ถูกกัดออกจากไหล่ของเขา และสัตว์ร้ายอีกตัวที่อยู่จุดสูงสุดอาณาทะเลลมปราณก็ได้ฝากรอยแผลไว้ที่เหนือหน้าอกของเขาด้วยกรงเล็บที่แหลมคมของมัน
อันที่จริงแล้วสัตว์ลมปราณในป่าแห่งความมืดนั้นมีอยู่มากมายในป่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบสัตว์ร้ายจำนวนมากที่อยู่ขั้นอาณาทะเลลมปราณอันลึกซึ้งหรือจุดสูงสุดอาณาทะเลลมปราณตั้งแต่วันแรก ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเพราะเจียงวู่เฉิงพยายามค้นหาสัตว์ร้ายที่ทรงพลังเหล่านี้เพื่อต่อสู้กับพวกมัน
"ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดูบ้ามากๆ แต่เขาก็พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์เหล่านี้ ยิ่งกว่านั้นวิชาดาบของเขาก็ดีมาก"ซื่อหม่าปู้พูดกับตัวเอง
"ความสามารถทางเชิงดาบ?"ซื่อหม่าปู้สัมผัสถึงมันได้ในไม่ช้า
เช้าตรู่ของวันถัดไป เจียงวู่เฉิงลืมตาขึ้นมาด้วยความดีใจ
หลังจากผ่านไปหนึ่งคืนพลังลมปราณของเขาได้รับการขัดเกลาเล็กน้อย และถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างน้อยเขาก็ก้าวหน้าขึ้นทีละนิด การต่อสู้ด้วยการเดิมพันด้วยชีวิตในป่าแห่งความเงียบพร้อมกับสัตว์ร้ายช่วยขัดเกลาเขาได้อย่างมาก
"วันนี้ ข้าจะฝึกต่อ..."เจียงวู่เฉิงบีบมือของเขาแน่น ความบ้าคลั่งปรากฏอยู่ที่ปรากฏอยู่ที่ดวงตาของเขา มันไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อยแต่กลับเพิ่มมากกว่าเดินอีกเล็กน้อย
...
ปล.คืนวันเสาร์ไม่ได้ลงนะครับ พอดีติดธุระเจอกันอีกทีวันอาทิตย์ครับ