ตอนที่แล้วภาค 1 ตอนที่ 3 อุบัติเหตุรถยนต์กับฆ่าตัวตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปภาค 1 ตอนที่ 5 เฉียดผ่านมัจจุราช

ภาค 1 ตอนที่ 4 อันตรายจากภายในสู่ภายนอก


ตอนที่ 4 อันตรายจากภายในสู่ภายนอก

 

รุ่งเช้าของวันถัดมา โกโก้ปรากฏตัวที่แผนกนิติเวชเช้ากว่าเสี่ยวเจ๋อที่มาเช้าเป็นปกตินิสัยกว่าครึ่งชั่วโมง เสี่ยวเจ๋อประหลาดใจมากเมื่อเข้าประตูมาเห็นโกโก้กำลังนั่งยองๆ ที่พื้น เหม่อลอยอยู่หน้าตู้เก็บศพ

 

“พี่สวิน” เสี่ยวเจ๋อเรียก

 

โกโก้หันหน้ามาเห็นเป็นเสี่ยวเจ๋อจึงพูดว่า “มาพอดีเลย โทรศัพท์เรียกท่านหัวหน้าหน่วยอาชญากรรมมาชมอะไรหน่อย”

 

“อะไรครับ” เสี่ยวเจ๋อเดินเข้าใกล้ตู้เก็บศพ

 

“สิ่งนี้” โกโก้ชี้ไปที่กุญแจสีเงินบนตู้ “ถ้าพูดตามหลักวิทยาศาสตร์ นี่เรียกว่ารอยเสียดสีระหว่างโลหะ หรือเรียกแบบชาวบ้านว่า รอยงัด”

 

“มีคนงัดตู้เก็บศพเหรอ!” บนใบหน้าของเสี่ยวเจ๋อเต็มไปด้วยอาการชิ_หายแล้ว

 

“ก็ใช่นะสิ โทรหาโจวต้าเจิ้ง บอกเขาว่า คนบางคนถูกใจศพหญิงของพวกเราเข้าแล้ว”

 

เสี่ยวเจ๋อรู้สึกสะอิดสะเอียน เริ่มโทรหามือถือของต้าเจิ้ง แน่นอน เขาไม่ได้พูดตามแบบที่โกโก้พูด เพียงแต่รายงานสภาพจริงอย่างตรงไปตรงมา

 

หลังจากนั้นสามนาที โจวต้าเจิ้งกับไป๋หลิงก็วิ่งเหยาะๆ เข้ามา โกโก้กับเสี่ยวเจ๋อกำลังถ่ายรูปบันทึกรอยงัด พอต้าเจิ้งเห็นรอยงัดบนกุญแจ หน้าเขียวปั้ด สั่งให้เสี่ยวไป๋รีบไปสอบถามแผนกรักษาความปลอดภัยที่อยู่กะดึกเมื่อคืน เสี่ยวไป๋รับคำแล้วจากไป ต้าเจิ้งก็เริ่มสำรวจจุดอื่นๆ ในห้องชันสูตรศพ อีกทั้งสอบถามโกโก้ว่ามีของอย่างอื่นสูญหายด้วยหรือเปล่า

 

“พี่สวิน ตู้หมายเลข 44 ไม่ได้เก็บศพใช่ไหม แล้วทำไมต้องล็อคด้วย”

 

“ฉันสลับเอาสวีลี่ไปใส่แทน”

 

“อะไรนะ” เสี่ยวเจ๋อกับต้าเจิ้งอุทานขึ้นพร้อมกัน

 

โกโก้ยิ้ม “คราวนี้ชัดแล้วไม่ใช่เหรอ คนคนนี้มาเพื่อสวีลี่ ไม่ใช่ศพหญิงไร้หัว”

 

เสี่ยวเจ๋อแสดงสีหน้าเข้าใจ

 

“ปกติคุณไม่ล็อคประตูหรือไง” ต้าเจิ้งคำรามเสียงต่ำ

 

“เมื่อวานออกไปกินเนื้อแกะปิ้ง เลยลืม” โกโก้พูดเสียงดังอย่างมีเหตุมีผล

 

ต้าเจิ้งจุกอก อยากจะดีดหน้าผากโกโก้เหมือนอย่างที่ทำกับเสี่ยวไป๋ ไม่ใช่ว่าไม่กล้า เพียงแต่ทำไม่ลง

 

โกโก้มองหน้าต้าเจิ้งที่เดือดปุดๆ อยู่ ยิ้มน้อยๆ แล้วเดินไปข้างโต๊ะเอกสาร เปิดลิ้นชักที่ล็อคอยู่ตัวหนึ่ง ดึงแฟ้มเอกสารหนาๆ ออกมา แล้วเอาโน้ตบุ๊คที่ซ่อนอยู่ด้านล่างออกมา พอเปิดออก ต้าเจิ้งกับเสี่ยวเจ๋อก็สุมหัวเข้าไปดู เมื่อเปิดซอฟ์ตแวร์ที่ซ่อนอยู่ ภาพที่ปรากฏก็คือภาพเหตุการณ์ในห้องชันสูตรศพ ต้าเจิ้งเงยหน้าขึ้น พบกล้องที่ซ่อนอยู่เหนือไฟในห้องชันสูตร หน้ากล้องหันไปด้านประตู เก็บภาพในห้องได้ทั้งหมด

 

เสี่ยวเจ๋ออุทาน “พี่สวิน เมื่อวานพี่ออกไปกินเนื้อแกะปิ้งก็เพื่อหลอกให้ศัตรูเข้ามาเหรอ”

 

“แล้วนายคิดว่าเป็นอะไร”

 

ผมก็แค่คิดว่าพี่อยากกินเนื้อแกะปิ้งเท่านั้นนะสิ...เสี่ยวเจ๋อพูดในใจ

 

——————————————

กล้องบันทึกเหตุการณ์ในห้องก่อนหน้านี้สิบกว่าชั่วโมง ตั้งแต่โกโก้กับเสี่ยวเจ๋อแอบหนีออกไปหาอะไรกินในช่วงบ่าย ในห้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งถึงเวลาห้าทุ่ม ประตูห้องก็ถูกเปิดออก แสงไฟด้านนอกสาดเข้ามาแวบหนึ่ง ประตูก็ถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น ในห้องก็ตกอยู่ในความมืด แต่เห็นได้ชัดว่า เมื่อสักครู่มีคนเข้ามา

 

ทั้งสามคนเหมือนกำลังดูหนังสยองขวัญ กลั้นหายใจ จ้องมองที่จอ

 

ผ่านไปหลายวินาที มีลำแสงจากไฟฉายสว่างขึ้นมา เห็นหน้าคนอย่างรางเลือนแวบหนึ่ง แล้วลำแสงก็ส่องไปที่โต๊ะ อุปกรณ์เครื่องมือในห้อง จนมาหยุดอยู่ที่ตู้เก็บศพ หน้าของคนคนนั้นหลบอยู่หลังแสงตลอดเวลา จากการเคลื่อนไหวของลำแสงพอจะมองออกว่าคนคนนี้ค่อยๆ เข้าใกล้ตู้เก็บศพ เปิดออกทีละตู้ มองศพข้างในอย่างละเอียด สุดท้ายหยุดอยู่ที่กุญแจสีเงินนั่น

 

ลำแสงหยุดไปพักหนึ่ง เสียดายที่กล้องคงติดอยู่ตรงกับด้านบนของตู้เก็บศพ จากมุมกล้องบวกกับความมืด ทำให้เห็นเพียงหัวกับโครงร่างของคนนี้รางๆ อย่าพูดถึงหน้าเลย แม้แต่ส่วนสูงยังมองไม่ชัด ในเงาและแสงนั้น พอเห็นแขนของคนนั้นเดี๋ยวสะบัด เดี๋ยวหมุน น่าจะกำลังงัดกุญแจอยู่ จากนั้นหลายนาทีผ่านไป คนนั้นไม่ขยับอีกแล้ว ภาพบนจอกลายเป็นมืดสลัวอีกครั้ง อีกหลายวินาทีต่อมา ประตูห้องชันสูตรศพถูกเปิดออก เสี้ยววินาทีที่คนนั้นเดินผ่านประตู โกโก้หยุดภาพเอาไว้

 

แสงไฟจากทางเดินส่องมาที่ตัวของคนคนนั้น จากภาพมองเห็นได้ว่า คนนั้นใส่ชุดรปภ.

 

...ชุด รปภ...

 

ชั่วขณะหนึ่ง ทั้งสามคนเงียบกริบ

 

ต้าเจิ้งหยิบมือถือออกมา “เสี่ยวไป๋ นายอยู่ไหน อย่าเพิ่งไปสอบถามคนในแผนก รปภ. เรื่องเมื่อคืน นายไปหาหัวหน้าแผนก รปภ. เหล่ากู่ บอกเขาว่า เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงน้ำชาเขา เดี๋ยว อย่าเพิ่งวางสาย ฉันคิดดูก่อน...เอางี้ นายไปหาหวังอ้ายกั๋วกับเซวียหยาง พวกนายสามคนเอาคดีศพหญิงไร้หัวไปให้รองหัวหน้าทำก่อน แล้วมาหาฉันที่แผนกนิติเวช ด่วน!”

 

วางสายโทรศัพท์เสร็จ โกโก้ยังคงไม่พูดอะไร เสี่ยวเจ๋อเห็นบรรยากาศอึดอัด หยั่งเชิงดูว่า “เป็นไปได้ไหมว่าคนคนนี้จะปลอมตัวเป็น รปภ. หลบเข้ามา”

 

“ก็อาจจะ” ต้าเจิ้งอารมณ์ยังคงไม่ดี ถ้าปลอมตัวเป็น รปภ. ง่ายขนาดนั้น แล้วเอาแผนก รปภ. ไว้ทำอะไร แต่ถ้าคนคนนี้เป็น รปภ. จริง ยังไม่ต้องพูดถึงหน้าตาของตำรวจทั้งตึกไปไว้ที่ไหน ถ้าเกิดมีคนรายงานขึ้นไปหรือสื่อขุดเจอขึ้นมา ไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะวุ่นวายขนาดไหน ที่สำคัญคือ ถ้าจับคนนี้ออกมาไม่ได้ กองบังคับการตำรวจแห่งนี้ก็มีอันตรายแอบแฝงอยู่ ดังนั้น เขาจึงให้ลูกน้องเอาคดีศพหญิงไร้หัวไปให้รองหัวหน้าก่อน ย้ายคนทั้งสามในหน่วยย่อยของตนมา ยังไงก็ต้องจับไอ้หมอที่กล้าเข้ามาห้องชันสูตรศพของตำรวจอาชญากรรมอย่างกำเริบเสิบสานให้จงได้

 

“ต้องใช้เวลาสั้นที่สุดจับให้ได้ อย่างนี้เป็นอันตรายจากภายในสู่ภายนอก”

 

“งามจากภายในสู่ภายนอกด้วยแน่” โกโก้พูดพลางพยักพเยิดให้เสี่ยวเจ๋อย้ายศพของสวีลี่ออกมา ใส่ถุงมือแล้วหยิบเครื่องมือผ่าพิสูจน์มาฆ่าเชื้อ

 

เสี่ยวเจ๋อเข้าใจว่า ท่าทางโกโก้กำลังเอาจริง

 

เสี่ยวเจ๋อชงชานมโกโก้ที่โกโก้รักที่สุด ชงให้ต้าเจิ้งอีกถ้วย กลิ่นหอมหวานของโกโก้ฟุ้งกระจายออกมา สีหน้าของโกโก้อ่อนโยนลง

 

ต้าเจิ้งค่อยๆ เดินในห้องชันสูตร เขาไม่ค่อยสนใจศพของสวีลี่ แต่สนใจตัวกล้องไร้สายที่มีความคมชัดสูงที่โกโก้ซ่อนอยู่

 

“อุปกรณ์ชุดนี้แพงสินะ” ต้าเจิ้งหยั่งเชิง

 

“ก็โอเค แค่แสนหนึ่งเอง” โกโก้ตอบพลางพลิกศพของสวีลี่

 

“แม่งเอย ข้าขอเงินแสนหนึ่ง รองผู้การที่ดูแลงบประมาณเล่นไทเก๊กกับข้าตั้งครึ่งปี อ้างอยู่นั่นแหละว่างบจำกัด เธอไปหลอกเงินจากตาเฒ่านั่นมาได้ยังไง”

 

โกโก้เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม “ฉันบอกเขาว่า ตู้เก็บศพมีรอยงัดตอนกลางคืน ฉันอยากรู้ว่าศพร่างไหนที่อยากออกมาหายใจบ้าง”

 

...ต้าเจิ้งเริ่มรู้สึกเห็นใจรองผู้การที่มีประวัติโรคหัวใจเสียแล้ว

 

——————————————

 

ไป๋หลิง หวังอ้ายกั๋วและเซวียหยางล้วนเป็นคนหนุ่มที่เข้ามาในหน่วยอาชญากรรมสองปีมานี้ ไฟแรงและมีความมุ่งมั่นซึ่งหาได้ในเฉพาะคนใหม่เท่านั้น โจวต้าเจิ้งถูกใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้าไอ้หนุ่มสามคนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ สลับให้มาอยู่หน่วยย่อยของตน เพื่อจะได้ถ่ายทอดประสบการณ์ด้วยตัวเอง

 

เวลานี้ทั้งสามคนกำลังยืนแถวตรงอยู่หน้าประตูแผนกนิติเวช ต้าเจิ้งเล่าเหตุการณ์ให้ทั้งสามคนรับรู้ แล้วออกคำสั่งให้ทีละคน

 

“เซวียหยาง นายไปบ้านของผู้ตายสวีลี่ ตรวจสอบสภาพและความสัมพันธ์กับผู้คนช่วงที่มีชีวิตอยู่ อีกอย่าง ก่อนเธอตาย 24 ชั่วโมงทำอะไรไปบ้าง ติดต่อกับใคร อย่าให้ครอบครัวของเธอกังวลเกินไป พูดแบบผ่านๆ ไม่เน้นอะไร ที่สำคัญ ห้ามแพร่งพรายเรื่องคดี”

 

“หวังอ้ายกั๋ว นายไปคุยกับแผนก รปภ. หน่อย แอบสืบดูว่าเมื่อคืนมีเหตุการณ์อะไรหรือเปล่า แล้วใครอยู่เวร พักนี้ที่แผนกเขามีคนนอกมาหาบ่อยๆ หรือเปล่า จำไว้นะ ต้องถามอย่างลับๆ อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น”

 

“ไป๋หลิง...”

 

สหายเสี่ยวไป๋ตั้งตารอ

 

“...เสี่ยวไป๋ นายรออยู่ที่แผนกนิติเวช”

 

เฮ่อ!

 

“เฮ่ออะไร แผนกนิติเวชตอนนี้อยู่ในอันตรายระดับสูง คนคนนั้นใจกล้ามาก จะทำลายศพมาหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จซักที ใครจะรับรองได้ว่าเขาจะมาเผาแผนกนิติเวชนี้หรือเปล่า ตอนนี้คนของแผนก รปภ. ก็เชื่อสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้แล้ว นายอยู่นี่คอยสอดส่องสถานการณ์”

 

เสี่ยวไป๋น้อยใจมาก

 

“ไหนๆ ก็ไหนๆ นายจะได้แก้นิสัยที่เห็นศพก็ตื่นกลัวไปด้วยเสียที” ต้าเจิ้งพูดเสริมอีก

 

ต้าเจิ้งพูดจบก็พาคนจากไป เสี่ยวไป๋เปิดประตูห้องชันสูตรศพอย่างเซ็ง พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นโกโก้ยืนอยู่ข้างศพของสวีลี่ มือถือมีดผ่าตัด ยิ้มบางๆ ให้เขา “ยินดีต้อนรับ นักศึกษาไป๋หลิง”

 

เสี่ยวไป๋พยายามสะกดอารมณ์ที่จะหันหลังวิ่งหนีไป เกาะผนังค่อยๆ เคลื่อนไปที่มุมห้อง หาเก้าอี้เอง นั่งลงรวบมือหุบขาอย่างเรียบร้อย ก้มหน้ามองพื้น

 

โกโก้ที่ใส่ถุงมือทั้งสองข้าง ยื่นหน้าใกล้ร่างของสวีลี่ ศพนั้นได้ผ่านระยะเวลาสภาพแข็งทื่อหลังตายไปแล้ว ร่างของสวีลี่กลายเป็นนุ่มนิ่ม มือทั้งสองของโกโก้ค่อยๆ กดที่ศีรษะของสวีลี่เบาๆ ค้นหารอยบาดเจ็บภายนอกที่สังเกตได้ยาก แล้วเลื่อนมาที่คอ ใช้มีดผ่าตัดแตะผิวหนังบริเวณคอเบาๆ โกโก้เลิกคิ้ว อย่างที่คิดไว้จริงๆ...

 

“เสี่ยวเจ๋อ เอาแอลกอฮอล์ 100% มา”

 

เสี่ยวเจ๋อขานรับแล้วเอามา สังเกตการกระทำของโกโก้

 

โกโก้ใช้แอลกอฮอล์เช็ดบริเวณคอของสวีลี่เบาๆ

 

แล้วผิวหนังบริเวณคอค่อยๆ ต่างจากสีรอบๆ นั้น เริ่มดำขึ้นจนสุดท้ายเป็นรอยที่เห็นได้ด้วยตา

 

“ไหนมาชื่นชมหน่อยสิ ผีเสื้อดำในตำนาน”

 

เสี่ยวไป๋ก็อดไม่ได้ที่จะรับรู้ เข้ามาอย่างเงียบๆ

 

เสี่ยวเจ๋อจ้องมองรอยพิเศษนั้นด้วยความประหลาดใจ ส่วนเสี่ยวไป๋นั้นไม่รู้อิโหน่อิเหน่

 

“มนุษย์หลังจากตายแล้ว น้ำที่อยู่บนผิวของศพจะระเหยไปเรื่อยๆ ทำให้ผิวหนังบางบริเวณแห้งกว่าปกติ ปรากฏรอยแข็งๆ สีน้ำตาลเข้ม เหมือนกระดาษหนังสมัยโบราณอย่างนั้น ปรากฏการณ์เช่นนี้จะเห็นได้ชัดถ้ามีรอยถลอกก่อนตายไม่นาน แอลกอฮอล์ 100% จะเร่งปฏิกริยาการระเหยของน้ำ” โกโก้อธิบายอยู่ข้างๆ

 

“แบบนี้...” เสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะมองคอของสวีลี่อีกสองครั้ง “ปรากฏการณ์อะไรแบบนี้เรียกว่าผีเสื้อดำหมดเหรอ”

 

“เหอะๆ ไม่ใช่ ผีเสื้อดำคือชื่อเรียกเฉพาะ เสี่ยวไป๋ นายไขว้นิ้วโป้งทั้งสองของตัวเองให้เป็นรูปตัว X แล้วกางนิ้วออกดู เหมือนผีเสื้อใช่ไหม แล้วคงท่านี้ไว้ วางมือทั้งสองข้างบนคอของศพดู”

 

เสี่ยวไป๋ใจไม่กล้าพอที่จะไปแตะศพของสวีลี่อยู่แล้ว แต่เพียงทาบดูเฉยๆ เขาก็เข้าใจ

 

“สวีลี่เคยถูกคนบีบคองั้นเหรอ” ไป๋หลิงประหลาดใจ

 

โกโก้พยักหน้าน้อยๆ

 

“งั้นทำไมตอนผมชันสูตรศพครั้งแรกตรวจไม่เจอ” เสี่ยวเจ๋อขมวดคิ้ว

 

“เพราะยังตายไม่นานพอ ตอนนี้ห่างจากเมื่อวานที่นายทำการสำรวจศพภายนอกไปเกือบยี่สิบชั่วโมง น้ำที่ผิวหนังระเหยออกหนักกว่าเดิม แต่ร่องรอยบาดเจ็บนี้ก็ยังไม่ใช่จุดที่ทำให้สวีลี่เสียชีวิต ก่อนเธอตายเคยถูกคนบีบคออย่างแน่นอน พวกนายดูดีๆ พื้นที่ด้านข้างทั้งสองของผีเสื้อดำสมดุลกัน แสดงว่าเวลาบีบคอใช้แรงของมือทั้งสองข้างเท่ากัน อาจจะไม่ได้ถูกบีบขณะที่ยืนอยู่ แต่ถูกกดทับอยู่อย่างนี้” โกโก้พูดพลางจะสาธิตกับเสี่ยวไป๋ ทำให้เขาตกใจจนรีบถอยไปสองก้าว

 

ในมือของเธอยังถือมีดผ่าตัดอยู่นะซี่!

 

โกโกยิ้มนิดหนึ่งแล้วเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “ผีเสื้อดำก็ได้พิสูจน์โดยอ้อมว่าการตายของสวีลี่ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุรถยนต์ธรรมดา เธอได้รับบาดเจ็บก่อนตายไม่นาน หรืออาจเป็นสาเหตุทางอ้อมที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ”

 

เสี่ยวเจ๋อที่จะพูดเล่นไม่ได้ว่า “ยังมีอะไรที่แย่ยิ่งกว่าอุบัติเหตุรถยนต์ของเธออีกเหรอ”

 

เสี่ยวไป๋กลั้นอาการสะอิดสะเอียนโดยสัญชาติญาณแล้วสำรวจอีกหน่อย สวีลี่ในเวลานี้ช่างต่างจากรูปที่อยู่ในแฟ้มข้อมูล ส่วนล่างของเธอถูกรถทับจนเกือบไม่เป็นรูปเป็นร่าง พอเห็นได้แค่กระดูกขาสองข้างฉีกออกมา สีก็ไม่ใช่สีเลือดอีก ส่วนเหนือเอวขึ้นมาพอจะดูได้หน่อย มือทั้งสองไขว้อยู่ที่หน้าอก บนร่างมีจุดประหลาดอยู่หลายจุด สีหน้าขาวซีดและแข็งทื่อ เหมือนไม่มีอารมณ์ ดวงตาทั้งคู่ขุ่นขาว จ้องมองฝ้าเพดานของห้องนิติเวชเขม็ง

 

“เอ่อ พี่สวิน ช่วยให้เธอหลับตาลงหน่อยได้ไหม” เสี่ยวไป๋แสร้งทำเป็นใจนิ่งเสนอขึ้นมา ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเห็นศพร่างนี้ ก็เห็นเธอลืมตาอย่างนี้ ทำให้ความรู้สึกกระวนกระวายทวีความรุนแรงขึ้น

 

“ไม่ได้” โกโก้พูดโดยไม่เงยหน้า

 

เสี่ยวเจ๋อมองสีหน้าของไป๋หลิง “พี่สวิน อาจจะได้ก็ได้นะ โดยปกติถ้าศพไม่มีแรงจากกล้ามเนื้อคอยพยุง ลูบตาเบาๆ ก็จะหลับลงได้”

 

โกโก้เงยหน้ามองทั้งคู่ “ไป๋หลิง นายไปลองดูได้”

 

ไป๋หลิงลังเล เขารู้สึกว่าตัวเองมีพัฒนาการแล้วที่วันนี้ไม่ได้หนีออกจากสภาพแวดล้อมของการชันสูตรอย่างนี้ แต่ให้ไปแตะศพ เขายัง...เอ่อ...

 

เสี่ยวเจ๋อเห็นสีหน้าของไป๋หลิงเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง แดงแล้วกลับมาเขียว รู้สึกทำตัวไม่ถูก ยื่นมือคิดจะไปลูบตาของสวีลี่ให้หลับลง

 

“ให้เขาทำเอง!” โกโก้ห้ามเสี่ยวเจ๋อ เสียงดัง มองไปที่ไป๋หลิง “ในฐานะที่นายเป็นตำรวจคนหนึ่ง คนพวกนั้นที่นายต้องจับ เป็นไอ้ระยำที่ทรมานคนเป็นจนเป็นอย่างนี้ พวกเขาใจกล้าพอที่ฆ่าคนและหั่นศพ แต่นายไม่กล้าแม้กระทั่งแตะต้องศพ นายถือดียังไง”

 

สีหน้าของไป๋หลิงเปลี่ยนไปอีกรอบ แต่จิตใจกลับเหมือนคลื่นที่ซัดกระหน่ำ มือกำแน่นแล้วคลายออก คลายแล้วกำกลับไปใหม่ โกโก้และเสี่ยวเจ๋อต่างมองเขาอย่างเงียบๆ

 

เขาหายใจลึกๆ หนึ่งครั้ง พูดกับตัวเองว่า ผมเป็นตำรวจคนหนึ่ง

 

ตำรวจก็ต้องตายเหมือนกัน

 

กลัวตายก็ไม่ต้องมาเป็นตำรวจ

 

ใช่ ผมเป็นตำรวจคนหนึ่ง

 

เขาเดินไปข้างๆ หัวของสวีลี่ ยื่นมือลูบที่หนังตาเธอเบาๆ ท่าทางแข็งทื่อ แต่ไม่สั่นอีกต่อไป

 

เสียดายที่คุณสวีลี่เธอไม่ไว้หน้าเลย ลูบจนสุด ก็ยังลืมตาอยู่ดี

 

เอ๊ะ คราวนี้เสี่ยวเจ๋อก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา ไม่มีเหตุผลนี่นา

 

โกโก้ก้มหน้าทำงานของตัวเองต่อ “ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ได้ ถ้าได้ ฉันจะปล่อยให้เธอลืมตาอย่างนี้ไปหลอกให้คนอื่นตกใจเหรอ ฉันลองไปตั้งนานแล้ว”

 

สองคนนั้นรู้สึกขนหัวลุก ไป๋หลิงอาศัยความกล้าที่หลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยถามขึ้นว่า “ทำไมถึงเป็นอย่างนี้”

 

โกโก้ถอนหายใจเบาๆ หยุดงานในมือ “ฉันไม่มีหลักวิทยาศาสตร์อะไรมาปลอบขวัญในสิ่งที่นายสองคนกลัวกันอยู่ ฉันบอกได้เพียงว่า ตอนที่ท่านผู้เฒ่าสอนฉัน เคยพูดให้ฟังครั้งหนึ่งว่า สำหรับศพที่ทำยังไงก็ไม่ยอมหลับตาลง ต้องปฏิบัติอย่างรอบคอบ บางครั้ง...พูดยังไงดีล่ะ บางเรื่อง พวกเราไม่สามารถอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ อย่างน้อยวิทยาศาสตร์ปัจจุบันยังทำไม่ได้ แต่ก็มีอยู่จริง อย่างเช่นนอนตายตาไม่หลับ ดังนั้น หมอนิติเวชเป็นอาชีพที่พูดแทนผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย โดยเฉพาะพวกที่...” โกโก้มองหน้าของสวีลี่ “ตายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม”

 

เสี่ยวไป๋สะดุ้งด้วยความหนาว

 

“ก็ฉันบอกแล้วไง มันทะแม่งๆ...” โกโก้ถอนหายใจ ทาแอลกอฮอล์ 100% บนส่วนอื่นของศพต่ออย่างเบาๆ

 

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด