ตอนที่แล้วภาค 1 ตอนที่ 2 เนื้อแกะปิ้งครุ่นคิดสมการ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปภาค 1 ตอนที่ 4 อันตรายจากภายในสู่ภายนอก

ภาค 1 ตอนที่ 3 อุบัติเหตุรถยนต์กับฆ่าตัวตาย


ตอนที่ 3 อุบัติเหตุรถยนต์กับฆ่าตัวตาย

 

เสื้อของผู้ตายสวีลี่ถูกนำมาแล้ว ซย่าเหอหยวนยังไม่ทันได้ทัดทาน โกโก้ก็เอามากางบนโต๊ะทำงานของซย่าเหอหยวนเรียบร้อย เสื้อเชิ้ตเปื้อนเลือดขาดวิ่น คลี่ออกมาแล้วสภาพดูแย่ยิ่งขึ้น โกโก้ค่อยๆ ใช้มือลูบจนเรียบ มองรอยขาดบนนั้น โดยมีเสี่ยวเจ๋อช่วยอยู่ข้างๆ สักครู่หนึ่ง ทั้งสองเห็นพ้องว่า บนเสื้อมีรอยขาดบางรอยคล้ายถูกใบมีดกรีดหรือฉีกขาดที่ค่อนข้างแปลก ซึ่งไม่เหมือนกับรอยขาดที่เกิดจากการถูกรถชนและลากถูไปกับพื้น

 

ซย่าเหอหยวนยังกลุ้มใจกับความจริงที่ว่าโต๊ะทำงานสะอาดของตนถูกเสื้อเปื้อนเลือดปกคลุมอยู่ จึงไม่ได้ยินโกโก้เรียกเขา

 

ปัง!

 

โกโก้ตบโต๊ะ ก้มมองเสื้อเปื้อนเลือด แต่มือกลับยื่นไปหารุ่นพี่ “คำให้การของผู้ก่อเหตุ”

 

เสี่ยวเจ๋อมองไปที่โกโก้ คิ้วทั้งคู่ของเธอขมวดมากขึ้นจากเมื่อสักครู่ มือกำแน่น สีหน้าคล้ายมีความกังวลแฝงอยู่

 

โกโก้เปิดดูคำให้การ

 

ผู้ก่อเหตุบอกว่า “ผมดื่มเหล้าไปนิดหน่อย แต่ดื่มไม่เยอะ สมองยังปลอดโปร่งมาก หลังจากชนคนแล้ว ผมยังเป็นฝ่ายไปแจ้งความด้วย!”

 

ผู้ก่อเหตุบอกอีกว่า “หญิงสาวคนนั้นพุ่งออกจากพุ่มไม้มืดนั้นจริงๆ ถึงผมจะไม่ได้ดื่ม ผมก็เบรคไม่ทันอยู่ดี ยังดีที่ไม่ได้ทำให้ผมตกใจจนตาย”

 

ผู้ก่อเหตุยังบอกว่า “คุณตำรวจครับ ถึงผมจะเบรคไม่ทัน แต่เธอนั้นฆ่าตัวตายจริงๆ พวกคุณต้องเชื่อผมสิ คงไม่ถึงขั้นต้องติดคุกใช่ไหมครับ”

 

ปิดสมุดประจำวัน โกโก้พูดว่า “สมน้ำหน้า”

 

สมน้ำหน้าส่วนสมน้ำหน้า แต่ความจริงเริ่มแตกแยกออกมา เป็นอุบัติเหตุรถยนต์หรือสวีลี่ฆ่าตัวตาย โกโก้ขมวดคิ้วหนักขึ้นไปอีก เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนของซย่าเหอหยวนไม่กระดิก ด้านหน้าเธอคือเสื้อเปื้อนเลือดที่สวีลี่เคยใส่ จินตนาการว่า ในคืนที่มืดมิด หญิงสาวคนหนึ่ง สองมือกอดอก พุ่งออกจากความมืดกะทันหัน ถูกชนจนตัวลอย เสียงเบรคดังสนั่น รถหลบไม่ทัน ทับผ่านร่างที่ล้มอยู่ที่พื้น...

 

มีตรงไหนทะแม่งๆ เอ๊ะ...ตรงไหนกันแน่ที่รู้สึกทะแม่ง

 

เสี่ยวเจ๋อพูดเบาๆ “ถึงเป็นการฆ่าตัวตาย ก็ไม่เห็นต้องกอดอกนี่นา”

 

โกโก้ส่ายหัว รู้สึกสับสน หยุดคิดชั่วคราวดีกว่า บอกลาซย่าเหอหยวน แล้วเอารายงานรายละเอียดไปพร้อมกับเสี่ยวเจ๋อ ซย่าเหอหยวนอยากบอกเรื่องสุกี้ แต่ดูเหมือนท่านหมอนิติเวชมีเรื่องกังวลในใจ คงไม่มีกะจิตกะใจกินข้าว

 

เยี่ยมไปเลย หลบได้มื้อหนึ่งก็ยังดี รุ่นพี่ซย่าเหอหยวนคลำดูกระเป๋าเงินของตน ดีใจจนแทบร้องไห้

 

——————————————

พลบค่ำ

 

โจวต้าเจิ้งและลูกน้องในทีมแยกย้ายกันไปสอบถามร้านขายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์มาหลายร้านแล้ว แต่ก็ยังหาเบาะแสที่ชัดเจนไม่พบ คิดจะขับรถกลับไปที่หน่วยอาชญากรรมก่อน ขณะที่ขับผ่านทางหลวงด้านใต้ของเมือง เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ริมถนนแต่ไกล เธออยู่ใกล้กับเลนรถวิ่งมาก เสื้อกันลมสั้นสีฟ้าถูกกระแสรถที่เคลื่อนไหวพัดจนปลิว ต้าเจิ้งเห็นว่าอันตรายมาก จึงหยุดรถเพื่อที่จะห้ามปรามอย่างลังเลเล็กน้อยเผื่อเธอกำลังคิดสั้นอยู่

 

พอชะลอความเร็วรถแล้วถึงได้ประหลาดใจ “สวินเข่อหรัน...เธอมาทำอะไรที่นี่”

 

อ๊ะ เงยหน้าขึ้น เป็นหมอนิติเวชโกโก้จริงๆที่ทำหน้างงอยู่

 

“ผมถามว่า เธอมาทำอะไรที่นี่”

 

“ตรวจสอบที่เกิดเหตุ หมายเลข 46” สั้นๆ แต่ได้ใจความ แล้วก็ก้มหน้าต่อ

 

“อุบัติเหตุรถยนต์รายนั้นเหรอ มีรายงานแล้วไม่ใช่เหรอ”

 

“อืม แต่นั่นเป็นรายงานที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุรถยนต์ทั้งนั้น”

 

ต้าเจิ้งจอดรถเรียบร้อย แล้วเดินมาหา “หมายความว่ายังไง เธอสงสัยว่าไม่ใช่คดีอุบัติเหตุงั้นเหรอ”

 

“ฉันแค่รู้สึกว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ตายเพียงเพราะอุบัติเหตุรถยนต์”

 

“ไม่ได้ตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ เธอต้องตายกี่ครั้งถึงคุ้มทุนงั้นเหรอ” ต้าเจิ้งมีสีหน้าล้อเลียน ถูกโกโก้ที่เงยหน้าขึ้นมาถลึงตาใส่ จึงเบะปาก

 

โกโก้ “รอยแผลบนตัวเธอและเสื้อผ้าประหลาดมาก ผู้ก่อเหตุบอกว่า สวีลี่พุ่งออกจากริมถนนเอง ฉันกำลังคิดว่า เป็นไปได้ไหมที่เธอกำลังถูกคนตามล่าอยู่ ลนลานไม่ได้ดูทาง ถึงได้ถูกรถชน”

 

ต้าเจิ้งรู้สึกว่า หมอนิติเวชทั้งหลายขี้สงสัยมากไปหน่อยหรือเปล่า แม้ตัวเขาจะเป็นตำรวจอาชญากรรมที่คิดมากกว่าคนอื่นยังคิดว่า ก็แค่อุบัติเหตุจราจร คนถูกชนจนตัวลอย ถ้าบนร่างกายไม่มีบาดแผลถึงจะผิดปกติ แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกไป

 

บนถนนยังมีรอยสีขาวที่พ่นเอาไว้ในเวลานั้น โกโก้เดินดูรอบๆ เดินแล้วเดินอีก ค่อยๆ ไปถึงริมทาง คาดคะเนจุดที่สวีลี่พุ่งออกมา เดินกลับไปกลับมาอย่างช้าๆ

 

ต้าเจิ้งกลับไปที่รถเอามาจอดขวางออกมาในจุดเกิดเหตุหน่อย เพื่อป้องกันโกโก้เดินรอบๆ แล้วถูกรถเฉี่ยวชน

 

จู่ๆ โกโก้ก็นั่งยองๆ ที่จุดหนึ่งบนทางเท้า ต้าเจิ้งตามไปดู เห็นเป็นจุดสีแดงคล้ำ

 

“เป็นรอยเลือดเหรอ” ต้าเจิ้งไม่ค่อยมั่นใจ

 

“เป็นไปได้” โกโก้หยิบกล้องดิจิตอลในกระเป๋ากางเกงยีนส์ออกมา หมอบลงที่พื้นเพื่อถ่ายรูป ถ่ายเสร็จก็หยิบสำลีก้าน จากกระเป๋าเก็บตัวอย่างไปใส่ในกล่อง ต้าเจิ้งคาบบุหรี่ เริ่มหารอยที่คล้ายกันในรอบๆ ทั้งสองคนหาไปด้วย ถ่ายรูปไปด้วย เก็บตัวอย่างไปด้วย และแล้วก็หาได้อีกจำนวนหนึ่งซึ่งห่างออกไปจากจุดที่สวีลี่วิ่งเข้าไปในทางรถวิ่ง ย้อนกลับไป ตามทางเท้าระยะหนึ่ง เลี้ยวเข้าไปในพุ่มไม้ที่อยู่รอบนอกของสวนสาธารณะ เนื่องจากมีใบไม้ร่วง ทำให้ร่องรอยในพุ่มไม้หายากลำบาก

 

ฟ้าเริ่มมืดแล้ว

 

โกโก้ยืดตัวตรง ก้มหน้าเดินมาตลอดทาง พอเวลายืนตรง ได้ยินเสียงกระดูสันหลังกังกร๊อบแกร๊บ ในใจคิดว่าเสร็จแน่เลย ถ้าต้องมาเอวขาดตายอยู่ที่นี่ ขายหน้าไปถึงไหนต่อไหน พลางหมุนคอสบัดแขนขา จึงค่อยสังเกตว่า ตัวเองกำลังยืนอยู่ท่ามกลางดงไม้ในพื้นที่สีเขียวอันมืดมิด ถึงแม้อยู่ห่างจากถนนไม่กี่เมตร แต่เนื่องจากต้นไม้หนาแน่น เกือบจะไม่ได้ยินเสียงรถยนต์ที่จอแจบนถนน

 

หัวหน้าหน่วยอาชญากรรมคนนั้นล่ะ เผ่นไปก่อนแล้วเหรอ โกโก้มองไปรอบๆ เสียงใบไม้ต้องลมในกลางคืนฟังเหมือนภูตผี ในเงามืดของต้นไม้มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมา ค่อยๆ เข้าใกล้โกโก้ จู่ๆ ก็ไปจับบ่าของเธอ

 

“อ๊า...” เสียงกรีดร้องสั้นๆ โกโก้หันไปเห็นหน้าของต้าเจิ้ง

 

“อะไรกัน เป็นหมอนิติเวชขี้ตกใจขนาดนี้เหรอ” ต้าเจิ้งเลิกคิ้ว สีหน้าประหลาดใจเปลี่ยนเป็นหัวเราะเยาะ

 

โกโก้ยิ้มแสยะ แล้วผละจากไป

 

“เฮ้ย แค่ล้อเล่นเท่านั้น” ต้าเจิ้งตามทันในไม่กี่ก้าว มุมปากยังมีรอยยิ้มที่อดขำไม่ได้ค้างไว้

 

โกโก้เดินอยู่ด้านหน้า พูดโดยไม่หันมามองว่า “หัวเราะไปเถอะ เดี๋ยวปากฉีกเมื่อไหร่ ฉันจะช่วยเย็บให้”

 

ต้าเจิ้งส่ายหัว ยิ้มไปพลางตามโกโก้ไปติดๆ กลับไปที่ถนน

 

นั่งอยู่บนรถตำรวจของต้าเจิ้ง โกโก้ดูรูปถ่ายขยายที่อยู่ในกล้อง มั่นใจยิ่งขึ้นว่านั่นคือรอยเลือด ขมวดคิ้วเงียบๆ ถ้าเป็นของสวีลี่จริง แสดงว่าตอนนั้นเธอบาดเจ็บอยู่แล้ว แต่รอยแผลบนตัวเธอที่เด่นชัดยังคงมาจากการถูกรถชนและทับผ่าน จากเสื้อเปื้อนเลือดตัวนั้นก็แสดงว่า ท่อนบนของเธอไม่มีร่องรอยบาดเจ็บจากมีดอย่างเด่นชัด ดูๆ แล้วยังต้องชันสูตรศพ ตรวจดูอย่างละเอียดจากทิศทางการไหลของเลือดกับอวัยวะภายในนั้นมีจุดที่เลือดออกอย่างชัดเจนหรือไม่

 

ต้าเจิ้งแอบปรายตามองคนข้างๆ อยู่หลายครั้ง ตั้งแต่ขึ้นรถมา โกโก้ยังไม่ได้พูดแม้ประโยคเดียว เพ่งมองแต่กล้องถ่ายรูป อย่างกับในนั้นมีดอกไม้งอกออกมา

 

ท้องร้องจ๊อกๆ แล้ว ต้าเจิ้งจอดรถไว้ข้างร้านฟาส์ตฟู้ดลงไปซื้อของกิน จนเขากลับมา โกโก้ก็ยังอยู่ในท่าใจจดใจจ่อเช่นเดิม จนกระทั่งต้าเจิ้งยัดเครื่องดื่มที่มือ โกโก้ถึงได้เงยหน้าขึ้นมา

 

เครื่องดื่มอุ่นๆ มีกลิ่นหอมของโกโก้ที่โกโก้ชอบที่สุดลอยออกมา อุ้งมือที่แข็งทื่อเพิ่งได้รู้สึกถึงอุณหภูมิในโลกแห่งความเป็นจริง โกโก้หลุดออกจากวังวนของความคิด ยิ้มหวานให้ต้าเจิ้ง

 

“ขอบคุณ”

 

ต้าเจิ้งตะลึง หลายปีต่อจากนั้นถึงได้รู้ว่า เพราะไออุ่นจากรอยยิ้มของโกโก้ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ทำให้เขาไม่อาจถอนตัวตั้งแต่นั้นมา

 

รถยนต์จอดอยู่ที่ริมทางอย่างเงียบๆ แสงไฟตามบ้านระยิบระยับ นอกรถลมหนาวพัดผ่าน ในรถกลับอบอุ่น ต้าเจิ้งแสร้งหันไปมองนอกหน้าต่าง แล้วพูดกับคนข้างๆ ว่า “ผมส่งเธอกลับบ้านนะ”

 

โกโก้บ่นพึมพำอะไรไม่หยุด ต้าเจิ้งต้องตั้งใจอย่างมากถึงได้ยินว่าเธอพูดอะไร

 

“สุกี้เนื้อแกะ สุกี้เนื้อแกะของฉัน สุกี้เนื้อแกะของฉัน สุกี้เนื้อแกะของฉัน...”

 

ต้าเจิ้งอดยิ้มไม่ได้ คนคนนี้บางทีก็เหมือนเด็ก ทำให้อดขำไม่ได้ เขาก็ไม่พูดอะไร สตาร์ทรถขับไปที่ร้านสุกี้ข้างกองบังคับการตำรวจที่คุ้นเคย เมื่ออาหารอยู่ตรงหน้า ศักดิ์ศรีเอย ไม่สนิทเอย ไปกองไว้ข้างๆ ก่อน โกโก้ที่น้อยครั้งจะพูดเยอะ ก็ได้คุยสัพเพเหระกับหัวหน้าหน่วยอาชญากรรมที่เจอหน้าไปเพียงไม่กี่ครั้งไปเรื่อยๆ

 

หลังจากกินอิ่มแล้ว โกโก้ก็ขอใบเสร็จซึ่งมีจำนวนเงินไม่น้อยจากพนักงาน แล้วหัวเราะหึๆ อย่างมีเลศนัย

 

รุ่นพี่ซย่าเหอหยวนที่อยู่ในบ้านจู่ๆ ก็สะดุ้งด้วยความหนาวขึ้นมา

 

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด