ตอนที่แล้วภาค 1 ตอนที่ 6 ประทุษร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปภาค 1 ตอนที่ 8 สวีลี่

ภาค 1 ตอนที่ 7 ราตรีที่เงียบสงบ


ตอนที่ 7 ราตรีที่เงียบสงบ

 

ในห้องผู้ป่วย โกโก้ก้มหน้าอยู่ ไม่สังเกตเห็นต้าเจิ้งที่เดินเข้ามาอย่างเงียบๆ ไม่รู้เธอกำลังคิดอะไร

 

เห็นท่าทางเหม่อลอยของเธอ ต้าเจิ้งรู้สึกว่า อีกสักครู่ควรจะตรวจเช็คอย่างละเอียดอีกทีดีกว่า ไม่ใช่ว่าถูกบีบคอจนเซ่อไปแล้วหรอกนะ

 

“ได้ยินว่าถ้าขาดออกซิเจนแล้วจะโง่ลง” หวั่นลี่ก็ไม่ได้สังเกตว่าต้าเจิ้งเดินเข้ามาใกล้ตัว

 

โกโก้เงยหน้าขึ้นช้าๆ ดวงตาใสอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ฉันเพียงแต่คิดว่า ไอ้หมอนั่นทำไมถึงต้องใช้วิธีบีบ”

 

ทุกคนรู้สึกว่าคำถามนี้ วิปริต...จริงๆ

 

โกโก้กลับเริ่มพึมพำเองโดยไม่สนใจใคร “ถ้าใช้ไฟช็อตเพื่อทำให้ฉันสลบ จะได้ไม่ตะโกนโหวกเหวกจนคนผิดสังเกต แต่หลังจากฉันหมดสติแล้ว เขาน่าจะใช้มีดกำจัดฉันไปเลย ทั้งไม่มีเสียงแล้วก็ได้ผลด้วย จากนั้นค่อยค้นตัวฉันอย่างช้าๆ ว่ามีกุญแจติดมาด้วยหรือเปล่า ที่สำคัญ จะได้ไม่เหมือนตอนนี้ที่ทำให้ฉันหนีรอดไปได้ ก่อปัญหากับเขาในภายหลัง” โกโก้หยุดไปอึดใจหนึ่ง “นอกจากว่า...เขาชอบบีบคอคน”

 

“อะไรนะ” พูดๆ ไปดันเหมือนกับมีเหตุผลขึ้นมา

 

“ฉันพูดว่า ไอ้หมอนี่ชอบบีบคอคน ชอบความรู้สึกที่ว่าพลังชีวิตของคนอื่นค่อยๆ เลือนหายไปภายใต้มือของเขา... เสี่ยวเจ๋อ เธอเอารูปชันสูตรศพเมื่อกลางวันติดตัวมาด้วยหรือเปล่า”

 

“ในโน้ตบุ๊คของผมมี อยู่บนรถของไป๋หลิง พี่จะเอาเหรอ...ผมไปเอาเดี๋ยวนี้แหละ” เสี่ยวเจ๋อพูดพลางวิ่งเหยาะๆ ออกไป ไป๋หลิงกำลังตะลึง พอเห็นสายตาต้าเจิ้งที่ส่งมา เขาจึงได้ตามเสี่ยวเจ๋อออกไป

 

ต้าเจิ้งเห็นว่าโกโก้เริ่มมีชีวิตชีวาเหมือนปกติขึ้นมาบ้างแล้ว ก็พลอยโล่งอกไปบ้าง เมื่อเห็นว่าดึกแล้ว จึงให้ตำรวจที่มาด้วยกันส่งหวั่นลี่กลับไป สวี่หวั่นลี่โอเอ้อยู่ “หัวหน้า คุณล่ะ...คุณ...จะกลับเมื่อไหร่”

 

ต้าเจิ้งอ่านข้อความในมือถือโดยไม่เงยหน้า “กลับบ้าอะไร คืนนี้ฉันต้องเฝ้าเด็กคนนี้เท่านั้น ถ้าเกิดถูกใครฆ่าตายขึ้นมา ฉันร้องไห้ตามไม่ทัน” ความหมายของต้าเจิ้งคือ อันตรายยังอยู่ แล้วมีเรื่องอีกมากมายต้องวางแผน ต้องจับไอ้ระยำที่อุกอาจมาก่อคดีในกองบังคับการภายในหนึ่งวัน!

 

แต่หวั่นลี่กลับมองเป็นว่า ที่ต้าเจิ้งบอกไม่ไปก็เพราะหมอนิติเวชาหญิงคนนี้ มันทำให้เธอรู้สึกน้อยใจ คิดอย่างแค้นเคืองว่า รู้อย่างนี้ไม่ช่วยเธอก็ดี ปล่อยให้ถูกบีบคอตายไปเลย แต่แน่นอน ก็แค่คิดเท่านั้น

 

เสี่ยวเจ๋อกับไป๋หลิงเอาโน้ตบุ๊คเข้ามา โกโก้หารูปผีเสื้อดำที่คอของศพสวีลี่ ขยายแล้ว ขยายอีก มือซ้ายถือกระจกส่องคอของตัวเองเปรียบเทียบซ้ายขวา

 

คนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ มองอย่างตกตะลึงพรึงเพริด

 

“จริงๆ ด้วย...” โกโก้ชี้ไปที่คอของตัวเอง “ด้านซ้ายของคอฉัน แล้วก็ตรงนี้ แสดงว่านิ้วชี้ขวาและนิ้วนางซ้ายของคนคนนี้ใช้แรงมากที่สุดตามความเคยชิน ดูจากรูป ก็ใช้แรงในแบบเดียวกัน นิ้วแรกด้านซ้ายกับนิ้วที่สามด้านขวาของผีเสื้อดำก็มีรอยลึกมากที่สุด คนที่บีบคอฉันก็คือคนที่เคยบีบคอสวีลี่ก่อนตาย”

 

“งั้น...งั้นก็แปลว่าคนนี้ถูกไล่บี้จนจนตรอกนะสิ” เสี่ยวเจ๋อเริ่มกังวลขึ้นมา

 

ไป๋หลิงพูด “ครั้งแรกจะทำลายศพ ถูกพวกเราขัดขวางไว้ ครั้งที่สองจะขโมยศพแต่ตู้ล็อค คราวนี้เลยทำร้ายหมอนิติเวชเพื่อแย่งกุญแจ ไอ้นี่มัน...บ้าใช่ไหม”

 

“ทำเรื่องอย่างนี้ในกองบังคับการตำรวจ ต้องใจกล้าขนาดไหนกัน”

 

“แต่ก็แสดงว่า พวกเรามาถูกทางแล้ว การตายของสวีลี่ไม่ง่ายอย่างที่เห็น” ต้าเจิ้งลูบคาง ในสมองตั้งสมมติฐานสำหรับเหตุการณ์ตอนนี้ขึ้นมาอย่างคร่าวๆ

 

เสี่ยวเจ๋อพูดอย่างจริงจังว่า “ดังนั้น พี่สวินยิ่งไม่ควรให้ผมห่างจากพี่อีก ตอนนี้คนในแผนกนิติเวชไปประชุมบ้าง เดินทางไปที่อื่นบ้าง ถ้าไม่มีผม พี่อยู่คนเดียวไม่ยิ่งอันตรายเหรอ”

 

สวินเข่อหรันเงยหน้าขึ้น ค้อนเขาอย่างเยียบเย็น ซูเสี่ยวเจ๋อรู้สึกสันหลังเย็นวาบทันที แต่อาการดื้อรั้นบนใบหน้าก็ยังไม่เลือนหายไป

 

ต้าเจิ้งส่งสายตาให้ไป๋หลิง เขาเข้าใจทันที กึ่งลากกึ่งจูงพาเสี่ยวเจ๋อออกจากห้องผู้ป่วย หวั่นลี่ก็ถือโอกาสย่องออกไปด้วย

 

——————————————

วางสายที่คุยกับเหล่ากู่แผนกรักษาความปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง ต้าเจิ้งหันกลับไป พบว่าในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงสวินเข่อหรันกับตัวเองสองคน

 

ราตรีที่เงียบสงบ

 

โกโก้นั่งอยู่ที่ขอบเตียง ก้มหน้าไม่ขยับตัว ต้าเจิ้งรู้สึกขึ้นมาฉับพลันว่า โก้โก้ที่สงบอย่างนี้ทำให้คนอดรู้สึกไม่ได้ว่า...น่าสงสารจับใจ...

 

โกโก้พูดทั้งๆ ที่ก้มหน้าอยู่ว่า “หัวหน้าโจว นายกลับไปพักเถอะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”

 

ต้าเจิ้งออกเสียงทางจมูก นั่งแผ่ที่โซฟา “พอเถอะเธอ ถ้าไม่เพราะวันนี้ดวงดี ท่านผู้เฒ่าฉางบ้านเธอคงผ่าฉันไปหลายเสี่ยงแล้ว”

 

โกโก้ยิ้ม “อาจารย์ฉันแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยฆ่าหมู”

 

มุมปากของต้าเจิ้งกระตุกไปหลายที...น่าสงสารจับใจบ้าอะไร อดไม่ได้ที่ก้าวไปข้างหน้า คิดจะดีดหน้าผากไปทีหนึ่ง โกโก้ยิ้มพลางยกมือขึ้นปกป้อง จนไปสัมผัสกับมือของต้าเจิ้งเข้า

 

“ทำไมมือของเธอเย็นเหมือนน้ำแข็ง” ต้าเจิ้งค้นพบแผ่นดินใหม่

 

รอยยิ้มจางหายจากใบหน้าของโกโก้ มือก็หดกลับไป รอยบีบรัดบนคอโผล่ออกจากเส้นผม เขียวช้ำ

 

ต้าเจิ้งอยากใช้มือสัมผัสรอยเหล่านั้นอย่างนุ่มนวล...ความคิดที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้ตัวเองตกใจไม่น้อย แอบส่ายหน้าแล้ว เดินไปทางประตู

 

“นายจะไปไหน” โกโก้เงยหน้ามองเขา

 

“ไปกินข้าว” ต้าเจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดี แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าตนเองโกรธอะไรอยู่ “มีอะไรอีก”

 

โกโก้อ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ก็คาไว้อย่างนั้น สุดท้ายได้แค่อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ได้เปล่งเสียงออกมาแม้พยางค์เดียว แล้วเธอก็ค่อยๆ ก้มหัวลงอีก ส่ายหน้าอย่างเงียบๆ

 

ต้าเจิ้งยืนอยู่ที่ประตู จะไปก็ไม่ได้ อยู่ก็ไม่ดี จึงกัดฟัน แล้วก้าวสวบๆ กลับมาที่หน้าโกโก้แล้วนั่งยองๆ

 

“นี่! เธอคิดจะ...” พอต้าเจิ้งนั่งลงแล้วเห็นหน้าของเธอปุ๊บก็นิ่งอึ้งไป...

 

เด็กสาวที่เกรี้ยวกราดเป็นนิสัย กลับก้มหัวลงแล้วน้ำตาร่วงเป็นหยดๆ

 

ต้าเจิ้งอ้าปากค้าง นิ่งเซ่อไปอยู่ตรงนั้น

 

“ทุกครั้ง...ทุกครั้งที่ทำความสะอาดโต๊ะชันสูตรศพ ฉันจะ...คิดว่า...เมื่อไหร่ถึงตาฉัน...ที่นอนอยู่บนนั้น ที่...ที่จริง...มันไม่ไกล...เลยสักนิด” เสียงของโกโก้แผ่วเบา แผ่วเบามาก แต่สั่นเครือ

 

ต้าเจิ้งกดศีรษะน้อยๆ ของเธอไว้กับไหล่ของตน “อย่าร้องไห้เลย ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น”

 

“แต่...แต่...แต่ว่าฉันอยากกินเนื้อแกะปิ้ง...” โกโก้สะอึกสะอื้นพลางพูด

 

“หุบปาก...” ต้าเจิ้งอึ้ง

 

“...น้ำหอมที่ตัวนาย กลิ่นทะแม่งๆ...” โกโก้พิงกับไหล่ของเขาสูดน้ำมูกพลางหัวเราะไป

 

ต้าเจิ้งหายใจลึกๆ แล้วหายใจลึกๆ อีก คุณครูสอนพวกเราตั้งแต่เด็กว่าอย่าถือสาเด็กปัญญาอ่อน อืม

 

โกโก้ป้ายขี้มูกเต็มไหล่สูทลำลองที่ทั้งมันวับและหอมฟุ้งเพื่อเอาไว้ดูตัวโดยเฉพาะของต้าเจิ้ง

 

——————————————

วันใหม่

 

แสงแดดสาดส่องเข้ามาที่แผนกรักษาความปลอดภัยของตึกกองบังคับการระยิบระยับ พนักงานรปภ.ทั้งหมดได้รับการแจ้งถึงการฝึกอบรมอย่างเร่งด่วนในตอนเช้า ไม่ว่าลาหยุด ลาป่วย กำลังจะเกษียณ หรือเพิ่งจะเลิกงาน ทุกคนต้องมารวมตัวกันแปดโมงเช้า

 

หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยกระแอม “เมื่อคืนมีคนประทุษร้ายหมอนิติเวชของหน่วยอาชญากรรม ริอาจกดเธอลงที่พื้นแล้วหวังจะบีบคอจนตาย ประชาชนได้ยินเสียงเลยรีบเข้ามาช่วยเหลือ โจรกระจอกคนนี้จึงได้หนีไป แต่แผนกพิสูจน์หลักฐานได้ลายนิ้วมือของคนนี้แล้ว เวลานี้เพื่อตัดความสงสัยของการก่อคดีจากภายใน จะมีการเก็บลายนิ้วมือของพวกเราทุกคน ถ้าคนคนนี้เป็นหนึ่งในพวกเราจริงๆ ถือว่าเป็นความอัปยศของแผนกรักษาความปลอดภัยหลายสิบปีที่ผ่านมา!...” ท่านหัวหน้าพูดน้ำไหลไฟดับก็เพื่อกันปลาเน่าตัวนี้ออกจากแผนกของตนโดยสิ้นเชิง แล้วโบกมือเพื่อเริ่มเก็บลายนิ้วมือ

 

ขณะที่คนคนนั้นขยับตัวจะกระโดดออกทางหน้าต่าง ต้าเจิ้งที่ปะปนอยู่กับกลุ่มคนก็ได้กระชากขาของเขาที่เพิ่งจะได้แตะขอบหน้าต่างลงมา ถึงแม้ยังไม่เลิกล้มความคิดที่จะขัดขืน แต่ก็ถูกเหล่าสหายตำรวจอาชญากรรมที่นึกถึงเหตุการณ์อันทรมานที่ถูกปลุกจากการนอนหลับอย่างสบายโดยหัวหน้าเมื่อคืน หนี้เก่าแค้นใหม่สุมขึ้นทรวงอก อดไม่ได้ที่จะลงมืออย่างหนักหน่วง

 

เพราะเหตุนี้ เมื่อสหายผู้ต้องสงสัยนั่งอยู่ในห้องสอบสวน ใบหน้าก็มีสภาพไม่เป็นหน้าแล้ว

 

หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยเหล่ากู่พยักหน้า อืม นี่คือชะตากรรมของคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับมวลชน

 

 

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด