ตอนที่แล้วตอนที่ 22 ว่าที่ราชินี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24 ประลองดาบคืนจันทร์เพ็ญ

ตอนที่ 23 ชิงกุญแจสู่หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์


ตอนที่ 23 ชิงกุญแจสู่หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์

เซน่าเดินไปถึงวิหารแห่งเมธีอาร์ เบื้องหน้าวิหารหน้ามีรูปปั้นพระเมธีอาร์อยู่ ตัววิหารทาสีขาวดูสะอาดตา ส่วนหลังคาวิหารเป็นสีเงินเป็นประกาย แสงสีเงินสะท้อนแสงตะวันอย่างงดงาม

วิหารแห่งนี้แบ่งออกเป็นสามชั้น ชั้นแรกเป็นที่ทำพิธีหรือขอพรทางศาสนา ชั้นที่สองเป็นห้องพักของเหล่าเด็กกำพร้าและนักบวช ชั้นที่สามเป็นห้องสมุด ห้องเก็บของแล้วแต่จะใช้สอยประโยชน์

เซน่าเดินเข้ามาถึงในวิหาร เห็นเก้าอี้ยาวหลายสิบตัวเรียงรายเป็นสองแถวไว้สำหรับต้อนรับผู้มีศรัทธา เบื้องหน้ามีรูปปั้นพระเมธีอาร์ขนาดเท่าคนจริง หลังรูปปั้นมีภาพวาดเหล่าเทวฑูตสวรรค์สิบสององค์วาดไว้ตามกำแพง

เซน่าเดินสำรวจไปรอบ ๆ ก็ไม่พบสิ่งใด

“ท่านมาหาผู้ใด?” เสียงสตรีนางหนึ่งดังขึ้น เสียงนางไพเราะดุจเสียงร้องของหงส์

สตรีสวมชุดขาวผมดำนางหนึ่งเดินมา นางคือมิโนอาห์ นางเดินมาหาเซน่าอย่างช้า ๆ

เซน่าจ้องมองไปยังมิโนอาห์ สตรีนางนี้แตกต่างจากทุกนางที่เคยพบ เซน่าไม่อาจอ่านออกว่าสตรีชุดขาวครุ่นคิดสิ่งใดอยู่

เซน่ากล่าวว่า “ข้ามาขอพรพระเมธีอาร์ผู้ทรงสร้างและมาพบนักบุญเจฟ”

มิโนอาห์กล่าวว่า “นักบุญเจฟกำลังสอนหนังสือให้เด็ก ๆ เดี๋ยวข้าจะไปตามเขามาเอง”

ขณะที่มิโนอาห์กำลังหันกายไป เซน่ากล่าวว่า “ช้าก่อน”

มิโนอาห์ถามว่า “มีอะไรหรือ?”

เซน่ากล่าวว่า “ข้าอยากขอบคุณท่านที่รักษาข้าในวันนั้น”

มิโนอาห์กล่าวว่า “อย่าได้เกรงใจ นี่เป็นหน้าที่ของผู้รับใช้พระเจ้าที่ต้องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์”

เซน่ากล่าวว่า “ความเมตตาของท่านเปรียบได้ดั่งพระเมธีอาร์ซึ่งทรงหลั่งน้ำตาในสมรภูมิลอเลียนเพื่อช่วยเหลือเหล่าชีวิตผู้แพ้สงครามนับแสน”

เซน่าจงใจเอ่ยถึงตำนานหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาเพื่อทดสอบมิโนอาห์

จอมเวทจันทรากล่าวว่าหากจะเริ่มค้นหาหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้เริ่มที่วิหารแห่งเมธีอาร์ มิโนอาห์เป็นผู้ดูแลวิหารศักดิ์สิทธิ์หากนางยังไม่ทราบก็ไม่รู้จะเริ่มต้นจากที่ใดแล้ว

มิโนอาห์กล่าวว่า “อย่าได้เปรียบเทียบข้ากับพระเจ้าเช่นนั้น ความเมตตาของพระองค์ไม่แบ่งแยกสรรพชีวิต ข้าเพียงเรียนรู้จากเศษเสี้ยวความเมตตาของพระองค์”

 

เซน่าแสร้งถอนใจกล่าวว่า “น่าเสียดายหากมีหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียนก็อาจไม่ต้องมีคนตายมากมายปานนั้น”

มิโนอาห์จ้องมองเซน่าราวกับกำลังอ่านความในใจ

เซน่าเกรงว่าสตรีนางนี้อาจจับผิดตนได้จึงรีบกล่าวว่า “ข้าเคยได้ยินตำนานหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์จึงคิดว่าหากมันมีจริงก็ดี มันสามารถช่วยเหลือชีวิตคนได้”

มิโนอาห์ยิ้มพลางกล่าวว่า “ท่านช่างมีเมตตานัก หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แม้เป็นตำนานโบราณแต่มีจริงแน่นอน เรื่องราวของพระเจ้าหาใช่นิทานกล่อมเด็กก่อนเข้านอน”

เซน่ามีน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อยกล่าวว่า “หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียนมีจริง?”

มิโนอาห์พยักหน้ารับ

ในสมองเซน่าครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว หากนางจะถามมิโนอาห์ว่า “หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียนอยู่ที่ใด?” ก็จะเป็นคำถามที่โจ่งแจ้งและน่าสงสัยเกินไป แต่หากไม่ถามเช่นนั้นก็ไม่ทราบควรทำอย่างไร

เซน่าถามอ้อมไปว่า “หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียน สามารถฟื้นชีพได้กระทั่งคนตาย?”

มิโนอาห์พยักหน้ารับ

เซน่าถามอีกว่า “แล้วล้างคำสาปได้หรือไม่?”

มิโนอาห์กล่าวว่า “แม้แต่คนตายยังคืนชีพได้ อย่าว่าแต่เรื่องล้างคำสาปอันชั่วร้าย”

เซน่ารู้สึกใจเต้นระทึกขึ้นมาจึงถามว่า “ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีผู้เคยใช้หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียนมาก่อน ท่านทราบได้อย่างไรว่ามันทำได้?”

มิโนอาห์กล่าวว่า “วันนั้นท่านคงได้เห็นข้าใช้เวทแห่งแสงรักษาคนแล้ว ผู้ใช้เวทแห่งแสงต้องมีศรัทธาในพระเจ้า ส่วนหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์คือน้ำตาของพระเจ้าถือว่าเป็นส่วนหนึ่งซึ่งออกมาจากพระวรกายของพระเจ้าผู้ทรงเมตตา พลังของมันย่อมยิ่งใหญ่กว่าพลังเวทแห่งแสงนัก”

เซน่ารู้สึกว่าสตรีนางนี้ต้องไม่โกหกนางแน่

มาถึงขั้นนี้แล้ว เซน่าได้แต่ทดลองเสี่ยงดู นางถามว่า “ท่านมิโนอาห์ พ่อข้าถูกราชาเวทปีศาจซาอูสาปให้เป็นผู้นิทรา ไม่ว่าจอมเวทใดก็ไม่อาจช่วยได้ ข้าจะค้นหาหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?”

มิโนอาห์รู้สึกแปลกใจ นางกล่าวว่า “ซาอู? ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของเขา พลังเวทของเขาอาจร้ายกาจที่สุดในดินแดนเหนือใต้ น่าเสียดายพลังเวทของเขาเป็นด้านมืดจึงถูกคนเรียกว่าราชาเวทปีศาจ”

มิโนอาห์ถามว่า “พ่อของท่านเป็นใคร?”

เซน่าแสร้งทำเป็นสีหน้าเศร้าสร้อยโกหกว่า “ขอบอกท่านตามตรง พ่อของข้าคืออดีตทหารหน่วยแบล็คเคิซแห่งเพธอส พ่อข้าเคยช่วยชีวิตซาอูไว้ในตอนทำศึกกับยักษ์น้ำแข็งเมื่อหลายปีก่อน ต่อมาซาอูทำการสังหารเรดิกัลกษัตริย์แห่งเพธอส พ่อของข้าไม่เห็นด้วยจึงถูกเขาสาปให้เป็นผู้นิทราตลอดชีวิต”

มิโนอาห์จับมือเซน่ากล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ท่านไม่ต้องห่วงข้าคิดหาทางช่วยพ่อท่านอีกแรง แต่หากจะค้นหาหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์ ท่านต้องหาสิ่งหนึ่งก่อน”

เซน่ารู้สึกได้รับความอบอุ่นจากมิโนอาห์ เป็นสิ่งที่นางไม่เคยสัมผัสมาก่อน

เซน่าถามว่า “หาอะไร?”

มิโนอาห์กล่าวว่า “กุญแจซึ่งนำไปสู่หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์”

เซน่าทวนคำว่า “กุญแจ?”

มิโนอาห์พยักหน้ากล่าวว่า “ผู้คนเข้าใจว่าท่านเดเรนปฐมกษัตริย์แห่งโกลด์เด้นกราวด์ก่อนสิ้นพระชนม์ไม่ได้บอกที่อยู่ของหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่อผู้ใดเพื่อป้องกันการแก่งแย่งช่วงชิง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องจริงเพียงครึ่งเดียว อีกใจหนึ่งพระองค์ก็ไม่อยากสิ่งของอันมีค่านี้ต้องหายสาบสูญไป จึงได้จัดทำแผนที่และซ่อนที่อยู่ของหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์ไว้ในสิ่งของสิ่งหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครทราบว่าคืออะไร”

มิโนอาห์กล่าวอธิบายต่อว่า “เรื่องราวเหล่านี้หลุดออกมาจากปากคนทำแผนที่ให้กษัตริย์เดเรน ตอนนั้นพระองค์ทรงมีความรอบคอบ สั่งช่างทำแผนที่แปดคนวาดแผนที่ซึ่งซ่อนหยดน้ำคนละส่วนกัน จากนั้นกษัตริย์เดเรนค่อยเย็บแผนที่นั้นเข้าด้วยกัน จึงไม่มีช่างทำแผนที่คนใดทราบที่อยู่ของหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์”

เซน่ากล่าวว่า “หากพบของสิ่งนั้นเท่ากับพบแผนที่ของหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์”

มิโนอาห์หยักหน้ารับ

 

“ท่านมิโนอาห์ ข้าสอนหนังสือเด็ก ๆ เสร็จแล้ว อ้าว ท่านเซน่า ท่านมาขอพรพระเจ้าหรือ?” เสียงของนักบุญเจฟดังขึ้น

มิโนอาร์หันไปกล่าวกับนักบุญเจฟว่า “ท่านมาพอดี ท่านเซน่ามาหาท่าน เดี๋ยวข้าจะไปดูแลเด็ก ๆ ต่อเอง”

นักบุญเจฟถามว่า “ท่านเซน่า ท่านมีเรื่องอะไรหรือ?”

มิโนอาห์ขอตัวทั้งสองไปก่อน หลงเหลือเพียงเซน่ากับเจฟ เซน่าจึงชวนนักบุญเจฟออกไปเดินหน้าวิหารพูดคุยกัน

 

เซน่ากล่าวว่า “วันนั้นท่านยืนยันว่าหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียนมีจริงท่านจำได้หรือไม่?”

เจฟกล่าวว่า “ข้าจำได้ ว่าแต่มันมีอะไรหรือ?”

เซน่าจึงได้โกหกเรื่องยาวที่พ่อตนโดนสาปไปเช่นเดียวกับที่เล่าให้มิโนอาห์ฟัง

นักบุญเจฟเป็นคนซื่อสัตย์ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคน เมื่อได้ฟังเรื่องเท็จของเซน่าจึงกล่าวว่า “ข้าเองก็ไม่ทราบว่าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร? แต่ข้าเชื่อว่าหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียนมีจริงแน่นอน”

เซน่าถามว่า “เหรียญทองแดงที่ท่านห้อยไว้ทำไมจึงสลักเป็นรูปหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์”

เจฟถอนใจกล่าวว่า “เหรียญนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน อาจารย์ข้าให้มาก่อนที่ท่านจะถูกพวกมันสังหาร”

เซน่าทวนคำว่า “มัน?”

เจฟกล่าวว่า “ข้าอยู่ในวิหารเล็ก ๆ ในอาณาจักรชื่อซิลเวอเนียในแดนตะวันออก วิหารที่ข้าอยู่ชื่อเพสเธียร์ ห้าเดือนก่อนจักรพรรดิคาโอแห่งอาณาจักรแอสเทลยกทัพบุกตีอาณาจักรซิลเวอเนียแตก วิหารของข้าก็ถูกพวกมันทำลายและสังหารคนในวิหารหมดสิ้น อาจารย์ของข้าสละชีวิตปกป้องข้าไว้จากข้าศึก”

เจฟกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เขาคิดถึงอาจารย์และความสูญเสียจากสงครามทำลายล้างเมืองในวันนั้น

เซน่าถามว่า “เจ้าจึงหนีภัยสงครามมาอยู่ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้?”

เจฟกล่าวว่า “ใช่ ก่อนอาจารย์ข้าตาย ท่านสั่งให้ข้ามาที่วิหารแห่งนี้ ท่านบอกที่แห่งนี้จะคุ้มครองข้าได้”

เซน่ากล่าวว่า “แล้วอาจารย์เจ้าได้เหรียญนี้มาได้อย่างไร?”

เจฟกล่าวว่า “เหรียญนี้เป็นของสืบทอดของผู้ที่จะได้เป็นเจ้าวิหารแห่งเพสเธียร์ แต่ช่วงที่กองทัพของคาโอบุกมาคนในวิหารถูกสังหารหมดสิ้น มีเพียงข้าที่รอดมาได้ ข้าจึงได้รับช่วงดูแลเหรียญนี้ต่อ”

เจฟอธิบายเพิ่มเติมว่า “ที่ข้าศึกษามา เหรียญนี้คือเหรียญของสังฆราชบาชอฟที่เข้าร่วมสงครามที่สมรภูมิลอเลียนกับกษัตริย์เดเรน ตอนนั้นท่านสังฆราชบาชอฟเห็นพระเมธีอาร์หลั่งน้ำตาเพื่อหยุดการฆ่าฟันจึงเกิดความซาบซึ้ง ภายหลังเมื่อจบสงคราม ท่านบาชอฟก่อตั้งวิหารเพสเธียร์และสร้างเหรียญนี้ขึ้นมาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่ลอเลียน”

แววตาเซน่าปรากฏประกายวูบ มิโนอาห์บอกว่าแผนที่ของหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียนถูกซ่อนไว้ในสิ่งของสิ่งหนึ่ง เหรียญของนักบุญเจฟก็สร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่สมรภูมิลอเลียน ในโลกไหนเลยจะมีเรื่องราวประจวบเหมาะเช่นนี้?

ไม่ว่าเหรียญนี้จะเป็นที่ซ่อนแผนที่หรือไม่ นางต้องชิงเหรียญนี้มาให้ได้

เซน่ากล่าวสนทนากับนักบุญเจฟอีกครู่หนึ่ง นางก็ลานักบุญเจฟกลับวัง

 

เซน่ากลับมาถึงที่วังโกลด์เรนเดียร์ นางได้สั่งให้ทหารเกราะทองนายหนึ่งหาชุดเกราะสีทองที่เข้ากับร่างสูงใหญ่ของเรดิกัลมาให้นางพร้อมดาบเล่มหนึ่ง เซน่าอ้างว่านางชอบการต่อสู้จึงชอบสะสมอาวุธและชุดเกราะ

ที่จริงเซน่าได้กำหนดอุบายทุกอย่างไว้หมดแล้ว

วันต่อมา เซน่าลอบนำเกราะทองและดาบไปไว้ในพุ่มไม้พุ่มหนึ่งในสวนของพระราชวังโกลด์เรนเดียร์ โดยนางห่อชุดเกราะทองในผ้าผืนใหญ่ ก่อนนำสิ่งของมาซ่อนนางก็สั่งให้ทหารออกไปจากสวนให้หมด เซน่าเป็นถึงว่าที่ราชินี ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่กล้าขัดคำสั่งหรือสงสัยนาง

วันนี้เป็นวันที่เซน่าอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะวันนี้นางจะได้กลับคืนสู่ตัวตนที่แท้จริง

ตัวตนของเรดิกัลกษัตริย์แห่งความมืด !

 

ยามพลบค่ำเริ่มมาเยือน แสงตะวันลาลับจากขอบฟ้า ดวงจันทร์เพ็ญขึ้นมาแทนที่ เห็นดวงจันทร์เพ็ญเริ่มลอยเด่นอยู่กลางฟ้า หมู่ดาวร้อยเรียงรายดุจถูกเส้นดายที่มองไม่เห็นถักทอไว้

พุ่มไม้แห่งหนึ่งในสวนอันกว้างใหญ่ของพระราชวังโกลด์เรนเดียร์มีทหารเกราะทองนายหนึ่งเดินออกมา ทหารผู้นั้นมีใบหน้าคมสัน คิ้วเข้ม แววตาเขาเย็นชา

เขาคือเรดิกัลกษัตริย์แห่งความมืด

เรดิกัลใส่ชุดของทหารราชองครักษ์เดินออกสวนไป เป้าหมายของเขาคือวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งเมธีอาร์

 

เรดิกัลเดินเข้าไปในวิหารศักดิ์สิทธิ์ เขาเดินสำรวจไปทั่ว นักบวชชรารูปหนึ่งสวมชุดขาวเห็นเข้าจึงกล่าวว่า “ท่านนายทหารมาหาผู้ใด?”

เรดิกัลกล่าวว่า “ท่านฟินโอร่ามีรับสั่ง ให้ตามนักบุญเจฟเข้าเฝ้า”

นักบวชรากล่าวว่า “เจฟเพิ่งส่งเด็ก ๆ เข้านอน ข้าจะไปตามเขามา”

สักพักเจฟเดินออกมา เรดิกัลจึงอ้างว่าฟินโอร่าเรียกเขาเข้าเฝ้า

เจฟรู้สึกสงสัยยิ่ง เขากับฟินโอร่าแทบไม่เคยพูดคุยมาก่อน ทำไมจึงมีรับสั่งให้เขาเข้าเฝ้า

ที่จริงเรดิกัลจงใจอ้างขื่อฟินโอร่าเพราะฟินโอร่าไม่ชอบหน้าเขาในช่วงที่เป็นเซน่า หากมีเรื่องใดไม่ดีเกิดขึ้นก็ให้ฟินโอร่าเดือดร้อนรับไป

 

เจฟตามเรดิกัลไปถึงในสวนแห่งหนึ่งด้านหลังปราสาทโกลด์เรนเดียร์ ที่นั่นค่อนข้างเงียบสงบ มีต้นไม้และพุ่มไม้ประปราย เรดิกัลตอนเป็นเซน่าได้สำรวจแล้วว่าบริเวณนี้ไม่มีทหารอยู่เลย

เจฟกล่าวว่า “ที่นี่ไม่ใช่ทางไปที่ประทับของท่านฟินโอร่า”

เรดิกัลตอบว่า “ถูกต้อง”

จากนั้นเรดิกัลล่วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงจากนั้นสะบัดผงสู่ราตรีซัดใส่นักบุญเจฟอย่างรวดเร็ว

เรดิกัลไม่ต้องการทำร้ายเจฟ เขาเพียงแค่ต้องการชิงเหรียญทองแดงที่เจฟห้อยคอไว้เท่านั้น

แต่เจฟกลับไม่โดนผงสู่ราตรี !

ที่แท้เจฟพอเห็นเรดิกัลพาเขามาผิดทางเขาก็มีความระวังไว้อยู่ก่อนแล้ว เรดิกัลพอซัดผงสู่ราตรีออก เจฟก็รีบถอยกายหลบทันที

เรดิกัลขมวดคิ้วเล็กน้อย เรื่องนี้ยุ่งยากกว่าที่เขาคิดเสียแล้ว

เจฟถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”

เรดิกัลเงียบไม่ตอบ เจฟถามอีกว่า “เจ้าต้องการอะไร?”

เรดิกัลแบมือออกแล้วกล่าวว่า “มอบมา”

เจฟถามว่า “อะไร?”

เรดิกัลกล่าวเสียงเข้มว่า “เหรียญที่เจ้าห้อยไว้ มอบมา”

เจฟสัมผัสได้ว่าทหารเกราะทองเบื้องหน้าเขามีพลังเวทที่มหาศาลชนิดที่ยากพบเจอ

“อาย ไลท์” (Aye Light - แสงนิรันดร์) เจฟร้องขึ้นพร้อมพลังแสงออกมาจากปลายฝ่ามือ เวทแสงนิรันดร์เป็นเวทแสงพื้นฐานที่ปล่อยพลังแห่งแสงกระแทกทำร้ายศัตรูในระยะใกล้

เรดิกัลขยับกายวูบหนึ่งก็หลบแสงนี้ได้อย่างง่ายดาย เขาพุ่งจู่โจมพร้อมต่อยหมัดใส่เจฟ

“กำแพงพสุธา” เจฟยกสองมือขึ้น ทันใดกำแพงดินสูงสองเมตรกว่าก็พุ่งขึ้นมาเบื้องหน้ากันการจู่โจมของเรดิกัลไว้

เจฟคาดว่ากำแพงดินจะกันเขาจากเรดิกัลได้ชั่วคราว แต่เขาคิดผิด..

กำแพงดินไม่สามารถสกัดเรดิกัลได้เพราะเรดิกัลยืนอยู่บนกำแพงดิน !

เรดิกัลทราบอยู่แล้วว่าเจฟมีเวทมนตร์นี้ ตอนเจฟใช้เวทมนตร์ออก เรดิกัลก็ทะยานขึ้นตามกำแพงดินที่โผล่ขึ้นมา

เรดิกัลจ้องมองมาที่เจฟอย่างเย็นชา จากนั้นเขายกมือขวาขึ้นเสมออกพร้อมกำมือแน่น

“ดาร์ค กราวิตี้” (Dark Gravity-แรงดึงดูดแห่งความมืด) เรดิกัลใช้เวทแรงดึงดูด ชั่วพริบตาก็ปรากฏวงกลมสีดำขึ้นบริเวณที่นักบุญเจฟยืนอยู่ เจฟรู้สึกร่างกายหนักอึ้งคล้ายถูกขุนเขาทับใส่ กระดูกในร่างกายแทบปริแตก เจฟต้องคุกเข่าลง แม้จะเจ็บปวดแต่เขาก็ไม่ร้องแม้สักคราเดียว

เวทกำแพงพสุธาค่อย ๆ คลายออก กำแพงดินก็เสื่อมสลาย เรดิกัลร่างตกสู่พื้นอย่างแผ่วเบา

เจฟเป็นนักเวทแห่งแสงที่ฝึกวิชาเวทดินระดับพื้นฐานด้วย ดังนั้นเขาจึงมีพลังเวทคุ้มกันกายที่แข็งแกร่ง เวทแรงดึงดูดแห่งความมืดของเรดิกัลไม่สามารถทำให้เจฟสลบได้ หากเรดิกัลใช้เวทนี้อย่างรุนแรงสูงสุด เจฟต้องตายสถานเดียว

เรดิกัลไม่ต้องการฆ่าเจฟ จึงคลายเวทแรงดึงดูดออก

เมื่อเจฟรู้สึกร่างกายตนเองกลับสู่ปกติเขารีบผลักสองมือออกพร้อมร้อง “ฟินิกซ์ออฟพาราไดซ์” (Phoenix of paradise - นกฟินิกซ์แห่งสรวงสวรรค์)

มือทั้งสองข้างของนักบุญเจฟปรากฏพลังเป็นรูปนกฟินิกซ์สีขาวขึ้น มันกางปีกออกเตรียมจู่โจมศัตรูด้วยพลังมหาศาล

แต่ทันใดนั้นนกฟีนิกซ์ค่อย ๆ สลายไป เจฟเองก็รู้สึกง่วงนอน !

ที่แท้เรดิกัลตอนคลายเวทแรงดึงดูดแห่งความมืด เขาก็รีบซัดผงราตรีใส่เจฟทันที

ทุกการกระทำของเรดิกัลมักมีแผนเสมอ

เรดิกัลรอไปสักพักหนึ่งร่างของเจฟก็ล้มลงบนพื้น เรดิกัลถอดสร้อยเหรียญทองแดงออกจากคอเขา

เรดิกัลเก็บสร้อยเจฟไว้ในกระเป๋าและรีบพุ่งกายจากไป

 

ขณะที่เรดิกัลกำลังพุ่งกายดุจสายฟ้าออกจากสวนเล็ก ๆ แห่งนี้ เขาพบว่ามีคนเดินเข้ามาในสวน เรดิกัลรีบหลบหลังพุ่มไม้พุ่มหนึ่งอย่างรวดเร็ว

ที่แท้ฟินโอร่าสวมชุดรัดกุมระหว่างเอวเหน็บดาบ นางเดินมาพร้อมนกเธอร์ดิกซ์สัตว์เลี้ยงคู่ใจของนางซึ่งเกาะไหล่นางอยู่

ฟินโอร่ายืนมองจันทร์เพ็ญที่งามสุกสกาวจากนั้นพลันถอนหายใจ

“นางมาทำไมที่นี่?” เรดิกัลครุ่นคิดขึ้น

ทันใดนั้นฟินโอร่าพลันชักดาบออกจากฝักและร่ายรำออกมา เพลงดาบนางดูนุ่มนวลแต่ก็ว่องไวอย่างยิ่ง

ที่แท้ตั้งแต่เซน่าเข้าวัง ฟินโอร่ามักมีปากเสียงกับฟินเดลผู้เป็นน้องบ่อย ๆ ทำให้นางรู้สึกอัดอั้นจึงถือดาบมาร่ายรำในสวนที่ไม่มีคนแห่งนี้เพื่อระบายความอัดอั้น

นกเธอร์ดิกซ์บินออกจากไหล่ฟินโอร่าไปเกาะอยู่ที่ต้นไม้เล็ก ๆ ต้นหนึ่ง

นกเธอร์ดิกซ์เป็นสัตว์วิเศษ สายตามันคมกล้ายิ่งกว่าพญาเหยี่ยว มันมองไปรอบ ๆ เมื่อมองไปยังพุ่มไม้ที่เรดิกัลซ่อนตัวอยู่ สายตามันจำแนกใบไม้แต่ละใบได้อย่างชัดเจน ใบไม้ไม่อาจปิดบังร่างที่สวมเกราะทองของเรดิกัลได้

นกเธอร์ดิกซ์ทราบว่ามีคนอยู่หลังพุ่มไม้ มันรีบส่งเสียงร้องเตือนฟินโอร่า

ฟินโอร่าตวาดว่า “ใคร? ออกมา”

เรดิกัลไม่มีทางเลือก เขาได้แต่ออกจากพุ่มไม้มองฟินโอร่าอย่างเย็นชา

 

----------------

กษัตริย์แห่งความมืดจะเจอกับฟินโอร่าสุดยอดนักดาบแห่งโกลด์ด้นกราวด์ เหตุการณ์กำลังเข้มข้น โปรดติดตาม!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด