ตอนที่ 24 ประลองดาบคืนจันทร์เพ็ญ
ตอนที่ 24 ประลองดาบคืนจันทร์เพ็ญ
ฟินโอร่าเห็นทหารชุดทองก็รู้สึกแปลกใจ จึงกล่าวว่า “เจ้าเป็นใคร? เหตุใดจึงซ่อนตัวหลังพุ่มไม้”
เรดิกัลกล่าวว่า “หม่อมฉันเป็นทหารชื่อริเวล พอดีหม่อมฉันกำลังเดินตรวจตราบริเวณนี้ ตอนแรกนึกว่าเป็นผู้แปลกปลอมเดินเข้ามาจึงไปหลบซ่อนตัวไว้ หม่อมฉันไม่ทราบว่าเป็นพระนางฟินโอร่า”
เรดิกัลกล่าวโกหกอย่างรวดเร็วโดยไม่สะดุดติดขัด ฝีมือการโกหกของเขาคล่องแคล่วไม่ต่างจากเพลงดาบ
ฟินโอร่าพยักหน้ากล่าวว่า “งั้นเจ้าไปทำหน้าที่ต่อเถอะ”
เรดิกัลพยักหน้าตอบและรีบหันกายเดินออกจากสวนทันที
ทันใดนั้นเรดิกัลรู้สึกมีกระแสลมพุ่งมาด้านหลังเขา เขารีบสะบัดดาบไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
เคร้ง !! ดาบของเรดิกัลปะทะกับดาบของฟินโอร่าที่แทงมา
เรดิกัลกล่าวถามว่า “ท่านฟินโอร่า ท่านทำอะไร?”
ฟินโอร่าเลิกคิ้วเรียวงามกล่าวว่า “เจ้าเป็นทหารในวังแต่ไม่ทำความเคารพข้า เจ้าเป็นใครกันแน่?”
ชีวิตเรดิกัลเป็นถึงกษัตริย์ย่อมไม่ต้องทำความเคารพผู้ใด ต่อมาแม้จะถูกสาปเป็นสตรีก็ยังไม่ยอมทำความเคารพผู้ใดทั้งสิ้นต่อให้เป็นราชาฟินเดลเองก็ตาม ดังนั้นเขาในชุดทหารจึงลืมที่จะทำความเคารพฟินโอร่าด้วย เป็นเหตุให้นางจับผิดได้
เรดิกัลยังแสร้งกล่าวว่า “ท่านฟินโอร่า ข้าไม่เข้าใจความหมายของท่าน”
ฟินโอร่าสะบัดดาบอย่างรวดเร็วแทงใส่คอเรดิกัลทันที !
แววตาเรดิกัลพลันคมกริบดุจคมดาบ เขาขยับกายหลบดาบฟินโอร่า จากนั้นแทงดาบอย่างว่องไวดุจประกายแสงใส่ฟินฟินโอร่า
เคร้ง ! ดาบของคนทั้งสองปะทะกันอีกครา ฟินโอร่ารั้งดาบของนางกลับมารับดาบเรดิกัลได้
แววตาเรดิกัลปรากฏความอำมหิตขึ้น หวนนึกถึงสตรีนางนี้มักสงสัยในตัวเขา หากสังหารนางในที่นี่ได้ก็จะไม่ผู้ใดสงสัยเรื่องเขาอีก
ทันใดเรดิกัลขยับแขนอย่างรวดเร็ว จากนั้นฟาดฟันดาบดุจพายุร้าย ตั้งแต่โดนสาปเป็นสตรี เรดิกัลในร่างบุรุษไม่ได้จับดาบมานาน ยามนี้ได้ใช้เพลงดาบออกยิ่งรู้สึกสนุกสมใจ ดาบของเรดิกัลเสียดสีกับอากาศจนได้ยินเสียงดังหวืด
แววตาฟินโอร่าพลันสงบลง ตรงกันข้ามกับเพลงดาบของเรดิกัลที่ฟาดฟันมาอย่างรุนแรง นางจ้องมองทิศทางดาบที่แทงมาพร้อมขยับกายหลบ ดาบเรดิกัลยิ่งรวดเร็ว แต่ร่างของฟินโอร่ายิ่งเร็วกว่า เรดิกัลแทงออกสิบดาบ นางก็หลบได้ทั้งสิบดาบอย่างง่ายดาย
ทันใดนั้น ฟินโอร่าแนบแขนข้างที่ถือดาบชิดลำตัว ศอกของนางเอียงไปด้านหลังเล็กน้อยจากนั้นแทงดาบออก พลังดาบรุนแรงจนเกิดเสียงเสียดสีในอากาศ
เรดิกัลจดจำได้ว่านี่เป็นท่าที่ราชาฟินเดลเคยใช้กับเขาตอนซ้อมดาบ เขาทราบว่าท่าดาบนี้รุนแรงไม่ควรรับตรง ๆ เรดิกัลรีบถอยกายไปด้านหลังทันที ดาบของฟินโอร่าจึงแทงพลาดผิดไป
ฟินโอร่าอุทานดังเอ๊ะ นางรู้สึกแปลกใจที่ทหารเกราะทองรู้เพลงดาบของนางได้ล่วงหน้า
แต่ไม่มีเวลาให้นางขบคิด ดาบของเรดิกัลก็ฟันมาอีก เพลงดาบของเรดิกัลตอนนี้คล้ายขุนเขาที่หนักแน่น เพลงดาบแกร่งกร้าวรุนแรง ฟินโอร่าแม้ขยับกายหลบได้ แต่นางถูกเพลงดาบเรดิกัลไล่ต้อนไม่หยุด
มุมปากของเรดิกัลปรากฏรอยยิ้ม เขามั่นใจต้องชนะฟินโอร่าแน่ เขาฟันดาบใส่ไหล่ซ้ายฟินโอร่าอย่างรวดเร็ว แต่แววตาฟินโอร่าพลันคมกริบ นางบิดเอวคราหนึ่งก็เอี้ยวกายหลบดาบเรดิกัลได้ จากนั้นแทงสวนใส่เรดิกัล บีบให้เรดิกัลต้องถอยกายไป
ทันใดนั้น ฟินโอพุ่งร่างอย่างรวดเร็วดุจสายลม เห็นประกายสีเงินนับร้อยสาย ฟินโอร่าแทงดาบออกนับสิบครั้งในแต่ละชั่วพริบตา เรดิกัลตื่นตระหยกยิ่งเขาไม่คิดว่าเพลงดาบฟินโอร่าจะร้ายกาจปานนี้ เขาได้แต่สะบัดดาบตั้งรับไว้ ถอยกายไม่หยุด
นอกจากจอมเวทจันทรา เรดิกัลเห็นว่าสตรีนางนี้มีเพลงดาบน่ากลัวที่สุด !
ความจริงเรดิกัลคิดใช้เวทมนต์แห่งความมืดสังหารฟินโอร่า แต่เขาประดาบกับนางก็ตกเป็นเบี้ยล่าง ความรู้สึกไม่ยอมแพ้สตรีในเชิงดาบประดังขึ้นมา เขาพลันแทงดาบออกหมายสังหารฟินโอร่าในดาบเดียว
ฟินโอร่าสะบัดดาบตีโต้ หากเพลงดาบของเรดิกัลรวดเร็วรุนแรงดุจพายุร้ายโหมกระหน่ำ เพลงดาบของฟินโอร่าก็รวดเร็วดุจแสงอัสนีบาตฟาดยากมองทัน
ได้ยินเสียงดาบปะทะกันหลายร้อยครั้ง ทั้งสองเร่งเพลงดาบตนให้ถึงระดับความเร็วสูงสุด เรดิกัลฝึกเวทมนต์แห่งความมืดถึงขั้นสูง ส่วนฟินโอร่าก็แตกฉานเวทมนต์แห่งไฟ แม้ทั้งสองไม่ได้ใช้พลังเวทเข้าต่อสู้กัน แต่พลังเวทของทั้งสองต่างก็ไหลเวียนไม่หยุดยั้งก่อเกิดเป็นกระแสพลังรอบ ๆ ตัวทั้งสองขึ้น
ไอเวทความมืดของพลังเวทเรดิกัลครอบคลุมกายฟินโอร่าจนนางรู้สึกอึดอัดกดดัน ส่วนไอความร้อนของพลังเวทไฟฟินโอร่าก็คุกคามเรดิกัลจนรู้สึกร้อนแสบผิว
บริเวณที่ทั้งสองปะทะกันเกิดเป็นสนามพลังที่มองไม่เห็น เศษใบไม้ที่พัดผ่านเข้าไปในบริเวณที่ทั้งสองต่อสู้ถูกกระแสพลังเวทของทั้งสองบดจนแหลกละเอียด !
เพลงดาบของเรดิกัลกับฟินโอร่ามีข้อแตกต่าง เปลือกนอกเพลงดาบทั้งสองแม้จะรวดเร็วเหมือนกัน แต่เพลงดาบขอเรดิกัลหนักแน่นรุนแรงกว่า ส่วนเพลงดาบของฟินโอร่าคล่องแคล่วพลิกแพลงได้ว่องไวกว่า ทุกครั้งที่เรดิกัลใช้เพลงดาบไล่ต้อนจนฟินโอร่าจนมุม ฟินโอร่ามักมีท่ามาแก้และจู่โจมกลับเสมอ
ทั้งสองยิ่งประลองยิ่งรู้สึกชื่นชมอีกฝ่าย ตลอดชีวิตเรดิกัลดูถูกสตรีมาตลอด แต่เมื่อได้พบเพลงดาบของฟินโอร่าอย่างน้อยความคิดดูถูกสตรีก็ลดลง ยิ่งฟินโอร่าแล้ว เรดิกัลไม่มีความคิดดูถูกนางเหลืออยู่เลย
ท่ามกลางแสงจันทร์เพ็ญที่ส่องสว่าง ใบไม้จากต้นไม้ก็ทยอยร่วงหล่นไม่หยุด เงาร่างของบุรุษสตรีคู่หนึ่งที่ประลองดาบกันอย่างรวดเร็ว ประกายดาบสีเงินกรีดวาดสะท้อนกับแสงจันทร์คล้ายเป็นภาพวาดอันสลับซับซ้อน ก่อให้เกิดเป็นภาพงดงามประทับใจ
“หากเราในร่างสตรี สามารถใช้เพลงดาบได้เทียบเท่านางก็ไม่ต้องเกรงกลัวใครอีก แม้แต่นักฆ่าที่ใช้กริชแห่งลม” เรดิกัลครุ่นคิดขึ้น
พริบตาที่เรดิกัลเสียสมาธิ ดาบของฟินโอร่าแทงใส่อกเขาอย่างรวดเร็วดุจประกายไฟ เรดิกัลเบี่ยงกายหลบ ฟินโอร่าขยับข้อมือตวัดดาบขึ้นแทงใส่ใบหน้าเขา เรดิกัลรีบแทงดาบใส่คอฟินโอร่าอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้า โดยไม่หลบดาบฟินโอร่าอีก
นี่เป็นท่าแทงหวังให้ตกตายตามกันของเรดิกัลเพื่อบีบให้ฟินโอร่าต้องรีบรั้งดาบกลับไปป้องกันตัวหรือไม่ก็ขยับกายหลบ
ฟินโอร่าเห็นดาบเรดิกัลแทงมาก็รีบหมุนกายหลบอย่างว่องไวดุจสายลม แต่ดาบของนางยังคงแทงต่อ โดยไม่หลงกลเรดิกัล
เคร้ง !
เสียงดาบของฟินโอร่ากระเขี่ยถูกหมวกเหล็กทหารของเรดิกัลจนหลุดออก เบื้องหน้านางคือบุรุษผมดำคิ้วเข้ม ใบหน้าคมคายผู้หนึ่ง
ส่วนดาบของเรดิกัลแม้จะแทงไม่ถูกคอฟินโอร่า แต่ระหว่างที่ฟินโอร่าหมุนกายหลบ ดาบของเรดิกัลก็บังเอิญสะกิดถูกที่มัดผมสีแดงของนางขาด ฟินโอร่าในชุดรัดกุมปล่อยผมยาวสยายสีดำแซมน้ำตาล ใบหน้างดงามดุจกุหลาบผลิบาน ให้ความงดงามไปอีกแบบแตกต่างจากฟินโอร่าในชุดสวมกระโปรงยาวอย่างสตรีสูงศักดิ์
ทั้งสองจ้องตากัน การประลองในคืนนี้ทั้งคู่รู้สึกสนุกสมใจมากกว่าเป็นการสังหารเอาชีวิต
เรดิกัลอยู่ในร่างสตรีมานานทั้งเดือนรู้สึกอัดอั้น ส่วนฟินโอร่าก็กลุ้มใจในเรื่องของน้องชาย ทั้งสองได้ระบายความอัดอั้นของตนผ่านการประดาบครานี้
เรดิกัลถามว่า “จะประลองอีกหรือไม่?”
ฟินโอร่าถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”
เรดิกัลไม่ตอบ
ทันใดนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมากดังขึ้น ที่แท้การประลองของทั้งสองเกิดเสียงดาบกระทบกันดังไม่หยุด ทำให้ทหารที่แม้จะอยู่บริเวณที่ห่างไกลจากสวนนี้ยังได้ยินและต่างยกกำลังมาตรวจตรา
เรดิกัลกล่าวว่า “วันนี้ยังไม่พิสูจน์ผลแพ้ชนะ คืนจันทร์เพ็ญหน้า ข้าขอนัดประลองกับเจ้า แต่อย่าได้พาทหารมาให้วุ่นวาย”
ฟินโอร่ากล่าวว่า “ดาบของข้าไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้อื่น”
เรดิกัลพยักหน้าเล็กน้อยกล่าวว่า “เหนือกว่าบุรุษทั้งปวงในโกลด์เด้นกราวด์จริง ๆ”
จากนั้นเรดิกัลก็พุ่งกายหมายจากไป แต่คนผู้นี้บุกเข้าวังหลวงโดยพละการ ฟินโอร่าไหนเลยจะยอมให้มันหนีไปได้ นางพุ่งกายอย่างรวดเร็วตามติดเขา
“เวฟออฟดูม” (Wave Of Doom-เกลียวคลื่นแห่งคราเคราะห์) เรดิกัลร้องพร้อมฟันมือซ้ายออกแนวขวาง คลื่นพลังรูปเสี้ยวจันทร์สีดำก็จู่โจมใส่ศัตรูทันที
แต่ที่จู่โจมใส่ไม่ใช่ฟินโอร่า แต่เป็นเหล่าทหารกองหนึ่งที่กำลังวิ่งมา
“ไฟ ฟิลล่า” (Fire Pillar – เสาแห่งเปลวเพลิง) ทันใดนั้นพลังไฟพุ่งออกจากปลายมือของฟินโอร่าเป็นทางยาวเหมือนดั่งเสา พลังไฟจู่โจมใส่เวทเกลียวคลื่นแห่งคราเคราะห์ของเรดิกัลทันที
เวทความมืดและไฟระดับสูงปะทะกันจนเป็นแรงระเบิดขึ้น เกิดเป็นพลังคลื่นความร้อนมหาศาลกระจายออกเป็นวงกว้าง แม้แต่เหล่าทหารยังถูกกระแทกจนกระเด็นล้มลง
ฟินโอร่าทราบทันทีว่าหลงกล เรดิกัลใช้เวทความมืดโจมตีใส่ทหารนางเพื่อให้นางหันไปช่วยไม่มีเวลาติดตามเขาอีก เมื่อมองไปอีกทีร่างของเรดิกัลหายไปกับความมืดแล้ว
ฟินโอร่ารู้สึกสับสน นางไม่ทราบบุรุษหนุ่มที่บุกเข้าวังมาผู้นี้เป็นใครและมีเจตนาใด ที่สำคัญฝีมือดาบคนผู้นี้ไม่ด้อยไปกว่านาง
นกเธอร์ดิกซ์เห็นเรดิกัลหนีไปจึงบินติดตาม แต่ฟินโอร่าเป่าปากเรียกมันกลับมา นางเกรงสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของนางจะถูกเรดิกัลใช้เวทความมืดทำร้าย
ตลอดชีวิตของฟินโอร่าไม่เคยพบกับผู้ที่มีฝีมือทัดเทียมกับนางมาก่อน
ฟินโอร่ารู้สึกว่าที่นางเรียกนกของนางอย่าได้ติดตามเรดิกัล อาจเป็นเพราะนางยังไม่อยากไล่ตามเรดิกัลไปต่อสู้จนตัดสินเป็นตาย นางอยากประลองดาบกับบุรุษลึกลับผู้นี้ในคืนจันทร์เพ็ญหน้า
ใบหน้าอันคมคายของเรดิกัลปรากฏขึ้นในใจของฟินโอร่า
เรดิกัลรีบวิ่งเข้าไปในสวนอีกแห่งของวังหลวงซึ่งซ่อนเสื้อผ้าของเซน่าไว้ แม้แถวนั้นมีทหารอยู่บ้าง แต่เขารีบโกหกว่ามีศัตรูบุกเข้ามาในวังหวังทำร้ายพระพี่นางฟินโอร่า เขากำลังตามคนไปช่วย เหล่าทหารทราบว่ามีศัตรูบุกเข้าวังอีกก็รีบพาพรรคพวกไปช่วยฟินโอร่า
เรดิกัลหลบซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ในสวนอย่างใจเย็น เขาประลองเพลงดาบกับฟินโอร่าเกือบทั้งคืน เวลาผ่านไปอีกระยะหนึ่ง แสงตะวันก็สาดส่องแทนแสงจันทรา
เซน่าเดินออกจากพุ่มไม้ในยามรุ่งอรุณ นางเดินกลับเข้าวังไปที่ห้องพักของนาง เซน่ารู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาทั้งคืน จึงเอนกายที่เตียงและนอนลง
ไม่ทราบเวลาผ่านไปนานเท่าใด นางได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นและตะโกนเรียกนาง
เป็นเสียงของแม่บ้านรอนด้า
เซน่าต้องการนอนต่อจึงตะโกนสั่งให้แม่บ้านไม่ต้องเข้ามา
แม่บ้านรอนด้ากล่าวว่า “ข้ามีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทราบ ท่านเซน่าโปรดเปิดประตูด้วย”
เซน่าไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรจึงไปเปิดประตู เห็นรอนด้ามีสีหน้ายิ้มแย้มกล่าวว่า “ยินดีกับท่านเซน่าด้วย”
เซน่าถามไปว่ามีอะไร
รอนด้ากล่าวว่า “ฝ่าบาทฟินเดลได้กำหนดวันพิธีแต่งงานกับท่านแล้ว”
เซน่ากล่าวเสียงดังว่า “เจ้ากล่าวเหลวไหลอะไร?”
แม่บ้านรอนด้ารู้สึกงงงัน เซน่าเข้ามาในวังเพื่อเป็นราชินี ฟินเดลกำหนดวันทำพิธีแต่งงานกับนางก็นับเป็นเรื่องถูกต้อง ไม่ทราบเหลวไหลอย่างไร
แม่บ้านรอนด้ากล่าวว่า “นี่…นี่”
นางเองก็ไม่ทราบจะพูดอย่างไรเพื่อเอาใจเซน่าที่จู่ ๆ ก็อารมณ์เสีย
เซน่าไล่รอนด้าออกไปและปิดประตูเสียงดัง ความง่วงของนางหายไปหมดสิ้น
พิธีแต่งงานของฟินเดลจะเริ่มขึ้นในอีกสิบวันข้างหน้า ดูไปเป็นเวลากระชั้นชิดยิ่ง แต่ที่จริงฟินเดลได้สั่งเตรียมงานไว้ล่วงหน้าตั้งแต่รับเซน่าเข้าวังมาเมื่อสิบกว่าวันก่อนแล้ว
ในวันที่ฟินเดลจัดพิธีเลือกคู่เกิดการสูญเสียชีวิตขึ้น เขาจึงไม่อยากจัดงานให้ใหญ่โตนัก ดังนั้นการเตรียมงานแต่งของกษัตริย์ฟินเดลแม้จะมีเวลาเพียงยี่สิบกว่าวันแต่ก็เพียงพอ
ยามบ่าย ช่างตัดเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงจากเมืองหลวงอีรอสมาวัดตัวเซน่าเพื่อตัดชุดแต่งงานอันงดงามให้นาง แต่ก็ถูกเซน่าใช้ดาบมูนสตรองไล่ตะเพิดออกไป
ฟินเดลได้ข่าวว่าเซน่าอาลาะวาดอีกก็ไม่พอใจ เขาจึงเดินเข้ามาหาเซน่าถึงที่ห้องนอนนาง
ฟินเดลสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อยกล่าวว่า “เหตุใดเจ้าไม่ยอมตัดชุดแต่งงาน?”
เซน่ากล่าวว่า “ข้าไม่ชอบ”
ฟินเดลกล่าวว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบสวมกระโปรง แต่ครั้งนี้เจ้าจะเอาแต่ใจอย่างที่ผ่านมาไม่ได้ เจ้าไม่ยอมเรียนพิธีการต่าง ๆ ในวัง ข้าก็ไม่อยากถือสา แต่การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญไม่อาจปล่อยให้เจ้าทำตามอำเภอใจได้”
ที่ผ่านมาเซน่ารับปากแต่งงานกับฟินเดลเพราะต้องการอยู่ในวังเพื่อสืบเรื่องราวของหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียน แต่เมื่อคืนนางได้เหรียญทองแดงของนักบุญเจฟมา เมื่อตรวจสอบแล้วก็ยังไม่ค้นพบอะไร ยังไม่ทันคิดแผนการณ์อื่นได้ นึกไม่ถึงกำหนดวันทำพิธีแต่งงานจะมาอย่างรวดเร็วเช่นนี้
เซน่ากล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการแต่งงาน”
ฟินเดลกล่าวเสียงเครียดว่า “เจ้าไม่ต้องการแต่งงาน แล้วเจ้ารับปากข้าทำไม?”
เซน่าก้มหน้าลงกล่าวว่า “ข้าเกรงว่าพวกชายชุดดำจะกลับมาฆ่าคนอีก พวกมันอาจฉวยโอกาสทำร้ายท่านในวันที่มีคนจำนวนมาก”
ฟินเดลคาดไม่ถึงว่าเซน่าจะเป็นห่วงเขา ฟินเดลยิ้มพลางกล่าวว่า “เจ้าไม่ต้องห่วง หากครั้งนี้พวกมันมาอีก ข้าจะให้มันเห็นอานุภาพของดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอส”
แววตาเซน่าปรากฏประกายวูบ ตั้งแต่นางเข้าวังมาก็มัวแต่ยุ่งเรื่องของหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียน นางถึงกับลืมเรื่องดาบศักดิ์สิทธิแห่งอีรอสซึ่งเป็นอาวุธที่มีพลังระดับพระเจ้าไปเสียได้
เซน่ากล่าวว่า “วันนั้นท่านจะพกดาบมาหรือไม่?”
ฟินเดลพยักหน้ากล่าวว่า “เพื่อปกป้องเจ้าและผู้คน ข้าจะทำ”
สมองเซน่าครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว หากวันแต่งงานฟินเดลพกดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอสมา วันนั้นคงมีคนมาร่วมงานจำนวนมากนางคงไม่มีจังหวะช่วงชิงมาได้ แต่ถ้าเป็นยามค่ำคืนเมื่อเข้าหอนางอาจมีโอกาสช่วงชิงมา !
การใส่กระโปรงหนึ่งครั้งแลกกับดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอส ไม่มีอันใดไม่คุ้มค่า?
วัยสิบปี เรดิกัลเคยปลอมเป็นเด็กรับใช้เข้าค่ายโจรสังหารหัวหน้าค่ายโจร
วัยยีสิบสี่ปี เคยปลอมเป็นทหารเลวเพื่อลอบสังหารพญามัจจุราชเพลิงคอร์แซค
วัยยี่สิบห้าปี ปลอมเป็นผู้คุ้มกันท่านหญิงลินเดียร์เพื่อเข้าวังโกลด์เรนเดียร์
เมื่อคืน ปลอมตัวเป็นราชองครักษ์หลอกขโมยเหรียญนักบุญเจฟ
ครั้งนี้หากเขาจะปลอมเป็นราชินีสักครั้ง แม้จะเป็นความอัปยศอย่างใหญ่หลวงแต่วันหนึ่งเมื่อเขาได้กลับคืนร่างบุรุษ ผู้คนก็จะค่อย ๆ ลืมเซน่าไปเอง
เซน่าคิดได้เช่นนี้จึงกล่าวว่า “ท่านเรียกช่างตัดชุดมาเถอะ”
ฟินเดลยิ้มอย่างพอใจ รอยยิ้มของเขาช่างอ่อนโยนดุจแสงตะวันที่ส่องแสงอ่อน ๆ ยามเช้า
เขาเอื้อมมือไปหมายลูปหัวเซน่า แต่เซน่าถอยกายหลบกล่าวเสียงเข้มว่า
“ยังไม่ถึงเวลา”
ฟินเดลรู้สึกเซน่ามีนิสัยแปลกประหลาด แต่เขาก็ไม่ต้องการถือสามากนักจึงกล่าวว่า “เมื่อถึงเวลาเจ้าอย่าได้ปฏิเสธ”
เซน่าใช้เวลาค้นหาความลับในเหรียญทองแดงแต่ก็ไม่ค้นพบ เซน่าไปหานักบุญเจฟพบว่าเขามีสีหน้าเศร้าหมองเพราะเหรียญสัญลักษณ์แห่งเจ้าวิหารถูกขโมยไป ซึ่งนักบุญเจฟไม่ได้พูดจากับเซน่ามากนัก ทำให้เซน่าไม่สามารถสืบทราบอะไรได้อีก
บางครั้งเซน่าคิดจะเอาเหรียญนี้ไปคืนนักบุญเจฟ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากลองทำลายเหรียญนี้ให้สิ้นเรื่องราวเพื่อดูว่ามีความลับอะไรหรือไม่?
ขณะที่เซน่ายังตัดสินใจไม่ได้ วันเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วดุจใบไม้ร่วงหล่น วันแต่งงานของกษัตริย์ฟินเดลและเซน่าก็มาถึง…
-----------------
ตอนต่อไปเซน่าต้องแต่งงาน จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก? รับรองสนุกแน่และเตรียมเข้าสู่ฉากใหญ่ บอกใบ้ให้แค่นี้จ้า