DC บทที่ 25: ศิษย์ใน
บรรดาศิษย์ในนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม กลุ่มศิษย์นอก กลุ่มศิษย์ใน และกลุ่มศิษย์หลัก
บางคนสามารถเข้าร่วมกับนิกายได้ในฐานะศิษย์นอกตราบเท่าที่พวกเขามีเงื่อนไขครบถ้วนตามที่นิกายกำหนดและผ่านการทดสอบแรกเข้า
เมื่อเป็นศิษย์นอกแล้วพวกเขาสามารถใช้ทรัพยากรทุกอย่างที่ตนเองมีเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง หลังจากที่พวกเขาก้าวไปถึงจุดหนึ่งที่กำหนดไว้เป็นเงื่อนไขการเป็นศิษย์ใน พวกเขาจะต้องผ่านการทดสอบชุดหนึ่งที่กำหนดไว้โดยนิกาย ถ้าพวกเขาผ่าน พวกเขาก็จะกลายเป็นศิษย์ในซึ่งได้รับสิทธิ์ในการศึกษาเคล็ดการฝึกฝนที่แข็งแกร่งขึ้นและทรัพยากรที่บรรดาศิษย์นอกได้แต่ฝันไฝ่ แม้ฐานะในนิกายก็สูงขึ้น
และต่างจากเหล่าศิษย์นอกซึ่งถือว่าเป็นบุคลากรสิ้นเปลือง บรรดาศิษย์ในล้วนถือว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ซึ่งควรค่ากับการส่งเสริม ดังนั้นพวกเขาจึงมีความสำคัญที่สมควรให้คำแนะนำและทรัพยากรของนิกาย
ส่วนศิษย์หลักนั้น พวกเขาถือว่าเป็นเสาหลักของนิกายถือว่ามีสถานะสูงยิ่งกว่าผู้อาวุโสนิกาย ผู้ที่สามารถเป็นศิษย์หลักได้นั้น ไม่ว่าจะสำนักไหนก็ตามล้วนถือว่าพวกเขาเป็นอัจฉริยะและมีความสามารถพิเศษ ถือเป็นสัตว์ประหลาดที่ไม่สามารถวัดด้วยสามัญสำนึกและมีโลกส่วนตัว
เมื่อเด็กสาวในชุดเขียวตรงไปยังที่พักของซูหยาง การปรากฏตัวของเธอเรียกความสนใจของศิษย์นอกทุกคนในบริเวณใกล้เคียง
“เฮ้ ดู นั่นศิษย์ใน”
“คำนับศิษย์พี่”
แม้ว่าบรรดาศิษย์จะไม่รู้จักชื่อเธอ พวกเขายังมองเธอด้วยความเคารพนับถือ สำหรับเหล่าศิษย์นอกการเป็นศิษย์ในหมายถึงฐานะและอำนาจ ความไฝ่ฝันที่ทุกทุกคนต้องการเป็น
และเป็นการยากมากที่บรรดาศิษย์ในจะออกจากเขตของพวกเขา นั่นเป็นเหตุให้บรรดาศิษย์ต่างประหลาดใจและตื่นเต้นเมื่อเห็นเขาสักคนที่นี่
หญิงสาวสังเกตเห็นความสนใจ เธอจึงโบกมือทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
บรรดาศิษย์รู้สึกหัวใจเต้นถี่เร็วเหมือนตีกลองเมื่อเห็นรอยยิ้มงดงามของเธอ บางคนถึงกรีดร้องจากความตื่นเต้น
“ข้าใคร่ขอถาม ใช่มีศิษย์ชื่อซูหยางอาศัยอยู่ที่นี่หรือไม่” หญิงสาวไต่ถาม
บรรดาศิษย์ผงกศีรษะอย่างแข็งขัน บางคนชี้ไปยังทิศทางประตูบ้านซูหยาง “เขาอยู่ที่นั่น”
“ขอบคุณ” หญิงสาวกล่าวก่อนจะมุ่งตรงไปยังที่พักซูหยาง
เธอเคาะประตูทันทีที่มาถึงหน้าประตู และซูหยางก็ออกมาภายในเวลาไม่นานหลังจากนั้น
“ข้าพอจักช่วยสิ่งใดได้บ้าง” ซูหยางถามเธอด้วยท่าทางธรรมดา เหมือนกับว่าเขาไม่ประหลาดใจที่เธอมาเยี่ยมโดยไม่ได้คาดคิด
หญิงสาวไม่ได้สนใจอารมณ์ซูหยาง เธอยังคงยิ้ม “เจ้าคือซูหยาง” เธอถาม
“ข้าเรียกว่าซูหยางจริง”
“อืมม..” หญิงสาวหรี่ตามองเขาราวกับกำลังพิจารณา “ข้าได้ยินหลายสิ่งเกี่ยวกับเจ้า ซูหยาง จากกลเม็ดลึกล้ำไปจนถึงความเหี้ยมโหด ข้าสงสัยว่าเจ้ายอดเยี่ยมสมคำร่ำลือหรือไม่”
ซูหยางยังคงสงบเฉยจากการยั่วยุอย่างเปิดเผยของเธอ
ก่อนที่เขาจะเปิดปากพูด หญิงสาวก็กล่าวต่อ “แน่นอน ข้าเชื่อ ถ้าเจ้ามิมีดีดังคำกล่าวอ้าง คงมิมีศิษย์มากมายปานนั้นที่พูดถึงเรื่องนี้”
“ซูหยาง ข้าต้องการรับประสบการณ์นี้ กลเม็ดของเจ้า” เธอกล่าวโดยไม่อ้อมค้อม
“เป็นความภาคภูมิใจของข้าที่ได้บริการหญิงสาวสวยเช่นเจ้า” ซูหยางพูดด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร “เป็นจำนวน 100 แต้มรางวัล...”
อย่างไรก็ตามก่อนที่ซูหยางจะพูดต่อ หญิงสาวถอนใจอย่างแรง “ไอ๊ยะ ข้าเกือบลืม ก่อนหน้านี้ข้าใช้แต้มรางวัลทั้งหมดไปกับโอสถหยินพ้นพิสัย ตอนนี้ข้าเหลือแต้มรางวัลเพียงน้อยนิด ซูหยาง ถ้าเจ้ามิถือ จักยอมให้ข้าได้ลิ้มลองกลเม็ดฟรีครั้งนี้ได้หรือไม่ ข้าศิษย์ใน หลี่เซียวโม่ ถือว่าติดค้างบุญคุญเจ้า”
ซูหยางยิ้มเมื่อเขารู้ว่ากำลังเจอกับเกมที่หลี่เซียวโม่เล่นอยู่
“ขออภัย แต่ข้ามิอาจทำงานให้ฟรี ถ้าเจ้ามีแต้มรางวัลมิพอตอนนี้ เจ้าสามารถมาใหม่ภายหลังเมื่อเจ้ามีพอแล้ว”
แม้ว่าซูหยางปฏิเสธที่จะบริการเธอฟรีด้วยคำพูดสุภาพนุ่มนวล หลี่เซียวโม่กลับรู้สึกเหมือนถูกตบหน้า ทำไมแค่ศิษย์นอกสามัญคนหนึ่งปฏิเสธที่จะบริการเธอผู้เป็นศิษย์ในของนิกาย หรือเขาไม่รู้ถึงผลของการล่วงเกินศิษย์ใน นี่ไม่เหมือนกับศิษย์นอก ล่วงเกินศิษย์ในคนหนึ่งเท่ากับล่วงเกินพวกเขาทั้งหมด
“นี่คือวิธีต้อนรับศิษย์พี่ของเจ้ารึ เจ้าคิดหรือไม่ว่าข้าต้องพยายามมากแค่ไหนเพื่อเดินมายังพื้นที่ขยะแห่งนี้ หรือบุญคุณของข้ามิคุ้มค่าความพยายามของเจ้า” หลี่เซียวโม่ขมวดคิ้วนิ่วหน้าพูด ท่าทางเธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“คำพูดจากปากข้าเพียงคำเดียว ผลคือศิษย์ในทั้งหมดกลายเป็นศัตรูของเจ้า ถ้าข้าหันหลังกลับไป เจ้าลืมไปได้เลยที่จักอยู่อย่างสงบสุขนับแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าคิดว่าอย่างไร ซูหยาง”
“...” ซูหยางนิ่งเงียบไร้คำพูด
หลี่เซียวโม่เห็นเขาเงียบด้วยความกลัว ฉีกยิ้ม “แม้ว่าชื่อเจ้าอาจทำให้บรรดาศิษย์นอกกลัวเกรง เจ้าเป็นได้แค่มดในสายตาข้า ถ้าเจ้ายอมเป็นสุนัขรับใช้นับแต่นี้ ข้าจะยอมมองข้ามนิสัยต่ำทรามของเจ้าเช่นกัน”
“ใครจักรู้ ถ้าบริการของเจ้าต้องใจข้า ข้าอาจยอมยกฐานะเจ้าจากสุนัขไร้ค่ามาเป็นทาส...”
ซูหยางหลับตาถอนใจ เมื่อเขาเปิดตา ประกายแสงลึกลับวาบผ่านภายใน
“เช่นนั้น… ตามข้ามา”
รอยแสยะยิ้มบนใบหน้าหลี่เซียวโม่กว้างขึ้น รู้สึกภูมิใจในตนเองเมื่อเห็นซูหยางยอมแพ้
“สุนัขดี...” เธอพึมพัมขณะเดินตามซูหยาง ไม่ทันสังเกตบรรยากาศที่เปลี่ยนไปทันทีที่เธอย่างเท้าเข้าไปในบ้าน