บทที่ 7 เพื่อความอยู่รอด
บทที่ 7 เพื่อความอยู่รอด
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเดินออกไปด้านนอก คว้ามือถือขึ้นมาเปิดเพลง เร่งเสียงจนสุด
เขาคิดใช้เสียงเพลงดึงดูดสัตว์ประหลาดตัวนั้น
......
“เธอคือแอปเปิ้ลน้อยของฉัน”
(แม่ง ผิดเพลงละ...) ความกล้าที่เฉินเสี่ยวเลี่ยนปลุกปลอบขึ้นมาแทบตายเกือบหายไปจนหมดเสียแล้วไหมละ!!!
เวลาแบบนี้มันต้องเปิดเพลงระทึกใจแบบธีมเพลงหนังไพเรทส์ ออฟ เดอะ แคริบเบียนถึงจะเหมาะไม่ใช่หรือไง!!
ช่างเถอะ มือถือไม่ใช่ของเฉินเสี่ยวเลี่ยนสักหน่อย ก็แค่เก็บมั่วๆ มาจากห้องเคบินต่างหาก
เสียงคำรามก้องดังมาจากป่าไกลๆ
“โฮก!!!!!”
หลังเสียงดังแซ่กๆ ที่ดังมาจากกลางป่า ก็มีเงาใหญ่ดังกระโดดพรวดออกมาอย่างรวดเร็ว!
แมวคลั่งสี่ตา?
เข้ามาเลย!!
เจ้าตัวนั้นไม่ได้พุ่งเข้ามาดื้อๆ แต่กลับเยื้องย่องเหมือนแมว เดินเข้ามาใกล้อย่างระแวดระวัง ผิดกับที่เฉินเสี่ยวเลี่ยนคาดการณ์ไว้
เขารีบขยับดาบเลเซอร์ในมือ อาศัยเสียงคมดาบดังหึ่งๆ สะกดความหวาดกลัวและความร้อนรนเอาไว้
แมวคลั่งสี่ตากลับไม่พุ่งเข้าใส่ มันหยุดยืนห่างออกไปประมาณสิบกว่าเมตร ดวงตาอันพิลึกพิลั่นจับจ้องเฉินเสี่ยวเลี่ยน
หลังจดจ้องกันอยู่หลายนาที เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็รู้สึกรำคาญขึ้นมาหน่อยๆ จึงแหกปากตะโกน “เข้ามาเซ่ะ!! เข้ามาดิโว้ย!!”
เพลงแอปเปิ้ลน้อยจบไปเพลงนึงแล้ว! แม่งมึงทำไมยังไม่ยอมขยับอีก!!
มึงไม่เข้ามาแล้วกูจะกล้าวิ่งออกไปไหมละ!!
ตอนที่เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกกระวนกระวายมากยิ่งขึ้นนั้นเอง เพลงแอปเปิ้ลน้อยที่จบไปก็เปลี่ยนเป็นเพลงถัดไปอัตโนมัติ...
“what dose the fox say… ฟรักกักกักกักก้า...ฟรักกักกักกักก้า...”
เพลงดังฝั่งยุโรปอย่าง ‘what dose the fox say’ ดูเหมือนจะทำให้เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นขนลุกจนได้!!
โฮก!!!!
เสียงคำรามกึกก้อง แมวคลั่งสี่ตาก็พุ่งเข้าใส่เฉินเสี่ยวเลี่ยน... เอ๋ ไม่ใช่สิ? มันพุ่งเข้าใส่...มือถือที่เฉินเสี่ยวเลี่ยนโยนไว้ด้านหน้า?!
เขาลากเก้าอี้ออกมาตัวหนึ่ง เฉินเสี่ยวเลี่ยนเขวี้ยงมันออกไปอย่างไม่ลังเล
เก้าอี้โดยสารคุณภาพเกรดบีที่หนักหลายกิโล พออยู่ในมือเขาก็เหมือนแผ่นไม้บางๆ ก็ไม่ปาน
มันพุ่งเข้าใส่เป้าหมายอย่างจัง!
แมวคลั่งสี่ตาถูกชนเข้าอย่างแรงทีหนึ่งก็ล้มลงกลิ้งตัวบนพื้นแล้ววกกลับมากัดเฉินเสี่ยวเลี่ยน! พอเห็นปากแดงเถือกกับเขี้ยวโค้งยาว เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ถอยฉากไปด้านหลังพร้อมกับเอาเก้าอี้เขวี้ยงออกไปอีกตัว!
แมวคลั่งสี่ตาหลบวูบ มันกางกรงเล็บออกตบเก้าอี้ที่ลอยมาลงพื้น ท่ามกลางเสียงดังโครม เก้าอี้ก็บู้บี้ไปแล้ว เฉินเสี่ยวเลี่ยนหลบหลีกไปมาอย่างรวดเร็ว การอัพเกรดความว่องไวทำให้เขาขยับตัวเคลื่อนไหวได้อย่างฉับไว ไม่ว่าเจ้าแมวคลั่งสี่ตาจะจู่โจมมากี่ครั้งเขาก็หลบพ้นตลอด ซ้ำดาบเลเซอร์ในมือเฉินเสี่ยวเลี่ยนยังฝากรอยแผลไว้บนตัวมันอีกหลายแผล
เสียงดาบดังหึ่งๆ พร้อมกับกลิ่นไหม้ๆ เจ้าแมวคลั่งสี่ตาคำรามโฮก จับจ้องเฉินเสี่ยวเลี่ยนด้วยความโกรธ
(พลังดาเมจของดาบเลเซอร์ไม่พอนี่หว่า...)
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกเครียดขึ้นมา แต่พอกวาดตามองรอบหนึ่งเขาก็รู้สึกหนักอึ้งในใจ!
เก้าอี้ที่เขาเตรียมไว้สิบกว่าตัวถูกชนล้มระเนระนาดไม่ก็ถูกโยนห่างออกไปไกลจนหมดแล้ว!
เมื่อครู่ที่เขาสามารถสู้กับเจ้าสัตว์ตัวนี้ได้ก็เพราะอาศัยเก้าอี้โดยสารสิบกว่าตัวพวกนี้ สำหรับพื้นที่ตรงนี้ แมวคลั่งสี่ตาตัวใหญ่กว่าเขามาก สิ่งกีดขวางพวกนั้นทำให้มันต้องลดความเร็วในการหมุนตัวลง เขาถึงฝืนสู้กับมันได้ ทว่าตอนนี้...
โฮก!!!
เสียงคำรามดังก้อง คราวนี้ไม่มีเก้าอี้โดยสารมาคอยถ่วง แมวคลั่งสี่ตาพุ่งตรงเข้าใส่เฉินเสี่ยวเลี่ยน เฉินเสี่ยวเลี่ยนล้มตัวไปด้านหลังตามสัญชาติญาณ เขารู้สึกเหมือนมีลมวูบหนึ่งพัดผ่านไป แล้วก็เจ็บปวดแสบร้อนผิวหน้า
ชี่!!
เฉินเสี่ยวเลี่ยนร้องอย่างเจ็บปวด
เสื้อผ้าลำตัวท่อนบนของเขาฉีกขาด รอยกรงเล็บสามแนวที่กรีดผิวหนังมีเลือดไหลออกมา!
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้เฉินเสี่ยวเลี่ยนแทบสิ้นสติ ทว่าความเจ็บปวดนั้นคล้ายกับไปกระตุ้นบางอย่างที่อยู่ลึกลงไปในสมอง...
ฉับพลัน...
“ดาเมจติดคริติคอล เปิดใช้โหมดแปลงร่างโอเวอร์ล็อค!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนคล้ายกับได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะลั่นอยู่ในหู จู่ๆ ก็คล้ายกับมีขุมพลังแข็งแกร่งสายหนึ่งแล่นไปทั่วร่าง มันเข้าแทนที่สติของเขา ประกอบเข้ากับร่างของเขา!
“เรียนรู้สกิลโจมตีดาบพื้นฐาน โตมตีต่อเนื่องสองครั้ง! สะบั้นกางเขน!”
ฟุ่บๆ!!
ดาบเลเซอร์กวัดแกว่งไปมา กลางอากาศปรากฏลำแสงรูปไม้กางเขนขึ้นอันหนึ่ง!
ลำแสงนี้ประทับลงบนตัวแมวคลั่งสี่ตาอย่างพอดี เกิดเสียงดังตู้มขึ้นทีหนึ่งมันก็ล้มร่วงลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง คราวนี้ไม่ว่ามันพยายามยกหัวขึ้นแค่ไหนก็ลุกไม่ขึ้นอีกแล้ว
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกเหมือนกับตัวเองใช้เรี่ยวแรงไปจนหมดสิ้น กระทั่งดาบในมือก็ยังหนักอึ้งจนยกไม่ขึ้น
เขาหอบหายใจติดขัด เฉินเสี่ยวเลี่ยนมองไปยังแมวคลั่งสี่ตาที่นอนเผละอยู่บนพื้น...
นี่ นี่หมายความว่า...จัดการได้แล้วสินะ?
ลงดาบซ้ำอีกทีก็น่าจะจบสักที?
เฉินเสี่ยวเลี่ยนฝืนใช้แรงเฮือกสุดท้ายค่อยๆ เดินกระเผลกเข้าไปใกล้ทีละก้าวๆ
ตอนนั้นเอง จู่ๆ เจ้าแมวคลั่งสี่ตาก็ผงกหัวขึ้นอ้าปากหันมาทางเฉินเสี่ยวเลี่ยน...
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกผิดสังเกตทันที
ท่าทางนี้มัน... หรือว่า??
ตู้ม!
มวลอากาศกึ่งโปร่งแสงกลุ่มหนึ่งที่แมวคลั่งสี่ตาพ่นออกมาจากปากพุ่งใส่ เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกเหมือนกับโดนหมัดหนักๆ ต่อยแสกหน้า ตัวเขากระเด็นไปด้านหลังหล่นดังตุ้บ!
แม่งเอ้ย!
ไหนว่าเป็นสัตว์โจมตีระยะใกล้ไม่ใช่หรือไงวะ!
บอกว่า ‘โจมตีระยะใกล้’ อยู่ชัดๆ!!!!
แม่งหลอกกู!!!
เขานอนอยู่บนพื้นพลางนึกโมโห ดาบเลเซอร์ในมือตกอยู่ข้างกาย
เฉินเลี่ยวเลี่ยนมึนงงตาลาย เลือดสดๆ จากรอยแผลบนอกย้อมเสื้อเขาจนเป็นสีแดงฉาน...
จนถึงตอนนี้ เฉินเสี่ยวเลี่ยนที่ตั้งแต่เล็กจนโตกลัวกระทั่งเข็มฉีดยา ก็รู้สึกว่าตัวเองได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว
แม้แต่แรงสักเฮือกหนึ่งเขาก็ไม่มี นอนกองอย่างจนปัญญาอยู่บนพื้น หันไปมองสัตว์ประหลาดตัวนั้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
ดูเหมือนว่ามันก็ย่ำแย่เหมือนกัน แต่ยังดิ้นรนพยายามลุกขึ้น ทว่าตัวเขากลับ...
เลือดสดๆ ไหลรินออกมา เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกว่าเรี่ยวแรงเขาหายไปอย่างรวดเร็ว...
“โอปป้า!!”
เงาร่างเล็กๆ พุ่งออกมาจากห้องเคบินโดยสาร!
ชิซูกะพยายามจะคว้าจับเอาไว้ แต่ก็ไม่ทันการ ซูซูวิ่งออกมาเสียแล้ว
ร่างป้อมๆ เล็กๆ พุ่งเข้าหาเฉินเสี่ยวเลี่ยน
เฉินเสี่ยวเลี่ยนถลึงตา “ออกมาทำไม! กลับเข้าไปเร็วเข้า กลับไปสิ!”
ซูซูประคองศีรษะเฉินเสี่ยวเลี่ยนไว้พลางร้องไห้โฮ
จากนั้นเด็กสาวรีบคว้าดาบเลเซอร์ที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา ลุกขึ้นยืนขวางตัวเฉินเสี่ยวเลี่ยนไว้ ใช้เสียงที่คล้ายกับเด็กร้องโยเยตะโกนไปทางแมวคลั่งสี่ตาตัวนั้น
“ไปให้พ้น! ไปให้พ้นเลยนะ!!!!!”
เธอตัวสั่นอย่างรุนแรง น้ำหูน้ำตาไหลออกมาเต็มไปหมด แต่กลับยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าเฉินเสี่ยวเลี่ยน!
แมวคลั่งสี่ตาตะกายลุกขึ้นมา!
ทีละเล็กละน้อย ทีละก้าวๆ ลมหายใจมันขาดเป็นห้วงๆ แต่ก็ยังพยายามตะเกียกตะกายพุ่งมาทางซูซู!
“ไปให้พ้น! ไปให้พ้นเลย!!!”
จู่ๆ เด็กสาวก็หลับตา ออกแรงฟันดาบในมือออกไปด้านหน้า...
“โฮก...”
ดาบนั่น ฟันเข้าไปในปากของแมวคลั่งสี่ตาอย่างพอดิบพอดี...
เจ้าแมวคลั่งสี่ตาเบิกตากว้างคล้ายกับยังไม่ยอมจำนน จากนั้น...ก็ล้มลงไปอีกครั้ง
......
‘สังหารแมวคลั่งสี่ตา*1 ได้รับไอเทม เลือดสัตว์ประเภทรักษาขั้นต้นx2 วิญญาณแมวคลั่งสี่ตา ต้องการเก็บหรือไม่?’
‘สำเร็จภารกิจมือใหม่ เปิดใช้สกิลมือใหม่ ต้องการสุ่มจับสกิลเริ่มต้นหรือไม่?’
เฉินเสี่ยวเลี่ยนแค่นเสียงทีหนึ่ง หลังกดยืนยันตามสัญชาติญาณได้ทันเวลาก็หมดสติไป
…………………………